ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 636

ตอนที่ 636

บทที่ 636 เก็บตัวถือศีล

“จอมยุทธ์ลึกลับจิ่งเถิงจะทำการต่อสู้กับเฉินเฟิงหวาเซี่ยที่ทะเลสาบตะวันตกหวาเซี่ยในอีกสิบวันข้างหน้า!”

ขณะที่เฉินเฟิงกำลังตั้งใจศึกษาศิลปะการต่อสู้อยู่นั้น หนังสือท้าประลองนี้ก็ได้ประกาศบนฟอรั่มบูโดทั่วโลก ทำให้จอมยุทธ์ทั่วโลกพากันเสวนาไปต่างๆนานา

เพราะคนมากมายต่างรู้เรื่องการต่อสู้ที่ประสบความสำเร็จของเฉินเฟิงก่อนหน้านี้ ดังนั้นครั้งนี้ คนที่จอมยุทธ์ทุกคนให้ความสนใจจึงเปลี่ยนเป็นจิ่งเถิง

หนึ่งในกระทู้ มีการแนะนำจิ่งเถิงและตระกูลจิ่งอย่างละเอียด

“จากข้อมูลและรายงานที่ผมรวบรวมมาหลายๆด้าน วันนี้สามารถมั่นใจได้ว่า จิ่งเถิงที่ท้าประลองกับเฉินเฟิงนั้นมาจากตระกูลจิ่งซึ่งคือหนึ่งในตระกูลศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ของหวาเซี่ย จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา ตระกูลจิ่งคือหนึ่งในตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหวาเซี่ย!”

“หนึ่งพันปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลจิ่งเคยมีมหาปรมาจารย์แห่งบูโดถึงสามคน! ตระกูลจิ่งในวันนี้ ยังคงมีการสืบทอดกันอย่างสมบูรณ์แบบ ร้อยปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาไม่ค่อยเข้ามายุ่งกับเรื่องทางโลก แต่เมื่อออกมาแล้ว ก็จะต้องทำให้บูโดของหวาเซี่ยเกิดเรื่องใหญ่และสั่นสะเทือนเป็นอย่างมาก! ยกตัวอย่าง เมื่อหนึ่งร้อยยี่สิบปีก่อน……”

ข้อมูลของประกาศนี้ครบถ้วนมาก ไม่เพียงแต่มีประวัติและการพัฒนาของตระกูลจิ่ง แต่ยังมีข้อมูลส่วนตัวของจิ่งเถิง รวมถึงเรื่องที่จิ่งถิงฝึกหมัดหยินหยางขั้นสุดยอดที่ไม่มีการสืบทอดตั้งแต่เล็กรวมถึงเรื่องที่เขาออกมาท่องโลกตอนที่อายุสิบหกปี และเรื่องที่เขาเอาชนะอัจฉริยะของสำนักใหญ่ต่างๆ

“เป็นจริงตามที่คิดเอาไว้ จิ่งเถิงเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าท้าประลองกับเฉินเฟิง” หลังจากอ่านเนื้อความของกระทู้แล้วนั้น ภายในใจของจอมยุทธ์ทั่วโลกพอจะคิดเอาไว้บ้างแล้ว เป็นไปตามที่พวกเขาคิด จิ่งเถิงเป็นจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งมาก!

เพราะความแข็งแกร่งของจิ่งเถิง บนฟอรั่มจึงมีการเปลี่ยนแปลงไปทิศทางอื่น

ตอนที่เรื่องนี้เพิ่งแพร่ออกมานั้น แทบจะทุกคนในฟอรั่มต่างก็คิดว่าจิ่งเถิงไม่เจียมตัว รนหาที่ตาย ทว่าหลังจากข้อมูลของตระกูลจิ่งและจิ่งเถิงแพร่ออกมา ทิศทางในการเสวนาของผู้คนก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เริ่มมีคนคิดว่าคนที่จะชนะในตอนสุดท้ายคือตระกูลจิ่ง

และคำพูดเหล่านี้ จนถึงตอนนี้ กลายเป็นกระแสหลักของฟอรั่มไปแล้ว โดยมีสองเหตุผล

ข้อหนึ่ง นอกจากข้อมูลของตระกูลจิ่งและจิ่งเถิงถูกเปิดเผย ยังมีคนให้ข่าวใหญ่ บอกว่าบนโลกใบนี้ยังมีตระกูลที่เก็บซ่อนความสามารถเอาไว้เหมือนกับตระกูลจิ่ง อิทธิพลของผู้นำครอบครัวแต่ละคนเทียบเท่ากับความแข็งแกร่งของอันดับเทพสิบอันดับแรก ผู้สืบทอดของอิทธิพลล้วนเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถด้านการต่อสู้แข็งแกร่งที่สุด ห่างไกลจากอัจฉริยะในวงการศิลปะการต่อสู้ตอนนี้มาก ทว่าเฉินเฟิงแม้ความสามารถที่แสดงออกมาจะแข็งแกร่งมาก แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าอิทธิพลด้านวิทยายุทธที่ซ่อนตัวเอาไว้นั้น เขาไม่มีข้อดีอะไรเลย

ข้อสอง จิ่งเถิงได้ส่งหนังสือท้าประลองนานกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว แต่เฉินเฟิงไม่ยอมตอบรับคำท้า ซึ่งก็หมายความว่าเฉินเฟิงไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะจิ่งเถิงได้ อีกทั้งยังคิดว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ่งเถิง ไม่กล้ารับคำท้าประลอง!

เฉินเฟิงจะตอบรับคำท้าไหม? ถ้าเฉินเฟิงตอบรับคำท้า เขาจะสามารถเอาชนะจิ่งเถิงที่แสนลึกลับได้ไหม? ตอนที่ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งส่งหนังสือท้าประลองไปให้เฉินเฟิง แทบจะทุกคนที่ให้ความสนใจกับการประลองครั้งนี้ ภายในใจล้วนมีคำถามสองข้อ

ตามวันเวลาที่เดินผ่าน ความสงสัยและคาดหวังในใจของทุกคนยิ่งมากขึ้น

ทว่าเฉินเฟิงที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้ ว่าเขาจะให้คำตอบอย่างรวดเร็ว

ห้าวัน

เวลาห้าวันเต็มๆ เฉินเฟิงยังไม่ให้คำตอบใดๆ

ในเวลาเดียวกันสิ่งนี้ทำให้คนที่สนใจการประลองครั้งนี้ใจร้อนสุดจะทน และอดไม่ได้ที่จะพูดกันไปต่างๆนาน

“ผ่านไปห้าวันแล้ว เฉินเฟิงไม่ปรากฏตัวออกมา ไม่ให้คำตอบ ซึ่งสามารถอธิบายได้ข้อหนึ่ง——เขาคิดว่าความสามารถของตนเองเทียบกับจิ่งเถิงไม่ได้ ไม่กล้ารับคำท้าของจิ่งเถิง!”

“จริงด้วย จากสไตล์การทำงานและความแข็งแกร่งของเฉินเฟิงที่ผ่านมานั้น ถ้าเขามั่นใจว่าสามารถเอาชนะจิ่งเถิงได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รับคำท้า อธิบายได้แค่อย่างเดียวว่าเขากลัวแล้ว!”

“แม้ว่าเฉินเฟังจะถูกขนานนามว่าเป็นชายหนุ่มอันดับหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย แต่นั่นไม่ได้เอาสำนักที่ซ่อนตัวจากโลกอย่างศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่นับรวมไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นจิ่งเถิง ถ้านับรวมเขาเข้าไปด้วย เฉินเฟิงอาจจะไม่ใช่ที่หนึ่ง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เฉินเฟิงไม่กล้ารับคำท้าจากจิ่งเถิง——ถ้าเฉินเฟิงรับคำท้า เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสังสัย!” คนที่พูดคุยกันหลักๆคือกลุ่มคนที่มาจากบูโดหวาเซี่ย มีคนบอกว่าเฉินเฟิงไม่กล้ารับคำท้า ได้รับการเห็นด้วยจากผู้คนมากมายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลายเป็นสิ่งที่เผยแพร่พูดออกไปในบูโด ถึงขั้นแม้แต่ลูกศิษย์สำนักใหญ่บางสำนักก็เห็นด้วยกับคำพูดนี้

อย่างรวดเร็ว ข่าวลือนี้ก็แพร่ไปจนถึงเมืองอื่นๆ และได้รับความเห็นด้วยของคนจำนวนมาก” น่าโมโหจริงๆ คนโง่พวกนี้กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำกันใช่ไหม? ถึงกล้าพูดจาเหลวไหลแบบนี้!”

วันนี้ หลังจากที่หวู่เหวินโป๋รู้ข่าวลือที่ว่าเฉินเฟิงไม่กล้ารับคำท้า โมโหเป็นอย่างมาก แทบอยากจะเปิดแถลงข่าวปฏิเสธเรื่องทั้งหมดนี้

แต่เขาก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น

ความเป็นจริง เวลานี้แม้แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจเฉินเฟิงจะสามารถเอาชนะจิ่งเถิงได้ เพราะคนสวนมากในฟอรั่มได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากความเป็นจริง

ไม่ได้มีแค่หวู่เหวินโป๋เท่านั้นที่เซ็ง โมโห พูดแขวะ ยังมีสี่พี่น้องตระกูลเฉินและเจ้าสามหวงที่เร่งเดินทางมาจากจงไห่

“ให้ตายสิ ไอ้พวกสวะว่างงานพวกนี้ พูดจาเหลวไหลอะไรของพวกมัน อาจารย์อาของพวกเราเป็นคนขี้กลัวหรือไง?”

“ถูกต้อง ในพจนานุกรมของอาจารย์อาเฉินไม่มีคำว่ากลัวคำนี้ ที่เขาไม่ได้ตอบกลับทันที ต้องมีเหตุผลของเขาแน่ๆ!”

“จริงด้วย อาจารย์ อาจารย์รู้ไหมว่าทำไมจนถึงตอนนี้อาจารย์อาถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร?”

สี่พี่น้องตระกูลเฉินอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเจ้าสามหวง คาดหวังว่าเจ้าสามหวงจะให้คำตอบ

“ฉันรู้แล้ว เจ้าเด็กนั่นกำลังเก็บตัวถือศีล ไม่มีเวลาสนใจไอ้เด็กที่ชื่อจิ่งเถิงอะไรนั่น” เจ้าสามหวงปรายตามองสี่พี่น้องตระกูลเฉิน แล้วพูด

“ที่แท้ก็กำลังเก็บตัวถือศีลนี่เอง ฉันก็ว่า อาจารย์อาเฉินไม่ใช่คนที่ไม่กล้ารับคำท้า” ได้ยินคำตอบของเจ้าสามหวง สี่พี่น้องตระกูลเฉินก็โล่งใจ ก่อนหน้านี้พวกเขายังเป็นกังวล คิดว่าเฉินเฟิงไม่กล้ารับคำท้าจริงๆ

“จากนิสัยของอาจารย์อาเฉิน ลาศีลเมื่อไหร่ ต้องให้คำตอบทันทีแน่ๆ พูดให้ถูกก็คือรับคำท้า จากนั้นก็ฆ่าจิ่งเถิงนั่นซะ! อาจารย์ ฉันรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับสำนักอู่ตัง พวกเราควรจะไปสักหน่อย ไปดูอาจารย์อาเฉินสู้จนจิ่งเถิงกลายเป็นหมาตายตัวหนึ่ง!”เฉินจื๋อหลี่พูดเสนออย่างมีความสุข

“ได้!”เจ้าสามหวงพยักหน้าเล็กน้อย ทว่าภายในใจกลับเป็นกังวล พวกเฉินจื๋อหลี่ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของจิ่งเถิง พวกเขาไม่เคยคิดว่าเฉินเฟิงจะแพ้……

“อ้างอิงจากคนที่อยู่ใกล้ชิดกับเฉินเฟิง ที่เฉินเฟิงไม่ออกมาพูดอะไร ไม่ได้เป็นเพราะไม่กล้ารับคำท้า แต่เป็นเพราะกำลังเก็บตัวถือศีลฝึกวรยุทธ์ รอให้ลาศีลก่อนแล้วจะตอบจิ่งถิงอย่างแน่นอน!”

เย็นวันนั้น มีคนนิรนามโพสบอกบนฟอรั่มบูโด

จากนั้น คำพูดนี้ก็กระจายไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู่หูของทุกคนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ อีกทั้งยังทำให้เกิดการพูดคุยดุเดือด

“ฉันรู้สึกว่าข้อมูลนี้เชื่อถือได้”

“จากข้อมูลที่พูดมานี้ ไม่ว่าเฉินเฟิงจะรับหรือไม่รับคำท้า สุดท้ายแล้วก็จะให้คำตอบ”

“หยุดพูดเรื่องที่ว่าเฉินเฟิงจะรับหรือไม่รับคำท้าไปก่อนชั่วคราว วิเคราะห์จากข้อมูลแล้ว เฉินเฟิงไม่มีความมั่นใจในการเอาชนะจิ่งเถิง ไม่อย่างนั้นก็คงรอจนถึงเก็บตัวถือศิลจบแล้วค่อยให้คำตอบ!

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท