ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 540

ตอนที่ 540

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 540 ยอมแพ้ก่อน

“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง? สรุปว่าแพ้หรือว่าชนะ?”

มีคนกลืนน้ำลายพลางเอ่ยถามขึ้นมา การต่อสู้ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ล้วนเกินความคาดหมายของทุกคนไปแล้ว

มีดสายรุ้งของศิษย์นักบุญมีดนั้น หากเป็นจอมยุทธ์ทั่วไป ถึงแม้จะอยู่ในขั้นอ้านจิ้งชั้นสุดก็คงถูกฟันจนตาย

ทว่าเมื่อเป็นเฉินเฟิงคนดูไม่มั่นใจเลยจริงๆ

ผ่านไปอีกครึ่งนาที ฝุ่นที่ปกคลุมเวทีเบาบางลงไปมากแล้ว เหตุการณ์บนเวทีก็ปรากฏสู่สายตาอีกครั้ง

หลังจากเห็นภาพบนเวทีอย่างชัดเจน ฉับพลันคนดูก็สูดหายใจครั้งหนึ่ง

บนเวทีมีรอยแยกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรอยอย่างชัดเจน

รอยแยกนี้ยาวสามเมตรกว่า ลึกประมาณครึ่งหนึ่งของส่วนสูงมนุษย์!

เห็นได้ชัดว่ารอยแยกนี้เกิดจากฝีมือของศิษย์นักบุญมีด!

แล้วเฉินเฟิงล่ะ?

เวทีที่ทำจากคอนกรีตผสมถูกฟันจนเละแบบนี้ เฉินเฟิงคง……

เฉินเฟิงไม่เป็นอะไร!

เฉินเฟิงยังคงอยู่ในท่าเดิมนั่นก็คือยืนเอามือไขว้หลังอยู่กลางเวที

หากจะบอกว่าเฉินเฟิงมีอะไรไม่เหมือนเดิม นั่นก็คือเสื้อผ้าของเฉินเฟิงมีรูเพิ่มขึ้นมาหลายรู ใบหน้าก็ดูซีดเซียวกว่าเดิมเล็กน้อย

ทว่าย้อนกลับไปมองชายหนุ่มเจ้าของมีดสะท้านฟ้า ตอนนี้กลับอยู่ในท่ากึ่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเฉินเฟิง เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด สภาพอเนจอนาถถึงขีดสุด

“ตุบ”

ชายหนุ่มมองเฉินเฟิงอย่างข้องใจ จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น สิ้นลมหายใจในพริบตา

“เฉินเฟิงชนะหรือนี่…..”

หูฉี่ซิงที่อยู่ด้านล่างเวทีเอ่ยขึ้นเสียงสั่น สีหน้าตกตะลึง การต่อสู้สนามที่ผ่านมาเฉินเฟิงจัดการเยาวชนตัวเตี้ยในหมัดเดียว ถึงแม้จะทำร้ายจิตใจเขามากขนาดไหนเขาก็ยังพอรับได้

ทว่าสนามนี้เฉินเฟิงกลับรับมีดสะท้านฟ้านั่นโดยที่ไม่เป็นอะไรเลย

นี่มันพลังอะไรน่ากลัวขนาดนี้?!

ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?

“เขาชนะแล้ว” จางเทียนเซอถอนหายใจครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆหลับตาลง เขาก็ไม่อาจยอมรับผลการต่อสู้ตรงหน้าได้ ทว่าเขาก็จำเป็นต้องยอมรับ

ความสามารถที่เฉินเฟิงแสดงออกมาในตอนนี้ข่มผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดของทั้งสองสมาคมการค้าไปหมดแล้ว

“นี่คือความสามารถที่แท้จริงของนายสินะ?”

หวังเฉียนที่นั่งอยู่บนรถเข็นยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อคืนตอนที่ฉู่ยี่เฟยบอกว่าเขาและเฉินเฟิงสูสีกัน เขายังรู้สึกเหมือนโดนดูถูก

ทว่าวินาทีนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเมื่อคืนที่ฉู่ยี่เฟยพูดแบบนั้นก็เพื่อไว้หน้าเขาเท่านั้น

ความสามารถที่แท้จริงของเฉินเฟิงเกินความสามารถของเขาไปมาก

จะพูดว่าเขาและเฉินเฟิงไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันก็ว่าได้

คมมีดที่ศิษย์นักบุญมีดฟันลงมานั้นเขาก็สามารถรับได้ ทว่ารับคมมีดนั้นราคาที่เขาต้องจ่ายคือครึ่งชีวิตของเขา

แต่ราคาที่เฉินเฟิงต้องจ่ายในการรับคมมีดนั้นก็แค่เสื้อผ้าขาดไม่กี่รู

นี่คือระยะห่างระหว่างเขาและเฉินเฟิง!

ศพของศิษย์นักบุญมีดถูกหามลงจากเวที

จอมยุทธ์หลายคนของทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยมีสีหน้าเหมือนญาติเสีย ส่วนกงปุ่นสองอีนั้นโมโหจนตัวสั่น

สองคนแล้ว!

การต่อสู้ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ ศิษย์นักบุญมีดตายไปสองคนแล้ว!

อีกทั้งคนที่ตายเมื่อสักครู่ยังเป็นถึงศิษย์รักของนักบุญมีด

เขาจะอธิบายกับนักบุญมีดยังไง?

“ไร้ยางอาย! ไร้ยางอายที่สุด!”

“ก่วนหนานเทียน คุณให้จอมยุทธ์ขั้นหั้วจิ้งมาเข้าร่วมการต่อสู้ได้อย่างไร?!”

บนที่นั่งวีไอพี กงปุ่นป้านฉางก็โมโหจนตัวสั่นเช่นเดียวกัน วินาทีนี้หากเขายังมองลำดับขั้นที่แท้จริงของเฉินเฟิงไม่ออก เขาก็คงปัญญาอ่อนแล้วล่ะ

หั้วจิ้ง!

ขั้นหั้วจิ้งแน่นอน!

อีกทั้งยังเป็นแบบที่เข้าขั้นหั้วจิ้งมาสักระยะหนึ่งแล้ว!

ไม่อย่างนั้นมันไม่มีทางรับคมมีดนั้นของศิษย์นักบุญมีดได้

“กงปุ่น ตามกฎการต่อสู้เหมือนว่าจะไม่มีข้อไหนที่บอกว่าจอมยุทธ์ขั้นหั้วจิ้งห้ามเข้าร่วมการต่อสู้นะ” ก่วนหนานเทียนยกยิ้มพลางเอ่ยปาก ในตอนนี้เขาสุขใจเป็นอย่างมาก

เขาทั้งสุขใจที่เฉินเฟิงฆ่าศิษย์นักบุญมีดได้และสุขใจกับความสามารถของเฉินเฟิง

เกินความคาดหมายจริงๆ

แม้แต่เขาก็ยังคิดไม่ถึงว่าความสามารถของเฉินเฟิงอยู่ในขั้นหั้วจิ้ง!

หั้วจิ้งตอนอายุยี่สิบห้าปี!

ถือว่าเป็นการสร้างสถิติใหม่เลยก็ว่าได้!

อย่างน้อยในวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย ไม่เคยมีใครผ่านมาถึงขั้นหั้วจิ้งก่อนอายุยี่สิบห้าปีแน่นอน

ก่อนหน้าเฉินเฟิง วงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยมีคนที่อายุน้อยที่สุดที่ผ่านมาถึงขั้นหั้วจิ้งได้คือโจวโพ่เทียนเจ้าสำนักของสำนักคุนหลุน

อายุสามสิบสามปี

โจวโพ่เทียนอยู่ในขั้นหั้วจิ้งตอนอายุสามสิบสามปี

เขาคือคนที่ผ่านเข้าขั้นหั้วจิ้งได้เร็วที่สุด

ทว่าในวันนี้สถิตินี้ถูกทำลายโดยเฉินเฟิงแล้ว อีกทั้งยังทำลายสถิติอย่างน่ากลัวด้วยระยะห่างถึงแปดปี

หลังจากวันนี้ชื่อเสียงของเฉินเฟิงก็จะกระฉ่อนไปทั่ววงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย

กงปุ่นป้านฉางพูดไม่ออก ก็เป็นความจริงที่ว่าในกฎไม่มีข้อไหนที่กล่าวไว้ว่าห้ามจอมยุทธ์ขั้นหั้วจิ้งเข้าร่วมการต่อสู้……

ทว่าเพื่อป้องกันจอมยุทธ์ขั้นหั้วจิ้งเข้าร่วมการต่อสู้ พวกเขาจึงตั้งกฎขึ้นมาว่าจอมยุทธ์ที่อายุเกินสามสิบปีห้ามเข้าร่วมการต่อสู้

แต่ใครจะคาดคิดว่าทางหวาเซี่ยจะมีคนแปลกประหลาดอย่างเฉินเฟิง ถือว่าเขาทำลายกฎเกณฑ์การฝึกวิชาแบบเดิมไปเลยทีเดียว!

ถึงแม้จะเริ่มฝึกวิชาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาก็ไม่สามารถผ่านขั้นหั้วจิ้งก่อนอายุสามสิบปีได้

“ยังจะแข่งต่อไหม?” ก่วนหนานเทียนหันไปมองกงปุ่นป้านฉาง หากกงปุ่นป้านฉางยังจะแข่งต่อจะได้ให้เฉินเฟิงจัดการอัจฉริยะของประเทศญี่ปุ่นอีกสักคนสองคน

“ไม่แข่งแล้ว ยอมแพ้” กงปุ่นป้านฉางกัดฟังพูด ยังจะแข่งอะไรอีก จอมยุทธ์ขั้นอ้านจิ้งและจอมยุทธ์ขั้นหั้วจิ้งไม่มีอะไรให้แข่งเลยด้วยซ้ำ

อย่าว่าแต่คนเดียวเลย ถึงสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะส่งจอมยุทธ์ขึ้นสิบคนพร้อมกันก็ไม่อาจเอาชนะเฉินเฟิงได้

“ยอมแพ้งั้นหรือ?” ก่วนหนานเทียนยกยิ้ม “คุณแน่ใจนะว่าจะยอมแพ้?”

“หากยอมแพ้จริงๆ สมบัติทั้งสองชิ้นนั้นก็จะตกเป็นของสมาคมการค้าจงไห่เลยนะ”

“ฉันแน่ใจ!” กงปุ่นป้านฉางกัดฟังดังกรอด แววตาปรากฏไฟโทสะลุกโชนตลอดเวลา

แพ้แล้ว!

ครั้งนี้แพ้หมดรูปแล้ว!

ถึงเขาไม่อยากจะยอมรับ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าครั้งนี้สมาคมการค้าเชียสุ่ยแพ้อย่างหมดรูปจริงๆ

เสียอัจฉริยะไปหลายคนยังไม่ว่า เงินพนันสองแสนล้านและสมบัติสองชิ้นนั่นก็ไม่ได้มา

เสียทั้งขึ้นทั้งล่องจริงๆ

ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเฉินเฟิงคนเดียว!

“เช่นนั้นก็ให้เสี่ยวซู๋ประกาศผลเถอะ” ก่วนหนานเทียนสั่งการอย่างเสียดาย ตอนแรกยังวางแผนจะให้เฉินเฟิงจัดการอัจฉริยะของประเทศญี่ปุ่นอีกสักสองคน แต่คิดไม่ถึงว่ากงปุ่นป้านฉางจะ ‘รู้ทัน’แบบนี้

เสี่ยวซู๋ที่ก่วนหนานเทียนพูดถึงก็คือผู้ตัดสินวัยกลางคนนั่นเอง

เมื่อได้ยินว่ากุงเปุ่นป้านฉางยอมแพ้ สีหน้าของเสี่ยวซู๋ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

สมาคมการค้าจงไห่และสมาคมการค้าเชียสุ่ยจัดการต่อสู้มาเจ็ดครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประกาศยอมแพ้ทั้งที่ยังไม่จบการแข่งขัน

“การต่อสู้ในครั้งนี้จบลงเพียงเท่านี้ ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้คือ–สมาคมการค้าจงไห่!”

เสี่ยวซู๋ประกาศผลเสียงสูงด้วยสีหน้าประหลาดใจ

ฉับพลันด้านล่างเวทีก็เกิดเสียงอื้ออึงทันที

“หมายความว่ายังไง? ยังเหลืออีกสองสนามไม่ใช่หรือ?ทำไมจู่ๆก็จบการแข่งขันแล้วล่ะ?”

“เหมือนว่าทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะยอมแพ้ก่อน”

“ยอมแพ้ก่อนงั้นหรือ?!”

ทั้งสนามมีเสียงดังอื้ออึงดังขึ้นอีกครั้ง สามสิบห้าปีที่ผ่านมาสมาคมการค้าจงไห่และสมาคมการค้าเชียสุ่ยจัดการต่อสู้ไปแล้วเจ็ดครั้ง การต่อสู้ครั้งที่ผ่านๆมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทั้งสองฝ่ายก็จะอยู่จนจบการแข่งขัน

ทว่าครั้งนี้สมาคมการค้าเชียสุ่ยกลับประกาศยอมแพ้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน…

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท