ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 842

ตอนที่ 842

ชิงจือที่พอได้ฟังก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ มากมาย

“แล้วคุณจะเตรียมรับมือยังไงต่อ?” ชิงจือถาม

ถึงแม้คำถามของชิงจือจะฟังดูเรียบง่าย แต่เฉินเฟิงเข้าใจดีว่าเธออยากจะรู้ว่าเขาจะรับมือกับเขาคนนั้นอย่างไร

เฉินเฟิงจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม: “เก็บตัวก่อนชั่วคราว เพราะยังไงซะที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของผม อีกอย่างเขาไม่ได้บรรลุแผนการด้วย ดังนั้นผมจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาเสียเวลากับที่นี่”

ชิงจือที่ได้ยินแบบนั้นได้เพียงพยักหน้าโดยไม่แสดงความเห็นใดทั้งสิ้น

ทั้งสองเดินออกมาจากประตู กำลังจะออกจากวิลล่าไป ทว่ากลับมีคนไล่ตามหลังพวกเขามา

และนั่นก็คือเด็กสาวที่ชื่อเยว่เอ๋อที่เพิ่งบุกเข้าไปในห้องเมื่อสักครู่นี้

เฉินเฟิงหยุดก้าวเท้าด้วยความสงสัยพลันหันไปมองเธอ

และเป็นอย่างที่คิดเธอวิ่งไล่ตามเฉินเฟิงพวกเขาสองคนมา

“พวกคุณเป็นแขกของคุณปู่ ตอนนี้จะกลับกันแล้วหรอคะ ?”

เฉินเฟิงพยักหน้าด้วยความสุภาพ

“พวกคุณช่วยอะไรหนูหน่อยได้หรือเปล่าคะ?” ถึงเยว่เอ๋อจะพูดไปแบบนี้ แต่การร้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าก็ทำให้เยว่เอ๋อรู้สึกเกรงใจไม่น้อย

เฉินเฟิงมองเยว่เอ๋อ ก่อนจะหันไปมองชิงจือ หวังจะถามความเห็นจากเธอ แต่ว่าชิงจือยังคงเอาแต่ทำหน้าเฉยชาอยู่อย่างนั้นมองมายังเฉินเฟิง

เฉินเฟิงจึงต้องคุยกับเยว่เอ๋อด้วยตัวเอง: “พวกเราไม่สามารถยืนยันได้หรอกนะว่าจะช่วยเธอได้ แต่เธอสามารถบอกกับพวกเราได้ ถ้าหากว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไร พวกเราจะช่วยแน่นอน”

ถึงแม้จะไม่ได้คำตอบที่แน่นอน แต่ใบหน้าของเยว่เอ๋อกลับมีรอยยิ้มผุดขึ้นมา

จากนั้นเธอจึงพาพวกเขาสองคนกลับเข้าไปในวิลล่า ทว่าไม่ได้กลับไปยังห้องโถงที่พวกเขาอยู่เมื่อสักครู่นี้ แต่เป็นห้องนอนห้องหนึ่ง

เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปด้านในก็มีกลิ่นหอมสดชื่นตลบอบอวลอยู่ในห้อง ซึ่งกลิ่นนั้นเป็นกลิ่นหอมของหญิงสาว และที่นี่คงจะเป็นห้องของเด็กสาวแน่นอน

เฉินเฟิงไม่คิดว่าเด็กสาวจะพาพวกเขาสองคนมาที่นี่ ดังนั้นหลังจากที่ได้รู้เขาจึงไม่กล้าตวาดสายตาไปรอบๆ เพียงนั่งลงไปยังที่ที่เด็กสาวชี้ให้พวกเขานั่งเท่านั้น

ซึ่งหลังจากที่เฉินเฟิงนั่งลงไปถึงเพิ่งเห็นว่าภายในห้องมีแค่เก้าอี้ตัวเดียวเท่านั้น เขาอยากจะลุกขึ้นให้ชิงจือนั่ง ทว่าชิงจือกลับยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีที่ไม่อยากจะนั่ง

เฉินเฟิงจึงได้แต่ยอมรับแล้วนั่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะหันสายตาไปยังเยว่เอ๋อที่นั่งอยู่บนเตียงพร้อมคำถาม

“เอาล่ะ เธอเรียกพวกเราเพราะเรื่องอะไร?”

เยว่เอ๋อที่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้เตรียมตัว จึงทำให้เธอมีความลังเลก่อนจะพูดออกมา ทางด้านเฉินเฟิงที่ไม่ได้รีบร้อนจึงรอฟังอยู่อย่างนั้น

บนโต๊ะหนังสือที่อยู่ข้างกายของเฉินเฟิงมีหนังสือนิยายหลายเล่มวางอยู่ ซึ่งล้วนเป็นพวกวรรณกรรมคลาสสิคของยุโรปและอเมริกา พร้อมกับด้านข้างของมันมีสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่มีปากกาแนบเอาไว้ ซึ่งคงจะใช้จดบันทึกเวลาที่เด็กสาวอ่านหนังสือ

และเฉินเฟิงพอจะคาดเดาได้เลยว่าเด็กสาวน่าจะชื่นชอบในพวกศิลปะและวรรณกรรม

ซึ่งในตอนนั้นเองที่เยว่เอ๋อเอ่ยปากพูดขึ้นมา: “ที่จริงแล้วเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับคุณปู่ด้วย แต่ว่าหนูไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี”

“เธอควรจะบอกให้ละเอียดกว่านี้หน่อย ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือเธอยังไง” เฉินเฟิงบอก

เยว่เอ๋อที่ได้ยินแบบนั้นจึงตัดสินใจพูดออกมา: “หนูพบว่าคุณปู่กำลังทำเรื่องที่ไม่ดี แต่ว่าหนูไม่กล้าที่จะไปคุยกับเขา กลัวว่าจะถูกด่าแล้วเขาจะไม่ต้องการหนูอีก”

เฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวจะไม่รู้เรื่องที่ชายชรานั้นทำ หรือว่าเด็กสาวกำลังหลอกพวกเขาอยู่เหมือนกัน

ด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย เฉินเฟิงจึงพยายามสังเกตท่าทีของเด็กสาวอย่างระมัดระวัง

ในขณะที่เธอพูดออกมา สีหน้าของเธอดูเหมือนกำลังลังเล ราวกับว่ารู้สึกอับอายที่กำลังทรยศ

“แล้วทำไมเธอถึงได้พูดเรื่องแบบนี้ออกมา?” เฉินเฟิงคิดอยู่ในใจ

แต่แล้วเยว่เอ๋อก็อธิบายถถึงเรื่องที่คาใจของเขา

“หนูไม่รู้ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือเปล่า แต่หนูรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกคุณมาคุยธุระกับคุณปู่ ดังนั้นเรื่องบางอย่างพวกคุณอย่าเชื่อจะดีกว่า”

เฉินเฟิงได้เพียงมองเด็กสาวอย่างใจเย็น เขาเข้าใจความหมายของเด็กสาว แต่กลับไม่รู้จะพูดให้ชัดเจนยังไง ทั้งยังไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือเธอยังไงอีกด้วย

“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของเธอ พวกเรารู้ว่าควรจะทำยังไง แต่เรื่องบางเรื่องสำหรับเธอแล้ว อืม ถ้าหากว่าไม่มีทางเลือกจริง อย่างนั้นการหนีก็ถือว่าเป็นวิธีการอย่างหนึ่ง ออกไปจากที่นี่ก็พอแล้ว”

ดูจากท่าทางแล้วเธอคงจะเป็นคนมีนิสัยค่อนข้างสงบเสงี่ยม ถึงแม้จะดูสดใสซุกซน แต่กลับไม่กล้าดิ้นรนทำเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อมาอยู่ในสถานการณ์ต้องเลือกแบบนี้ คนที่ทุกข์ใจจึงกลายเป็นตัวเธอเอง

ทันทีที่เฉินเฟิงพูดจบ เยว่เอ๋อก็เข้าใจความหมายของเขาทันที

ตอนนี้เหมือนเธอกำลังตัดสินใจด้วยความลังเล ทว่าเฉินเฟิงกลับลุกขึ้นยืน ในเมื่อรู้ถึงความต้องการของเด็กสาวแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป

ซึ่งในตอนที่พวกเขากำลังจะออกไป เยว่เอ๋อก็พูดขึ้นมา

“คุณพอจะช่วยหนูได้หรือเปล่า?”

เฉินเฟิงชะงัก พลางหันกลับไปมองเยว่เอ๋อ

“เธอคิดจะทำอะไร?” เขาถาม

เยว่เอ๋อขมุบขมิบปาก ดูเหมือนว่าเธอได้ทำการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ไปแล้ว: “พาหนูออกไปจากที่นี่ได้หรือเปล่าคะ?”

เฉินเฟิงที่ได้ยินอย่างนั้นถึงกับปวดหัวขึ้นมา เขาไม่คิดเลยว่าเด็กสาวที่เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรกจะใจใหญ่ใจโตหนีออกไปจากที่นี่พร้อมกับคนแปลกหน้าสองคน

“เธอไม่กลัวว่าพวกเราจะเป็นคนไม่ดีหรอ?” เฉินเฟิงถามอีกครั้ง

แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าคำตอบของเด็กสาวจะไร้เดียงสาขนาดนี้

“หนูเชื่อว่าพวกคุณไม่ใช่คนเลวร้ายแน่นอน อีกอย่างพี่สาวก็สวยขนาดนี้ด้วย เธอจะต้องเป็นคนใจดีที่สุดในโลกแน่นอนค่ะ”

เฉินเฟิงถึงกับต้องเหลียวมองไปยังชิงจือ ความสวยของชิงจือนั้นเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้อื่นหลงใหล แต่เสียอยู่อย่างเดียวคือสีหน้าเย็นชาที่คอยต่อต้านคนอื่นของเธอ แต่ว่าเด็กสาวที่ไร้เดียงสาคนนี้กลับเชื่อมั่นในตัวชิงจือเสียอย่างนั้น

ถึงอย่างนั้นเฉินเฟิงยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ: “พวกเราพาเธอไปไม่ได้หรอกนะ ที่ที่พวกเราจะไปนั้นอันตรายมาก”

เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินเฟิง เยว่เอ๋อถึงกับหดหู่ทันทีก่อนจะทรุดตัวลงไป

แต่คิดไม่ถึงว่าชิงจือจะเอ่ยปากขึ้นมา : “ฉันตกลง”

เฉินเฟิงหันไปมองชิงจือด้วยความไม่อยากเชื่อ: “คุณตอบตกลง?เพราะอะไร การพาเด็กคนนี้ไปด้วยจะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิมนะ”

ชิงจือไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น ส่วนเยว่เอ๋อที่ทรุดตัวลงนอนไปบนเตียงเมื่อสักครู่นี้ก็เด้งตัวขึ้นมาด้วยความดีใจ เธอกำลังจะเข้าไปกอดพวกเขาสองคน ทว่าสังเกตได้ว่าเฉินเฟิงนั้นเป็นผู้ชาย ส่วนชิงจือก็เอาแต่ทำหน้าเย็นชา ดังนั้นเธอจึงได้แต่ยอมแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ในเมื่อชิงจือได้ตอบตกลงไปแล้ว เฉินเฟิงจึงไม่สามารถขัดอะไรได้ แต่การจะพาตัวหลานสาวของคนอื่นออกจากบ้านไปแบบนี้ เขารู้สึกว่ามันจะเป็นความคิดที่แปลกประหลาดไปหน่อย

“ต่อให้หล่อนจะตอบตกลงไปแล้ว แต่การพาเธอออกไปก็ยังยุ่งยากอยู่ดี คนในครอบครัวของเธอไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน”

แต่เยว่เอ๋อกลับตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นเลย : “คุณวางใจได้เลยค่ะ เรื่องนั้นหนูจัดเตรียมไว้หมดแล้ว”

พูดไป เธอก็เดินเข้าไปหยิบกระเป๋าเป้ตุงๆ ใบหนึ่งในตู้ออกมา ก่อนจะสะพายไว้ข้างหลัง: “พวกคุณตามมา”

ดูท่าแล้วเธอน่าจะเตรียมการไว้ตั้งนานแล้ว และเฉินเฟิงพวกเขาสองคนก็เป็นแค่หนึ่งในตัวเลือกของเธอเท่านั้น ถ้าหากไม่ใช่พวกเขาสองคน ก็อาจจะเป็นคนอื่นที่เธอจะไปด้วย

จากนั้นเฉินเฟิงก็หันไปมองชิงจืออีกครั้ง เพราะว่านี่เป็นการตัดสินใจของเธอ

แต่ชิงจือกลับเดินตามหลังเยว่เอ๋อไปจริงๆ เพื่อเตรียมตัวออกไปจากที่นี่

เฉินเฟิงขับรถออกมาจอดข้างทาง รอให้พวกเธอสองคนตามมา

หลังจากที่เยว่เอ๋อวางแผนจะออกไปจากที่นี่ เธอได้บอกสถานที่นัดพบกับเขา ให้เขาไปรอพวกเธออยู่ที่นั่น

พอผ่านไปไม่นานในป่าก็ปรากฏเงาของคนสองคนขึ้นมา ซึ่งก็คือเยว่เอ๋อกับชิงจือนั่นเอง เยว่เอ๋อสะพายกระเป๋าแล้ววิ่งมาอย่างสบายๆ โดยมีชิงจือเดินตามหลังมา ดูแล้วเหมือนกับสองแม่ลูกที่กำลังวิ่งเล่นกันซะอย่างนั้น

รอจนกระทั่งพวกเธอเดินมาถึงรถของเฉินเฟิง การหลบหนีครั้งนี้ราวกับได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ทว่าทันใดนั้นก็มีชายหลายคนปรากฏตัวออกมา และนั่นทำให้เฉินเฟิงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท