ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 671

ตอนที่ 671

บทที่ 671 วิธีการคัดเลือก

กับบทสนทนาก่อนหน้าเฉินเฟิงไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ

เนื่องจากตอบโต้ในตอนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร สิ่งเดียวที่เขาต้องทำก็คือชนะฉู่เหออย่างสง่าผ่าเผยในช่วงการแข่งขัน!

หลังจากเฉินเฟิงและฉู่เหอต่างก็กลับเข้าที่พักของตัวเอง สีหน้าของอู่จื่อโจวจึงดูดีขึ้นไม่น้อย

เขากวาดสายตามองทุกคนแวบหนึ่งก่อนเอ่ย “คิดว่าทุกท่านคงจะรู้สาเหตุที่ผมเรียกทุกท่านมาในวันนี้แล้ว”

“ผู้อาวุโสอู่ พวกเรารู้อยู่แล้วว่าที่เรียกมาก็เพราะเรื่องการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ยังไงรบกวนผู้อาวุโสอู่รีบบอกวิธีการคัดเลือกเถอะ” ไม่รอให้อู่จื่อโจวพูดจบ จียุ่นก็เอ่ยตัดบทอย่างรีบร้อน

“ยุ่นเอ๋อ!”

ทว่าอู่จื่อโจวไม่ได้โกรธแต่อย่างใด กลับเป็นจีอู๋ฉางที่มองจียุ่นด้วยสายตาไม่พอใจราวกับไม่พอใจกับการกระทำของจียุ่นเป็นอย่างมาก

“ใจเย็นๆ ผมกำลังจะบอกวิธีการคัดเลือกแก่ทุกท่าน”

“แต่ว่าก่อนที่จะบอกวิธีการคัดเลือกแก่พวกคุณ ผมมีเรื่องจะต้องอธิบายก่อนนั่นก็คือการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ทางสหพันธ์วูซูนานาชาติให้โควตาประเทศละหนึ่งคนเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวาของเราจะมีจอมยุทธ์เพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่จะเป็นตัวแทนประเทศเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน” อู่จื่อโจวอธิบายอย่างไม่รีบร้อน

“คนเดียวอย่างนั้นหรือ?”

เมื่อได้ฟังคำอธิบายของอู่จื่อโจวก็มีหลายคนในที่นี้ต่างขมวดคิ้วมุ่น ตามหลักการแล้วประเทศที่มีศิลปะการต่อสู้แข็งแกร่งอย่างประเทศหวาควรจะได้โควตาอย่างน้อยสามคน คนเดียวนั้นถือว่าน้อยเกินไป

อีกทั้งคนที่มาแย่งชิงโควตาเพียงหนึ่งเดียวนั้นล้วนเป็นความภาคภูมิใจของวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวา ความสามารถของพวกเขานั้นไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก ดังนั้นสุดท้ายถึงแม้จะได้ผู้ชนะก็อาจจะไม่ได้แสดงถึงมาตรฐานสูงสุดด้านศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวาได้

“ผู้อาวุโสอู่ ทำไมปีนี้ทางสหพันธ์วูซูถึงให้โควตาประเทศหวาแค่คนเดียวล่ะ?” ชั่วอึดใจจีอู๋ฉางก็เอ่ยถามข้อสงสัยของตัวเอง เพราะว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในปีที่ผ่านๆมา สหพันธ์วูซูนานาชาติให้โควตาประเทศหวาอย่างน้อยสามคน ทว่าปีนี้กลับเปลี่ยนเป็นคนเดียว

“เพราะว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในปีที่ผ่านมา ประเทศหวาของเราทำได้แย่มาก” ราวกับรู้อยู่แล้วว่าจีอู๋ฉางจะต้องถามคำถามประมาณนี้ อู่จื่อโจวจึงเอ่ยตอบอย่างเรียบเฉย

“ทำได้แย่มากอย่างนั้นหรือ?” เมื่อได้ยินคำตอบของอู่จื่อโจว จีอู๋ฉางก็ชะงักไป

“ใช่แล้วล่ะ ทำได้แย่มาก” อู่จื่อโจวพยักหน้าอีกครั้งพลางเอ่ย “ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกประเทศหวาของเราไม่มีคนเข้าถึงรอบแปดคนสุดท้ายสามปีติดกันแล้ว ดังนั้นทางสหพันธ์วูซูนานาชาติจึงลดโควตาประเทศหวาจากสามคนเหลือเพียงคนเดียว”

เมื่อได้ยินคำตอบจากอู่จื่อโจวทุกคนในที่นี้ก็มีสีหน้าเลิ่กลั่ก การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกที่ปีที่ผ่านๆมาประเทศหวาทำได้แย่จริงๆนั่นแหละ

วงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวาทำได้แย่ ไม่เพียงแต่ประเทศหวาเท่านั้นที่เสียหน้า สหพันธ์บูโดและผู้ฝึกฝนการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างพวกเขาก็เสียหน้าด้วย

“ผู้อาวุโสอู่ หากมีเพียงแค่หนึ่งโควตา เช่นนั้นพวกเราห้าคนก็จะทำอย่างเต็มที่เพื่อแย่งชิงโควตานี้ ทว่าหากระหว่างนี้เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ เมื่อไปถึงสนามแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก เกรงว่าบาดแผลที่พวกเราได้รับจะส่งผลต่อการแสดงความสามารถของพวกเรา……” เทียนอิงอดที่จะเหลือบมองอู่จื่อโจวไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างเป็นห่วง ห้าคนที่ความสามารถไม่ทิ้งห่างกันมากต้องมาแย่งชิงโควตาเพียงหนึ่งเดียว ใช้หัวแม่เท้าคิดยังคิดได้เลยว่าระหว่างการคัดเลือกนี้จะโหดเหี้ยมแค่ไหน

เพราะยังไงความสามารถของทั้งห้าคนก็ใกล้เคียงกัน ไม่มีใครข่มใครลง ระหว่างการแย่งชิงจึงยากที่จะควบคุมพลังไม่ให้พลั้งมือ เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่บาดเจ็บเลยอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นไปได้

เมื่อเทียนอิงเอ่ยจบสายตาของทุกคนก็ย้ายไปจับจ้องที่อู่จื่อโจว ไม่ใช่มีแค่เทียนอิงที่เป็นกังวลเรื่องนี้ ทุกคนในที่นี้ล้วนกังวลถึงปัญหาข้อนี้อยู่ในใจ

“ทุกท่านวางใจได้ ผมรู้ว่าทุกท่านกังวลอะไรกันอยู่ ทว่าสิ่งที่ทุกท่านกังวลอยู่จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน” อู่จื่อโจวเอ่ยเสียงต่ำ ก่อนจะเอ่ยถึงวิธีการคัดเลือกตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน “การคัดเลือกในครั้งนี้ผมจะให้พวกคุณทั้งห้าคนประชันฝีมือกับผมทีละคน ผมจะพิจารณาความสามารถของพวกคุณจากการประชันฝีมือกับผม”

“อย่างนี้ก็ได้หรือ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของอู่จื่อโจว ศีลสามก็อดที่ตะลึงไม่ได้ คนอื่นๆก็มีสีหน้าข้องใจไม่ต่างกันนัก

“ขออนุญาตเอ่ยถามผู้อาวุโสอู่ มาตรฐานในการตัดสินขึ้นอยู่กับท่านเอง หรือขึ้นอยู่กับพวกเราคนที่อยู่ในสนามหรือ?”

หวังอีเตาอาจารย์ของฉู่เหอเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าทะมึน คำพูดของเขาค่อนข้างคลุมเครือ ทว่าในใจนั้นกำลังเป็นกังวลว่าในระหว่างการตัดสินอู่จื่อโจวจะเกิดความลำเอียง เนื่องจากเมื่อสักครู่ฉู่เหอได้สร้างเรื่องกับอู่จื่อโจวไว้ หากตอนที่อู่จื่อโจวประชันกับฉู่เหอแล้วตั้งใจเพิ่มระดับความยากให้กับฉู่เหอหรือว่าตัดสินให้ฉู่เหอไม่ผ่านก็ล้วนเป็นไปได้

หลังจากหวังอีเตาเอ่ยจบ จีอู๋ฉางก็ย้ายสายตาไปมองอู่จื่อโจว ความกังวลเช่นเดียวกับหวังอีเตาเขาก็มีเช่นกัน เพราะเมื่อสักครู่จียุ่นก็ได้ล่วงเกินอู่จื่อโจวเหมือนกัน หากอู่จื่อโจวเป็นคนใจแคบแล้วถือสาเรื่องที่จียุ่นล่วงเกินตน เช่นนั้นตอนประชันการต่อสู้กับจียุ่น อู่จื่อโจวอาจจะกลั่นแกล้งจียุ่นก็เป็นได้

แตกต่างกับเทียนอิงและเฉินเฟิงทั้งสองคนนี้สร้างความประทับใจที่ดีต่ออู่จื่อโจว ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากว่าตอนประชันการต่อสู้อู่จื่อโจวจะอ่อนข้อให้สองคนนี้

“พวกคุณกังวลว่าผมจะตั้งใจเพิ่มระดับความยากให้ลูกศิษย์พวกคุณใช่หรือไม่?”

เมื่อสบตากับหวังอีเตาและจีอู๋ฉาง สีหน้าของอู่จื่อโจวก็ยังคงเรียบเฉยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ทั้งสองคนไม่ได้ตอบคำถามของอู่จื่อโจว ทว่าการที่ทั้งสองคนเงียบนั่นก็หมายความว่าพวกเขามีความคิดแบบนั้นจริงๆ

วินาทีต่อมาอู่จื่อโจวก็หัวเราะ “พวกคุณคิดมากไปแล้ว การคัดเลือกในครั้งนี้ ผมเป็นตัวแทนของสหพันธ์บูโด คัดเลือกคนเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศหวา ดังนั้นในระหว่างการคัดเลือกผมไม่มีทางลำเอียงแน่นอน เพื่อความยุติธรรมการคัดเลือกในครั้งนี้ผมจะไม่เป็นฝ่ายลงมือก่อน ”

“ไม่ลงมือก่อนหรือ?”

เมื่อได้ยินคำตอบขออู่จื่อโจว ทุกคนในที่นี้ก็ชะงักไป ไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนแล้วจะคัดเลือกยังไง

วินาทีต่อมาอู่จื่อโจวก็เอ่ยคลายความสงสัยของทุกคน “เมื่อการคัดเลือกเริ่มต้นขึ้น ผมจะขีดเส้นเป็นวงกลมรัศมีสามเมตรบริเวณในที่ผมยืนอยู่และผมจะยืนอยู่ในวงกลม แล้วพวกคุณทั้งห้าคนเป็นฝ่ายลงมือกับผมมือทีละคน ใครที่สามารถบีบให้ผมออกจากวงกลมได้หรือบีบให้ผมต้องป้องกันตัวเองได้จะถือว่าคนนั้นผ่านการคัดเลือก”

“อีกเรื่อง เพื่อความยุติธรรม เมื่อการคัดเลือกเริ่มต้นขึ้นพวกคุณสามารถอยู่สังเกตการณ์ในสนามได้” เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้อู่จื่อโจวตั้งใจจะบอกกับหวังอีเตาและจีอู๋ฉาง

“วิธีนี้ไม่เลวเลย”

เมื่อฟังอู่จื่อโจวเอ่ยจบ สีหน้าของหวังอีเตาและจีอู๋ฉางก็ดูดีขึ้น ก่อนหน้านี้พวกเขายังกังวลว่าอู่จื่อโจวจะใช้วิธีสกปรกระหว่างการคัดเลือก ทว่าตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลแล้ว

อู่จื่อโจวจะไม่เป็นฝ่ายลงมือก่อน เขาจะเป็นฝ่ายตั้งรับเพื่อให้เกิดการป้องกันตัวได้เท่านั้น

อีกอย่าง ถึงแม้จะเป็นฝ่ายตั้งรับเพื่อให้เกิดการป้องกันตัวอู่จื่อโจวก็ไม่สามารถอ่อนข้อได้ เนื่องจากพวกเขาที่มีความสามารถอยู่ในขั้นเดียวกับอู่จื่อโจวจะสังเกตการณ์อยู่ในสนาม เมื่อเห็นลางว่าเกิดการอ่อนข้อให้ พวกเขาก็จะมองออกในทันที

ถึงตอนนั้น พวกเขาจะทักท้วงอย่างแน่นอน

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท