ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 873

ตอนที่ 873

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

ภายในห้องใต้ดินที่มืดมิด บริเวณรอบๆไม่มีแสงสว่างอะไรเลย อากาศภายในคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นอับที่ไม่ได้เห็นแสงตะวันมานับแรมปี

หนูตัวหนึ่งกำลังขบเคี้ยวอะไรอยู่ ทันใดนั้นประตูไม้ที่ขัดสีกันเกิดเสียงดังแสบแก้วหูขึ้น ทำให้มันตกใจวิ่งหนีไป

หลังจากที่ประตูไม้เปิดออกแล้ว มีคนเปิดสวิตซ์ไฟตรงมุมผนังห้อง หลอดไฟทังสเตนที่แสงไฟสลัวดวงหนึ่งแขวนอยู่ตรงกลางห้องใต้ดิน แค่ต้องการให้คนสามารถมองเห็นได้เท่านั้น เพียงแต่เห็นไม่ชัดเจน

เฉินเฟิงถูกมัดไว้ นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มีเพียงตัวเดียวภายในห้องใต้ดินนี้ บนศีรษะก็คือหลอดไฟที่เพิ่งเปิดสว่างไว้ ศีรษะของเขาก็ยังห้อยตกลงมา ดูเหมือนยังกำลังสลบอยู่

คนที่เข้ามานั้นใส่เสื้อคลุมทั้งตัว ปิดบังร่างกายทุกส่วนไว้ จึงดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง จะอ้วนหรือผอม

เขาเดินมาถึงตรงหน้าเฉินเฟิง แล้วเอาอะไรบางอย่างใส่ไว้ตรงจมูกของเฉินเฟิง ผ่านไปสักพัก เฉินเฟิงก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา แต่ว่าศีรษะรู้สึกจะปวดร้าวอย่างรุนแรง

เมื่อรอให้เฉินเฟิงฟื้นขึ้นมาแล้ว คนที่ใส่เสื้อคลุมคนนั้นก็ถอยห่างออกไปหลายก้าว เพื่อรักษาระยะห่างกับเฉินเฟิงไว้

เฉินเฟิงลืมตาขึ้นมา รู้สึกว่าตัวเองถูกมัดไว้ ก็นับว่ายังสามารถควบคุมสติอารมณ์ไว้ได้ดี ดิ้นรนไปสักพักหนึ่ง รู้ว่าไม่มีทางที่จะดิ้นหลุดได้ จึงเลิกล้มความตั้งใจ

จากนั้นก็หันไปมองรอบๆด้าน เขาก็ย่อมได้เห็นไอ้คนลึกลับคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ว่าสายตาก็ไม่ได้หยุดอยู่ตรงนั้น กวาดสายตาไปบริเวณรอบๆต่อไปอีก พบว่าบริเวณแวดล้อมที่ตัวเองอยู่นั้น เป็นที่โล่งว่างเปล่าปิดมิดชิดไว้ สุดท้ายแล้วสายตาก็หยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายหนึ่ง

ไอ้หมอนั่นพอเห็นเฉินเฟิงสงบนิ่งแล้ว จึงปริปากพูดว่า “สวัสดี”

เขาทักทายด้วยเสียงแผ่วเบา จงใจพยายามกดเสียงให้ต่ำลง เพื่อจะได้แยกแยะไม่ออกว่าเขาเป็นเพศอะไร

เฉินเฟิงพูดว่า “ฉันไม่ดีด้วย เพียงแต่ไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แล้วชายหญิงคู่นั้นล่ะ?”

เฉินเฟิงไม่ได้รู้สึกตกใจกลัวเพราะว่าตัวเองถูกจับขังไว้ที่นี่ เพราะว่าเขารู้ดีว่าถึงแม้ตัวเองจะตกใจกลัวก็ไม่มีประโยชน์อะไร

คนนั้นพูดว่า “พวกเขาขายแกให้กับฉันแล้ว ในราคาที่ถูกมากเลย ส่วนตอนนี้แกก็เป็นของฉันแล้ว แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะฆ่าแก ฉันอยากให้แกมีชีวิตอยู่ มีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ”

เฉินเฟิงไม่มีทางที่จะเข้าใจความหมายของเขา อย่างน้อยก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจว่าทำไมถึงถูกขายเช่นนี้ได้

เขาพูดว่า “ในเมื่อแกไม่อยากฆ่าฉัน งั้นก็จะต้องมีเป้าหมายอื่นอย่างแน่นอน เงินหรือ? ยังมีอะไรอีกล่ะ?”

เฉินเฟิงพยายามมองดูส่วนที่โผล่ออกมาให้เห็นของฝ่ายนั้น แต่ว่าด้วยแสงไฟส่องลงมาถึงแค่ตรงด้านหน้าตัวเขาเท่านั้น ส่วนคนนั้นก็ยืนอยู่ตำแหน่งตรงนั้นพอดี ทำให้เฉินเฟิงไม่สามารถที่จะเห็นหน้าเขาได้ชัดเจน

“เงินเหรอ? ฉันรู้ว่าแกมีเงินเยอะ แต่ฉันไม่ต้องการ”

เฉินเฟิงก็มองหน้าเขาอีกที แล้วพูดว่า “ถ้าไม่ใช่เรื่องเงิน งั้นสำหรับแกแล้วฉันก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”

“ไม่หรอก แกยังมีประโยชน์อีกเยอะ สิ่งที่แกรู้มา ความลับในร่างกายแก ยังมีคนที่ต้องการแกพวกนั้นอีก”

ในที่สุดเฉินเฟิงก็ถูกยั่วยุประสาทด้วยคำพูดนี้ เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้สงบลงได้อีกแล้ว จึงสอบถามไปว่า “แกเป็นใครกันแน่?”

คุณนั้นหัวเราะเยาะว่า “ฮาๆ แกตื่นเต้นล่ะสิ แกรู้แล้วว่าฉันรู้ความลับในร่างกายแก นี่เป็นความลับส่วนตัวของแกเอง แต่ว่าแกไม่เคยพูดกับคนอื่นเลย แต่ฉันกลับรู้เรื่องนี้ แกถามว่าฉันเป็นใคร ฉันก็เป็นเพียงคนที่คอยจับตาดูแกอยู่ตลอดเวลานะสิ”

เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำว่า “แกกำลังกลัวเหรอ?”

เฉินเฟิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาบ้างจริงๆแล้ว เขารู้ว่าความลับสุดยอดของตัวเองคืออะไร ก็อย่างที่เขาพูดมานั่นแหละ เขาไม่เคยพูดให้ใครฟังเลย

เฉินเฟิงก็ได้แต่จ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ไม่ได้ตอบคำถามของเขา

แต่เขาก็ไม่แยแส “แกเป็นคนที่บาปหนามากคนหนึ่ง คนเลวทรามชั่วช้าของผืนแผ่นดินนี้ กลิ่นเน่าเหม็นที่แผ่ซ่านออกจากตัวแกนั้น ก็เริ่มมีหนอนชอนไชเต็มไปหมดแล้ว แต่ว่าไม่มีใครเห็น ยิ่งไม่มีใครเลือกที่จะเตือนสติแก พวกเขาเพียงแต่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น พวกเขาก็บาปกรรมเหมือนกันทั้งนั้น”

ดูราวกับว่าเฉินเฟิงได้ทำเรื่องราวที่ชั่วช้าสามานย์อะไรไว้ เขากำลังพูดตอกย้ำซ้ำเติมเฉินเฟิง หนำซ้ำยังพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอีกด้วย

“ฉันทำผิดอะไรเหรอ……..”เฉินเฟิงถาม

“แกหุบปาก!”

ขณะที่เฉินเฟิงยังไม่ทันถามจบ เขาก็พูดตะคอกตัดตอนด้วยความโกรธแค้น

เฉินเฟิงก็เพียงแค่อยากจะถามว่าบาปกรรมของตัวเองที่พูดออกจากปากของเขามันคืออะไรกันแน่ แต่ว่าเขากลับไม่มีความอดทนที่ไปสนใจเรื่องพวกนี้เลย

“คนบาปหนา แกไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเรียกร้องความเป็นธรรมอะไรทั้งนั้น สิ่งที่กำลังรอแกอยู่ก็มีแต่ความทุกข์ทรมานเท่านั้น”

เฉินเฟิงก็ไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขาเชื่อว่าถึงแม้เขาจะพูดไป ฝ่ายนั้นก็ไม่น่าจะฟังเข้าหู เขาจึงได้แต่รอดูสถานการณ์เฉพาะหน้าไปทีละก้าวก็แล้วกัน

ส่วนตอนนี้ท่ามกลางความมืดมิดนั้น ประตูไม้ที่มองเห็นไม่ค่อยชัดก็มีเสียงเปิดประตูไม้ดังขึ้นอีกครั้ง เฉินเฟิงมองไปด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้ก็มีคนใส่เสื้อคลุมอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา

ความสูงของเขารู้สึกจะเตี้ยกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเฉินเฟิงเล็กน้อย หลังจากที่เข้ามาแล้วก็มองเฉินเฟิงเว็บเดียว ก็เดินไปยังคนที่อยู่ข้างหน้าเฉินเฟิงคนนั้น

แล้วกระซิบข้างหูของอีกฝ่ายหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

ประตูยังไม่ได้ปิด ดูเหมือนจะเผื่อไว้สำหรับคนที่อยู่ข้างในคนนี้

“รอไปเถอะ เวลาของแกใกล้เข้ามาถึงแล้ว”

พูดจบก็เดินออกไปจากห้อง ก่อนเดินออกไป เขาก็ได้ปิดไฟ จากนั้นก็ปิดประตูไม้นั้นไว้

ตอนนี้ที่นี่ก็กลับไปสู่ความมืดมิดอีกครั้งหนึ่ง อากาศภายในที่ยังคงมีกลิ่นเหมือนเดิม บางครั้งก็ได้ยินเสียงหนูวิ่งไปมาอยู่รอบๆ เฉินเฟิงกลับดูเหมือนว่ากำลังนอนหลับอยู่ เขาก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาอีกเลย

ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไร เสียงเปิดประตูไม้ก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

แต่ว่าคนนั้นที่เพิ่งเข้ามายังไม่ทันได้ตอบโต้ ดวงตารู้สึกมืดมิดไปหมด จากนั้นก็ล้มลงบนพื้นอย่างแรง

นั่นมันเป็นฝีมือของเฉินเฟิงที่ตีเขาจนสลบไป เมื่อเห็นอาหารที่ตกกระจายเต็มพื้น ก็รู้ว่าคนนี้เป็นเพียงคนส่งอาหารเท่านั้นเอง

เฉินเฟิงไม่มีเวลามากพอแล้ว ขณะที่ได้ยินเสียงประตูไม้ดังขึ้นนั้น เขาก็ใช้เคล็ดวิชาพลังสวนกลับ ทำให้ร่างกายส่วนที่อ่อนแอของตัวเองหายไปหมดในพริบตา เขาจึงสามารถที่จะแก้มัดออกมาได้

แต่ว่าเคล็ดวิชานี้สัมฤทธิผลเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เขาจำเป็นต้องใช้เวลาภายในครึ่งชั่วโมงนี้หนีออกจากที่นี่ให้ได้

เมื่อประตูไม้เปิดออก ข้างหน้าก็เป็นทางอุโมงค์ที่มืดมิดเส้นทางหนึ่ง ไม่สามารถเห็นแสงสว่างอะไรเลย ก็เหมือนกับเดินอยู่บนทางใต้ดิน

เฉินเฟิงก็ไม่คิดลังเลอะไรอีกแล้ว เดินตรงหน้าไปตามทางอุโมงค์ที่มืดมิด ระหว่างสองข้างทางของอุโมงค์ก็มีห้องแบบเดียวกับที่เฉินเฟิงอยู่ มีประตูไม้ที่เก่าแก่เหมือนกัน ดูเหมือนว่าพร้อมที่จะหักพังลงมาได้ตลอดเวลา

เฉินเฟิงเดินไปอย่างไม่หยุดยั้ง วิ่งพุ่งออกไปราวกับสายฟ้าแลบมุ่งสู่ปลายอุโมงค์อีกด้านหนึ่ง เคล็ดวิชาที่เขาใช้นั้นทำให้เขาไม่มีวิธีที่จะควบคุมความยั้งคิดใจได้เลย เสียงที่เกิดจากฝีเท้าที่หนักหน่วงภายในอุโมงค์นั้น กระทบกำแพงเกิดเสียงสะท้อนดังก้องกังวานขึ้นไม่หยุดหย่อน ในไม่ช้าก็มีคนพบเห็นร่องรอยของเขาแล้ว

ยังไปไม่ถึงปลายอุโมงค์เลย ก็มีคนมายืนรออยู่ตรงนั้นแล้ว

ในความมืดมิดมองเห็นเงาคนไม่ชัดเจน ก็เป็นลักษณะการใส่เสื้อคลุมเหมือนกัน แต่ว่าเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น คนที่ยืนอยู่ตรงปลายอุโมงค์นั้นลำคอของทั้งสองคนก็ถูกบิดหักไป แล้วล้มลงทันที

เฉินเฟิงไม่ได้หยุดลงเพราะว่าพวกเขา ก็ยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง เสียงดังที่เกิดขึ้น ทำให้มีคนมาดักอยู่ข้างหน้าจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าเฉินเฟิงดูราวกับเทพสังหาร ไม่ว่าผ่านไปตรงไหนก็ไม่มีใครสามารถต้านทานได้

แต่ว่าภายในพื้นที่ใต้ดินนี้ราวกับเป็นเขาวงกต สิ่งที่เหลือไว้อยู่ข้างหลังก็ล้วนแต่เป็นซากศพเท่านั้น แต่ข้างหน้าก็ยังไม่เห็นทางออกเลย

ทันใดนั้นก็มีเงาร่างคนหนึ่งมายืนขวางทางเดินของเฉินเฟิง เขาชกหมัดออกไปเพื่อบีบให้เฉินเฟิงถอยร่นออกไป

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท