ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 782

ตอนที่ 782

บทที่ 782 ยายีน

“ฮือ? ท่านหลวงจีน ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

ศีลสามที่อยู่ด้านข้างถามอาจารย์ฟางเจิ้นด้วยสีหน้าที่มืดมนราวกับก้นหม้อ

“หลวงจีนน้อยไม่ต้องรีบร้อนพรสวรรค์ด้านทักษะการต่อสู้ของท่านถือว่ายอดเยี่ยม ถ้าหากเดินไปถูกทางความแข็งแกร่งของท่านจะเพิ่มพูนขึ้นเอง ดังนั้นถึงแม้ว่าพรสวรรค์จะสำคัญแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกเดินทางที่ถูก!”

อาจารย์ฟางเจิ้นพูดอธิบายให้ศิลสามฟังอย่างช้าๆ

“เดินทางที่ถูก? ท่านหลวงจีนหมายถึงตอนนี้ฉันกำลังเดินทางผิด?” ศีลสามขมวดคิ้วแน่นและสีหน้าของเขายิ่งมืดลง

“ไม่กล้าชี้แนะ อาจารย์ฟางเจิ้นถึงแม้ว่าผมจะเป็นผู้ชี้นำทักษะการต่อสู้ให้กับเสี่ยวเฟิง และเช่นเดียวกันผมก็ได้สอนทักษะการสังหารและการเอาตัวรอดด้วย ผมไม่ใช่อาจารย์ของเสี่ยวเฟิงแต่เป็นศิษย์พี่ของเขา ผมเคยสอนเขาแค่เรื่องพวกนี้เท่านั้น ส่วนเรื่องวรยุทธและกระบวนท่ารวมไปถึงพลังของหั้วจิ้งชั้นกลางล้วนแต่พึ่งความสามารถของเขาเองจนมาถึงจุดนี้ได้ ผมไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยแต่ในทางกลับกันเสี่ยวเฟิงกลับทำให้ผมต้องตกใจครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ผมคาดไม่ถึงอยู่ตลอดเวลา!”

ในขณะที่อาจารย์ฟางเจิ้นกำลังโต้เถียงกับศีลสาม เย่หนานเทียนไอแห้งๆหลังจากนั้นก็นำบทสนทนากลับมาอีกครั้ง

“เห้อ ฟางเจิ้นไต้ซือฉันว่าท่านปล่อยวางเถอะ ท่านลองคิดดูผู้สืบทอดของฉันและของท่านล้วนแต่ถือว่าใช้ได้ แต่เมื่อนำมาเทียบกับเสี่ยวเฟิงแล้วมันไม่สามารถเทียบได้เลย แต่ว่าพูดไปพูดมาในประวัติศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวาคนที่มีพรสวรรค์อย่างเฉินเฟิงมีแค่กี่คน? ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ!” จียุ่นถอนหายใจแล้วพูดอธิบายอยู่ด้านข้าง

“อืม มันก็ถูก ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ!”

ฟางเจิ้นไต้ซือพยักหน้า อู่จื่อโจว จีอู๋ฉาง ชางโป๋และทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ล้วนแต่เข้าใจ ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ด้านวรยุทธของศีลสามจะสูงแค่ไหน แต่เมื่อเทียบกับวรยุทธที่หักดิบของเฉินเฟิงยังมีข้อบกพร่องมากเกินไป

“ลูกศิษย์ของท่านถือว่ายอดเยี่ยมมาก ทั้งๆที่อายุยังน้อยแต่สามารถก้าวข้ามอาจารย์ของตัวเองไปได้ ถ้าหากเขาเป็นแบบนี้ตลอดทางในอนาคตจะต้องกลายเป็นคนที่มีพลังไร้ขีดจํากัดอย่างแน่นอน!”

สายตาของอู่จื่อโจวหันมองไปทางเย่เทียนหนาน ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“อืม อนาคตที่ไร้ขีดจำกัด แม้ว่าเจ้าเด็กคนนี้จะบรรลุถึงระดับดินแดนลึกลับขั้นเซียนฉันก็ไม่รู้สึกแปลกใจ ในทางกลับกันมันอยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว!” ชางโป๋อดไม่ได้ที่จะพูดชม

ถึงแม้ว่าฟางเจิ้งไต๋ซือและจีอู๋ฉางจะไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนที่ชางโป๋กำลังพูดพวกเขาสองคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

“สามารถเป็นศิษย์พี่ของเขาถือว่าเป็นความภาคภูมิใจและเกียรติของผม นี่คือโชคชะตาและโอกาสของผม!”

เย่หนานเทียนพูดพร้อมกับจ้องมองเฉินเฟิงที่อยู่ภายใต้สายตานับหมื่นคู่ ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความภาคภูมิใจและรอยยิ้ม

ทุกคนในประเทศหวาเกือบส่วนมากทุกคนล้วนแต่มีความสุข แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขก็มีคนเศร้าด้วย อีกด้านหนึ่งของสำนักหงเหมิน หงเทียนป้า กงปุ่นเหย่อู่แห่งญี่ปุ่นและโซโลใบหน้าของทั้งสามคนดูเคร่งขรึมมาก

ถ้าหากบอกว่าเดิมทีเรื่องการสังหารเฉินเฟิงยังรู้สึกลังเลอยู่บ้าง เท่ากับว่าตอนนี้พวกเขาตัดสินใจที่จะกำจัดเฉินเฟิงหนามยอกอกของพวกเขาแล้ว

ถ้าหากปล่อยให้เฉินเฟิงยังคงก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ มันอาจจะส่งผลกระทบภัยคุกคามถึงชีวิตของพวกเขา แม้กระทั่งตอนนี้พวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันแล้ว

อาเธอร์ที่นั่งมองอยู่บนอัฒจันทร์ตอนนี้ใบหน้าซีดขาว ในตอนนี้เขารู้สึกถึงความไร้เรี่ยวแรงปรากฏขึ้นในใจ

เดิมทีตอนที่เขาถูกเฉินเฟิงตัดแขนหนึ่งข้าง ตอนแรกเขาอยากจะฆ่าตัวตายแต่เมื่อได้ยินพระสันตะปาปาโจ้ส์บอกว่าเขายังสามารถรักษาวรยุทธไว้ นี่จึงเป็นการจุดประกายความหวังของอาเธอร์อีกครั้ง

ในการแข่งขันชิงแชมป์ศิลปะการต่อสู้ในครั้งสุดท้ายนี้อาเธอร์มาพร้อมกับความกดดัน เขาอยากจะดูว่าเฉินเฟิงจะพ่ายแพ้ให้กับอู๋คุนอย่างไร

แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือจู่ๆเฉินเฟิงไม่เพียงแต่สามารถบรรลุขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางเท่านั้น หลังจากที่สามารถบรรลุขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางพลังของเฉินเฟิงก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และยังสามารถเอาชนะอู๋คุนด้วยความแข็งแกร่งล้วนๆ ท้ายที่สุดสังหารอู๋คุนและตัดหัวของเขาลงมา

วินาทีนี้ไฟแห่งการแก้แค้นของอาเธอร์มันมอดดับลงเหมือนกับหิ่งห้อย และเขาถึงขั้นรู้สึกว่าไม่กล้าเปิดศึกกับเฉินเฟิง ความแข็งแกร่งของพวกเขามันห่างชั้นกันเกินไปแล้ว

“ยอดเยี่ยมมาก ฝ่าบาท ท่านเลขาดูสิ ฉันพูดไม่ผิดใช่หรือเปล่ายังไงเฉินเฟิงแห่งประเทศหวาก็ต้องชนะ!”

“ใช่แล้ว ธิดาแห่งพรรคมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม”

เลขาธิการโมดริชตอบกลับพร้อมกับยิ้มแห้งๆ

ส่วนพระสันตะปาปาโจ้ส์ก็ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร ในแววตาของเขากำลังครุ่นคิดแต่ไม่รู้ว่าคิดอะไร

“เฉินเฟิงผู้ชนะ!”

“เฉินเฟิงแห่งประเทศหวา”

เสียงที่ตื่นเต้นของผู้ชมยังคงดังก้องอยู่ในสนามประลอง และในตอนนั้นเองผู้ตัดสินที่สวมชุดสีดำทั้งตัวพุ่งมายืนอยู่ที่ใจกลางสนามประลองภายในพริบตาและประกาศผลการแข่งขัน

หลังจากที่จบการแข่งขันแล้วยังมีพิธีมอบถ้วยรางวัล แต่พิธีการแบบนี้ต้องรอให้หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน ดังนั้นผู้ตัดสินถึงแทบจะรอไม่ไหวแล้วจึงรีบประกาศผลการแข่งขันทันที

มาจนถึงตอนนี้การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกก็ถือว่าสิ้นสุดลง ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้คือเฉินเฟิง

หลังจากที่ผู้ตัดสินประกาศผลการแข่งขัน ก็มีพนักงานขององค์กรศิลปะการต่อสู้สองคนขึ้นมาเก็บกวาดสถานที่

“เฉินเฟิง พวกเราต้องจัดการกับศพของอู๋คุนโปรดส่งหัวให้ผมด้วย!”

พนักงานคนหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเฉินเฟิงแล้วพูด

“หัวของเขาฉันจะเอากลับประเทศหวา!”

เฉินเฟิงมองพนักงานคนนั้นด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง หัวของอู๋คุนมันมีความหมายมาก

“อืม เรื่องนี้ผมจะไปรายงานให้เบื้องบนทราบเอง!” พนักงานคนนั้นพยักหน้า

เฉินเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็ยื่นหัวที่อยู่ในมือให้พนักงาน เขารู้ดีว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นเพียงแค่พนักงานธรรมดาไม่มีสิทธิ์อะไรมาตัดสิน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมาพูดเปลืองน้ำลายกับเขา

หลังจากที่สนามประลองจัดการได้เกือบพอประมาณแล้ว พิธีกรคนนั้นก็กล่าวขึ้นบนสนามประลองอีกครั้ง

“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีการแข่งขันได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกท่านคิดว่าเป็นการแข่งขันที่สนุกหรือเปล่า?”

หลังจากที่พิธีกรพูดจบ ก็ยื่นไมโครโฟนที่อยู่ในมือออกไปข้างหน้าและทำท่าเงี่ยหูฟัง

“สนุก!”

“แล้วการแข่งขันครั้งนี้ตื่นเต้นหรือเปล่า?” พิธีกรยังคงถามต่อ

“ตื่นเต้นมาก!”

ผู้ชมตอบตามความเป็นจริง

“งั้นต่อไปผมจะขอเรียนเชิญท่านประธานองค์กรศิลปะการต่อสู้โลกหรือก็คือพระสันตะปาปาโจ้ส์แห่งวาติกันขึ้นมาเป็นผู้มอบรางวัล!” หลังจากที่พิธีกรพูดจบเสียงปรบมือก็ดังก้องสนั่นไปทั่ว

สายตาของผู้ชมส่วนใหญ่จับจ้องไปทางโซนที่นั่งแขกผู้มีเกียรติ พระสันตะปาปาโจ้ส์ลุกขึ้นอย่างช้าๆภายใต้สายตาของผู้คนเดินออกมาจากที่นั่ง

ที่ด้านหลังของพระสันตะปาปาโจ้ส์ยังมีพนักงานสองคนเดินตามด้วย โดยคนหนึ่งถือถ้วยรางวัลอีกคนถือยายีน

“หนุ่มน้อย นายคือนักสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ทำได้ดีมาก!”

พระสันตะปาปาโจ้ส์เดินมาถึงข้างกายของเฉินเฟิง ในแววตาเต็มไปด้วยความนับถือและคำพูดของเขาเผยให้เห็นถึงการชื่นชม

“นี่คือถ้วยรางวัลของนาย นี่คือยายีนเป็นรางวัลของระดับรางวัลชนะเลิศอีกด้วย ฉันเชื่อว่านายเข้าใจวิธีการใช้ยายีนและจะใช้อย่างสมเหตุสมผล!”

พระสันตะปาปาโจ้ส์รับถ้วยรางวัลและยายีนมาจากพนักงานแล้วยื่นให้เฉินเฟิงและสุดท้ายยังไม่ลืมที่จะพูดกำชับ

ในวินาทีนี้สายตาของผู้ชมธรรมดาทั่วไปจับจ้องถ้วยรางวัลที่อยู่ในมือของเฉินเฟิงด้วยความอิจฉา ส่วนเหล่านักสู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนจับจ้องไปที่ยายีนที่อยู่ในมือของเขา

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท