สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1260 คนตกปลาได้ประโยชน์

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1260 คนตกปลาได้ประโยชน์

“อ๋องเก้าไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ” แม่ทัพชราชุยหัวเราะออกมาอย่างเสียงใส

“อ๋องเก้าเชื่อหรือไม่ว่าเมื่อจักรพรรดินีแห่งต้าโจวทำลายซีเหลียงสำเร็จ นางจะขัดขวางกองทัพหลักของต้าเยี่ยนไว้ที่อวิ๋นจิง จากนั้นให้กองทัพต้าโจวที่ตั้งค่ายประชิดอยู่ที่ชายแดนต้าเยี่ยนบุกโจมตีแคว้นต้าเยี่ยนไปจนถึงเมืองหลวงของต้าเยี่ยนทันที”

เซียวหรงเหยี่ยนวางจอกเหล้าในมือลง จากนั้นมองไปทางแม่ทัพชราชุยพลางกล่าวขึ้น

“ดังนั้นแม่ทัพชราชุยหมายความว่าศัตรูของต้าเยี่ยนไม่ใช่ซีเหลียงแต่เป็นต้าโจวอย่างนั้นหรือ”

“ใช่แล้ว!” แม่ทัพชราชุยพยักหน้า

“ตอนนี้ซีเหลียงยอมตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยนเพื่อความอยู่รอดแล้ว ตอนนี้พวกเราควรลงนามทำสัญญาลับกันก่อนที่ จากนั้นร่วมมือกันทำลายกองกำลังหลักของต้าโจวให้สิ้นก่อนที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะเสด็จมาถึง”

“เหตุใดแม่ทัพชราชุยจึงเลือกต้าเยี่ยนแทนที่จะเลือกต้าโจว หากเทียบกันแล้วตอนนี้ต้าโจวแข็งแกร่งกว่าต้าเยี่ยนนะ!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงนิ่ง

“ที่สำคัญหากซีเหลียงยอมจำนนต่อต้าโจว ด้วยใจที่เมตตาของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว นางต้องมอบเสบียงให้ซีเหลียงแน่นอน ทว่า ต้าเยี่ยนไม่มีเสบียงมากพอที่จะแบ่งให้ซีเหลียงหรอกนะ”

แม่ทัพชราชุยได้ยินเช่นนี้จึงยิ้มออกมาอย่างข่มขื่น

“อ๋องเก้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนี้จักรพรรดินีหลี่เทียนฟู่อีกองค์ของซีเหลียงอยู่ในกำมือของต้าโจว หากต้าโจวเพียงต้องการให้ซีเหลียงยอมเป็นรัฐบรรณาการพวกเขาสามารถให้หลี่เทียนฟู่ลงนามในหนังสือสัญญา จากนั้นประกาศต่อใต้หล้าได้ จากนั้นค่อยบุกโจมตีเพื่อยึดเมืองอวิ๋จิงไปอย่างชอบธรรม ทว่า ต้าโจวไม่ได้ทำเช่นนั้นแสดงว่าพวกเขาต้องการทำลายซีเหลียงให้ดับสูญ ซีเหลียงจะกล้าตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจวได้อย่างไรกัน!”

เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ตอบสิ่งใด หากให้หลี่เทียนฟู่ลงนามในสัญญาและประกาศให้ใต้หล้ารับรู้แล้วค่อยโจมตีซีเหลียง ต้าโจวจะทำสงครามครั้งนี้ได้อย่างยากลำบากกว่าเดิมหลายเท่านัก

ไป๋ชิงเหยียนใช้ประโยชน์จากการที่ชาวบ้านทุกคนล้วนรับรู้ว่าหลี่เทียนฟู่เป็นจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเช่นเดียวกัน ทว่า พวกเขาไม่แน่ใจว่าหลี่เทียนเจียวหรือหลี่เทียนฟู่กันแน่ที่เป็นจักรพรรดินีอย่างชอบธรรมดังนั้นต้าโจวจึงโจมตีเมืองต่างๆ ที่ผ่านมาได้อย่างง่ายดาย

หากหลี่เทียนฟู่ลงนามทำสัญญาเท่ากับเป็นการบอกใต้หล้าว่านางทรยศซีเหลียง แม่ทัพคุ้มกันเมืองซีเหลียงและชาวบ้านต้องต่อต้านนางอย่างถึงที่สุดแน่นอน

แม่ทัพชราชุยกำลังกล่าวเรื่องจริงปนเท็จเพื่อหลอกลวงเขาอย่างนั้นสินะ!

หากเขาไม่ได้รักอยู่กับไป๋ชิงเหยียน ตอนนี้เขาคงหลงเชื่อคารมของแม่ทัพชราชุยไปแล้ว!

เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้เปิดโปงจุดประสงค์ที่แท้จริงของแม่ทัพชราชุย เขาแสร้งทำเป็นพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับถ้อยคำของแม่ทัพชราชุย

“ในเมื่อแม่ทัพชราชุยต้องการทำสัญญาเป็นรัฐบรรณาการกับต้าเยี่ยนเช่นนั้น…คืนนี้จงเปิดประตูเมืองให้ต้าเยี่ยนเข้าไปในเมืองเถิด พวกเราจะได้ร่วมมือกันต่อต้านกองทัพต้าโจว!”

แม่ทัพชราชุยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอย่างพิจารณา

“มีปัญหาอันใดอย่างนั้นหรือ! แม่ทัพชราชุยกล่าวว่าต้องการให้ต้าเยี่ยนร่วมมือกับซีเหลียงต่อต้านต้าโจว ทว่า กลับไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปในเมืองอย่างนั้นหรือ แม่ทัพชราชุยต้องการใช้ต้าเยี่ยนเป็นเกราะกำบัง ให้ต้าเยี่ยนและต้าโจวพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย จากนั้นทำตัวเป็นคนตกปลาได้ประโยชน์[1]อย่างนั้นหรือ!”

แม่ทัพชราชุยขมวดคิ้วแน่น

“อ๋องเก้าอย่าเพิ่งโมโหไป เรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ข้าต้องกลับไปปรึกษากับจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงก่อน!”

“ได้…” เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า

“แม่ทัพชราชุยช่วยให้คำตอบข้าโดยเร็วที่สุดด้วย”

กล่าวจบเซียวหรงเหยี่ยนจึงลุกขึ้นยืน เขาก้มศีรษะให้แม่ทัพชราชุยเล็กน้อยแล้วก้าวขึ้นหลังม้า จากนั้นขี่ม้าจากไปพร้อมองครักษ์อย่างรวดเร็ว

แม่ทัพชราชุยนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมพักใหญ่ เขามองตามแผ่นหลังของเซียวหรงเหยี่ยนไปพลางตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง

“ท่านแม่ทัพ…” องครักษ์ข้างกายของแม่ทัพชราชุยเข้าไปช่วยประคองแม่ทัพชราชุยลุกขึ้น

ทว่า แม่ทัพชราชุยกลับส่ายหน้า เขาใช้สองมือจับโต๊ะเล็กตรงหน้าเพื่อลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง

“ท่านแม่ทัพชรา ท่านคิดว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเชื่อคำกล่าวเมื่อครู่ของท่านหรือไม่ขอรับ” บ่าวรับใช้ซึ่งถือเตาและกาเหล้าเงยหน้ามองแม่ทัพชราชุยพลางเอ่ยถาม

เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบจากแม่ทัพชราชุย บ่าวรับใช้จึงถามต่อ

“ท่านจะกลับไปโน้มน้าวให้ฝ่าบาทเปิดเมืองอวิ๋นจิงให้กองทัพต้าเยี่ยนเข้าไปในเมืองจริงๆ หรือขอรับ”

ชุยซานจงส่ายหน้า “อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้นี้คงรู้แล้วว่าข้าต้องการยุให้ต้าเยี่ยนและต้าโจวทำสงครามกันเอง ตอนนี้เขาคงเริ่มระแวงซีเหลียงมากกว่าเดิม! อ๋องเก้าผู้นี้คงเป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึก เขาคงยังเชื่อว่าต้าโจวมีคุณธรรม เขาคงเห็นแก่ความดีที่ต้าโจวเคยแบ่งผลประโยชน์ในสงครามให้ต้าเยี่ยนมากกว่ารอแก้ตัวกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวหลังจากนางเดินทางมาถึง จากนั้นร่วมมือกับต้าโจวต่อดังเดิม”

“เหตุใดจึงเป็นคนหัวรั้นเช่นนี้ขอรับ!” บ่าวรับใช้กล่าวด้วยความโมโห

“แม้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไม่ยอมร่วมมือกับพวกเราก็มิเป็นอันใด ทว่า หากพวกเขาไม่หวาดระแวงต้าโจว เกรงว่าใต้หล้าแห่งนี้ต้องตกเป็นของต้าโจวแน่นอน!”

แม่ทัพชราชุยซานจงเริ่มรู้สึกสังหรณ์วาสนาของแคว้นซีเหลียงคงหมดลงเพียงเท่านี้จริงๆ แล้ว

ใต้หล้าแห่งนี้ไม่ตกเป็นของต้าโจวก็คงตกเป็นของต้าเยี่ยน

ซีเหลียงในตอนนี้เป็นเพียงสัตว์ที่ถูกต้อนอยู่ใจกลางสองแคว้นเท่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี!

ทว่า แม่ทัพชราชุยซานจงคือคนซีเหลียง เขาเกิดมาในแผ่นดินของซีเหลียง ซีเหลียงคือบ้านเกิดและแคว้นของเขา! ถึงแม้จะรู้ว่าโชคและสถานการณ์ตอนนี้ไม่เข้าข้างซีเหลียง ทว่า เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือซีเหลียงให้ได้มากที่สุด เช่นนี้เขาจะได้ไม่รู้สึกผิด!

ข่าวเรื่องที่เซียวหรงเหยี่ยนพบกับแม่ทัพชราชุยซานจงถูกส่งไปยังค่ายทหารของต้าโจวอย่างรวดเร็ว

ไป๋ชิงฉียังคงมีสีหน้าปกติหลังได้ยินข่าว ทว่า ไป๋จิ่นเจาที่ออกตามหาไป๋จิ่นเซ่อทั้งวันแต่ก็ยังหาไม่พบกลับเดือดดาลขึ้นทันที นางกล่าวด้วยความโมโห

“คราวที่แล้วต้าเยี่ยนแทงข้างหลังพวกเราจนพี่ชายห้าถูกจับตัวไป เสี่ยวชีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คราวนี้พวกเขาคิดทรยศพวกเราอีกอย่างนั้นหรือ!”

“เจ้าอย่าเพิ่งโมโหไป อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนสั่งประหารคนที่ทรยศพวกเราในครั้งก่อนแล้ว”

ไป๋จิ่นซิ่วเอื้อมมือลูบศีรษะของไป๋จิ่นเจาอย่างปลอบโยน

“ครั้งนี้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไปพบแม่ทัพชราชุยซานจงด้วยตัวเอง ไม่น่ามีปัญหาแน่นอน”

“ในเมื่อไม่มีปัญหา เหตุใดเขาจึงไม่ส่งคนมารายงานพวกเราให้รู้บ้าง!”

ไป๋จิ่นเจายืดคอตรงด้วยความโมโห ดวงตาของนางแดงฉาน นางเป็นห่วงเสี่ยวชีจนพาลโกรธต้าเยี่ยนและอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไปด้วย

“เขายังมีหน้าไปนั่งดื่มเหล้ากับแม่ทัพชราชุยซานจงอีก เหตุใดเขาไม่ยกกองทัพต้าเยี่ยนตามเข้าไปในเมืองอวิ๋นจิงเพื่อต่อต้านพวกเรากับซีเหลียงเสียเลย!”

“แม่ทัพชราชุยซานจงคงอยากยุแยงให้พวกเราแตกคอกันเองจึงจงใจให้คนปล่อยข่าวให้พวกเรารับรู้เช่นนี้”

ไป๋ชิงฉีหันกลับไปมองน้องสาวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“พี่รู้ว่าเจ้าเป็นห่วงเสี่ยวชี ทว่า เจ้าห้ามแสดงอารมณ์เช่นนี้ต่อหน้าทหารคนอื่นเด็ดขาด อีกสองชั่วยามต้าเยี่ยนจะร่วมมือกับพวกเราบุกโจมตีอวิ๋นจิงเพื่อช่วยพี่ชายห้าของเจ้าออกมาแล้ว เพื่อพี่ชายห้าของเจ้าพวกเราห้ามทำพลาดเด็ดขาด!”

ไป๋จิ่นเจาได้ยินคำกล่าวจึงกำหมัดแน่น นางปาดน้ำตาทิ้งพลางพยักหน้า

“พี่ชายสามไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้ารู้ขอบเขตเจ้าค่ะ”

“ส่งข่าวไปให้แม่ทัพเสิ่นและเสี่ยวซื่อรู้แล้ พวกเขาส่งข่าวตอบกลับมาบ้างหรือไม่”

ไป๋ชิงฉีหันไปถามไป๋ชิงเจวี๋ย

ไป๋ชิงเจวี๋ยพยักหน้า “ตอบมาแล้วขอรับ เสี่ยวซื่อดักซุ่มโจมตีอยู่ที่ประตูทิศใต้ หากหลี่เทียนเจียวหนีออกจากเมืองทางประตูทิศใต้ตอนที่พวกเราบุกโจมตี นางจะจับตัวหลี่เทียนเจียวให้ได้ขอรับ แม่ทัพเสิ่นและแม่ทัพเซี่ยสวินอยู่ประตูทิศตะวันตก…”

[1]คนตกปลาได้ประโยชน์ เป็นมือที่สามที่ได้ประโยชน์หลังจากอีกสองฝ่ายทะเลาะกันเอง

ตอนที่ 1256 เป็นหน้าที่ของตัวเอง

ค่ายทหารต้าโจว

ไป๋จิ่นซิ่วที่ออกตามหาไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นเซ่อทั้งวันกลับมายังค่ายด้วยความหงุดหงิด

หญิงสาวนั่งลงฝั่งตรงข้ามไป๋ชิงฉี จากนั้นกล่าวด้วยเสียงเศร้า

“ชิงจู๋ยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่านางหาอาอวี๋กับจิ่นเซ่อพบหรือไม่”

ร่างของเซียวรั่วไห่ที่เปียกปอนไปทั้งร่างยืนหนาวสั่นอยู่หน้ากระโจมของไป๋ชิงฉี

เมื่อไป๋จิ่นเซ่อเห็นเซียวรั่วไห่จึงผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ตอนที่ไป๋ชิงอวี๋นำทัพไปหลอกล่อทหารซีเหลียงเซียวรั่วไห่ติดตามเขาไปด้วยเช่นกัน!

“เซียวรั่วไห่!” ไป๋จิ่นซิ่วแสดงสีหน้าดีใจ นางรีบสาวเท้าเข้าไปหาเซียวรั่วไห่

“อาอวี๋กับเสี่ยวชีล่ะ พวกเจ้ากลับมาด้วยกันใช่หรืออาอวี๋ให้เจ้ามาส่งข่าวให้พวกเรารู้ พวกเจ้าหายตัวไปอยู่ที่ใดนานถึงเพียงนี้กัน”

ไป๋จิ่นซิ่วถามรัวออกมาเป็นชุด ตอนนี้นางร้อนใจมากจริงๆ

ไป๋ชิงฉีหยิบเสื้อคลุมที่วางพาดอยู่ด้านข้างไปคลุมให้เซียวรั่วไห่ที่กำลังยืนตัวสั่นไม่หยุด เขาเดาได้ว่าเซียวรั่วไห่ออกมาส่งข่าวแทนไป๋ชิงอวี๋จึงกล่าวเสียงนิ่ง

“ไปเปลี่ยนชุดและมาดื่มชาร้อนไล่ไอหนาวก่อนเถิด”

เซียวรั่วไห่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ด้านหลังฉากกั้นและเดินออกมาด้านนอกอย่างรวดเร็ว ทว่า ยังไม่ทันคลายหนาวให้ร่างกายของตัวเองไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋จิ่นหวาและไป๋จิ่นเจาก็เดินเข้ามาในกระโจมเสียก่อน

เซียวรั่วไห่ทำความเคารพทุกคนจากนั้นนั่งลงหน้าเตาผิง เขาเล่าเรื่องที่เซียวหรงเหยี่ยนส่งเยว่สือไปห้ามไป๋ชิงอวี๋ เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองอวิ๋นจิงทั้งหมดและนัดแนะเวลาเปิดประตูเมืองอวิ๋นจิงให้คุณชายทั้งสองและคุณหนูทั้งสามของตระกูลไป๋ฟังอย่างละเอียด

พวกเขาจะจุดพลุส่งสัญญาณ เมื่อถึงเวลานั้นต้าเยี่ยนจะบุกโจมตีเมืองอวิ๋นจิงพร้อมกับต้าโจว

“ตอนข้าออกมาจากเมืองข้าพบกับองครักษ์ลับของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน องครักษ์ลับผู้นั้นรู้จักข้า เมื่อข้าเห็นป้ายคำสั่งของเขาจึงบอกแผนการของคุณชายห้าให้เขารับรู้อย่างละเอียดเพื่อให้เขากลับไปรายงานอ๋องเก้า องครักษ์ลับผู้นั้นบอกกับข้าว่าคนของเขาแฝงตัวเขาไปในวังหลวงสำเร็จแล้ว เขาจะกลับไปถามเจ้านายของตัวเองว่าจะชิงตัวคุณชายห้าออกมาเมื่อใดขอรับ” เซียวรั่วไห่กล่าว

“อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน…ส่งคนไปช่วยอาอวี๋อย่างนั้นหรือ”

นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของไป๋จิ่นซิ่ว

เซียวรั่วไห่พยักหน้า

“องครักษ์ลับผู้นั้นบอกว่าต้าเยี่ยนมีคนทรยศจึงทำให้คุณชายห้าจำต้องซ้อนแผนซีเหลียงโดยการเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ เป็นหน้าที่ของต้าเยี่ยนที่ต้องช่วยคุณชายห้าออกมาขอรับ!”

“ยังถือว่าต้าเยี่ยนมีความละอายใจอยู่บ้าง”

ไป๋จิ่นเจาคลายความโกรธลง ทว่า ยังรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ดี

“แล้วเสี่ยวชีล่ะ” ไป๋จิ่นเซ่อจ้องไปทางเซียวรั่วไห่อย่างรอคำตอบ

“เจ้ากล่าวมาตั้งนาน ทว่า ข้าไม่ได้ยินเจ้าเอ่ยถึงเสี่ยวชีเลย เสี่ยวชีอยู่ที่ใด”

เซียวรั่วไห่ตะลึง

“คุณหนูเจ็ดยังไม่ได้กลับมาหรือขอรับ คุณหนูเจ็ดกลับมากับเยว่สืออดีตองครักษ์ของนายท่านเขยแล้วไม่ใช่หรือขอรับ”

ไป๋ชิงฉีที่จ้องนิ่งไปยังเตาผิงกล่าวขึ้นช้าๆ

“ตอนที่องครักษ์เยว่สือพาเสี่ยวชีหนีกลับมาเขาถูกทหารซีเหลียงล้อมไว้ พอฝ่าวงล้อมออกมาได้ก็พบว่าเสี่ยวชีหายตัวไปจากหลังม้าแล้ว ข้าคิดมาโดยตลอดว่าเสี่ยวชีถูกซีเหลียงจับตัวไปในอวิ๋นจิง”

“คิดมาโดยตลอดหรือ!”

ไป๋ชิงเจวี๋ยมองไปทางพี่ชายสามของตัวเองด้วยความโมโห

“หากพี่ชายสามรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอาอวี๋เล่นซ้อนแผนซีเหลียงแล้วเหตุยังส่งจดหมายไปรายงานพี่หญิงใหญ่ที่เมืองหลวงอีกขอรับ พี่หญิงใหญ่กำลังตั้งครรภ์อยู่นะขอรับ!”

“ข้าเพิ่งได้รับข่าวจากอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนภายหลัง” ไป๋ชิงฉีกล่าวเสียงเบา “ทว่า อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนให้คนส่งจดหมายไปบอกพี่หญิงใหญ่แล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก สิ่งสำคัญในตอนนี้คือเสี่ยวชีอยู่ที่ใดกันแน่”

ไป๋จิ่นหวารินน้ำชาร้อนให้เซียวรั่วไห่ เซียวรั่วไห่เอื้อมมือที่สั่นเทาไปรับมาดื่มจนหมดถ้วย จากนั้นกล่าวขึ้น “คุณหนูเจ็ดไม่ได้อยู่ในอวิ๋นจิงแน่นอนขอรับ หากคุณหนูเจ็ดถูกจับเข้าไปในอวิ๋นจิง ไม่ว่านางจะเป็นหรือตายข้าไม่มีทางไม่รู้ขอรับ!”

“เช่นนั้นก็แสดงว่ายังอยู่นอกเมือง ข้าและพี่ชายสามพาคนไปยังสถานที่ที่อาอวี๋ถูกจับตัวไปก็ไม่พบร่างของเสี่ยวชี เสี่ยวชีน่าจะหลบหนีเอาตัวรอดไปแล้ว!”

ไป๋จิ่นซิ่วลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนใจ

“นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวชีจากบ้านมาไกลเช่นนี้ หากเสี่ยวชีหนีไปได้ นางต้องหาทางกลับค่ายทหารต้าโจวไม่ถูกแน่นอน!”

“ข้าจะออกไปตามหาเสี่ยวชี!” ไป๋จิ่นเจาลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ จากนั้นพุ่งตัวออกไปจากกระโจมทันที

ไป๋ชิงฉีไม่ได้ห้ามเพราะตอนนี้เขาก็ร้อนใจเช่นเดียวกัน

แม้ตอนนี้สัตว์ร้ายในป่าจะถูกคนซีเหลียงจับไปถลกหนังสัตว์เพื่อทำเสื้อขนสัตว์ให้กองทัพช้างของเทียนเฟิ่งตามแผนการของไป๋จิ่นถงหมดแล้ว ทว่า ตอนนี้คือเดือนสาม พวกงูและสัตว์มีพิษเริ่มออกจากฤดูจำศีลกันแล้ว หวังว่าเสี่ยวชีจะไม่ถูกงูพิษเหล่านั้นกัดเอานะ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือน้องสาวของเขาหายตัวไปตามลำพัง ไม่มีคนคอยปกป้องสักคน!

“เสี่ยวชีเป็นเด็กฉลาด ถึงแม้นางจะหาทางกลับมาไม่ถูก ทว่า นางต้องหาที่พักของชาวบ้านแถวนั้นพักอาศัยชั่วครามเพื่อรอให้พวกเราไปช่วยนางได้แน่…”

ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก

ตอนนี้ไป๋จิ่นเซ่อไม่รู้ว่าตัวเองมุ่งหน้าลงไปทางใต้ของเมืองอวิ๋นจิงนานเท่าใดแล้ว รอบกายของนางเต็มไปด้วยชาวบ้านเร่ร่อน นางถูกจับมัดจนขยับร่างไม่ได้ ได้แต่หลบอยู่ตรงมุมหนึ่งของวัดร้างด้วยความหวาดกลัว

วัดร้างเต็มไปด้วยชาวบ้านที่ลี้ภัยมาจากเมืองอวิ๋นจิง ทุกคนนอนล้อมวงกันอยู่รอบกองไฟที่ใกล้มอดดับในวัดร้าง

ไป๋จิ่นเซ่อพลัดตกลงจากหลังม้า เมื่อตกลงมานางจึงรีบหลบหนีทหารซีเหลียงเข้าไปในป่าลึก ไม่นานก็หมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นมาจึงพบว่าตัวเองถูกครอบครัวของคนซีเหลียงครอบครัวหนึ่งมัดร่างติดอยู่กับแผ่นไม้

ไป๋จิ่นเซ่ออยู่ในซีเหลียงมานานพอสมควรนางจึงพอกล่าวภาษาซีเหลียงได้บ้าง ทว่า กล่าวได้ไม่ค่อยดีนักดังนั้นนางจึงแกล้งฟังไม่ออกจะได้ไม่ต้องกล่าวไปเลย

นางจับใจความจากบทสนทนาของครอบครัวซีเหลียงครอบครัวนี้ได้ว่าพวกเขาลี้ภัยจากซุ่นหนิงมายังอวิ๋นจิง ชาวบ้านล้วนเป็นเช่นนี้ พวกเขามักอพยพหนีจากความอดอยากหรือโรคระบาดมายังเมืองหลวงเพราะพวกเขาคิดว่าเมืองหลวงจะทำให้พวกเขามีชีวิตรอด!

ทว่า พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าอวิ๋นจิงถูกกองทัพต้าโจวและต้าเยี่ยนล้อมไว้หมดแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจอ้อมลงไปทางใต้แทน

ชาวบ้านเร่ร่อนเหล่านี้ทานเสบียงของตัวเองจนหมดเกลี้ยงแล้ว ตอนนี้พวกเขากินแม้กระทั่งเปลือกไม้และใบหญ้าเพื่อประทังชีวิต

หลายวันมานี้พวกเขาให้ไป๋จิ่นเซ่อกินเพียงใบหญ้าหรือเปลือกไม้เพียงน้อยเท่านั้น แม้แต่น้ำก็ให้ดื่มเพียงนิดเดียวเพราะพวกเขาแทบไม่มีกินอยู่แล้ว ที่สำคัญพวกเขากลัวไป๋จิ่นเซ่อมีแรงหลบหนีไป

ที่พวกเขาพาตัวไป๋จิ่นเซ่อมาด้วยเพราะหากพวกเขาไม่มีสิ่งใดกินแล้วพวกเขาจะหันมากินไป๋จิ่นเซ่อแทน

ไป๋จิ่นเซ่อคือคุณหนูของตระกูลไป๋ นางเติบโตอยู่ในเมืองหลวงตั้งแต่เล็ก ถึงแม้จะเคยได้ยินเรื่องการกินเนื้อมนุษย์มาบ้าง ทว่า นางไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

นางรู้ดีว่าตอนนี้ต่อให้นางไม่ถูกจับมัดไว้นางก็หิวจนไม่มีแรงหลบหนีไปอยู่ดี

นางต้องกินให้อิ่มท้องก่อนถึงจะมีแรงหลบหนีไปได้ ทว่า ปลายเชือกที่เชื่อมต่อกับเชือกของนางอยู่ที่ชายซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวของซีเหลียง นางต้องการอาวุธมีคมในการตัดเชือกเส้นนี้ให้ขาด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน “แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?” “คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ” “ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?” “…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท