(ผู้แปล คำเตื่อนระวังซ้ายขวาหน้าหลังก่อนอ่านละ)
“กลิ่นตัวเจ้าแย่สุดๆ เลยนี้ เจ้าควรที่จะไปอาบน้ำเดียวนี้สะนะ”
นั่นเป็นประโยคที่เจ้าหญิงกอริลล่าพูดกับผมหลังจากที่ผมรายงานการกลับมาของผมด้วยท่าคุกเข่าอยู่หน้าห้องของเธอหลังจากที่ถูกเธอเรียกทันทีที่กลับมา
…เอาจริงนา มันแย่ขนาดนั้นเลยเรอะ?
ถ้าให้อธิบายละก็
ผมก็ชะล้างร่างกายในแม่น้ำหลายครั้งระหว่างทางกลับมาอยู่นะ ร่างกายต้องสะอาดเพื่อป้องกันบาดแผลติดเชื้อ
ดังนั้นผมจึงใส่ใจเรื่องสุขอนามัยอย่างมากนะขอบอก
หรือกลิ่นตัวกุแย่ขนาดนั้นจริงๆ ว่ะ?
“อ่ะคงกำลังสงสัยว่าแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ข้าไม่ได้พูดเชิงประชดประชันหรอกนะ เพราะในมุมมองของข้านั้นคือได้กลิ่นเหม็นที่ข้ารังเกียจจริงๆ น่ะ”
จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงประตูเลื่อนเปิดเล็กน้อย ผมได้กลืนน้ำลายแต่ยังคงก้มหน้าลง
เหตุผลน่ะเหรอ?
ก็เห็นได้ชัดว่าไออุ่นๆ รั่วออกมาจากช่องประตูเลื่อนซึ่งเป็นไออุ่นจากห้องอาบน้ำนั้นเอง
ผมสังเหตุเห็นถึงเท้าเปล่าของเธอที่ดูขาวสะอาดในชุดกิโมโนที่ยับเยิน
สิ่งที่ผมพยายามจะบอกก็คือ…เด็กสาวคนนี้กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากพึ่งอาบน้ำเสร็จ
เธอคงใส่แค่ฮาโอริหรืออะไรแบบนั้นแหละ
หรือจะพูดอีกแบบก็คือ…
นี่เป็นการอาบน้ำเช้าสุดจะดีอะไรเช่นนี้
“เจ้าหญิงขอรับ ในตามความคิดของกระผมแล้ว กระผมไม่คิดว่าท่านควรที่จะเปิดประตูเลื่อนแล้วพูดกับกระผมเช่นนี้ขอรับ กระผมว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมขอรับ”
เพราะว่าแบบนี้จะทำให้ผมดูไม่ดีนะสิ…
“โอะ? หมายความว่าเช่นไรล่ะสภาพเช่นนี้? เจ้ามีตาที่หัวหรือ?”
หญิงสาวหัวเราะคิกคักและปล่อยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยอย่างน่ารังเกียจ ไม่สิ ต้องบอกว่ากอริลลาหัวเราะสิ
“ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้าเตรียมวิธีป้องกันไว้แล้วละ ดังนั้น จึงไม่มีใครจะเห็นข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะข้าใช้ชิกิงามิของตัวเองแทนที่จะใช้สาวใช้น่ะ แต่ว่าเจ้าก็เหม็นจริง ๆ นะ เจ้าเหม็นกลิ่นของพวกกระหรี่ที่ติดตัวเจ้าเลยนะสิ”
น้ำเสียงในประโยคสุดท้ายของเธอนั้นช่างไม่พอใจสุดๆ ราวกับว่าเธอได้กลิ่นกองขยะ
ทันใดนั้น ผมก็เห็นนิ้วมือของเธอเคลื่อนไหวจากการเคลื่อนไหวในเงามืดบนพื้น
ทันใดนั้น เปลวไฟสีน้ำเงิน-ขาวพุ่งออกมาข้างหน้าผม แล้วก็มีชิกิงามิสองตัวที่ถูกเผาไหม้จนเกรียมร่วงลงบนพื้นและฝุ่นลอยเข้ามาในสายตาข้า
พวกมันกระตุกและขยับเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่สุดท้ายแล้วก็ถูกเผาจนเกรียมและหมดพลังไป
“อย่าบอกนะว่าที่คือ…”
“เจ้าไม่สามารถตรวจจับวิชาการพรางตาง่าย ๆ แบบนี้ได้เลยหรือ? แม้ว่าข้าจะไม่อยากให้ข้ารับใช้เช่นเจ้ามีส่วนร่วมในสงครามกับผู้หญิงคนนั้น และข้านั้นไม่ต้องการให้สิ่งสกปรกนั้นขึ้นมาในห้องของข้า”
ใครกันที่วางชิกิงามิบนตัวผมน่ะ? น่าจะเป็นคิซึกิ ฮินะ รึเปล่านะ?
แต่เธอไม่ใช่คนที่จะใช้วิชาแบบนี้นี้นา… คงจะเป็นคนของกลุ่มที่สนับสนุนเธอที่ทำแบบนี้รึเปล่านะ?
ไม่สิ…แม้ตอนนี้สองพี่น้อง ฮินะและอาโออิจะเป็นผู้รับเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้
แม้ว่าจะมีผู้รับเลือกคนอื่น ๆ ด้วยก็ตาม แต่ผมก็ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ผู้รับเลือกคนอื่นที่เป็นสายที่สองอาจจะเป็นคนวางสิ่งนี้บนตัวผมได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงกอริลลาได้บอกว่าแล้วว่าชิกิงามิพวกนี้เป็นของท่านพี่แน่ๆ (anego-sama) (หรืออาจเป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนเธอก็ได้)…
“เจ้าหญิงขอรับ โปลดให้อภัยกับความสะเพร่าของข้าขอรับ มันคือความผิดของกระผมที่ปล่อยให้สิ่งแบบนี้เข้ามาขอรับ”
“ข้ารู้ ข้าเข้าใจแล้ว”
เจ้าหญิงกอริลลายอมรับคำขอโทษจากผม แต่ว่าจะไม่ว่ากันหน่อยเหรอ?
“ไม่ต้องห่วง ข้าก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากเจ้านักในตอนนี้ อย่างน้อย ข้าก็สามารถสอนพื้นฐานการตรวจจับการพรางตัวให้แก่เจ้าได้ แน่นอนว่าเจ้าจะไม่ได้มีโอกาศเป็นครั้งที่สองถ้าเกิดเรื่องแบบนี้คืออีกครั้ง”
เธอหัวเราะคิกคัก และยิ้มอีกครั้ง คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขปนเยาะเย้ยผสมกัน
หรือถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ ผมจะโดนเผาแน่ๆ ถ้าผิดพลาดในครั้งต่อไปหลังจากที่เธอสอนผมแล้ว อ่า เธอช่างเป็นเจ้าหญิงที่ใจดีมาก ก็เหี้ยละ เวรเอ๊ย
“….ขอบคุณเป็นอย่างสูงขอรับ ท่านเจ้าหญิง”
ตามตรงเลย ผมไม่ใช่เด็กๆ นะที่เป็นคนพูดประชดน่ะ แม้ในใจผมเองก็เถอะ
ผมจะแสดงความขอบคุณใจจริงแบบไม่แสดงอารมณ์ทางหน้ามากนัก ซึ่งต่างจากข้ารับใช้คนอื่นๆ เพราะว่ายังไงพวกเขาก็จะใช้ต้องเปิดเผยทักษะของตนจนหมด
ดังนั้นพวกเขาแทบไม่มีโอกาสมากนักที่จะเรียนรู้วิชาแบบนี้ และนี้ก็เป็นข้อมูลที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด
นั้นหมายความหากผมไม่รีบคว้าโอกาสแบบนี้ละก็ไม่สามารถทำงานกับพวกต่ำแหน่งสูงๆ หรืออำนาจสูงๆ ได้เลย หากไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ผมก็ทำอะไรไม่ได้เลย
หรือก็คือถ้าเกิดยัยนี้สอนวิชานี้ให้ผมซึ่งตัวเธอก็มีความสามารถสูงเป็นเดิมทุนอยู่แล้ว การสอนคงไม่ยากเย็นนัก ไม่รู้ว่าเพราะนึกสนุกหรืออะไรทำให้มาสอนผม แต่สำหรับการที่ผมได้มาเนี้ยเป็นดั่งทองคำเลยนะเนี้ย
“ไม่ต้องคิดมากหรอก แต่ว่าข้ามีคำถาม…หน้ากากที่ปกติที่เจ้าใส่มาอยู่ไหนละ?”
เจ้าหญิงกอริลลาจึงถามถึงเหตุผลที่ผมไม่ได้สวมหน้ากาก ราวกับว่าเธอเพิ่งสังเกตเห็น
“ข้าทำหายระหว่างภารกิจเมื่อวันก่อนขอรับ ข้าจึงกำลังจะไปเอาหน้ากากใบใหม่อยู่น่ะขอรับ”
“อ๋อ ข้าเข้าใจแล้ว…”
หลังจากเจ้าหญิงพูดเสร็จ ผมก็สังเกตเห็นจากการเคลื่อนไหวของเงาเจ้าหญิงกอริลลานั่งลง และในขณะนั้นเอง บางสิ่งบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในสายตาของผม…
“หือ…?”
ในขณะต่อมา พัดที่ถูกกางตรงหน้าผม พัดลวดลายซากุระที่สวยงามแผ่กระจายอยู่ตรงหน้าผม พัดนั้นยกหัวข้าให้ยกหัวจากที่ก้มลง
“อ่า ข้าเองก็สงสัยว่าหน้าตาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? จริงๆ ใบหน้าของเจ้าก็คุ้นเคยสำหรับข้าก็จริง แต่เจ้าก็ใส่หน้ากากบ่อยมากจนข้าลืมใบหน้าจริงของเจ้าไปเลยน่ะ”(ผู้แปล oh shit ระวังหลังดีๆ นะทุกคน)
หัวของผมเองถูกพัดลมเลื่อนไปด้านข้าง และสายตาของผมก็ตกลงไปที่ภาพระยะใกล้ของเจ้าหญิงกอริลลา ที่กำลังมองผมด้วยสายตาเหมือนพ่อค้าที่ตรวจสอบคุณภาพของสินค้า
ผมสีแดงเชอร์รี่ของเธอยาวกว่าครึ่งเล็กน้อย
เป็นลอนเบาๆ มีขนตายาว และผิวขาวของเธอที่ยังอุ่นหลังจากอาบน้ำก็เปล่งประกายราวกับทาน้ำมันหอม
เธอยิ้มบางๆ และดวงตาสีพีชที่สว่างแต่ลึกลับก็ดูแคบและกึ่งเปิด ดูร้ายและน่ารังเกียจ กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ลอยมาที่จมูกผม
ราวกับว่าเธอได้อาบน้ำในธูปหรืออะไรทำนองนั้น
เจ้ากอริลลานี่ก็น่าตลกดีนะ
แต่คนวาดก็วาดหน้าเธอได้ดีอยู่นะ เอิกๆ
จริงๆ แม้ผมก็เห็นเธอมาหลายปีแล้ว
เลยไม่ค่อยตอบสนองต่อความสวยของเธอมากนัก…
ไม่สิ จริงๆ ผมก็ค่อนข้างตอบสนองเล็กน้อยที่เห็นไหล่และกระดูกไหปลาร้าของเธอหลังจากอาบน้ำ
โดยเฉพาะส่วนบนของหน้าอกเธอ
แม้ว่าปลายของพัดจะปิดไว้
ถ้างั้นแสดงว่าร่องอกเธอ…ถ้าไม่ใช่คัพ C ก็คงเป็น D งั้นสินะ? นอกจากนี้เธอก็ยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตใช่ไหมนะ?
เอาจริงดิ ใหญ่เอาเรื่องอยู่นะเนี้ย
“โอ้? คิดว่าเจ้าจะตอยสนองที่มีอะไรที่มากกว่านี้สะอีก?”
“ในฐานะข้ารับใช้มันก็เป็นปกติน่ะขอรับที่ไม่ควรตอบสนองแบบนี้ กระผมขออนุญาติถามขอรับ ว่าท่านอยากให้ข้าตอบสนองเช่นไรขอรับ”
ผมนั้นได้ถามเธอกลับไป ซึ่งจริงๆ ผมก็พยายามรักษาท่าทีให้สงบไว้ตั้งแต่แรกแล้วละ
จริงๆ ผมก็เห็นเธอเปลือยหลายครั้งในเกม
และกระทั่งผมก็ยังอาบน้ำและดูแลเธอขณะที่เธอวิ่งหนีผม
เมื่อตอนเธอยังเป็นเพียงเด็กเหลือขออยู่(ผู้แปล หรือก็คือสมัยยังต้องโดน correction ???????????????? ????????????????????)
ดังนั้นมันก็สายไปที่จะรู้สึกอะไรตอนนี้แล้วละ(ผู้แปล โกแมนกอลิล่าจัง)
“ก็นะ ข้าคิดว่าเจ้าจะร้องไห้จนเลือดไหลออกมาแทนน้ำตาเพราะว่ามันเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่เจ้าจะได้เห็นผิวเนียนนุ่มของข้าแบบนี้”(ผู้แปล ????????????????)
“ถ้าให้ร้องให้จนเลือดมันไหลแทนน้ำตาอาจจะยากน่ะขอรับ แต่ข้าสามารถทำให้ตัวเองร้องไห้แทนได้ขอรับ ต้องการให้ข้าทำหรือเปล่าขอรับ?”
“เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า? มันไม่เท่เลยที่จะดูเจ้าทำแบบนั้นเพียงเพราะถูกบอกให้ทำ งั้นก็ได้ออกไปจากที่นี่และไปอาบน้ำได้แล้วซะ”
เจ้าหญิงกอริลลาดึงพัดลมออกจากคางของผมและปิดมันด้วยการสะบัดเสียงดัง ในเวลาเดียวกัน เธอก็หมุนตัวและหันหลังให้ผม สวมเพียงฮาโอริเพียงอย่างเดียว
ผมก็ได้ก้มคุกเข่าอีกครั้ง
ก้มศีรษะและเชื่อฟังคำสั่งของเธอ…แต่ก่อนอื่นผมจะถามคำถามบางอย่างก่อน
“ถ้าท่านไม่ว่าอะไรผมขออนุญาติถามคำถามเพียงอย่างเดียวได้หรือไม่ขอรับ?”
“โอ้? แล้วเจ้าอยากจะรู้อะไรรึ?”
เจ้ากอริลลาได้หันกลับมาเหมือนว่าเธอได้คาดการณ์แล้วว่าผมจะถามอะไร
และหันกลับมาด้วยรอยยิ้มที่พอใจบนใบหน้าของเธอ แม่ง มันช่างน่ารำคาญจังว่ะ(ผู้แปล ไปหน้าแบบนั้นต้องโดนสั่งสอน ???????????????????????????????????????????? UOHHHHHHHHHHH)
“ห้องน้ำของข้ารับใช้จะเปิดตอนพลบค่ำน่ะขอรับ คงจะไม่สามารถอาบน้ำได้จนกว่าจะถึงตอนช่วงค่ำดึกขอรับ”
“ข้ารู้เรื่องนั้นดีน่า ข้าว่าข้าก็ไม่ได้ให้คำสั่งที่มันยากอะไรขนาดนั้นนะ?”
“ถ้างั้น…”
“ข้ายังมีน้ำร้อนที่ข้าเพิ่งใช้อาบไป ไปใช้ซะละ คงไม่มีใครจะบ่นเจ้าด้วยเพราะเจ้าเพียงใช้น้ำที่เหลือ”
เดียวก่อนสิ พระคุณแม่เจ้าหยุดเลย หยุดเลย นั้นหมายความว่าจังใดหนิ?
จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าเป็นจะเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
“เจ้าหญิงขอรับ? นั่นหมายความว่าเช่นไร…?”
“ข้าได้จุดธูปและต้มเกลืออาบน้ำในห้อง ดังนั้นกลิ่นอาจจะแรงหน่อย แต่ก็ยังดีกว่ากลิ่นที่เจ้าทีอยู่ในตอนนี้”
เดียวดิๆ เอาจริงดิ? มันจะไม่ชิบหายวายป่วนเลยเหรอว่ะ ถ้าใครรู้เรื่องนี้เข้า?
“อย่ากังวลไปเลย ข้าสร้างวอร์ดไว้เพื่อกันคนไม่ให้เข้ามาที่นี่แล้ว และก็คงจะทนไม่ได้ถ้ากลิ่นนั้นทำให้ยังติดตัวเจ้าอยู่ ดังนั้น ถ้าครั้งหน้าเจ้ายังมีกลิ่นเดิมอยู่ละก็…คงจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันน่ะ?”
ผมก้มศีรษะลงด้วยความเคารพพร้อมกับเหงื่อเย็นบนใบหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ และผมยังนึกถึงท่าทีของกอริลลาผู้ทรงพลังพร้อมกับรอยยิ้มร้ายๆ บนใบหน้าของเธอ
