ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 634

ตอนที่ 634

บทที่ 634 ตระกูลจิ่งที่ยิ่งใหญ่

เปียนตู้ไท่อีได้ฟังจึงลุกขึ้น เขาโค้งทำความเคารพทุกคนในที่ประชุมเป็นอันดับแรก จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม:“จากข้อมูลที่ผมได้มา ตระกูลจิ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ซ่อนตัวเอาของศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ สืบทอดกันมายาวนานกว่าพันปี แม้ว่าตระกูลจิ่งจะไม่ได้มีลูกศิษย์มากมายเหมือนหวาเซี่ยเส้าหลินและสำนักอู่ตัง แต่ความลับของหมัดหยินหยางที่ไม่มีการสืบทอดนั้นกลับน่ากลัวมาก เคยแสดงแสนยานุภาพในบูโดหวาเซี่ยโบราณ อาศัยแค่วรยุทธ์นี้ ยอดฝีมือของตระกูลจิ่ง ในหนึ่งพันปี ตระกูลนี้น่าจะมีมหาปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ประมาณสามคนแล้ว!”

“ครั้งหนึ่ง คนที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกยุคทุกสมัยของบูโดแทบจะเป็นคนของตระกูลนี้ แม้แต่ตอนนี้ ก็ไม่มีข้อยกเว้น——หัวหน้าตระกูลจิ่งคนปัจจุบันจิ่งหยุนเฟิงต้องเป็นมหาปรมาจารย์แห่งบูโดคนต่อไปของหวาเซี่ยอย่างแน่นอน!”

“ซี๊ด”

หลังจากฟังคำพูดของเปียนตู้ไท่อีจนจบ คนในที่ประชุมจำนวนไม่น้อยต่างสูดลมหายใจเข้า

หนึ่งพันปีที่ผ่านมา ตระกูลจิ่งมีมหาปรมาจารย์แห่งบูโดถึงสามคน!

นี่มันแนวความคิดอะไรกัน?!

สำหรับความตื่นตกใจของทุกคน เปียนตู้ไท่อีไม่ได้แปลกใจ เขากวาดตามองทุกคนหนึ่งรอบ แล้วพูดต่อ:“สำหรับจิ่งเถิงซึ่งเป็นผู้สืบทอดตระกูลจิ่งคนปัจจุบัน แม้ว่าผมจะไม่เคยเจอมาก่อน และไม่รู้ว่าความสามารถของเขาอยู่ในระดับไหน แต่ในเมื่อตระกูลจิ่งให้เขามาท้าประลองจัดการไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิง แน่นอนว่าต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเขา อีกทั้ง ผมคิดว่า สาเหตุที่จิ่งเถิงต้องการประลองกับไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิง เป็นเพราะ ตระกูลจิ่งต้องการประกาศให้บูโดทั่วโลกรู้ว่าตระกูลจิ่งกลับมาแล้ว!”

“เปียนตู้ จากที่นายพูด การต่อสู้กันในครั้งนี้ จิ่งเถิงผู้สืบทอดตระกูลจิ่งสามารถฆ่าไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิงได้แน่นอน?” หนึ่งในผู้อาวุโสของเสินอิ่นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

“ผมคิดว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน ไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิงสามารถฆ่าท่านใหญ่เทียนจ้าวและท่านกงปุ่นได้เป็นเพราะมันใช้อาวุธ ความสามารถที่แท้จริงของมัน ต้องไม่สามารถเทียบเท่ากับอัจฉริยะที่ตระกูลจิ่งฝึกสอนมาเป็นอย่างดีแน่นอน!”เปียนตู้ไท่อีพูดเสียงเย็นยะเยือก

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ แผนการของพวกเราสามารถยกเลิกได้แล้ว” ผู้อาวุโสอีกคนของเสินอิ่นพูดขึ้น เดิมทีก่อนหน้านี้พวกเขาได้วางแผนเอาไว้——ส่งนินจาชั้นสูงสามคนไปหวาเซี่ยเพื่อฆ่าเฉินเฟิง!

ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ แผนการนี้สามารถยกเลิกได้แล้ว

“ยกเลิกแผนการ? ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่” อย่างรวดเร็ว ก็มีคนไม่เห็นด้วย

“ถึงแม้ผมจะเชื่อในสิ่งที่เปียนตู้พูด แต่ไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิงชั่วร้ายมาก มันทำเรื่องที่ทุกคนไม่คาดฝันมาหลายต่อหลายครั้ง เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน ผมคิดว่าไม่ควรยกเลิกแผนการ เพียงแค่ชะลอไว้ก่อนก็พอ”

คนที่ไม่เห็นด้วยคือหัวหน้าคนใหม่ของสำนักขวัญนินจา กงปุ่นซานฉี หลานชายของกงปุ่นป้านฉาง คือหนึ่งในคนที่อยากเห็นเฉินเฟิงตายที่สุด และเป็นคนที่กลัวเฉินเฟิงที่สุด

เขากลัวว่าถ้าวันไหนเฉินเฟิงเกิดโมโหขึ้นมาแล้วออกจากประเทศ มาถึงประเทศญี่ปุ่น ฆ่าทำลายเชื้อสายสุดท้ายของครอบครัวกงปุ่น

“ซานฉีพูดถูก แผนการชะลอเอาไว้ก่อน รอดูผลการประลองในครั้งนี้” เป่ยจายเห้าเอ้อซึ่งเป็นผู้ดูแลเสินอิ่นได้ฟัง จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจแบบนี้

“เป่ยจายเห้าเอ้อ ความเป็นจริงไม่จำเป็นเลย”

เปียนตู้ไท่อีส่ายหน้า พูด:“พวกนายไม่รู้จักตระกูลจิ่ง ไม่สามารถคิดจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลจิ่ง และไม่รู้ว่าบูโดของตระกูลจิ่งในหวาเซี่ยมีนัยยังไง คอยดูเถอะ การต่อสู้กันในครั้งนี้ ผู้แข็งแกร่งทั่วทั้งบูโดของหวาเซี่ยต้องไปดูอย่างแน่นอน ส่วนไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

“ทางที่ดีที่สุดขอให้เป็นแบบนี้”

………………

นอกจากเสินอิ่นที่อยู่ไกลออกไปในญี่ปุ่นให้ความสนใจเกี่ยวกับเฉินเฟิงแล้ว เวลานี้ฉู่ชีงฉือที่อยู่ในจงไห่ซึ่งตั้งอยู่ในหวาเซี่ยก็เป็นกังวลเรื่องนี้มาก

“คุณปู่โจว หนูได้ยินข่าวมาว่า ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งคนปัจจุบัน ส่งหนังสือท้าประลองไปให้เฉินเฟิง คุณปู่รู้เรื่องนี้ไหมคะ?” ฉู่ชีงฉือถามชายชราไปตามตรง ชายชราคนนี้ชื่อว่าโจวอู่เซิง เป็นหั้วจิ้งจอมยุทธ์ที่มีไม่มากของตระกูลฉู่

“ปู่รู้เรื่องนี้แล้ว” โจวอู่เซิงพยักหน้า สีหน้าของเขาดูเป็นเคร่งขรึม

“คุณปู่โจว คุณปู่รู้จักตระกูลจิ่งไหม? การต่อสู้ของเฉินเฟิงในครั้งนี้จะเป็นอันตรายรึเปล่า?” ฉู่ชีงฉือถามด้วยความกังวล

โจวอู่เซิงปรายตามองฉู่ชีงฉือ ถอนหายใจแล้วพูด:“ตระกูลจิ่งคือหนึ่งในตระกูลบูโดหวาเซี่ยที่ซ่อนตัวเอาไว้ของศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ มีการสืบทอดกันมานาน ชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งแต่อดีตหัวหน้าตระกูลจิ่งล้วนเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดของบูโดหวาเซี่ย ในทางเดียวกัน ในอดีตที่ผ่านมาผู้สืบทอดตระกูลจิ่งล้วนเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของบูโดหวาเซี่ย

“ถ้าหากเป็นผู้สืบทอดที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักเส้าหลิน สำนักอู่ตังเหล่านี้มาท้าประลองกับเฉินเฟิง เฉินเฟิงไม่มีวันเป็นอันตราย แต่เขาได้เจอกับผู้สืบทอดตรงะกูลจิ่งจึงยากที่จะพูด——ตระกูลจิ่งไม่ยุ่งกับทางโลกมานานแล้ว วันนี้เข้ามายุ่งทางโลกโดยใช้จิ่งเถิงประกาศท้าประลองกับเฉินเฟิง แสดงว่ามีความมั่นใจที่จะเอาชนะเฉินเฟิงได้! มีโอกาสเป็นไปได้ว่าเขาบรรลุหั้วจิ้งชั้นต้นแล้ว”

“แบบนี้หรอคะ”

คิ้วของฉู่ชีงฉือขมวดเป็นปม ภายในใจเต็มไปด้วยความกังวล——เธอรู้เหตุผลแล้วว่าทำไมผู้สืบทอดตระกูลจิ่งถึงต้องการท้าประลองกับเฉินเฟิง แล้วจากที่เธอรู้จักเฉินเฟิง เธอคิดว่าเฉินเฟิงต้องรับคำท้าแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!

เวลานี้ เธอรู้สึกเป็นกังวลมากกว่าตอนที่รู้ว่าเฉินเฟิงจะไปช่วยหลินหวั่นชีวที่ประเทศญี่ปุ่นเสียอีก

เพราะว่า……ตอนที่อยู่ประเทศญี่ปุ่น เฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องสนใจกฎระเบียบ ใช้อาวุธในปัจจุบันในการสู้ได้

แต่ครั้งนี้ เฉินเฟิงทำได้เพียงสู้มือเปล่า สู้กันด้วยวรยุทธ์ที่แท้จริง

เดิมที เธอคิดว่าจิ่งเถิงไม่กล้าท้าประลองกับเฉินเฟิงแน่นอนหลังจากรู้เรื่องที่เฉินเฟิงทำให้ทุกคนตื่นตกใจ

แต่วันนี้ จิ่งเถิงกลับท้าประลองแล้ว

ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า จิ่งเถิงมั่นใจว่าตนเองจะชนะ!

“คุณปู่โจวคะ พวกเราคิดหาวิธีหยุดการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ไหมคะ?” ฉู่ชีงฉืออดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

โจวอู่เซิงส่ายหน้า:“ไม่สามารถหยุดได้ ทางด้านจิ่งเถิงได้ตัดสินใจอย่างชัดเจนแล้ว ส่วนทางด้านเฉินเฟิง…..นอกจากหลานจะสามารถเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขารับคำท้า”

“เกลี้ยกล่อมไม่ให้เขารับคำท้า?” ฉู่ชีงฉือชะงัก เธอรู้จักนิสัยของเฉินเฟิงเป็นอย่างดี เรื่องแบบนี้ เฉินเฟิงไม่มีวันถอยแน่นอน

อยากจะเกลี้ยกล่อมเฉินเฟิงไม่ให้รับคำท้า คงยากกว่าขึ้นสวรรค์

“หนูจะไปหาเฉินเฟิง ไม่ว่ายังไง หนูก็จะลองดู” ฉู่ชีงฉือตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เฉินเฟิงไม่รับคำท้า เธอก็จะอยู่เคียงข้างเฉินเฟิงแล้วช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้

ขณะที่ฉู่ชีงฉือกำลังรีบไปยันเจียง หวู่เหวินเชี่ยนและหวังเฉียนก็เดินทางออกมาจากมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่ มาถึงยันเจียง

ตอนที่มาถึงยันเจียง สิ่งแรกที่พวกเธอทำก็คือโทรหาเฉินเฟิง

จากนั้น พวกเขากลับพบว่า คนที่รับสายคือหวู่เหวินโป๋

หลังจากได้ยินเสียงหวู่เหวินโป๋ หวู่เหวินเชี่ยนจึงถามออกไปตามตรง:“เฉินเฟิงละ? ทำไมเขาไม่รับโทรศัพท์?”

“พี่ พี่เฟิงเก็บตัวถือศีลแล้ว” หวู่เหวินโป๋ยิ้มเศร้า

หวู่เหวินเชี่ยนชะงัก:“เก็บตัวถือศีลแล้ว? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เขาเก็บตัวถือศีลเวลานี้?”

“ฉันจะรู้ได้ยังไง เมื่อหลายวันก่อนหลังจากพี่เฉินเฟิงส่งองค์หญิงแอนนี่แล้ว เขาก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง บอกว่าจู่ๆก็มีความรู้สึกอะไรบางอย่าง ก็เลยเก็บตัวถือศิลไม่กี่วัน”

“ก่อนจะเก็บตัวถือศีล เขาเอาโทรศัพท์มาให้ฉัน บอกว่าถ้ามีธุระเร่งด่วนและเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นสามารถไปหาเขาได้”

“ฉันกำลังคิดอยู่ ควรจะบอกเรื่องที่จิ่งเถิงส่งหนังสือท้าประลองให้เฉินเฟิงไหม?” หวู่เหวินโป๋พูด

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท