สามีข้าคือขุนนางใหญ่ – บทที่ 299 กรรมตามสนอง

บทที่ 299 กรรมตามสนอง

วัน​ต่อมา​ ​เมื่อ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​มาสำ​นัก​ฮั่น​หลิน​ก็​พบ​ว่า​สายตา​ของ​ทุกคน​ที่​มอง​มาที​่​เขา​นั้น​ประหลาด​นัก​ ​แม้ว่า​ปกติ​แล้ว​ ​พวกเขา​ก็​ไม่ได้​สนิท​ชิดเชื้อ​กับ​เขา​เสีย​เท่าไร​ ​แต่​ก็​ไม่​ใช้​สายตา​เหยียดหยาม​และ​มีเลศนัย​มอง​เขา​เช่นนี้

เหมือนว่า​พวกเขา​ไม่​อยาก​ให้​ค่า​กับ​การกระทำ​ของ​เขา​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​เชื่อ​ว่า​เขา​จะ​ทำ​เช่นนี้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​คือ​ ​มีสาย​ตา​ที่​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอง​ก็​ยาก​จะเข้า​ใจ​ได้​อีกด้วย

วันนี้​หนิง​จื้อ​หย่วน​ถูก​หยาง​ซื่อ​ตู๋​เรียก​ไป​เป็น​ผู้ช่วย​สอน​ที่​สถาบัน​ฮั่น​หลิน​ ​จึง​ไม่มีใคร​ไป​สืบเสาะ​ถึง​สาเหตุ​ของ​สายตา​เช่นนี้​ของ​คน​กลุ่ม​นี้​ให้​เซียว​ลิ่ว​หลัง

ทว่า​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ก็ได้​รู้​เอง​ในไม่ช้า​ ​เนื่องจาก​เขา​ถูก​หาน​เสวีย​ซื่อ​หรือ​บัณฑิต​หาน​แห่ง​ฮั่น​หลิน​เรียกตัว​ไป

หาน​เสวีย​ซื่อ​ซื่อ​เป็น​ขุนนาง​ระดับสูง​สุด​ใน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ ​ดูแล​ทุกอย่าง​ใน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ ​คน​ระดับ​เขา​โดยปกติ​แล้ว​จะ​ไม่​เรียกตัว​ขุนนาง​ระดับ​อย่าง​ซิวจ​้​วน​มา​เข้าพบ​โดยส่วนตัว

หาน​เสวีย​ซื่อ​ซื่อ​มองดู​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ ​แม้​จะ​พยายาม​ห้าม​ตนเอง​ไว้​ ​แต่​ก็​แอบ​กวาดสายตา​มอง​ไป​ที่​ไม้เท้า​ใน​มือ​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​อยู่ดี

จากนั้น​สายตา​ของ​เขา​ก็​ตกกระ​ทบ​ไป​ที่​บน​ใบหน้า​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง

ปฏิเสธ​ไม่ได้​เลย​จริงๆ​ ​ว่า​ใบหน้า​ของ​เขา​นี้​ละม้าย​คล้าย​กับ​ท่าน​โหว​น้อย​ผู้ล่วงลับ​จริงๆ

เมื่อ​เขา​ตั้งสติ​ได้​ก็​ถอนหายใจ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​คิ้ว​ที่​ขมวด​ไว้​แน่น​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​ข้า​เรียกตัว​เจ้า​มา​เพราะเหตุใด​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ตอบ​อย่าง​เรียบ​เฉย​ ​“​ข้า​น้อย​ไม่ทราบ​”

กิริยาท่าทาง​ไม่​แย่​เลย​ทีเดียว​ ​ไม่มี​กลิ่นอาย​ชาวบ้าน​ชนบท​แม้แต่น้อย

หาน​เสวีย​ซื่อ​ซื่อ​คิด​อยู่​สักครู่​ ​มอง​ไป​ทาง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​ขุนนาง​แห่ง​แคว้น​ถูก​ห้าม​ไป​หอนาง​โลม​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ ​“​ข้า​น้อย​ทราบ​”

หาน​เสวีย​ซื่อ​ซื่อ​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​จริงจัง​ ​“​รู้​แล้วยัง​จะ​ไป​อีก​หรือ​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ตอบ​ด้วย​สีหน้า​ปกติ​ ​“​ข้า​น้อย​ไม่เคย​ไป​หอนาง​โลม​”

หาน​เสวีย​ซื่อ​ซื่อ​จึง​เอ่ย​ ​“​เจ้า​ไม่ได้​ไป​ ​แล้ว​เหตุใด​จึง​รู้จัก​กับ​หญิง​หอนาง​โลม​ได้​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอ่ย​อยาก​ประหลาดใจ​ ​“​ข้า​น้อย​ไม่รู้​จัก​หญิง​หอนาง​โลม​”

หาน​เสวีย​ซื่อ​ซื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​เหมือน​คนที​่​กำลัง​โกหก​ ​เขา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​เจ้า​ไป​ได้​แล้ว​ ​ตั้งใจ​ทำงาน​ ​รักษา​ชื่อเสียง​ของ​ตน​ ​อย่า​ทำลาย​ตนเอง​ ​ทำ​เรื่อง​ไม่เหมาะสม​ร่วมกับ​ผู้อื่น​ ​ทำ​เรื่อง​เสียชื่อเสียง​สำนัก​ฮั่น​หลิน​”

ใน​แคว้น​ ​หอนาง​โลม​เป็น​สิ่ง​ถูกกฎหมาย​ ​แต่​ขุนนาง​ไปเที่ยว​หอนาง​โลม​อย่างไร​เสีย​ก็​ไม่​เหมาะ​ไม่​ควร​ ​คน​หน้าหนา​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ชื่อเสียง​อย่าง​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ ​ถูก​ฝ่า​บาท​ตำหนิ​อย่างไร​ก็​ไม่​สะทกสะท้าน​ก็​ย่อม​ไม่เป็นอะไร

แต่​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ยัง​รัก​หน้าตา​ของ​ตน​อยู่

เขา​คิด​ว่า​คน​อย่าง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ไม่น่า​มีเงินทอง​ไปเที่ยว​หอนาง​โลม​ได้​ ​สั่งสอน​ตักเตือน​เสร็จ​ก็​ให้​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ออก​ไป​ ​พร้อมกับ​เรียก​ซื่อ​เจี่ย​งอา​วุ​โส​ให้​สั่ง​ขุนนาง​ฮั่น​หลิน​ทุกคน​ว่า​ห้าม​กระจาย​ข่าวลือ​ออก​ไป

เมื่อ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ออกมา​ก็ได้​พบ​กับ​หนิง​จื้อ​หย่วน​ที่​กลับมา​จาก​สถาบัน​ฮั่น​หลิน

หนิง​จื้อ​หย่วน​ลาก​เขา​มายั​งด​้าน​หลัง​ของ​โถง​ทางเดิน​แล้ว​กระซิบ​ถาม​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​คน​ทั้ง​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า​เจ้า​ไป​หอนาง​โลม​!​ ​หาก​บอกว่า​เจ้า​ไป​ฆ่า​คน​ข้า​ยัง​พอ​เชื่อ​ ​ไป​หอนาง​โลม​ข้า​เชื่อ​ไม่​ลง​จริงๆ​!​”

หาก​จะ​ไป​คง​ไป​นาน​แล้ว​ ​เขา​ถึงขั้น​ยอม​ผิดใจ​เพื่อน​ขุนนาง​ด้วย​การกรอก​เหล้า​ตนเอง​จน​สภาพ​เมามาย​เพียง​เพราะ​ไม่​อยาก​ไป​หอนาง​โลม

เซียว​ลิ่ว​หลัง​พูด​อย่าง​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่เคย​ไป​”

“​ข้า​ย่อม​รู้​ว่า​เจ้า​ไม่เคย​ไป​!​ ​แต่​ช่วงนี้​เจ้า​ได้​ไปล่​วง​เกิน​ใคร​ไว้​หรือไม่​ ​ข้า​หมายถึง​…​คนอื่น​นอกเหนือ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​”​ ​หนิง​จื้อ​หย่วน​คิด​ว่า​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ไม่น่า​ใช้​วิธี​สกปรก​เช่นนี้​มา​ใส่ร้าย​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ได้

เขา​คิด​จะ​กดดัน​เซียว​ลิ่ว​หลัง​นั้น​ง่ายดาย​นัก​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำ​เรื่อง​ต่ำช้า​เช่นนี้

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ส่ายหน้า

คนที​่​ไม่ชอบหน้า​เขา​ใน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​มีมาก​มาย​นัก​ ​แต่​หาก​ถาม​ว่า​เขา​ไปล่​วง​เกิน​ใคร​ก่อน​ ​เขา​นึกไม่ออก​จริงๆ

หนิง​จื้อ​หย่วน​เอ่ย​อย่าง​ร้อนรน​ ​“​เจ้า​ลอง​คิดดู​ดี​ๆ​!​ ​หาก​ไม่​หา​ตัวปัญหา​นี้​ออกมา​ ​ภายภาคหน้า​ก็​ยัง​จะ​ใส่ร้าย​เจ้า​ลับหลัง​อีก​!​ ​หาน​เสวีย​ซื่อ​ซื่อ​เชื่อ​เจ้า​ได้​หนึ่ง​ครั้ง​ ​แต่​ก็​ไม่แน่​ว่า​จะ​เชื่อ​เจ้า​ไป​ทั้ง​สิบ​ครั้ง​ ​คำพูด​คน​น่ากลัว​ยิ่งนัก​!​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ลอง​ตั้งใจ​คิดดู​อีกที

เวลานี้​เอง​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​ออกมา​จาก​ห้องทำงาน​ของ​หยาง​ซิวจ​้​วน​แล้ว​เดิน​มายัง​โถง​ทางเดิน

หนิง​จื้อ​หย่วน​กลัว​ว่า​จะ​โดน​จับได้​ ​จึง​ทำท่า​ทาง​เป็น​สัญญา​ให้​กับ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ ​แล้ว​หายตัว​ไป​ใน​พริบตา​!

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ชิน​แล้ว​ ​เดิน​มาทาง​โถง​ทางเดิน​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​และ​ปะทะ​หน้า​กัน​กับ​เฉิน​เปียน​ซิว​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้

เมื่อ​เฉิน​เปียน​ซิว​เห็น​เขา​ ​ก็​รีบ​หลบสายตา​ทันใด​!

หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​คง​ไม่​สังเกตเห็น​สายตา​ของ​คน​ไม่สำคัญ​เช่นนี้​ ​แต่​วันนี้​เขา​กลับ​สังเกตเห็น​โดย​ไม่ได้ตั้งใจ

“​เฉิน​เปียน​ซิว​”​ ​ฝีเท้า​ของ​เขา​หยุดชะงัก

ตำแหน่ง​ขุนนาง​ของ​เฉิน​เปียน​ซิว​ต่ำกว่า​เขา​ครึ่ง​ขั้น​ ​แต่​เป็น​ขุนนาง​ก่อน​เขา​ ​เป็น​เสมียน​ชั่วคราว​หรือ​ซู่​จี๋​ซื่อ​ของ​เอิน​เคอ​ใน​ปี​อี่​โฉ่ว​ ​สอบ​เข้า​สำนัก​ฮั่น​หลิน​จาก​ตอน​ครบกำหนด​เวลา​งาน​เมื่อ​สาม​ปีก่อน​ ​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​หก​ระดับ​ล่าง​ตำแหน่ง​เปียน​ซิว

การ​เลื่อนขั้น​เลื่อนตำแหน่ง​ของ​ซู่​จี๋​ซื่อ​ช้า​กว่า​เหล่า​อันดับ​หนึ่ง​แต่ละ​พื้นที่​ ​สอง​ปี​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​เขา​ก็​ยังคง​เป็น​เปียน​ซิว​ขุนนาง​ระดับ​หก​ชั้น​โท​ของ​สำนัก​ฮั่น​หลิน

ก็​ใช่​ว่า​ระดับ​ขั้น​ของ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​เปียน​ซิว​ต่ำต้อย​หรือ​อย่างไร

หาก​มิใช่​จิ้น​ซื่อ​ก็​เข้า​สำนัก​ฮั่น​หลิน​มิได้​ ​หาก​มิใช่​ฮั่น​หลิน​ก็​เข้าร่วม​เป็น​คณะ​ขุนนาง​ที่​ประจำ​สำนักงาน​ใน​วัง​มิได้​ ​ขุนนาง​ที่​เคย​ผ่าน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​มาก​่อน​แม้​จะ​ไม่ได้​เข้า​ประจำ​สำนักงาน​ภายใน​วัง​ ​ไป​ประจำ​หน่วยงาน​อื่นๆ​ ​ก็​จะ​ได้รับการยกย่อง​เป็นอย่างมาก​เช่นกัน

เพียงแต่​เมื่อมี​การเปรียบ​เทียบ​ ​มัน​ก็​น่า​โมโห​ยิ่งนัก

อดทน​พยายาม​มา​ห้า​ปีก​็​ยัง​ไม่ได้​เลื่อนขั้น​อย่าง​เฉิน​เปียน​ซิว​เกลียด​จอ​หงวน​ที่​หล่น​มาจาก​ฟากฟ้า​เช่นนี้​เป็น​ที่สุด​ ​มาถึง​ก็ได้​เป็น​ซิวจ​้​วน​ขุนนาง​ระดับ​หก​!​ ​เหยียบ​หน้า​กัน​ชัดๆ​!

เฉิน​เปียน​ซิว​เก็บความ​ริษยา​ไว้​ใน​ใจ​ ​แล้ว​มองดู​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ด้วย​สายตา​อัน​เย็นเยือก​ ​“​เซียว​ซิวจ​้​วน​มี​อะไร​หรือ​”

ดู​ทำ​เข้า​สิ​ ​ดู​ที่​เขา​ทำท่า​ที​กับ​จอ​หงวน​ใหม่​เข้า​สิ​!

ตำแหน่ง​ขั้นสูง​กว่า​เขา​แล้ว​อย่างไร​ ​ก็​แค่​คนอ่อนแอ​ที่​ใคร​ก็​รังแก​ได้​เท่านั้น​!

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ไม่ได้​ใส่ใจ​กับ​อาการ​ได้ใจ​ที่​แล่น​ผ่านสายตา​ของ​เขา​ ​แต่​เขา​นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​ ​“​เหมือนว่า​ตอนที่​อยู่​ห้อง​เก็บ​ตำรา​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​จะ​มีเรื่อง​ไม่พอใจ​ข้า​อยู่​ไม่น้อย​”

เฉิน​เปียน​ซิว​หยาม​ ​“​ก็​เพราะ​เจ้า​ทำ​ข้า​ลำบาก​ไป​ด้วย​ไม่ใช่​หรือ​ ​หาก​ไม่​จัด​ข้า​ให้​อยู่​กลุ่ม​เดียว​กับ​เจ้า​ ​ข้า​คง​ไม่ต้อง​ทำงาน​มากมาย​เพียงนั้น​หรอก​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​พยักหน้า​ ​“​เจ้า​จงใจ​ไม่​เรียก​ข้า​ ​ปล่อย​ให้​ข้า​ถูก​ขัง​ใน​ห้อง​ตำรา​ทั้งคืน​อย่างนั้น​หรือ​”

เขา​เอ่ย​ออกมา​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​ ​ทำเอา​ใจ​เฉิน​เปียน​ซิว​แทบจะ​ระเบิด​ออกมา​!

“​เจ้า​ ​เจ้า​ ​เจ้า​…​เจ้า​พูดเหลวไหล​อะไร​ของ​เจ้า​”​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​เบิกตา​กว้าง​ ​ทำท่า​ที​ขู่ขวัญ​ตบตา

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เคย​ได้ยิน​หนิง​จื้อ​หย่วน​เล่า​มา​ว่า​ ​เช้า​วันรุ่งขึ้น​หยาง​ซิวจ​้​วน​โมโห​มาก​ที่​เขา​มาสาย​ ​นั่น​หมายความว่า​หยาง​ซิวจ​้​วน​ไม่รู้​ว่า​เขา​ถูก​ขัง​ไว้​ใน​ห้อง​ตำรา

ตอน​หยาง​ซิวจ​้​วน​จะ​ไป​ไม่มีทาง​ที่จะ​ไม่​เรียก​เขา​ ​แต่​ก็​จะ​ไม่​เรียก​เขา​ด้วย​ตนเอง

ฉะนั้น​ก็​เหลือ​เพียง​หวัง​ซิวจ​้​วน​และ​เฉิน​เปียน​ซิว​ที่อยู่​ห้อง​เดียว​กับ​เขา

หลาย​วัน​มานี​้​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​หวัง​ซิวจ​้​วน​กับ​เขา​ไม่ได้​มี​อะไร​แปลก​ไป​ ​มี​แต่​เฉิน​เปียน​ซิว​ที่​ทำตัว​ลับ​ๆ​ ​ล่อ​ๆ​ ​หลบ​ๆ​ ​ซ่อน​ๆ

“​เจ้า​อย่า​พูดจา​ใส่ร้าย​ผู้อื่น​!​”​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​โมโห​ขีดสุด​!

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอ่ย​ด้วย​เสียง​เรียบ​เฉย​ ​“​ข่าวลือ​เรื่อง​หอนาง​โลม​ ​ก็​เป็น​เจ้าที่​ปล่อยข่าว​สินะ​”

เฉิน​เปียน​ซิว​หน้าซีด​ไป​ทันใด​ ​“​เจ้า​ ​เจ้า​ ​เจ้า​…​เจ้า​อย่า​พูดจา​พล่อยๆ​!​ ​อย่า​มา​ใส่ความ​ข้า​!​ ​ข่าวลือ​เรื่อง​หอนาง​โลม​อะไร​กัน​ ​ข้า​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก​่อน​!​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​นิ่งเฉย​ ​“​ใต้เท้า​หาน​บอกว่า​เป็น​เจ้า​นี่​”

“​ข้า​…​”​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​ชะงัก​ไป​ทันที

เขา​ไม่กล้า​ไป​ถาม​ใต้เท้า​หาน​ต่อหน้า​อยู่​แล้ว

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เห็น​สายตา​ของ​เขา​แล้ว​ ​ใน​ใจ​ก็​รู้​คำตอบ​ทันที​ ​เขามอง​ไป​ยัง​เฉิน​เปียน​ซิว​ด้วย​สายตา​เรียบ​เฉย​ ​“​เฉิน​เปียน​ซิว​ ​ขยัน​ทำงาน​ให้​ดี​ ​อย่า​สร้าง​ข่าวลือ​อีก​”

เมื่อ​พูด​จบ​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ก็​ไม่สน​ใจ​เขา​อีก​ ​และ​เดินผ่าน​เขา​ไป

เฉิน​เปียน​ซิว​ถูก​ขุนนาง​ชนบท​ต่อว่า​ ​ไม่พอใจ​ยิ่งนัก​ ​เขา​หันกลับ​มาเรียก​เขา​ ​“​ข้า​สร้าง​ข่าวลือ​หรือ​ ​ข้า​สร้าง​ข่าวลือ​อะไร​ ​เมื่อวาน​เจ้า​ไม่ได้​ไป​พบ​หญิง​จาก​หอ​เซียน​เล่อ​ตามลำพัง​หรือ​ ​พวก​เจ้า​กล้า​ทำ​เรื่อง​ลับ​ใน​ที่แจ้ง​กลาง​สาธารณชน​ ​ช่าง​หน้าไม่อาย​ยิ่งนัก​!​”

“​หญิง​จาก​หอ​เซียน​หรือ​”​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​หยุด​เดิน​ ​แล้ว​มอง​เฉิน​เปียน​ซิว​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​หอ​เซียน​เล่อ​อะไร​”

หอ​เซียน​เล่อ​คือ​หอนาง​โลม​ที่​เพิ่ง​เปิด​ได้​สาม​ปี​ ​แต่กลับ​สามารถ​นำ​หอ​หร​่​วน​อวี​้​ขึ้น​เป็น​ที่หนึ่ง​ใน​บรรดา​หอนาง​โลม​ได้

เฉิน​เปียน​ซิว​ลนลาน​ ​แอบ​ด่า​ตนเอง​อยู่​ใน​ใจ​ที่​หลุดปาก​พูด​ออก​ไป

พอคิด​ดู​อีกที​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​ช่าง​แปลก​นัก

เหตุใด​เขา​คุย​กับ​แม่นาง​สอง​คน​นั้นแล​้ว​ ​แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​พวก​นาง​มาจาก​หอ​เซียน​เล่อ

ทั้งที่​ดูท่าทาง​ก็​เหมือน​จะ​มี​ความลึกซึ้ง​ต่อกัน​แท้ๆ​!

เฉิน​เปียน​ซิว​ช่าง​ไม่รู้​เลย​ ​ว่า​เขา​เพียงแค่​มาถา​มทาง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เท่านั้น​ ​ไม่ได้​เล่า​ถึงที่​มาที​่​ไป​ของ​ตน​เลย​สักนิด

เซียว​ลิ่ว​หลัง​จำ​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ ​จึง​ไม่ได้​เดา​ไป​ทาง​คน​ผ่าน​ทาง​สอง​คน​นี้

เซียว​ลิ่ว​หลัง​มอง​เฉิน​เปียน​ซิว​ด้วย​ความสงสัย​ ​แล้ว​หันหลัง​เดิน​กลับ​ห้องทำงาน​ของ​ตน​ไม่​พูดพร่ำ​กับ​เขา​ต่อ

เฉิน​เปียน​ซิว​กลับ​เอา​ป้าย​ไม้​สีแดง​ออกมา​อย่างระมัดระวัง

บน​ป้าย​ไม้​นั้น​มีตัว​หนังสือพิมพ์​ด้วย​หมึก​สีแดง​อยู่​ว่า​ ​‘​หอ​เซียน​เล่อ​’

ป้าย​ไม้​นี้​เป็น​ของ​ที่​แม่นาง​สอง​คน​นั้น​ทำ​หล่น​แล้ว​เฉิน​เปียน​ซิว​เดิน​เข้าไป​เก็บ​เอาไว้​ ​มิเช่นนั้น​เขา​ก็​ไม่รู้​ว่า​พวก​นาง​เป็น​คน​ของ​หอ​เซียน​เล่อ

คนจน​ๆ​ ​อย่าง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เหตุใด​จึง​มี​ความสัมพันธ์​กับ​หอ​เซียน​เล่อ​อัน​โด่งดัง​ได้

เรื่อง​นี้​ทำให้​เฉิน​เปียน​ซิว​เกิด​ความริษยา​ยิ่งนัก

เดิม​เขา​คิด​อยาก​จะ​นำ​ป้าย​นี้​ใช้​เป็นหลัก​ฐาน​ที่​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ไป​หอนาง​โลม​ ​แต่​เขา​ก็​รู้สึก​เสียดาย

หลัง​เลิกงาน​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​ไป​หอ​เซียน​เล่อ​พร้อมกับ​ป้าย​นี้

หอ​เซียน​เล่อ​ตั้งอยู่​ทาง​ทิศตะวันออกเฉียงใต้​ของ​หอ​ชิง​เฟิง​ ​ห่าง​กัน​ไม่​ถึง​ร้อย​ก้าว

หอ​เซียน​เล่อ​ได้รับ​ขนานนาม​ว่าวิ​มาน​เทพ​เซียน​ ​ไม่​เพียง​เพราะ​ที่​แห่ง​นี้​ตกแต่ง​ได้​เหมือน​วิมาน​เทพ​เซียน​ ​แต่​เป็น​เพราะ​หญิงสาว​ใน​นั้น​ต่าง​งดงาม​ดัง​นางฟ้า​นาง​สวรรค์

นาง​โลม​ที่​มีชื่อ​ที่สุด​ในที่นี้​ได้รับ​ขนานนาม​ว่า​ฉัง​เอ๋อ​แห่ง​วัง​จันทรา

เฉิน​เปียน​ซิว​เปลี่ยน​ชุด​ขุนนาง​ใน​รถม้า​ ​แล้ว​สวม​ชุด​สีน้ำเงิน​แทน

อายุ​ของ​เขา​ไม่​ต่าง​จาก​หนิง​จื้อ​หย่วน​มาก​นัก​ ​ประมาณ​สามสิบ​ต้นๆ​ ​เป็น​อายุ​ที่​ดีที​่​สุด​ของ​ชายหนุ่ม​ ​รูปลักษณ์​ของ​เขา​โดดเด่น​กว่า​หนิง​จื้อ​หย่วน​มาก​ ​เป็นคุณ​ชาย​รูปงาม​ระดับ​กลาง​ถึงขั้น​ดี​เลย​ทีเดียว

สถานที่​อย่าง​หอ​เซียน​เล่อ​ ​คน​ทั่วไป​ไม่​สามารถ​เข้าไป​ได้​ ​ใช้​เงิน​ไม่ได้​ ​ใช่​ว่า​พวก​นาง​ไม่​รับเงิน​ ​แต่​มี​แค่​เงิน​นั้น​ไม่พอ

เฉิน​เปียน​ซิว​ลอง​เอา​ป้ายชื่อ​ยื่น​ให้​องครักษ์​หญิง​ที่​เฝ้า​ประตู​อยู่​ดู

ใคร​จะ​รู้​ว่า​เขา​จะเข้า​ไป​ได้​จริงๆ​!

คนที​่​นำทาง​เขา​เป็น​แม่นาง​รูปลักษณ์​งดงาม​จน​ดอกไม้​ยัง​ต้อง​เหนียมอาย

หญิง​ผู้​นั้น​เอ่ย​ขึ้น​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​“​ที่แท้​ก็​แขก​ของ​พี่​เชียน​เสวี​่​ยนี​่​เอง​ ​เชิญ​ห้อง​ชั้นหนึ่ง​เลย​!​”

เฉิน​เปียน​ซิว​รู้สึก​ตกใจ​ที่​ได้รับ​การ​ต้อนรับ​เช่นนี้

เขามอ​งดู​หญิงสาว​ตรงหน้า​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​อย่าง​มีเลศนัย​ ​“​ข่าวลือ​ไม่​ลวง​ข้า​จริงๆ​ ​แม่นาง​ช่าง​งดงาม​ดัง​นางฟ้า​เช่น​คำ​ร่ำ​ลือ​!​”

หญิงสาว​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​ ​“​ข้า​ไม่ใช่​หญิง​ใน​หอนาง​โลม​ ​ข้า​เป็น​แค่​สาวใช้​เท่านั้น​”

“​หา​…​”​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​ตกตะลึง​ยิ่งนัก

สาวใช้​ยัง​งดงาม​ถึง​เพียงนี้​ ​แล้ว​หญิง​ใน​หอนาง​โลม​แห่ง​นี้​จะ​ขนาด​ไหน​…

ยัง​คิด​ไม่ทัน​ไร​ ​ก็ได้​ยิน​เสียง​สาวใช้​ที่​นำทาง​เขา​เข้ามา​เอ่ย​ทักทาย​ ​“​แม่นาง​หลาน​ซิน​”

เฉิน​เปียน​ซิว​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​ ​สาวงาม​ชุด​ม่วง​ผู้​หนึ่ง​เดินลง​มาจาก​บันได​ช้าๆ​ ​ชุด​ของ​นาง​ลาก​ผ่าน​ขั้นบันได​ไม้​ทีละขั้น​ ​รูปร่าง​ดัง​แสงอาทิตย์​สีม่วง​ที่​สาดส่อง​ ​ท่าทาง​อ้อนแอ้น​ ​รอยยิ้ม​สดใส​งดงาม

เฉิน​เปียน​ซิว​รู้สึก​เหมือน​วิญญาณ​ของ​ตน​แทบจะ​หลุดลอย​ไป​!

เขา​จับ​ราวบันได​เอาไว้​ ​ขาอ่อน​แทบ​พับ​ลง​ไป​คุกเข่า​กับ​พื้น​!

“​ดูท่าทาง​เข้า​สิ​!​”​ ​แม่นาง​หลาน​ซิน​ยิ้ม​หยาม​แล้ว​เดินลง​บันได​มา

รอยยิ้ม​อัน​เย็นชา​แฝง​ไป​ด้วย​ท่าทาง​อัน​เย้ายวน​ ​แต่​ไม่​ต่ำ​หยาบ​ ​ทำให้​ใจสั่น​ไหว​ยิ่งนัก

สาวใช้​ ​“​ท่านชาย​ ​เชิญ​เจ้าค่ะ​!​”

สาวใช้​พา​เฉิน​เปียน​ซิว​ไป​ยัง​ห้อง​ชั้นหนึ่ง​ ​“​แม่นาง​เชียน​เสวี​่ย​ ​แขก​ของ​ท่าน​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

“​เข้ามา​”

เสียง​อัน​อ่อนหวาน​ดัง​เสียง​สวรรค์​ลอยมา​จาก​ใน​ห้อง​ ​มี​ความสงบ​และ​สูงส่ง​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

เฉิน​เปียน​ซิว​เพียง​ได้ยิน​เสียง​ของ​นาง​ ​ก็​รู้สึก​อ่อนระทวย​ไป​ทั่ว​ร่าง

เขา​ไม่รู้​เช่นกัน​ว่า​เดิน​เข้า​ห้อง​มา​ได้​อย่างไร​ ​เมื่อ​เขา​รู้สึกตัว​ประตู​ห้อง​ก็ได้​ปิด​งับ​ไป​เรียบร้อย

นี่​คือ​หญิงสาว​ที่​พบ​เมื่อวาน​ ​หญิงสาว​ถือ​ป้ายชื่อ​ของ​ตน​ที่​ทำ​หาย​ไป​แล้ว​ยกมือ​ขึ้น​เปิด​ผ้า​ปิดหน้า​ออก

เฉิน​เปียน​ซิว​ได้​เห็น​เพียง​ชั่วครู่​ก็​แทบ​หยุด​หายใจ​ไป

งดงาม​ดัง​นางฟ้า​อะไร​กัน

นี่​นางฟ้า​บน​สวรรค์​ตัวจริง​ชัดๆ​!

เขา​ร่ำเรียน​ตำรา​มามาก​มาย​ ​เป็น​ถึง​เปียน​ซิว​ใน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ ​แต่​ขณะนี้​เขา​กลับ​ไม่รู้​จะ​ใช้​คำ​ใด​มา​อธิบาย​ความงดงาม​ของ​หญิงสาว​ตรงหน้า​เขา​ได้

“​เจ้า​คือ​ใคร​”​ ​หญิงสาว​เห็น​ใบหน้า​ของ​เฉิน​เปียน​ซิว​แล้ว​ ​สายตา​เย็นเยือก​ทันใด​ ​นาง​ใช้​ผ้า​ปิดหน้า​บดบัง​ใบหน้า​ของ​นาง​อีกครั้ง

เฉิน​เปียน​ซิว​ได้สติ​ ​นึก​ว่า​อีก​ฝ่าย​ถาม​ที่มา​ของ​ตน​ ​จึง​รีบ​คำนับ​แล้ว​เอ่ย​ตอบ​ ​“​ข้า​น้อย​เฉิน​กวง​เจี​๋ย​ ​คารวะ​แม่นาง​เชียน​เสวี​่ย​!​”

หญิงสาว​อมยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​“​เหตุใด​ป้ายชื่อ​จึง​อยู่​ใน​มือ​ของ​เจ้า​”

เฉิน​เปียน​ซิว​ถูก​รอยยิ้ม​ของ​นาง​ทำเอา​สติ​หลุดลอย​ ​ใจเต้น​ระรัว​ ​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ​และ​ตอบ​ไป​อย่าง​เขินอาย​ ​“​ป้ายชื่อ​ของ​แม่นาง​หล่น​หาย​ ​ข้า​น้อย​เก็บ​ไว้​ได้​โดยบังเอิญ​ ​ข้า​เห็น​ว่า​เป็น​ของ​หอ​เซียน​เล่อ​ ​จึง​นำมา​คืนให้​แม่นาง​”

“​อ๋อ​ ​เจ้า​เก็บ​ได้​เอง​หรือ​”​ ​หญิงสาว​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​“​มี​ใคร​เห็น​หรือไม่​”

เฉิน​เปียน​ซิว​ส่ายหน้า​ ​“​ไม่มี​”

หญิงสาว​ก้มหน้า​แสยะ​ยิ้ม​ ​“​เหตุใด​จึง​ต้อง​ให้​เจ้า​มาคืน​ด้วย​ตนเอง​ ​ลำบาก​เจ้า​เปล่าๆ​”

เฉิน​เปียน​ซิว​เอ่ย​อย่าง​เคอะเขิน​ ​“​เรื่องเล็ก​น้อย​ ​ไม่ต้อง​เกรงใจ​”

หญิงสาว​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ ​“​แต่​เจ้า​เห็น​รูปลักษณ์​ของ​ข้า​แล้ว​ ​ก็​ไม่ใช่​เรื่องเล็ก​น้อย​แล้ว​”

“หืม​”​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​ชะงัก

แต่​แล้ว​ ​เขา​ไม่ทัน​ได้​รู้ตัว​ ​หญิงสาว​ก็​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ ​“​ลาก​ออก​ไป​ ​ฆ่า​ทิ้ง​เสีย​!​”

เฉิน​เปียน​ซิว​ตัวสั่น​ทันใด

“​แม่​…​”

พูด​ไม่ทัน​ขาดคำ

เขา​ถูก​ชาย​ชุด​ดำ​ผู้​หนึ่ง​ปิดปาก​เอาไว้​ ​แล้ว​ลาก​ออก​ไป​เหมือน​กระสอบ​ทราย

“​สกปรก​นัก​!​”​ ​หญิงสาว​ขว้าง​ป้ายชื่อ​ใน​มือ​ลงพื้น​ด้วย​ความรังเกียจ

สาวใช้​ผู้ติดตาม​รีบ​ตัก​น้ำ​ใส่​กะละมัง​ทองแดง​แล้ว​ยก​มา​ให้​ ​“​แม่นาง​”

หญิงสาว​แช่มือ​ที่จับ​ป้ายชื่อ​ไว้​ใน​น้ำ​ ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​โมโห​ ​“​น่า​โมโห​นัก​!​ ​น่า​โมโห​นัก​!​ ​ผู้ชาย​อะไร​กัน​เนี่ย​!​ ​เหตุใด​เขา​จึง​ไม่​เก็บ​!​ ​เหตุใด​ถึง​ให้​คนอื่น​เก็บ​ได้​!​”

สาวใช้​ติดตาม​ถอนใจ​ ​“​นั่นสิ​ ​เสียดาย​ความหวังดี​ของ​แม่นาง​จริงๆ​ ​อุตส่าห์​จงใจ​ทำ​ป้ายชื่อ​หล่น​เอาไว้​ให้​เขา​เก็บ​ ​เขา​กลับ​จากไป​อย่าง​ไม่แยแส​ ​ให้​คนอื่น​ได้ที​เก็บ​ไป​ได้เสีย​อย่างนั้น​”

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม!

จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้เจียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล

แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เซียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ

เพราะบุญคุณเซียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ

แต่เพราะ ‘ฝันบอกเหตุ’ ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนใหม่ได้รู้ว่าเซียวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในอนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก

เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ายทั้งหลายเพื่อประคองเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท