อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 17 แบบอย่างของเขา

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 17 แบบอย่างของเขา

ตอนพิเศษ 17 แบบอย่างของเขา

อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วทันที ใบหน้าของนางมืดมนลง

นางจ้องมองหงเย่ด้วยสายตาแน่วแน่ รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของนาง “ชีวิตของหลานสุ่ยชิงในจวนหลานเป็นที่ไม่น่าพอใจหรือไม่?”

“หวางเฟยต้องการให้ข้าไปตรวจสอบหรือไม่เพคะ?” แม้จะไม่รู้ว่ามันไม่น่าพอใจหรือไม่ แต่หากตัดสินจากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เห็นทีจะไม่น่าพอใจเอามาก ๆ

อวี้ชิงลั่วไม่เคยสนใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ภายในครอบครัวของผู้สูงศักดิ์คนอื่น และไม่เคยชอบมันเลย ในตำหนักของนางนั้น เนื่องจากเย่ซิวตู๋อยู่กับนางมานานกว่าสิบปี ทำให้คนรับใช้ในตำหนักทุ่มเทจงรักภักดี ทั้งเหวินเทียน โม่เสียน เสิ่นอิงและคนอื่น ๆ ต่างดูแลภรรยาของพวกเขาเป็นอย่างดี และคู่ของนางเองก็เช่นกัน ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาในตำหนักอ๋องซิวจึงมีความปรองดองอยู่เสมอ

เมื่อได้ยินคำพูดของหงเย่เมื่อครู่นี้ ก็ทำให้นางเริ่มสนใจความสัมพันธ์ของคนสกุลหลาน

แต่การสืบเรื่องเช่นนี้…

อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า “ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร หนานหนานยังไม่ได้พูดอะไรจนถึงตอนนี้ และช่วงนี้เขาก็ยุ่งมาก เขาจึงอาจจะยังไม่ได้ตรวจสอบสถานการณ์ในจวนหลาน เนื่องจากนางคือหญิงที่เขาหลงรัก ก็ปล่อยให้เขาตัดสินใจเองดีกว่า”

นางเงียบไปชั่วครู่ แล้วจู่ ๆ ก็ถามหงเย่ว่า “หนานหนานบอกว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?”

“เหวินเกอส่งข้อความกลับมาบอกว่าธุระของเขาใกล้เสร็จแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะกลับมาคืนนี้หรือเช้าตรู่วันพรุ่งนี้เพคะ” เหวินเกอเป็นลูกชายของนางกับเหวินเทียน ปีนี้เขาอายุสิบสอง แต่เขาได้ฝึกร่วมกับหนานหนานและเป็นคนฉลาดมาก

อวี้ชิงลั่วเริ่มเคาะนิ้วกับโต๊ะเบา ๆ พลางขมวดคิ้วครุ่นคิด หลังจากนั้นไม่นานนางก็เงยหน้าขึ้นพูดว่า “เจ้าไปเรียกเย่ฉิงเป่ยมา”

“เพคะ”

เย่ฉิงเป่ยอายุสิบสองปี แม้จะยังเด็ก แต่มีนิสัยรักสงบมาก

สิ่งที่เขาชอบที่สุดคือการอ่าน เขาเก็บตัวและไม่ค่อยสนใจหนานหนานและเนี่ยนเนี่ยน จึงเลือกเรือนที่อยู่ห่างไกลผู้คนและเงียบสงบเป็นพิเศษ เพราะเขาจะได้อ่านหนังสือ และฝึกวิทยายุทธ์ได้ตลอดทั้งวัน แทบไม่ได้ออกไปไหนหรือมาปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่นเลย

ลูกชายคนนี้มักทำให้อวี้ชิงลั่วลืมว่ามีเขาอยู่ด้วย บางครั้งนางก็รู้สึก… ละอายใจ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเขาไม่เหมือนกับหนานหนานที่มีความคิดแบบเดียวกับเย่ซิวตู๋ ซึ่งก็คือไม่กระหายในอำนาจและสถานะ และเขาไม่เหมือนเนี่ยนเนี่ยนที่รักสมุนไพร ยาพิษ และทักษะทางการแพทย์เพื่อรับช่วงต่อจากนาง แต่เขาต้องการสอบเพื่อเป็นขุนนางในราชสำนัก

สิ่งที่ทำให้นางอยากกระอักเลือดมากที่สุดก็คือ แบบอย่างของเขาคือเสนาบดีฝั่งขวาหลีจื่อฟาน เขามุ่งมั่นที่จะเป็นขุนนางเหมือนหลีจื่อฟาน และจะช่วยเย่หลานเฉิงในอนาคต

เพราะเย่ฉิงเป่ย,อวี้ชิงลั่วถึงเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง

แม้ว่าเก้าบุตรแห่งมังกรจะแตกต่างกัน แต่นางเป็นคนเลี้ยงดูลูกทั้งสามคนด้วยตัวเอง เหตุใดนิสัยของพวกเขาถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้?

อวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ขณะที่หงเย่รีบพาเย่ฉิงเป่ยมาอย่างรวดเร็ว

“เป่ยเป่ย มานี่สิ” อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยรอยยิ้ม

เย่ฉิงเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ทุกครั้งที่มารดาเผยรอยยิ้มเช่นนี้ เขาจะมีลางสังหรณ์ที่เลวร้ายมาก

แม้ว่าเขาจะคิดเช่นนั้นในใจ เขาก็เดินไปอยู่ข้างอวี้ชิงลั่วอย่างเชื่อฟัง

“เป่ยเป่ย วันนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นในตำหนัก เจ้ารู้หรือไม่?”

“มีคนตกน้ำสินะขอรับ” แม้ว่าเย่ฉิงเป่ยจะอยู่ในเรือนเล็ก ๆ ของเขาตลอดเวลา แต่เขาก็ยังมีหูตาอยู่ทั่ว โดยปกติแล้วเรื่องในตำหนักไม่อาจเล็ดลอดสายตาเขาไปได้ นับประสาอะไรกับเหตุการณ์วุ่นวายของเสิ่นเหวินเสียน

ดวงตาของอวี้ชิงลั่วเป็นประกาย “เป็นเช่นนั้นแหละ อีกไม่นานพี่ชายของเจ้าจะกลับจวนแล้ว เมื่อเขากลับมา เจ้าไปเล่าให้เขาฟังสิว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ดีหรือไม่?” จากนั้นนางก็เล่าเรื่องทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่หลานสุ่ยชิงเป็นคนทำด้วย

“เหตุใดข้าต้องเป็นคนเล่าด้วยขอรับ?” เย่ฉิงเป่ยมองแม่ของตนอย่างเสียไม่ได้

อวี้ชิงลั่วพูดตามตรงว่า “แม่ทำเพื่อประโยชน์ของเจ้าเอง เห็นหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ออกมานอกเรือนทั้งวัน และเจ้าก็ไม่ค่อยได้คุยกับพ่อแม่เมื่ออยู่ในตำหนักด้วย นับประสาอะไรกับพี่ชายของเจ้าที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เพราะเขางานยุ่งมาก เป็นพี่น้องต้องคุยกันให้มากกว่านี้ แม่เป็นคนเปิดโอกาสให้นะ รู้หรือไม่?”

“…ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวคนโตของสกุลหลานเฉลียวฉลาด คนที่ตกน้ำก็จะเป็นนาง และท่านแม่ในฐานะคนจัดงานเลี้ยงบัวครั้งนี้ ก็ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ท่านแม่คิดว่าถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องแบบนี้ ท่านแม่ก็แน่ใจว่าเขาคงทนไม่ไหวแน่ ใช่หรือไม่ขอรับ?” เย่ฉิงเป่ยเลิกคิ้ว

อวี้ชิงลั่วรู้สึกว่าลูกชายคนนี้ฉลาดเกินไปจนไม่น่ารัก นางจึงยกมือขึ้นหยิกแก้มเขา

ด้วยสายตาที่เฉียบคมและมือที่ฉับไว เย่ฉิงเป่ยถอยหลังหนีทันที ปล่อยให้มือของอวี้ชิงลั่วค้างอยู่ในอากาศ

เขายกยิ้มอ่อนโยนแล้วยืนขึ้น “ได้ขอรับ ข้าจะบอกพี่ใหญ่ และจะรับความรับผิดชอบหน้าที่ที่ท่านแม่มอบหมายให้สมบูรณ์ขอรับ”

“แม่ให้โอกาสเจ้าได้ฝึกพูด เจ้าต้องขอบคุณแม่สิ” อวี้ชิงลั่วตะโกนไล่หลังเขาไป

เย่ฉิงเป่ยโบกมือโดยไม่หันกลับมามอง แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากว้างขึ้น

สุดท้ายอวี้ชิงลั่วก็ไม่ได้ไปหาหลานสุ่ยชิง ไม่ใช่เพราะนางไม่ต้องการ… แต่เพราะนางล่าช้าไปก้าวหนึ่ง เมื่อฮูหยินของเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ได้ยินว่าลูกสาวตกน้ำ ก็รีบมาทันที นางทำได้เพียงประกาศว่านางตกใจกลัวอยู่ ทำให้งานเลี้ยงสิ้นสุดลง และทุกคนต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน

ส่วนหลานสุ่ยชิงก็พาเยียนจือ… เข้าไปในรถม้าของจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว

รถม้าที่นางนั่งเมื่อตอนขามาต้องกลับไปที่ร้านขายขนมเพื่อขนของ สองพี่น้องสกุลหลานก็ตกใจเช่นกันที่เสิ่นเหวินเสียนตกน้ำ พวกนางจึงกลับไปก่อนเวลา โดยไม่คิดจะรอนางเลย

จวิ้นจู่จิ่นซิ่วรู้สึกถูกชะตากับนางตั้งแต่แรกเห็น เมื่อเห็นว่ารถม้าของจวนหลานกลับไปแล้ว นางก็รู้สึกโมโหเล็กน้อย และอาสาไปส่งหลานสุ่ยชิงกลับทันที

หลานสุ่ยชิงมองสายตาที่มองนางอย่างมีเลศนัย ราวกับว่ามีเรื่องจะพูดกับนาง นางจึงเลิกคิ้วขึ้นและตอบตกลงทันที

แน่นอนว่าทันทีที่ทั้งสองขึ้นรถม้าแล้ว จิ่นซิ่วก็ดึงมือนางแล้วหยอกล้อว่า “เสิ่นเหวินเสียนตกน้ำ เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?”

หลานสุ่ยชิงผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินนางพูดต่อ “เนี่ยนเนี่ยนมาหาข้า และบอกข้าว่านางต้องการชวนเจ้าสองคนไปว่ายน้ำในทะเลสาบ แต่ก่อนจะได้ว่ายน้ำในทะเลสาบ นางก็ตกลงไปในน้ำอย่างไม่มีเหตุผล ข้าไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ข้าคิดว่าเจ้าทำได้ดีมาก เสิ่นเหวินเสียนนั่น ข้าไม่ชอบนางมานานแล้ว การคิดว่าพ่อตัวเองเป็นเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ แล้วมาวางท่าเย่อหยิ่งตลอดทั้งวันนั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย”

หลานสุ่ยชิงหัวเราะ “จวิ้นจู่ ข้าไม่ได้ทำอะไร มีคนบอกว่าคุณหนูเสิ่นตกลงไปในทะเลสาบเพราะตกใจแมลงที่ร่วงลงมาจากต้นไม้ต่างหาก”

จิ่นซิ่วอารมณ์ดี “ใช่ๆๆ เจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ คนสกุลเสิ่นนั่นเป็นคนชั่วร้าย สมควรได้รับรางวัลตอบแทนความชั่วร้าย”

นางพูดแล้วก็หัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นใบหน้าของนางก็จริงจัง นางหันไปหาหลานสุ่ยชิง แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า “แต่พูดตามตรง น้องสาวสองคนในครอบครัวของเจ้า ดูเหมือนจะเป็นคนมากเรื่องน่าดู พวกนางรีบกลับมาก อาจคิดวางแผนทำอะไรเจ้าอยู่ก็ได้ เจ้าต้องระวังตัวเมื่อกลับไป เอ่อ ให้ข้าพาเจ้าเข้าไปส่งด้วยดีหรือไม่?”

หลานสุ่ยชิงส่ายหน้า “มันเริ่มสายแล้ว มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นในตำหนักอ๋องซิว ข้าเกรงว่าองค์หญิงคงกำลังรอให้ท่านกลับไปอย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลหรอก ข้าจะดูแลตัวเองเมื่อข้ากลับไป ข้าจะเสียใจมากหากต้องอ้างชื่อของท่านเพคะ”

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

น้องเล็กตำหนักอ๋องซิวนี่ท่าจะมาสายบุ๋นนะ เก็บตัวเงียบไม่อะไรกับใคร แต่ฉลาดเป็นกรด

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท