ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 827

ตอนที่ 827

แต่กลับไม่มีใครตอบกลับคำถามของเขาเลย มีเพียงแต่ความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

น้าป่ายตวาดสายตามองไปยังเด็กสาว

“มานี่!” น้าป่ายเรียกตัวเด็กสาว

เด็กสาวก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ แต่แล้วเธอยังคงเงยหน้าขึ้นมองเฉินเฟิง ราวกับว่าเตรียมใจที่จะก้าวกลับไปหาน้าป่ายแล้ว

เฉินเฟิงจึงรีบก้มลงไปปลอบใจเธอทันที

“ไม่เป็นไรนะ เธอไม่ต้องกลัว ฉันจะปกป้องเธอเอง ยืนอยู่ข้างๆ ฉันก็พอแล้ว”

แต่เด็กสาวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

เธอปล่อยมือของเฉินเฟิงออกแล้วค่อยๆ เดินถอยหลังไปพร้อมกับมองหน้าของเฉินเฟิง

“เธอกำลังกลัวหล่อน แต่ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวไป”

เฉินเฟิงยังคงพูดโน้มแน้วเด็กสาว

แต่เด็กสาวกลับเดินถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว ราวกับว่านอกจากความหวาดกลัวแล้ว เธอยังมีเหตุผลอื่นที่ต้องทำแบบนี้

เฉินเฟิงยังคงไม่ลดละ แต่ว่าจะทำอย่างไรต่อไปหากดึงตัวเธอเอาไว้ได้

รอจนเด็กสาวเดินไปถึงข้างกายน้าป่าย น้าป่ายถึงค่อยพูดอีกครั้ง

“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องอะไรกับคุณ แต่ฉันหวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไป”

หลังพูดจบ เธอก็จูงมือเด็กสาวกลับไป

ชิงชิววิ่งตามไปพร้อมคำถาม “น้าป่าย ตอนนี้คุณชิงจือเป็นยังไงบ้าง ?”

ในตอนที่น้าป่ายหันมามองชิงชิว สีหน้าของเธอดูอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังคงมีกลิ่นอายของความเย็นชาเอาไว้

“บาดแผลของเธอดีขึ้นมากแล้ว แต่ฉันกักบริเวณให้เธอห้ามออกจากเขาเด็ดขาด ต่อให้คุณรออยู่ที่นี่ เธอก็ไม่กลับมาหรอกนะ คุณกลับไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องทำเถอะ แล้วฝากกลับไปทักทายอาจารย์ของคุณแทนฉันด้วย”

หลังจากพูดจบประโยค เธอก็ไม่ได้สนใจชิงชิวอีก ก่อนจะพาเด็กสาวเดินกลับไปยังทางเดิมที่เข้ามา

เด็กสาวหันหลังกลับมามองเฉินเฟิง เธอขมิบปากราวกับว่าต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เดินไปได้หลายก้าวเธอกลับไม่พูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่คนที่สิ้นหวังไม่ได้มีเพียงแค่เฉินเฟิงคนเดียว ชิงชิวเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

“เธอจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว คุณจะยังอยู่ที่นี่รออีกหรอ ?”

เฉินเฟิงจึงกล่าวถามหลังจากที่เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคน

“ไม่รู้สิ บางทีคงจะถึงเวลาที่ต้องกลับแล้ว ผมเคยให้สัญญากับอาจารย์ว่าจะกลับไปหาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของชิงชิวความรู้สึกโดดเดี๋ยวก็แผ่ซ่านขึ้นมาในหัวใจของเฉินเฟิง

การจากไปของชิงชิวเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เพราะหลังจากสามวันที่น้าป่ายเดินทางมาที่นี่ เขาก็เตรียมตัวที่จะเดินทางกลับทันที

ในตอนที่เขาเดินทางกลับนั้นของที่เขานำติดตัวกลับไปไม่มีสิ่งของอื่นใดเลยนอกจากดาบเล่มเดียว

และสุดท้ายที่นี่ก็เหลือเพียงแค่เฉินเฟิงคนเดียว ทำให้เฉินเฟิงครุ่นคิดอย่างหนักว่าเขาเองถึงเวลาที่ควรจะออกไปแล้วใช่หรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าด้านนอกนั้นยังมีคนที่รอคอยเขาอยู่หรือเปล่า

ในที่สุดเขาก็ใช้ชีวิตคนเดียวอยู่ที่นี่จนเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ กระทั่งชายร่างใหญ่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราคนนั้นเดินทางกลับมายังกระท่อมอีกครั้ง

ครั้งนี้เฉินเฟิงไม่ได้แสดงท่าทีเย็นชากับเขาอีกแล้ว ทั้งยังรินน้ำให้เขาถ้วยหนึ่งอีกด้วย ก่อนจะถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นข้างนอกกับเขา

“คุณรู้จักมหาปรมาจารย์จากสำนักเทียนซานหรือเปล่า ?” เฉินเฟิงถาม

ชายร่างใหญ่วางถ้วยเปล่าในมือลง

“อืม รู้จัก แต่ดูเหมือนว่าสำนักเทียนซานจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น เพราะนายน้อยทั้งสองคนของพวกเขาถูกสังหาร”

“แล้วสรุปว่าพวกเขาหาตัวคนร้ายได้หรือเปล่า?ใช่คนที่ถูกปล่อยข่าวลือนั้นหรือเปล่า?”

ครั้งก่อนที่ฉินเฟิงได้เจอกับเน่หวาเฟิง เขาได้เคยบอกแล้วว่าตัวเองไม่ได้ไปคนฆ่า แต่เขารู้สึกว่าไม่ว่ายังไงอีกฝ่ายคงจะมีการไตร่ตรองมาแล้วไม่น้อย

“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ก่อนที่ผมจะเดินทางขึ้นเขามาได้ยินคนซุบซิบกันว่าสำนักเทียนซานได้ฆ่าลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลใดพวกเขาถึงได้ขัดแย้งกันแบบนี้ ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ก็น่าสนใจอย่างมากจนทุกคนต่างให้ความสนใจ

และผมยังได้ยินมาอีกว่ากษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ไปขัดขวางเส้นทางความเจริญของสำนักเทียนซาน ดังนั้นสำนักเทียนซานจึงได้ทำการสั่งสอนกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แต่ก็มีคนบางคนเล่ากันว่าลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีส่วนเกี่ยวข้องในแผนการสังหารนายน้อยทั้งสองแห่งสำนักเทียนซาน จึงทำให้เขาได้รับการเอาคืนจากสำนักเทียนซานเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร อันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัด”

เฉินเฟิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก บางทีคงเป็นเพราะพวกเขาค้นพบความจริงแล้วถึงได้ชิงลงมือแบบนั้น ทว่าเขาไม่รู้เท่านั้นว่าทำไมลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือถึงต้องมาทำร้ายเขา และไม่รู้ด้วยว่าหลังจากที่เขาออกไปจากที่นี่แล้ว มหาปรมาจารย์คนนั้นยังจะมาตามไล่ล่าเขาอีกด้วยหรือเปล่า

เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยง เพราะความร้ายกาจของมหาปรมาจารย์คนนั้นยังฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเขาไม่หาย

ถึงจะเป็นแบบนั้นตอนนี้เขากลับรู้สึกสดชื่นขึ้นมา และยิ่งเมื่อมองดูชายร่างใหญ่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราแล้วเขาก็รู้สึกสดใสมากยิ่งขึ้นไปอีก

ทว่าเมื่อเทียบกับความสุขของเฉินเฟิงแล้ว ชายร่างใหญ่ที่ไม่ได้พบกับมหาปรมาจารย์คนนั้นที่เขามาตามหา อารมณ์ของเขานั้นสิ้นหวังเป็นอย่างมาก

เฉินเฟิงที่นึกถึงคำพูดของน้าป่ายที่ว่าชิงจือจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว จึงเตรียมที่เอ่ยปากบอกเรื่องนี้ให้กับเขา ให้คราวหน้าเขาไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในป่าลึกที่อยู่ไกลออกไปกลับปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาซึ่งดูคล้ายคลึงกับชิงจืออย่างมาก

เขาลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ หวังจะดูให้ชัดเจนกว่านี้ ส่วนชายร่างใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ก็เหลียวมองตามไปด้วยเช่นกัน ก่อนที่เขาจะถามด้วยความสงสัย

“คนๆ นั้นใช่มหาปรมาจารย์คนนั้นหรือเปล่า?”

รอจนชิงจือเดินเข้ามาใกล้ เฉินเฟิงถึงได้มั่นใจว่าเป็นเธอจริงๆ

เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าชิงจือจะกลับมา แต่ว่าชิงชิวกลับไปแล้ว น่าเสียดายที่เขาพรากไปนิดเดียว

“เขาคนนี้คือใครกัน?”

ชิงจือที่เดินมาตรงหน้าของทั้งสอง เธอไม่ได้มีความประหลาดใจเลยที่เฉินเฟิงมาอยู่ที่นี่เลยแม้แต่น้อย แล้วจ้องมองไปยังทางชายร่างใหญ่

เฉินเฟิงนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาไม่เคยถามชายร่างใหญ่เรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน เพราะเอาแต่คิดว่าเขามาที่นี่เพราะต้องการเรียนวิชาต่อสู้

“ทำไมคุณถึงมาตามหาเธอ?”

เฉินเฟิงหันไปถามชายร่างใหญ่

ชายร่างใหญ่ราวกับว่ากำลังตื่นเต้น เขารีบหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะรื้อค้นบางอย่างที่อยู่ด้านในอย่างไม่หยุดหย่อน

หลังจากที่รื้อค้นอยู่นานสุดท้ายเขาก็นำของบางอย่างที่เหมือนกับตุ๊กตาออกมา

“คุณยังจำตุ๊กตาตัวนี้ได้หรือเปล่า?” เขามองไปยังชิงจืออย่างคาดหวัง

แต่คำตอบสุดท้ายกลับทำให้เขาผิดหวัง ชิงจือส่ายหน้าแล้วกล่าวปฏิเสธ

“จำไม่ได้แล้ว ของชิ้นนี้มีความเกี่ยวข้องกับฉันหรอ ?”

“เมื่อสามปีก่อนที่ทะเลทรายตะวันตกเฉียงเหนือ เรื่องที่คุณเคยบอกกับเด็กสาวคนหนึ่ง คุณจำไม่ได้จริงๆ หรอครับ ?”

ชิงจือยังคงส่ายหน้า

“เมื่อสามปีก่อน ฉันเดินทางไปที่ทะเลทรายตะวันตกเฉียงเหนือจริง แต่เรื่องเด็กสาวที่คุณพูดถึงนั้น ……”

ชายร่างใหญ่ต้องผิดหวังอีกครั้ง เขาปล่อยตุ๊กตาที่อยู่ในมือลง พร้อมกับถอนหายใจ

“ถ้าหากคุณลืมไปแล้ว ก็ช่างมันเถอะ เดิมทีมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรอยู่แล้ว”

ชิงจือถามด้วยความรู้สึกสงสัย

“ฉันเพียงแค่ยังนึกไม่ออก คุณสามารถเล่าให้ฉันฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บางทีฉันอาจจะจำขึ้นมาก็ได้”

ชายร่างใหญ่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับเธอฟังโดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้ว

แต่ทว่าเรื่องราวที่เขาเล่านั้นดูเรียบง่ายจนเกินไป ทั้งยังไม่มีจุดสำคัญของเรื่องที่ทำให้รู้สึกนึกถึงได้เลย จึงไม่น่าแปลกใจที่ชิงจือจะลืมไปได้อย่างง่ายดาย

เพราะจากคำบอกเล่ามีเพียงแค่ว่าชิงจือได้เผอิญเจอกับเด็กสาวและทั้งสองได้อยู่ด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งวัน ซึ่งอาจเป็นเพราะชิงจือได้ให้คำมั่นสัญญาไปโดยไม่ได้คิดจริงจัง ว่าหากเด็กสาวตามหาเธอเจออีกครั้ง เธอจะให้สิ่งที่เด็กน้อยต้องการหนึ่งอย่าง

และด้วยความที่เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก ชิงจือจึงไม่เคยคิดว่าเด็กสาวจะมาตามหาเธอ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าชายร่างใหญ่คนนี้จะมาตามหาเธอจริงๆ

จนกระทั่งชายร่างใหญ่เล่าจบ ชิงจือจึงกล่าวถามทันที

“แล้วที่คุณมาหาฉัน เพราะว่าต้องการให้ฉันช่วยอะไรงั้นหรอ ?”

ชายร่างใหญ่ที่ได้ยินชิงจือถามเขาแบบนี้ เขากลับไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก คงเป็นเพราะสิ่งที่เขาต้องการเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวออกมาได้

“คุณเดินทางมาไกลขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะว่าคำขอนั้นหรอกหรือ ในเมื่อเป็นสิ่งที่ฉันให้คำมั่นไว้ แน่นอนว่าฉันต้องรักษาสัญญา คุณไม่ต้องรู้สึกว่ามันเป็นภาระอะไรทั้งสิ้น”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท