เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – บทที่ 27 ไม่แคร์

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

แม้ว่าเธอจะมองเห็นหน้าหนานกงเฉินไม่ชัด แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงอาการเกร็งของร่างกาย สงสัยคง……แทงใจดำเขาเป็นแน่?”

ทำยังไงดี? เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!

สักพัก หนานกงเฉินจึงยิ้มอย่างไม่แยแส: “ทำไมไม่พูดต่อ? ขี้เหร่หรอ?”

“ขอโทษ……อื้อ……” คำขอโทษของไป๋มู่ชิงถูกกลืนกลับไป มาพร้อมกับสัมผัสหยาบๆของเขา

ก็รู้อยู่แล้วไม่ควรทำให้เขาโกรธ

ไป๋มู่ชิงรู้สึกเสียใจ แต่ก็สายเกินไปแล้ว!

ส่วนหนานกงเฉินเมื่อเสร็จกิจก็ลุกขึ้นนั่งเหมือนทุกครั้ง เตรียมจะลงจากเตียงแล้วจากไป คล้ายกับถ้าเธอไม่ไปผมไปเอง

เสียงฝนและฟ้าร้องเงียบไปแล้ว ข้างนอกไม่ได้น่ากลัวเหมือนเดิม แต่ไป๋มู่ชิงยังคงยื่นมือไปดึงมือเขาแล้วพูดว่า: “คุณผู้ชาย ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ”

ในความมืด สีหน้าของหนานกงเฉินหงุดหงิดขึ้นมาแวบหนึ่ง ไม่หันหน้ากลับไปพร้อมถามว่า: “เรื่องอะไร?”

“ฉัน……คืออย่างนี้ วันที่ 20 เดือนหน้าน้องสาวฉันจะหมั้นกับแฟนของเธอ ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไม่ไปงาน แต่แม่เลี้ยงฉันนำการ์ดเชิญมาให้ถึงบ้านตระกูลหนานกงวันก่อน และกำชับว่าพวกเราที่เป็นพี่สาวและและพี่เขยควรไปร่วมงานพร้อมกัน”

เธอพูดอย่างลังเลเล็กน้อย กลัวหนานกงเฉินจะปฏิเสธ

“แล้วยังไงหรอ?” หนานกงเฉินพูดอย่างไม่แยแส

“ดังนั้น……ฉันอยากให้คุณไปร่วมงานกับฉัน” ไป๋มู่ชิงถามอย่างระมัดระวัง: “ได้ไหม……”

หนานกงเฉินหันมาในที่สุด มองไปยังมุมที่เธออยู่และยิ้มเย็นๆ: “เธอจะพาผมไปร่วมงานพิธีหมั้นของนางสาว? เธอแน่ใจ?”

ถ้าเขาจำไม่ผิด เธอน่าจะรักหลินอันหนานมากอยู่นะ และยังเคยร้องไห้เพื่อเขาอีก และเขายิ่งไม่มีทางลืมสิ่งที่ได้ยินได้เห็นในร้านกาแฟวันนั้น พวกเขาเชิญเธอไปร่วมงานพิธีหมั้น เห็นชัดๆว่าวางแผนจะสบประมาทเธอต่อหน้าแขกคนอื่นๆ

ตกลงว่าผู้หญิงคนนี้โง่เกินไป? หรือว่าเขลาเกินไป? หรือเป็นพวกมีพฤติกรรมชอบทำร้ายตัวเอง?

ไป๋มู่ชิงพยักหน้า กลัวเขาไม่เห็นจึงพูดว่า: “ใช่ ฉันแน่ใจ”

“เธอไม่กลัวเหรอ?”

“กลัวอะไรหรอ? เมื่อไป๋มูชิงถามจบก็เข้าใจว่า เขาน่าจะหมายถึงหน้าตาเขาแล้วส่ายหน้า: “ฉันไม่แคร์ว่าคนอื่นจะว่าฉันยังไง แต่ถ้าคุณแคร์ งั้นก็……ช่างมันเถอะ”

“งั้นเธอก็ไปเองนะ” หนานกงเฉินเอี้ยวตัวเตรียมลงจากเตียง

ในเมื่อเธอชอบรนหาที่ นั้นก็ให้เธอโดนดูถูกไปคนเดียวแล้วกัน

“คุณชาย……”ไป๋มู่ชิงคว้ามือเขาไว้อีกครั้ง หนานกงเฉินหันหน้ามาอีกครั้ง พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด: “มีอะไรอีก?”

ไป๋มู่ชิงนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า สุขภาพเขาไม่ค่อยดีอยู่แล้วถ้าเป็นหวัดอีกคงจะแย่ เธอหยิบผ้าห่มข้างนึงห่มบนให้เขา และใช้มือข้างเดิมแตะข้างแก้มเขาเบาเบา: “คุณผู้ชาย จริงๆ แล้วสายตาของคนภายนอกไม่ได้น่ากลัวนะ หน้าตาของเราติดตัวมาตั้งแต่เกิด เป็นสิ่งที่แม่เสี่ยงชีวิตมอบให้กับพวกเรา แม้ว่าข่าวลือข้างนอกจะไม่น่าฟังเลย แต่คุณก็ไม่ควรหลบอยู่ในมุมมืดไม่เจอผู้คนเลยเพราะเรื่องนี้ หน้าตาขี้เหร่ไม่ใช่เวรกรรม ไม่ได้ผิดกฎหมาย จริงไหม”

“จริงหรอ? เมื่อกี้เธอเพิ่งแสดงความรังเกียจไป?”

“ฉันเปล่า ก็คุณทำให้ฉันโกรธก่อน เลยพูดไม่ทันคิด”

หนานกงเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย: “แล้วเธอคิดว่าฉันควรทำยังไง? ออกไปเจอหน้าผู้คนอย่างเปิดเผยพร้อมประกาศว่า ‘ผมขี้เหร่ผมภูมิใจ’เหรอ?”

“นั่นก็ดีกว่า คุณแอบในมุมมืดแล้วประกาศว่า’ผมขี้เหร่ผมละอายใจ’นะ”ไป๋มู่ชิงตอบพึมพำ

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

Status: Ongoing
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท