ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 813

ตอนที่ 813

ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ต้องสนใจอะไรอีกทั้งนั้น

หมัดและเท้าทั้งสองพร้อมเพรียง ตั้งท่ารับมือการจู่โจมจากคู่ต่อสู้

เมื่อเน่เจิ้งได้ฟาดฟันกระบี่ลงไปแล้ว เน่เฉินที่อยู่ด้านข้างก็ไม่รอช้าพุ่งเข้าฟาดฟันด้วยกระบี่เช่นกัน

ครั้งนี้มีกระบวนท่ารับมือ เฉินเฟิงจึงสามารถหลบหลีกพ้นไปได้อย่างง่ายดาย

แต่ไม่ทันรอให้เขาได้พักหายใจ กระบี่ของเน่เจิ้งก็พุ่งเข้ามาอีกหนึ่งคำรบ

พลังกระบี่รวดเร็วกว่าเดิม และร้ายกาจรุนแรงกว่าเดิม

เฉินเฟิงรับมือค่อนข้างลำบากเล็กน้อย แต่เขาพอจะมองออกถึงพลังความสามารถของฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคน คนโตนั้นระดับหั้วจิ้งชั้นสูงสุด ส่วนคนเล็กนั้นจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็ถึงระดับขั้นหั้วจิ้งชั้นสุด และมีโอกาสที่จะเพิ่มระดับขั้นขึ้นได้อีก

เพิ่งจะตอบโต้กระบี่ยาวของทั้งสองคนกลับไป เฉินเฟิงก็ขยับถอยออกมาเพื่อรักษาระยะห่าง เขาถามขึ้นว่า

“ทำไมพวกนายถึงต้องมาฆ่าข้าด้วยล่ะ? ”

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระ นายไอ้คนชั่วที่ชอบรังแกคนอื่น และยังกระทำมิชอบผิดสามัญสำนึก ฝึกฝนวิชามารชั่วร้าย ซึ่งคนที่ปฏิบัติตนโดยชอบธรรมอย่างพวกข้าจะผดุงความยุติธรรมกลับคืนมา”

เฉินเฟิงฟังไม่ค่อยเข้าใจ ซึ่งตอนนี้หากจะฆ่าคนจะต้องหาเหตุผลที่ดูดีน่าฟังมากมายกันขนาดนี้เลยเหรอ

“พวกนายมาหาคนผิดหรือเปล่า? ” เฉินเฟิงยังคงถามขึ้นด้วยความสงสัย

“คนที่ตามหาก็คือนายนี่แหละ”

พูดจบ ก็พุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้ง

เฉินเฟิงโมโหขึ้นแล้วจริง ๆ การต่อสู้ที่มีเหตุผลไม่ชัดเจนแบบนี้คือครั้งแรกของเขา แต่การที่เผชิญหน้ากับการโจมตีของสองคนนี้ เขาทำได้เพียงป้องกันตั้งรับ แม้จะตอบโต้กลับบ้างก็ยังเป็นเรื่องลำบาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะจัดการเอาชนะพวกเขาจนอยู่หมัดได้

แต่ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามรุมจู่โจมเข้ามากันขนาดนี้แล้ว เขาก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันตนเอง

และก็ได้ต่อสู้กันในระยะประชิดอีกครั้ง กระบี่ยาวสะท้อนแสงจันทร์ระยิบระยับ ฟาดฟันผ่านกำแพงบริเวณโดยรอบ โดยในทุกครั้งเหมือนกับว่าได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้

แต่หลังจากนั้น กลับไม่ได้สร้างความกระทบกระเทือนอะไรขึ้น

เด็กน้อยที่นั่งอยู่ในรถของเฉินเฟิงนั้น เธอสามารถมองเห็นได้ชัดเจนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้าของเธอ

เหมือนกับว่าเป็นยอดฝีมือวิทยายุทธ์ที่ออกมาจากป้ายโฆษณา เธอแปลกใจเล็กน้อย

จนถึงขนาดอาหารและน้ำก็ไม่สามารถที่จะดึงดูดเธอไม่ให้ลงจากรถไปได้ เพราะว่าเกิดความสนใจการต่อสู้อันรวดเร็วและดุเดือดนี้

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเธอยังไม่รับทราบถึงภัยอันตรายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

เมื่อประตูรถเปิดขึ้น เฉินเฟิงก็รับรู้ได้ทันที

เขาอุทานในใจ ไม่ใช่ว่าไม่ให้เขาลงมาจากรถหรอกเหรอ

แต่สองมือที่เล็กและสกปรกได้ประคองจับที่ตัวรถแล้วค่อย ๆ เดินตรงเข้ามายังที่นี่

เฉินเฟิงจิตใจเป็นกังวล แต่กระบี่ยาวที่กำลังจู่โจมเขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเลย

เขาเหมือนว่าจะไม่มีวิธีการใด ทำได้เพียงคิดหาวิธีที่จะออกห่างไปให้ไกลกับเด็กน้อยนั้นมากที่สุด

โดยเสี่ยงต่อการที่จะโดนกระบี่แทงเข้ามาที่หน้าอก เขาก็ได้เคลื่อนตัวออกมาจากวงล้อมของทั้งสองคน แต่ขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวให้ไกลออกไปมากขึ้น ปลายกระบี่พุ่งตรงเข้ามาจ่ออยู่ที่คอหอย ปิดกั้นเส้นทางที่เขากำลังจะไป

จึงต้องจำใจยอม

แต่เด็กน้อยคนนั้นกลับมองดูอย่างแปลกใจ แต่โชคดีที่ว่า เธอยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้น ไม่ได้ก้าวขยับเคลื่อนมาข้างหน้า

เฉินเฟิงเบาใจลงได้เล็กน้อย แต่สถานการณ์ก็คงยังคงไม่ดีเท่าที่ควร

“นายยังกล้าที่จะทำเรื่องชั่วร้ายขัดต่อศีลธรรมอย่างนี้อีกเหรอ”

เน่เฉินเห็นสาวน้อยคนนั้นเดินออกมาจากข้างรถ เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งและร่างกายที่สกปรกทำให้เขาคิดถึงเรื่องราวที่น่ากลัว

“พวกนายเข้าใจอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับข้าหรือเปล่า? ”

เฉินเฟิงยิ่งรู้สึกว่ามันต้องมีปัญหาอะไรที่เข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน

แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะความโกรธแค้นที่มากเกินไปหรือเปล่า ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่มีแม้แต่จะป้องกันตัว คิดแต่เพียงว่าจะฟาดฟันเฉินเฟิงให้เสียชีวิต โดยการจู่โจมเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนเฉินเฟิงเองเริ่มที่จะต้านทานไว้ไม่ไหวแล้ว

“หรือว่าจะต้องใช้พลังย้อนกลับ”

เขาคิดขึ้นได้เพราะสถานการณ์บีบบังคับ

แต่ครั้งที่แล้วร่างกายของเขาต้องเจ็บปวดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ รู้สึกว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายมันเจ็บปวดเหมือนเป็นตะคริว ชีพจรหยุดการไหลเวียน ความเจ็บปวดเหมือนว่าจะอยู่ในสมองมาโดยตลอดนับตั้งแต่นั้นมา

ความเจ็บปวดทรมานนั้นคนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถที่จะอดทนได้อย่างแน่นอน และก็ไม่มีใครที่คิดต้องการจะอดทนยอมรับความเจ็บปวดแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง

เป็นไปได้ที่นึกถึงภาพความน่ากลัวนี้แล้วทำให้เฉินเฟิงเคลื่อนไหวช้าลง ท่อนขาถูกกระบี่แทงทะลุ เลือดสีดำพุ่งกระฉูดออกมาภายใต้แสงจันทร์

สาวน้อยตกใจอย่างมาก หวาดกลัวจนคิดที่จะหลบหนีกลับเข้าไปอยู่ในรถ

ส่วนเฉินเฟิงไม่มีเวลาที่จะไปสนใจ เพราะสถานการณ์ของเขากำลังอันตรายมาก

“ข้าไม่รู้ว่าพวกนายได้ยินอะไรมาจากที่ไหน หรือว่าโดนใครโกหกหลอกลวงแล้ว แต่ตอนนี้หากพวกเราจะต่อสู้กันต่อไป ข้าก็จะได้ไม่ต้องไว้หน้าปราณีอีกต่อไปแล้ว”

พูดจบ เขาเตรียมที่จะใช้พลังอย่างเต็มที่ แม้ว่าความเจ็บปวดนั้นเขายากที่จะอดทนได้ แต่ว่าอย่างน้อยแบบนี้จะทำให้เขามีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้

ลมหายใจในร่างกายที่แผ่วเบาค่อย ๆ เริ่มเร็วมากขึ้น รอจนพลังย้อนกลับสมบูรณ์ เขาก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นครึ่งเทวดาครึ่งปีศาจ

“หยุดก่อน! ”

ท่วงท่าพลังที่กำลังรวบรวมขึ้น กลับได้ยินเสียงดังขึ้นที่ข้างหู

แต่เหมือนว่าเขาจะไม่มีทางที่จะหยุดยั้งได้ เพราะเมื่อพลังวิชาได้เริ่มต้นขึ้น คงไม่สามารถที่จะหยุดยั้งมันได้อีก

ดวงตาสองข้างแดงก่ำ ไอความร้อนระบายออกมา เหมือนกับเทพคุ้มครองดวงชะตาในโลกมนุษย์

กระแสพลังอันแกร่งกล้าที่ระเบิดออกมาทำให้พี่น้องตระกูลเน่ถึงกลับต้องถอยหลัง

ซึ่งนอกจากจะรับมือการระเบิดพลังของเฉินเฟิงแล้ว พวกเขายังคิดว่านี่อาจคงเป็นการแสดงวิชาพลังอันชั่วร้ายขั้นต้นของเฉินเฟิง จากนั้นคงจะมีเกล็ดดำขึ้นรอบตัว โดยที่พวกเขาได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว

ขณะเดียวกันพวกเขาก็กำลังป้องกันตัวจากผู้ที่เอ่ยเสียงนั้นขึ้น

เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่นี้เพิ่งทราบได้ว่าเป็นของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ตอนที่เห็นคนนั้นมาถึง จิตใจเกิดการหวั่นไหว

หญิงผู้นี้มีบุคลิกที่สง่างาม อยู่ในชุดกระโปรงยาวปาดไหล่ และสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงยืนอยู่บนพื้นดินที่ขรุขระอย่างมั่นคง

แต่ที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงนั่นก็คือ พวกเขารู้จักผู้หญิงคนนี้

“คุณชิงจือ! ”

พี่น้องสองคนอุทานขึ้นพร้อมกัน

หญิงสาวผู้นี้แซ่หยาง ชื่อชิงจือ เป็นคนที่ลึกลับอย่างที่สุด

พี่น้องตระกูลเน่ก็พบเจอหน้าเพียงแค่ครั้งเดียว โดยเป็นวันที่ฉลองวันเกิดเจ้าสำนัก แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบเจอกันที่นี่อีก

“คุณชิงจือทำไมถึงเป็นคุณไปได้ล่ะ? ” เน่เจิ้งถามขึ้น

แต่ชิงจือไม่ได้ตอบกลับ เธอเดินมาที่ข้างรถของเฉินเฟิง แล้วมองไปยังสาวน้อยในรถที่มีความหวาดกลัวแต่ก็มีความอยากรู้อยากเห็นและพูดขึ้นว่า

“ทำไมคุณถึงไม่พูดบอกกับฉัน”

เธอพูดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ เหมือนกับว่ากำลังพูดคุยกับผู้ใหญ่ แต่เด็กน้อยที่อยู่เบื้องหน้านั้นเห็นได้ชัดว่ากำลังหลบหน้าไม่กล้าที่จะพูดกับเธอ

“ฉันตามหาคุณมานานขนาดนี้ คุณกลับตั้งใจที่จะหลบซ่อนฉัน ตกลงเป็นเพราะเหตุใด? ”

เธอถามขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

แต่ไม่ทันที่เธอได้รอฟังคำตอบ หมัดที่ทรงพลังก็ชกเข้ามาที่ตัวเธอ

“ข้าจะบอกให้คุณรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร”

เจ้าของหมัดนี้แน่นอนว่าเป็นของเฉินเฟิง พลังวิชาย้อนกลับของเขา ในจิตใจมีเพียงแค่การต่อสู้ โดยไม่สามารถที่จะควบคุมสติสัมปชัญญะเอาไว้ได้ ดังนั้นครั้งแรกที่เริ่มลงมือก็คือชิงจือที่อยู่ใกล้กับเขามากที่สุด

“คุณชิงจือ ระวังตัวด้วย! ”

พี่น้องสองคนต่างก็ตกตะลึง เห็นเฉินเฟิงลงมือก็รีบตะโกนบอกเตือน โดยที่ร่างกายก็พุ่งกระโจนตามเข้าไปด้วย

แต่ชิงจือเพียงแค่ขยับตัว เฉินเฟิงก็ถูกเธอผลักกระเด็นออกไป

พลังความสามารถขนาดนี้ คงน่าจะเป็นระดับขั้นมหาปรมาจารย์อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่เฉินเฟิงไม่สนใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีพลังความสามารถแค่ไหน เขาคิดแต่เพียงว่าจะจู่โจมเข้าใส่

ขณะที่กำลังจะจู่โจม พี่น้องสองคนก็เข้าใกล้ประชิดตัวเขาแล้ว

เฉินเฟิงจึงได้เพียงปะทะต่อสู้กับพวกเขาทั้งสองอีกครั้ง

ชิงจือไม่ได้ไปสนใจพวกเขา มองไปที่สาวน้อยที่อยู่ในรถ และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า

“หากว่าคุณไม่เอ่ยปากตอบคำถามฉัน ฉันก็จะรออยู่ที่ตรงนี้”

พูดจบ ก็ยืนอยู่ตรงนั้น โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร และจ้องมองไปที่สาวน้อยคนนั้นอย่างเดียว

ส่วนอีกฟากหนึ่งการต่อสู้ก็ยิ่งดุเดือดรุนแรงมากขึ้น

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท