ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 515

ตอนที่ 515

บทที่ 515 การจับฉลาก

วัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคนนี้แต่งตัวได้คล้ายคลึงกับจางเทียนเซอ ชุดที่พวกเขาใส่ไม่ใช่เสื้อคลุมยาวหรือกระโปรงยาว

นอกจากเรื่องการใส่เสื้อคลุมยาวหรือกระโปรงยาวแล้ว ด้านหลังของพวกเขายังจัดเตรียมอาวุธทุกอย่างอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นดาบยาว หรือดาบราชวงศ์ถัง

แต่ว่าสิ่งที่เฉินเฟิงคาดการณ์ไม่ถึงก็คือ กลุ่มวัยรุ่นหญิงสาวสิบกว่าคนนี้ เด็กสาววัยรุ่น ที่เฉินเฟิงเคยเจอก่อนหน้านี้มาแล้ว

เธอเป็นพี่สาวของหวู่เหวินโป๋ ชื่อหวู่เหวินเชี่ยน

“อีตานี้ทำไมมาอยู่ที่นี่ด้วย?”

ตอนที่เฉินเฟิงเห็นหวู่เหวินเชี่ยนในตอนนั้น หวู่เหวินเชี่ยนก็เห็นเฉินเฟิง เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับท่าทีอันสงบเสงี่ยมของเฉินเฟิงแล้ว หวู่เหวินเชี่ยนแปลกใจอยู่ไม่น้อย เธอไม่คิดเลยว่า เฉินเฟิงจะมาปรากฏกายในการเดิมพันประลองฝีมือของทั้งสองสมาคมนี้ได้

“ฮ่าๆ พูดถึงอยู่ก็มาหาพอดีเลย!” วังโฉงหยางก็สนใจในตัวของพวกหวู่เหวินเชี่ยนอยู่เหมือนกัน

“ยี่เฟย พวกเขาหลายท่านเป็นคนผู้มากความสามารถในมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่และบู๊ตั๊ง….” วังโฉงหยางยิ้มแย้มให้ฉู่ยี่เฟยพร้อมทั้ง –แนะนำให้ฟัง

หนุ่มสาววัยรุ่นสิบกว่าคนนี้มีอยู่หกคนที่เข้าร่วมการเดิมพันประลองฝีมือในครั้งนี้ นอกจากหกคนแล้ว คนอื่นๆ ต่างเป็นคนที่สำนักของตนเองให้ออกมาศึกษาหาประสบการณ์ในการประลองฝีมือกันทั้งนั้น เพราะว่าการเดิมพันที่ใหญ่โตในครั้งนี้ มีผู้ยอดมีฝีมือขั้นสูงสุดของทั้งหวาเซี่ยและญี่ปุ่นทั้งสองประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน

สังเกตได้ว่าการประลองฝีมือของผู้ยอดฝีมือเหล่านี้ มันยังมีประโยชน์มากกว่าการทำงานลับหลังเลย

สิ่งที่ทำให้เฉินเฟิงรู้สึกเหนือคาดก็คือ หวู่เหวินเชี่ยนก็เป็นหนึ่งในหกคนที่เข้าร่วมการแข่งขัน

เธอกับชายหนุ่มที่ท่าทางเย็นชาคนหนึ่งเข้าร่วมการแข่งขันเดิมพันในครั้งนี้ในนามสำนักมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่

ชายหนุ่มที่ดูเย็นชาคนนี้ชื่อว่าหวังเฉียน เป็นคนที่จางเทียนเซอพูดติดปากมาตลอดว่าเป็นยอดฝีมือของสำนักมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่ และการเดิมพันในครั้งนี้ ก็เป็นนักฆ่าที่เก่งฉกาจที่สุดของสมาคมจงไห่

หน้าตาของหวังเฉียนก็ไม่ได้เป็นที่สนใจของคนสักเท่าไหร่ จนสามารถพูดได้ว่าแสนจะธรรมดามาก แต่กลิ่นอายบนตัวของเขากลับแผ่รัศมีสันโดษออกมา จนทำให้หนุ่มสาวกว่าสิบคนนั้นถูกลดระดับให้ต่ำลงไปอีกขั้น

ความรู้สึกที่ให้คนสัมผัสได้ นั่นคือคมในฝัก!

หลังจากที่วังโฉงหยางแนะนำหวังเฉียนให้รู้จักแล้ว ทางด้านฉู่ยี่เฟยก็แนะนำเฉินเฟิงกับพวกของจางเทียนเซอให้รู้จัก

การแสดงออกของหวังเฉียนตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ขนาดที่แนะนำจางเทียนเซอ ให้รู้จักในตอนนั้น หัวคิ้วของเขาก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนใดๆ แทบไม่มองหน้าจางเทียนเซอเลยสักครั้ง

แต่เป็นคนอื่นๆ นั้น เมื่อได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของจางเทียนเซอแล้ว ทุกคนต่างยิ้มให้เล็กน้อย และทักทายกับจางเทียนเซอ

ส่วนเฉินเฟิง หูฉี่ซิง หยางเสี่ยนหมิงทั้งสามคนนี้ แทบไม่ได้อะไรมากมาย ตอนที่ฉู่ยี่เฟยแนะนำทั้งสามคนนี้ คนอื่นๆ สิบกว่าคนทำทีแค่พยักหน้าให้ตามปกติ

เวลานั้นเอง เฉินเฟิงก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

คนเหล่านี้เขาไม่เก็บเอามาใส่ใจนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าสถานะของพวกเขาในตอนนี้ ก็แค่ ‘จอมยุทธ์ฝึกเอง’

ยามเมื่อทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ใส่ชุดเครื่องแต่งกายของสหพันธ์บูโดเดินเข้ามาหา

“ประธานวัง ประธานฉู่ ได้เวลาเริ่มจับฉลากแล้ว”

จับฉลาก?

วังโฉงหยางกับฉู่ยี่เฟยสบตากัน จากนั้น วังโฉงหยางก็พยักหน้าให้ แล้วพูดว่า “ได้ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้”

“ทุกคนเดินไปด้วยกันเถอะ การจับฉลากของการเดิมพันนั้นจำเป็นต้องมีพวกเราอยู่ในงานด้วย” วังโฉงหยางพูดอีกครั้ง

หลายนาทีผ่านไป มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาบริเวณด้านหน้าของเวทีมวย

เมื่อเดินมาถึงสนาม เฉินเฟิงก็พบว่าจอมยุทธ์ทั้งหกนั้นมีลมหายใจที่แข็งแกร่งมาก

หั้วจิ้ง!

จอมยุทธ์ทั้งหกคนอยู่ในขั้นหั้วจิ้ง!

เฉินเฟิงได้แต่หรี่ตาลงทันที จากการมองการแต่งตัวของทั้งหกคนนั้น เห็นได้ชัดว่าการเดิมพันในครั้งนี้ของทั้งหกคน ทั้งส่วนทางการหวาเซี่ยและญี่ปุ่นทั้งสองประเทศและทั้งสองสมาคมธุรกิจการค้า

ทางด้านหวาเซี่ยมีสามคนที่อยู่ในขั้นหั้วจิ้ง ส่วนทางด้านญี่ปุ่นก็มีสามคนที่อยู่ในขั้นหั้วจิ้ง!

ทางด้านหวาเซี่ยนั้นอยู่ในหั้วจิ้งขั้นกลางทั้งสามคน มีคนหนึ่งที่ตัวสูงใหญ่ ชายชราผู้ไม่สนใจต่อสิ่งใดแต่ทำให้เฉินเฟิงสนใจในตัวเขา

ชายชราตัวสูงใหญ่ใส่ชุดเสื้อคลุมเต๋าสีดำของสหพันธ์บูโด บนตัวมีกลิ่นอายที่แผ่รัศมีจนปกคลุมให้คนทั้งสนามหวาดกลัว

หั้วจิ้งชั้นสุด!

เฉินเฟิงก็สามารถแยกออกมาได้อย่างรวดเร็ว

ชายชราตัวสูงใหญ่ท่านนี้พลังวิทยายุทธ์ อย่างน้อยก็อยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นสุด!

ทางฝั่งของหวาเซี่ยนั้น นอกจากชายชราตัวสูงใหญ่แล้ว ยังมีชายชราอีกสองคน สองท่านนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นจอมยุทธ์หั้วจิ้ง แต่เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับชายชราตัวสูงใหญ่นั่นแล้ว การฝึกวิชาภายในของชายชราสองท่านนี้ยังขาดไปอีกขั้นจนเห็นได้อย่างชัดเจน

ส่วนเรื่องการแยกสถานะของชายชราทั้งสองท่านนี้นั้น เฉินเฟิงก็แยกจากการที่มองเสื้อผ้าที่ทั้งสองท่านสวมใส่อยู่

ชายชราที่สะพายกระบี่ไว้ด้านหลังหนึ่งในนั้นน่าจะเป็นผู้คุ้มครองของคนในสำนักมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่

ส่วนชายชราที่ใส่เสื้อผ้าดูหรูหราเข้าหน่อยก็น่าจะเป็นจอมยุทธ์หั้วจิ้งของทางด้านสมาคมการค้าจงไห่

สายตาของเฉินเฟิงไม่ได้มองอยู่ที่ทั้งสามคนอยู่นาน เพราะเฉินเฟิงคอยจับตามองจอมยุทธ์หั้วจิ้งทั้งสามคนของทางประเทศญี่ปุ่นนั้น

จอมยุทธ์หั้วจิ้งทั้งสามคนนี้ มีสองคนที่อายุไล่เลียงกับชายชราตัวสูงใหญ่ ยังมีชายวัยกลางคนอีกคนที่อายุอานามยังหนุ่มยังแน่นกว่าวังโฉงหยาง

ทั้งสามคนสะพายดาบยาวไว้ทางด้านหลัง พร้อมทั้งแต่งชุดบูโดลักษณะเฉพาะของทางญี่ปุ่น

คนที่ทำให้เฉินเฟิงสนใจนั่นก็คือชายวัยกลางคนที่เป็นจอมยุทธ์หั้วจิ้ง ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงเคยเห็นรูปภาพของจอมยุทธ์หั้วจิ้งวัยกลางคนคนนี้มาก่อน

เปียนตู้ไท่อี!

จอมยุทธ์หั้วจิ้งวัยกลางคนที่พูดถึงนี้ก็คือเปียนตู้ไท่อี!

ข่าวพูดถึงกันหนาหูว่า เปียนตู้ไท่อีเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกที่เสินอิ่น เขายังเป็นคนรับผิดชอบในการแข่งขันการเดิมพันในครั้งนี้ของทางสมาคมเชียสุ่ยด้วย

ครึ่งเดือนก่อน เฉินเฟิงก็ได้ยินชื่อเปียนตู้ไท่อีมาจากสือโพ่จุนแล้ว

จากการวิเคราะห์จากสือโพ่จุน การปรากฏกายในครั้งนี้ของเปียนตู้ไท่อี ก็เพื่อจะมาฆ่าเฉินเฟิงให้สิ้นซาก เพื่อจะล้างแค้นให้กับเซียวกั่วจงจากเหตุการณ์การนองเลือดที่สำนักเสิ่นหยิ่นในปีนั้น

แต่การวิเคราะห์ของสือโพ่จุนก็มีปัญหา เปียนตู้ไท่อีมาอยู่ที่หวาเซี่ยตั้งสิบกว่าวันแล้ว ก็ยังไม่เคยออกมาจากโรงแรมสักก้าวเดียว ขนาดข่าวคราวร่องรอยของเฉินเฟิง เปียนตู้ไท่อีก็ยังไม่ทำเลย

เป้าหมายที่แท้จริงในครั้งนี้เปียนตู้ไท่อี มันคืออะไรกันแน่?

หรือว่าจะมาเพื่อรับผิดชอบดูและในการแข่งขันเดิมพันประลองฝีมือในครั้งนี้จริงๆ?

ตอนที่เฉินเฟิงกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น วังโฉงหยางก็เดินมาทางด้านหน้าของชายชราที่ใส่ชุดสีดำเครื่องแต่งกายของทางสหพันธ์บูโด พร้อมทั้งพูดด้วยความเคารพ “ท่านผู้อาวุโสก่วน คนมากันครบแล้ว”

“ครบแล้วก็จับฉลากเถอะ”

ท่านผู้อาวุโส

จากนั้น เจ้าหน้าที่ที่แต่งชุดสหพันธ์บูโดคนหนึ่งก็ยกถาดไม้เข้ามา

เฉินเฟิงมองไปที่ถาดไม้ ก็เห็นว่าบนถาดไม้มีลูกบอลกลมวางอยู่ยี่สิบลูก ในนั้นมีสีดำสิบลูก สีขาวสิบลูก

“ท่านผู้อาวุโสก่วน”

เมื่อยกถาดไม้มาอยู่ตรงหน้าชายชราที่ตัวสูงใหญ่แล้ว เจ้าหน้าที่ของสหพันธ์บูโดก็ก้มหัวโค้งคำนับให้

ชายชราตัวสูงใหญ่ไม่ได้ยื่นมือออกไปรับถาดไม้นั้นไว้ แต่เบนสายตามาทางจอมยุทธ์หั้วจิ้งของญี่ปุ่นทั้งสามคนที่อยู่ห่างไปหลายเมตร “กงปุ่น มาตรวจสอบสักหน่อยเถอะ”

“ไม่ต้องแล้ว เริ่มเลยดีกว่า” หนึ่งในจอมยุทธ์หั้วจิ้งของญี่ปุ่นคนหนึ่งเป็นคนพูดออกมา

ในลูกบอลยี่สิบลูกถือเป็นฉลาก ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงเขากับก่วนหนานเทียนเป็นคนปิดผนึกเป็นอย่างดี บนลูกบอลฉลากนี้ยังมีพลังภายในของเขาอยู่ การที่พลังภายในไม่โดนคนทำอะไร นั่นก็หมายความว่าลูกบอลฉลากพวกนี้ไม่มีคนทำอะไรไว้

“ตกลง”

ก่วนหนานเทียนพยักหน้าให้ จากนั้นก็มองถาดไม้บนมือเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์บูโด แล้วพูดว่า “งั้นจะพูดเรื่องกฎให้พวกเขาฟังสักหน่อยเถอะ”

“ครับ ท่านผู้อาวุโสก่วน” เจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดคนนั้นก้มหัวอย่างเคารพ จากนั้น เขาก็หันตัวกลับไป มองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วพูดว่า “การฉลากจะเริ่มขึ้นแล้ว”

“ก่อนจะมีการจับฉลากกันนั้น ฉันของพูดเรื่องกฎในการจับฉลากให้ทุกคนได้รับทราบ”

“ตามที่ทุกท่านเห็น ที่นี่มีลูกบอลอยู่ยี่สิบลูก สีดำสิบลูก สีขาวสิบลูก”

“ฉลากลูกบอลสีดำทุกลูกจะเขียนตัวเลยหนึ่งเลขเอาไว้ ก็คือเลข 1-10ไว้ด้านในทุกลูก สีขาวก็เช่นเดียวกัน”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท