เว่ยจวินมั่วเอ่ย “กระหม่อมเขียนจดหมายที่มีตราประทับของเสด็จลุงมอบให้เขาพ่ะย่ะค่ะ”
“…” นึกถึงตราประทับที่ตนมอบให้เมื่อครั้งที่เว่ยจวินมั่วไปอยู่กับเซี่ยลี่ เยี่ยนอ๋องแทบกุมขมับ ที่แท้ก็ยืมมือเขาไปผูกมิตร อย่างไรในอนาคตหากเมิ่งเท่อมู่มาคิดบัญชี คนที่ขายหน้าคงไม่ใช่เขาหรือไม่
เยี่ยนอ๋องนวดหัวคิ้ว แล้วจึงโบกปัดมือ เอ่ยว่า “ช่างเถิด เรื่องนี้อย่างไรก็ผิดคำพูดสักครั้ง มาคุยเรื่องวันข้างหน้าดีกว่า” รอเมิ่งเท่อมู่สืบเรื่องราวในเขตกำแพงได้แล้ว คงจะรู้ว่าบัญชีนี้ยังไม่อาจเอาคืนได้ในยามนี้ รอเขาตามมาถึงบ้านแล้วค่อยว่ากัน
“สถานการณ์ในจินหลิงเจ้ามองเยี่ยงไร” เยี่ยนอ๋องเอ่ยถาม
เว่ยจวินมั่วเอ่ย “พวกเป่ยหยวนได้สูญเสียอย่างหนักมีท่าทีว่าจะถอนทัพ ขอเพียงแม่ทัพเฉินแม่ทัพจูรบชนะอีกสักสองครั้ง พวกเป่ยหยวนก็จะถอนทัพ ปีนี้พวกเขาได้รับความเสียหายมากกว่าหลายปีก่อน ปีหน้าคงจะสงบขึ้นมาบ้าง ตอนนี้ให้แม่ทัพเซวียมาประจำที่อวี๋หยางสักระยะ”
เยี่ยนอ๋องขมวดคิ้ว เอ่ย “หากเซวียเจินเคลื่อนทัพใหญ่ จะดึงความสนใจของเซี่ยลี่หรือไม่”
เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “อวี๋หยางเป็นเขตการปกครองของเยี่ยนอ๋อง กองกำลังรักษาการณ์โยวโจวเคลื่อนกำลังพลในเขตโยวโจวเกี่ยวอันใดกับเขา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้แม่ทัพเซี่ยยังอยู่ที่เขตชายแดน หากช้ากว่านี้สักหน่อย เกรงว่าคงจะลำบากยิ่งขึ้น”
เยี่ยนอ๋องเอ่ยถาม “เจ้าคิดว่า…เซียวเชียนเยี่ยจะลงมือกับข้าหรือ”
เว่ยจวินมั่วมองไปยังเยี่ยนอ๋อง “จะลงมือหรือไม่ก็ต้องเคลื่อนทัพ ป้องกันไว้ก่อน”
เยี่ยนอ๋องพยักหน้า เงียบไปนานก่อนจะถอนหายใจออกมา เอ่ย “พวกชื่อเอ๋อร์สามพี่น้องหากเข้าใจกลยุทธ์ได้สักครึ่งของเจ้าคงจะดี ข้าจะได้ไม่ต้องมากังวลอันใด”
เว่ยจวินมั่วเอ่ย “น้องชายทั้งสองเองก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมในสนามรบ”
“กล้าหาญแบบไม่มีสติปัญญาน่ะสิ” เยี่ยนอ๋องเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เหว่ยเอ๋อร์ยังพอได้ ส่วนเจ้าสามนั่น นอกจากพุ่งไปข้างหน้าแล้วเขายังจะรู้อันใดอีก”
หนานกงมั่วยิ้มบาง เอ่ย “เสด็จลุง น้องชายยังเด็กเพคะ”
เยี่ยนอ๋องเอ่ย “ก็เพราะยังเด็กถึงจะจัดการได้ หากอีกไม่กี่ปีข้างหน้ายังบุ่มบ่ามก่อความวุ่นวายไปทั่วเช่นนี้ ข้าจะตีเขาให้ตายเชียว”
ไม่รู้ว่าเซียวเชียนจย่งไปก่อเรื่องใดในกองทัพถึงทำให้เยี่ยนอ๋องโกรธเพียงนี้ หนานกงมั่วเองก็ไม่เอ่ยถาม วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระชายาเยี่ยนอ๋องอย่างไรเซียวเชียนเหว่ยและเซียวเชียนจย่งก็ต้องกลับมา ถึงตอนนั้นค่อยถามอีกครั้งก็ได้
เยี่ยนอ๋องกุมขมับเอ่ยถาม “เซี่ยลี่นั่น เจ้ามีแผนเยี่ยงไร”
เว่ยจวินมั่วเอ่ยตอบว่า “แม่ทัพเซี่ยให้หยุดหนึ่งเดือนพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนอ๋องขมวดคิ้ว แม้อยากบอกเว่ยจวินมั่วว่าไม่ต้องกลับไปอีกแล้ว แต่เขาส่งเว่ยจวินมั่วไปอยู่กับเซี่ยลี่แน่นอนว่ามีแผนการ แน่นอนว่าไม่อาจทำครึ่งๆ กลางๆ จึงเพียงเอ่ย “อีกไม่กี่เดือนอู๋สยาก็จะคลอดแล้ว”
เว่ยจวินมั่วหันกลับมามองหนานกงมั่ว สายตาอ่อนโยนขึ้นมา “ค่ายอยู่ใกล้โยวโจว อีกทั้ง…ต่อไปแม่ทัพเซี่ยไม่มีทางตระหนี่วันหยุดอีกแล้ว”
ก็ใช่น่ะสิ ตอนนี้เซี่ยลี่ระวังพวกเขามาก ไม่รู้ว่าเซียวเชียนเยี่ยวางแผนเช่นไร เซี่ยลี่คงหวังว่าเว่ยจวินมั่วยุ่งเรื่องในกองทัพน้อยที่สุดยิ่งดี ไม่แน่ว่าหากตอนนี้เว่ยจวินมั่วไปขอวันลาเพิ่มครึ่งปีด้วยเหตุผลว่าต้องอยู่กับภรรยาที่จะคลอดลูก เซี่ยลี่คงรีบตอบรับด้วยความเต็มใจ
“ช่างเถิด คนอย่างเซี่ยลี่ก็นับว่าพอไปได้ ผ่านครั้งนี้ไปแล้ว คงยังไม่คิดลงมือลับๆ อีกแล้ว”
เว่ยจวินมั่วพยักหน้า บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความคิดของเยี่ยนอ๋อง
เอ่ยสิ่งที่ต้องการเอ่ยจบแล้ว เยี่ยนอ๋องจึงโบกมือ เอ่ย “เจ้าเดินทางกลับมาคงเหนื่อยแล้ว กลับไปพักผ่อนเถิด เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
เว่ยจวินมั่วจ้องมองเยี่ยนอ๋องไม่ขยับ เยี่ยนอ๋องเลิกคิ้ว “ทำไมหรือ เจ้ายังมีเรื่องใดอยากเอ่ยอีก”
“ชายารองกง” เว่ยจวินมั่วเอ่ย
เยี่ยนอ๋องสีหน้าแข็งค้าง ราวกับรู้สึกเสียหน้าขึ้นมา เอ่ยอย่างไม่พอใจ “ข้าเก็บนางไว้ยังมีประโยชน์ เจ้าอย่าเพิ่งสนใจนาง”
เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว เอ่ย “เสด็จลุงกำลังเอาชีวิตของตนไปเสี่ยงอันตรายหรือ”
เยี่ยนอ๋องส่งเสียงหยัน เอ่ย “เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กหรือ กงเสี่ยวเตี๋ยอาศัยเพียงใบหน้า ไร้แผนการ ในเมื่ออีกฝ่ายคิดว่าวางใครสักคนไว้ที่นี่แล้ววางใจ เช่นนั้นก็วางเอาไว้ ข้าจะกลัวเขาหรือ” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเย็น “ผู้ดีไม่เอาตนไปเสี่ยงอันตราย”
เยี่ยนอ๋องกลอกตา “ข้ามิใช่ผู้ดี”
เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก เยี่ยนอ๋องตกใจ ได้สติกลับมาจึงรีบเอ่ยถาม “เจ้าจะไปทำอันใด”
“สังหารนาง” เว่ยจวินมั่วเอ่ย จะได้เอาศพของนางไปป้อนให้กงอวี้เฉินด้วย ไม่ต้องถามหนานกงมั่วเขาก็รู้ว่ากงเสี่ยวเตี๋ยผู้นั้นเป็นคนของกงอวี้เฉิน นอกจากกงอวี้เฉินแล้วไม่มีใครอวดดีกล้าทิ้งคนมาอยู่ตรงหน้าเขา แม้แต่ปกปิดยังคร้านที่จะทำ
“เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้” เยี่ยนอ๋องเอ่ยด้วยความโกรธ
เว่ยจวินมั่วหันกลับมา เยี่ยนอ๋องกัดฟัน เอ่ย “นางเป็นชายารองของข้า ต้องจัดการอย่างไรข้าเองรู้ดี เจ้าอย่ามาทำลายธุระของข้า”
คิ้วคมของเว่ยจวินมั่วขมวดขึ้น มองสำรวจเยี่ยนอ๋องอยู่ชั่วครู่คล้ายกำลังดูว่าสิ่งที่เยี่ยนอ๋องเอ่ยนั้นเป็นความจริงหรือไม่ สายตาสงสัยของเขาทำให้เยี่ยนอ๋องไม่อาจควบคุมตนเองได้ชั่วขณะหยิบที่ทับกระดาษบนโต๊ะขึ้นมาโยนใส่เขา “เจ้าเด็กบ้า เจ้าคิดว่าข้าลุ่มหลงในรักหรืออย่างไร”
คุณชายเว่ยหันมองมา ยกมือขึ้นรับที่ทับกระดาษเอาไว้ในมือ “พูดยาก”
“…” เด็กไม่ควรเอาอกเอาใจจริงๆ ข้าไม่อยู่จินหลิงเจ้าเด็กคนนี้ถูกน้องห้าเอาอกเอาใจจนไร้ระเบียบ หากข้าอยู่จินหลิง จะตีเขาสามเวลาตั้งแต่เด็กเลย
มองสองลุงหลานตอบโต้กันไปมา หนานกงมั่วก้มหน้าลอบยิ้ม
เยี่ยนอ๋องส่งเสียงหยัน “ไสหัวไป ก่อนวันคล้ายวันเกิดของเสด็จป้าเจ้าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้า”
หนานกงมั่วไร้ซึ่งคำจะเอ่ย ก่อนวันคล้ายวันพระราชสมภพของเสด็จป้าก็พรุ่งนี้แล้วมิใช่หรือ
ลุกขึ้นมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เสด็จลุง พวกเราต้องกลับไปก่อนแล้วเพคะ” กระตุกแขนเสื้อคุณชายเว่ย บอกใบ้ให้เขาหยุดทำให้เสด็จลุงโกรธ
“ไปเถิด” มองหนานกงมั่ว อารมณ์โกรธของเยี่ยนอ๋องจึงอ่อนลงมาก ทุกครั้งที่ถูกเจ้าหลานชายบ้านี่ทำให้โกรธ เขาก็มักรู้สึกขอบคุณเสด็จพ่อที่เลือกหลานสะใภ้ที่ดีให้กับเขา มิเช่นนั้นเขาคงถูกเจ้าเด็กคนนี้ทำให้โกรธจนกระอักเลือดเข้าสักวัน
เว่ยจวินมั่วกุมมือหนานกงมั่วเดินออกไปด้านนอก เดินมาถึงประตูห้องหนังสือพลันหยุดเท้าลง เยี่ยนอ๋องเลิกคิ้ว “เจ้ายังจะเอ่ยอันใดอีก”
เว่ยจวินมั่วหยิบกล่องขนาดกว้างยาวสามชุ่นโยนไปบนโต๊ะตรงหน้าเยี่ยนอ๋อง เอ่ย “บังเอิญได้มาตอนที่ไปหว่าหลา อู๋สยาไม่ได้ใช้” เอ่ยจบ ก็จูงมือหนานกงมั่วออกไปทันใด
เยี่ยนอ๋องกัดฟัน อู๋สยาไม่ได้ใช้ค่อยเอามาให้ข้าหรือ ของล้ำค่าใดที่ข้าไม่เคยเห็นบ้างจะเสียดายของของเจ้าหรือ
เปิดกล่องออกมา ในกล่องมีโสมหยกเลือดถูกวางเอาไว้อย่างดี นี่เป็นสมุนไพรมีชื่อเสียงเกิดบนยอดเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ รักษาบาดแผลเก่าได้อย่างยอดเยี่ยม สมุนไพรล้ำค่าในเรื่องอายุยืนยาว เพียงแต่มีจำนวนน้อย เกิดและเติบโตในพื้นที่ลึกลับซับซ้อนหายาก ต่อให้เป็นนักเก็บโสมที่เก่งกาจที่สุดก็ไม่แน่ว่าจะหาเจอ สินค้าที่ถูกส่งเข้าวังในแต่ละปีก็ไม่แน่ว่าจะมีของสิ่งนี้ในทุกๆ ปี
นี่แน่นอนไม่ใช่สิ่งที่เว่ยจวินมั่วบังเอิญได้มา โสมหยกเลือดในกล่องนั้นคุณภาพดีเยี่ยม อายุดูแล้วไม่น่าจะน้อย คุณชายเว่ยคงเป็นนักย่องเบาหยิบมาจากกระโจมไหนสักกระโจมในเผ่าหว่าหลา
