หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 142 การหายไปของโหลวเย่ว

บทที่ 142 การหายไปของโหลวเย่ว

บทที่ 142 การหายไปของโหลวเย่ว

จากนั้น!

หลานเยาเยาก็เอาน้ำมาขันหนึ่ง และเอายาน้ำชนิดพิเศษหยดใส่น้ำไปหยดหนึ่ง แล้วนำกระดาษขาวใบนั้นใส่ลงไป

ไม่นานนัก กระดาษขาวก็เริ่มมีคล้ายๆน้ำหมึกสีดำปรากฏขึ้น แต่ทว่ามันไม่ใช่หมึกสีดำ แต่กลับเป็นสีแดง

และสีนั่นยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้น้ำในขันนั่นกลายเป็นสีแดงไปหมด

เมื่อนางหยิบกระดาษขาวแผ่นนั้นขึ้นมา ตัวหนังสือเลือดที่ดูนากลัวนั้นก็ปรากฏต่อหน้านาง

บนจดหมายเลือดนั้นเป็นลายมือของท่านแม่ ดูจากร่องรอยที่ปรากฏ ในขณะนั้นท่านแม่กำลังตกอยู่ในอันตรายแน่นอน

จดหมายเลือดเขียนไว้ว่า ท่านแม่โดนยาพิษประหลาด รู้ว่าตัวเองมีเวลาเหลืออีกไม่นาน ดังนั้นจึงได้เขียนคำสั่งเสียบนกระดาษแผ่นนี้

เดิมที……

เหตุไฟไหม้ที่เผาผลาญราชวงศ์เก่าไม่ใช่เพราะเพลิงธรรมชาติ แต่เป็นคนทำให้เกิดเพลิงไหม้ทำให้ราชวงศ์เก่าถูกกลืนด้วยกองเพลิงเป็นเถ้าถ่านในชั่วคืนเดียว

และพวกเชื้อพระวงศ์พยายามปกป้องให้องค์ชายอยู่รอดด้วยชีวิต ก็ถูกนักฆ่ายิงจวนตามฆ่ามาตลอด และท่านแม่ก็เป็นหนึ่งในนั้น

แต่เมื่อองค์ชายผู้นั้นตกอยู่ในมือของนาง นางไม่เพียงแต่ไม่ฆ่าเขา แต่กลับปกป้องเขาอย่างลับๆมาเป็นเวลาหลายเดือน

จนกระทั่งคนนอกแผ่นดินใหญ่ นั่นก็คืออดีตราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่าเป็นคนพาเขาไป นางถึงได้กลับมาอยู่ที่จวนแม่ทัพ

และยังมีสารจากนกพิราบถึงผู้ปกครองยิงจวน ในจดหมายกล่าวว่า องค์ชายคนโตตกหน้าผาตาย ซากศพถูกสัตว์ป่ากัดกิน ยิงจวนจึงได้หยุดตามฆ่า

คำทำนายของราชครูใหญ่!

องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าคนนั้น เท้าเหยียบเจ็ดดาว เป็นผู้ที่ฟ้ากำหนดชะตาชีวิต อนาคตความอยู่รอดของแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ขึ้นอยู่ที่ความคิดเพียงชั่วครู่ของเขาเท่านั้น

เรื่องนี้ทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง คำทำนายของราชครูเยี่ยมยอดขนาดนั้นเชียวหรือ?

หลังจากที่อ่านจดหมายเลือด ในใจของนางก็เริ่มสับสน

ทำเช่นไรดี?

แม้ว่าท่านแม่จะเคยช่วยชีวิตองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า ทั้งยังได้คอยปกป้องเขามาตลอดเป็นระยะเวลาหลายเดือน แต่ท่านแม่กลับเป็นคนของยิงจวน ดูจากที่ผู้ปกครองของยิงจวนเชื่อถือในตัวท่านแม่ ถือว่าตำแหน่งของท่านแม่ในยิงจวนนั้นไม่ได้ต่ำต้อย

หากว่านางพบกับองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า และมอบสิ่งที่ตาเฒ่าเย่นให้ไว้แก่องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า เขาจะสังหารท่านแม่เนื่องด้วยนางเป็นคนของยิงจวนหรือไม่?

ทั้งยังล้างแค้นคนที่อยู่ใกล้ตัวนาง?

ยิ่งไปกว่านั้น!

อดีตราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่าชื่อเสียงศักดิ์ศรีโด่งดังมาก คำทำนายของเขาเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือ สิ่งที่เชื่อถือไม่ได้นั้นไม่มีเลย

ดังนั้นความอยู่รอดของแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ ตกอยู่ในความคิดเพียงชั่ววูบขององค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า ก็แสดงว่าองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าผู้นี้ต้องมีบทบาทที่เก่งกาจมากผู้หนึ่ง

ดังนั้นนางจึงต้องคำนึงถึงตัวเองด้วย!

ตอนนี้ นางต้องหาองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าผู้นี้ให้เจอ ดูว่าเขามีนิสัยใจคอเช่นไร แล้วจึงค่อยตัดสินใจว่าจะมอบสิ่งของที่ตาเฒ่าเย่นให้ไว้ให้แก่เขาหรือไม่

อืม!

งั้นก็เอาแบบนี้ละกัน

หลังจากเอาจดหมายเลือดเก็บไว้ในระบบ หลานเยาเยาก็หากระดาษมาใหม่อีกแผ่นหนึ่ง ทำให้สภาพกระดาษดูเหมือนผ่านมานานแล้ว ให้คล้ายคลึงจดหมายเลือดของท่านแม่

จากนั้นก็เลียนแบบลายมือของท่านแม่ เขียนจดหมายเลือดขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งฉบับ แล้วก็เคลือบด้วยยาน้ำ หลังจากที่ตัวอักษรเลือดค่อยๆเลือนหายไปแล้ว ก็เก็บมันไว้ในกล่อง และเก็บกล่องไว้ในกล่องเครื่องสำอางไม้อีกที

หลังจากทำทั้งหมดเสร็จสิ้น!

หลานเยาเยาที่ไม่ได้กินแม้แต่อาหารเช้า มุ่งตรงไปที่ลานของพระราชธิดาจาวหยาง

เครื่องมือทางการแพทย์ชั้นที่4และยาสมุนไพรเปิดใช้แล้ว ตอนนี้นางสามารถขจัดพิษกู่ในร่างกายของโหลวเย่วได้ทั้งหมด เช่นนี้แล้วนางก็สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปได้แล้ว

แต่เมื่อถึงลานหนวนซิน กลับพบว่าโหลวเย่วไม่ได้อยู่ที่นั่น!

สาวใช้ข้างกายนางบอกว่า หลังจากที่นางออกไปเมื่อวาน ก็ไม่ได้กลับมา

“โหลวเย่วบอกหรือไม่ว่าจะไปไหน?”

“เรียนพระชายา พระราชธิดารับสั่งเพียงว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน แล้วจะรีบกลับมา แต่ถึงตอนนี้พระราชธิดาก็ยังไม่เสด็จกลับมา หม่อมฉันเป็นกังวลมากเลยเจ้าค่ะ” สีหน้าสาวใช้ข้างกายโหลวเย่วแสดงออกถึงความกังวลใจ

“ท่านอ๋องรู้แล้วหรือยัง?”

“เมื่อฟ้าสาง หม่อมฉันได้รีบไปบอกองครักษ์ลับจื่อซีแล้ว ท่านอ๋องน่าจะรู้แล้วเจ้าค่ะ” เรื่องใหญ่ขนาดนี้ นางจะไม่รายงานได้เช่นไร

หากว่าพระราชธิดาเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ แม้ว่าท่านอ๋องจะไม่ลงโทษนาง นางก็จะต้องรับโทษประหารชีวิตอยู่ดี

ในใจของหลานเยาเยารู้สึกเป็นกังวล

ความกังวลใจของนางนั้น ตั้งแต่ตอนที่นางก้าวขาออกมาจากประตูใหญ่ของจวนอ๋องเย่ ก็รู้สึกได้แล้ว

คนแต่งตัวเหมือนขอทานคนหนึ่งยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้นาง

เมื่อเปิดกระดาษออกดู ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย

นางกำกระดาษแผ่นนั้นไว้ในกำมือแน่น จากนั้นก็ไปหาพ่อบ้านเหมย ให้พ่อบ้านเหมยเตรียมรถม้าให้นางหนึ่งคัน

นางจะเข้าวัง!

สำหรับเรื่องที่หลานเยาเยาเข้าวังอย่างกะทันหัน ทำให้พ่อบ้านเหมยรู้สึกงุนงง หลังจากส่งหลานเยาเยาออกไป เขากำลังจะก้าวเข้าประตู ก็พบกับคุณชายเหลียงเฉินที่กำลังจะมาถึง

“พระชายาจะไปไหน?” โม่เหลียงเฉินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“พระชายาจะไปพระราชวัง ไปเยี่ยมไทเฮา เพียงแต่ว่าท่าทีของนางดูรีบร้อน ราวกับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” พ่อบ้านเหมยพูดในสิ่งที่ตัวเองเป็นกังวลออกมา

คุณชายเหลียงเฉินเป็นทหารผู้ช่วยในกองบัญชาการที่ท่านอ๋องให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบ หรือว่าในที่ประชุมพระราชสำนัก ท่านอ๋องก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนออกโรงเอง เขาสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้โดยง่ายดาย

ดังนั้นเขาจึงเชื่อใจในตัวคุณชายเหลียงเฉินเป็นอย่างมาก

“พระราชธิดาจาวหยางอยู่ในจวนหรือไม่?”

“พระราชธิดาจาวหยางยังไม่ได้กลับตั้งแต่เมื่อคืนวาน ท่านอ๋องรับสั่งให้จื่อเฟิงและองครักษ์ลับอื่นๆออกไปตามหาแล้วขอรับ” พระชายาเข้าไปที่พระราชวัง จะข้องเกี่ยวกับเรื่องที่พระราชธิดาจาวหยางไม่ได้กลับมาหรือไม่?

“แล้วท่านอ๋องล่ะ?”

เขาเพิ่มมาจากห้องหนังสือของเย่แจ๋หยิ่ง ก็ไม่พบกับเงาของเขาเลย ดังนั้นจึงคิดว่ามันแปลก

โดยปกติแล้ว!

ในเวลานี้ หากเย่แจ๋หยิ่งไม่ได้ไปประชุมที่สำนักพระราชวังตอนเช้า ก็จะอยู่ที่ห้องหนังสือ

แต่ทว่า!

เรื่องการประชุมพระราชสำนักในตอนเช้า หากเย่แจ๋หยิ่งอารมณ์ดีก็จะไป หากอารมณ์ไม่ดีก็จะไม่ไป ดังนั้นปกติแล้วเขาจะไม่เข้าไป

กระนั้นแล้วตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่ห้องสมุด แสดงว่ามีเรื่องที่เขายังไม่รู้งั้นหรือ?

“ข้าก็กำลังอาบน้ำ!”

“อาบน้ำ?” มุมปากของคุณชายเหลียงเฉินกระตุก

เช้าตรู่ขนาดนั้นวิ่งไป

อาบน้ำ ข้าฟังไม่ผิดใช่หรือไม่?

เวลานี้!

พ่อบ้านเหมยเอามือปล้องหูและกระซิบข้างหูเขาเบาๆว่า : เมื่อคืนท่านอ๋องพักอยู่ในห้องพระชายาทั้งคืนขอรับ เมื่อเช้าตรู่ก็ไปอาบน้ำ เป็นเรื่องปกติขอรับ”

ฐานนะคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน พูดถึงตอนนี้ แววตาพ่อบ้านเหมยที่ดูกังวลก็เปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความปลื้มปีติ

“พวกเขาทั้งสองเรียบร้อยกันแล้วหรือ?” คุณชายเหลียงเฉินอดไม่ได้ที่จะสงสัย

ด้วยกลยุทธ์พวกนั้นที่เย่แจ๋หยิ่งใช้ในสนามรบ สองคนนั้นจะพัฒนาได้รวดเร็วขนาดนั้นเชียวหรือ?”

หรือว่า……หลานเยาเยาชอบแบบนั้น?

แต่ว่า เมื่อเห็นความสงสัยในดวงตาของพ่อบ้านเหมย เขาจึงถามต่อว่า: “ท่านยังมีรายละเอียดอื่นที่ยังไม่เล่าหรือไม่?”

“ท่านอ๋องอาบน้ำเย็นขอรับ!”

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อบ้านเหมยสงสัยมาก อาบน้ำเย็นในฤดูใบไม้ร่วงเนี๊ยนะหรือ? ท่านอ๋องชอบแช่น้ำพุร้อนมากนี่นา?

ใครจะรู้……

คุณชายเหลียงเฉินกลับหัวเราะฮ่าๆออกมาเสียงดัง

สรุปว่าเป็นดังที่เขาคาดไว้ เย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ยงคงกระพันมาตลอดจะต้องรอคอยต่อไป

นี่มันเรียบร้อยอะไรกันเล่า!

นี่มันอาบน้ำเย็นเพื่อลดความลุ่มร้อนในร่างกายต่างหากล่ะ!

“เหอะเหอะเหอะ……” คิดไว้อยู่แล้ว คุณชายเหลียงเฉินกลับหัวเราะด้วยเสียงต่ำขึ้นมาอีกครั้ง

“นี่ เจ้าเด็กน้อย กล้าหัวเราะเยาะท่านอ๋อง ระวังท่านอ๋องจะเห็นเข้านะ!” เห็นคุณชายเหลียงเฉินหัวเราะเยาะเช่นนี้ พ่อบ้านเหมยก็รู้ได้ทันทีว่าคืออะไร จึงแสร้งทำเป็นตักเตือน

ก็มีเพียงเขาที่กล้าหัวเราะเยาะท่านอ๋อง

หากว่าเป็นผู้อื่น ไม่รู้ว่าต้องตายไปกี่ครั้งแล้ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท