เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 968 เค้นเอาประโยชน์จนหยดสุดท้าย

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 968 เค้นเอาประโยชน์จนหยดสุดท้าย

บทที่ 968 เค้นเอาประโยชน์จนหยดสุดท้าย

เสนาบดียุติธรรมเข้าควบคุมตัวเฉิงกังอย่างรวดเร็ว ต่างจากทูตยุทธ์เสื้อแพร พวกเขาไม่ได้ใช้การทรมาน แต่ปฏิบัติต่อเฉิงกังอย่างสุภาพ พวกเขาไม่เพียงรักษาบาดแผลให้เฉิงกังเท่านั้น แต่ยังนำอาหารและเครื่องดื่มมาให้ด้วย

เสนาบดียุติธรรมเจียงป๋อหยางเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายของราชันลมปราณ

หลังจากนั้นไม่นาน เสนาบดียุติธรรมพลิกคำพิพากษาของทูตยุทธ์เสื้อแพร และวิพากษ์วิจารณ์ทูตยุทธ์เสื้อแพรต่อไปว่าทรมานนักโทษเพื่อสะสางความแค้นส่วนตัวของพวกเขา

จูเซี่ยฉือซินอ้างว่าทั้งหมดเป็นการใส่ร้าย ในเวลาเดียวกันเขาก็ตอบโต้โดยอ้างว่าเสนาบดียุติธรรมกำลังสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลเฉิงเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว เนื่องจากเฉิงซยงมักจะเมินเฉยกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องฝ่ายราชันลมปราณ

หน่วยงานทั้งสองนี้ปะทะกันในราชสำนัก ส่งผลให้มีการสอบสวนครั้งที่สาม ซึ่งดำเนินการโดยผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์

อำนาจทั้งหมดถูกย้ายจากเสนาบดียุติธรรมไปยังผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ เป็นอีกครั้งที่เฉิงกังหลุดพ้นจากแสงสว่างและเข้าสู่คุกมืดที่ไม่ต่างจากนรก

ตอนที่อยู่ในความดูแลของเสนาบดียุติธรรมสองสามวัน เฉิงกังได้รับการรักษาด้วยยาหลากหลายแบบจนอาการบาดเจ็บจากการถูกทรมานโดยเหล่าทูตยุทธ์เสื้อแพรหายดี

บาดแผลของเขาซึ่งเพิ่งตกสะเก็ดเปิดออกอีกครั้ง เขาได้แต่กรีดร้องเพื่อขอความเมตตา

หลังจากประสบการณ์เลวร้ายจากน้ำมือของทูตยุทธ์เสื้อแพร เขารู้ว่าการกัดฟันแบกรับความเจ็บปวดนั้นไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะอย่างไร ท้ายที่สุดเขาก็จะทนไม่ไหวจนเปิดปากสารภาพอยู่ดี

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ เขาจะสารภาพหลังจากที่เขาทรมานจนทนไม่ไหวแล้ว หรือว่าเขาจะช่วยเหลือตัวเองให้พ้นจากความเจ็บปวดด้วยการชิงสารภาพแต่เนิ่น ๆ

ผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ได้รับคำสารภาพด้วยวาจาจากเฉิงกังอย่างรวดเร็ว โดยระบุว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับนักฆ่าโดยการบงการของเฉิงซยงผู้เป็นบิดา

ก่อนหน้านี้ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์คือคนของฝ่ายราชันลมปราณ แต่เหตุการณ์ลอบสังหารซูอันเมื่อตอนเข้ามาในเมืองหลวงครั้งแรก ทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งและถูกย้ายไปยังตำแหน่งหัวหน้างานของข้ารับใช้แทน

ผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ที่ถูกแต่งตั้งใหม่คือ เฉาซิ่ง พ่อของเฉาโฮ่ว อาจารย์พิเศษของรัชทายาท ดังนั้นเขาจึงอยู่ฝ่ายรัชทายาทอย่างแน่นอน ตอนนี้เขาได้รับโอกาสแล้ว เขาจึงใช้มันอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สนับสนุนจำนวนมากจากมู่หรงถง ผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์คนก่อน หลายคนประณามการสอบสวนของเฉาซิ่งว่าได้รับคำสารภาพภายใต้การทรมาน ก่อให้เกิดความโกลาหลอีกครั้ง

หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของซูอันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น อวิ้นเจียนเยว่เดินไปที่หน้าต่าง นางจ้องมองไปที่โถงบัลลังก์ที่อยู่ห่างไกลและหัวเราะเยาะ “ขุนนางเหล่านั้นพูดถึงความเห็นอกเห็นใจ หน้าที่ ความเหมาะสม และความซื่อสัตย์สุจริต แต่แท้จริงแล้วทุกคนล้วนกระทำโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัว วันหนึ่งความละโมบจะยิ่งบานปลายจนนำไปสู่หายนะ”

ซูอันกล่าวว่า “แม้ว่าพวกเขาจะทะเลาะกัน แล้วอย่างไรล่ะ? หากจักรพรรดิคอยดูแลอยู่ หายนะประเภทใดที่จะตามมาได้?”

“จักรพรรดิจะต้องพินาศเข้าสักวันหนึ่ง!” อวิ้นเจียนเยว่พูดขึ้น

ซูอันตกใจ “ท่านมั่นใจได้อย่างไร?” เขาถาม

อวิ้นเจียนเยว่ตอบกลับ “มีข่าวลือว่าจักรพรรดิได้รับบาดเจ็บสาหัสในการต่อสู้กับจักรพรรดิมาร มันร้ายแรงพอที่จะทำให้อายุขัยของเขาสั้นลง ก่อนหน้าไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่หลังจากที่ข้าต่อสู้กับเขาไป ข้าแน่ใจว่าเขาได้รับบาดเจ็บจริง ๆ”

“รู้ได้อย่างไร ท่านแค่ประมือกับเขาแค่อึดใจเดียวไม่ใช่เหรอ?” ซูอันกล่าวอย่างงุนงง

ท่านยั่วยุอวิ้นเจียนเยว่สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444…444…444…

อวิ้นเจียนเยว่จ้องมองเขา ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงปากสุนัขอยู่เสมอ?

นางปรับอารมณ์ให้เย็นลงชั่วครู่ก่อนจะตอบ “เมื่อพิจารณาถึงระดับการบ่มเพาะของจักรพรรดิแล้ว ข้าคงไม่รอดถ้าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ”

ซูอันตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “ไม่รอด? ท่านเป็นปราชญ์ไม่ใช่เหรอ? ช่องว่างของการบ่มเพาะห่างกันมากขนาดนั้นได้อย่างไร?”

“นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมคนอื่นถึงเรียกเขาว่าเซียนปฐพี! คนระดับเช่นเขามีความแข็งแกร่งก้าวข้ามความเป็นมนุษย์ไปครึ่งก้าวแล้ว แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่เก่งกาจที่สุดในใต้หล้าก็ยังคงเป็นมนุษย์ ความแตกต่างนั้นมากเกินไป” ดวงตาของนางดูเต็มไปด้วยความปรารถนาไปยังขอบเขตการบ่มเพาะอันไกลโพ้น

นางใช้เวลาครู่หนึ่งจึงหลุดพ้นจากอาการเหม่อลอย หลังจากนั้นนางมองซูอันอย่างมีความหมาย “โชคดีที่วิชาวัฏจักรหงส์อมตะของเจ้าไม่สามารถให้ความเป็นอมตะที่แท้จริงได้ หากจักรพรรดิไม่มีวันตายจริง ๆ คนอย่างเราจะไม่มีโอกาสได้โงหัวขึ้นมา”

ซูอันรู้ว่านางยังคงพยายามหาข้อมูลจากเขา ดังนั้นเขาจึงตอบว่า “ไม่ต้องห่วง เขาจะไม่ได้รับความเป็นอมตะผ่านวิชาวัฏจักรหงส์อมตะของข้า”

แน่นอน ไม่ว่าเขาจะได้มันมาด้วยตัวเองหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง

อวิ้นเจียนเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกกับการยืนยันของเขา

ซูอันถอนหายใจ จักรพรรดิจะตายช้าหรือเร็วไม่ใช่สิ่งที่เขาควรกังวลในตอนนี้ เขาต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของเฉิงกังก่อน “ตอนนี้แม้ว่าเฉิงซยง บิดาของเฉิงกังจะถูกตัดสินว่ามีความผิดทั้งจากทูตยุทธ์เสื้อแพรและผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ แต่เสนาบดียุติธรรมจะยืนกรานปฏิเสธ แม้ว่าเฉิงซยงจะถูกควบคุมตัวแล้ว แต่เราก็ยังขาดหลักฐานที่แน่ชัดในการเอาผิด”

พูดอย่างตรงไปตรงมา แผนการตอบโต้เฉิงซยงของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ เพราะพวกเขาสามารถทำให้แม่ทัพกองทหารฝ่ายซ้ายผู้มากอิทธิพลเข้าไปนอนในคุกหลวงได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายของราชันลมปราณมีอำนาจมากมาย ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่าเฉิงซยงจะถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงหรือไม่ในท้ายที่สุด?

ดวงตาของอวิ้นเจียนเยว่เปล่งประกายอย่างลึกลับ “ข้าไม่คิดว่ามันยากขนาดนั้น”

ซูอันฟังอย่างใจจดใจจ่อ เขาเริ่มหมดความอดทนกับการรอคำตอบจากนาง “พี่สาวเจ้าสำนักโปรดบอกข้า! ข้าสงสัยจนจะคลั่งตายอยู่แล้ว!”

อวิ้นเจียนเยว่ดีใจที่เห็นซูอันกระสับกระส่าย นางได้รับความทุกข์ทรมานมากเกินไปในช่วงวันเวลาที่อยู่กับเขา

“เจ้าลืมเกี่ยวกับสมาชิกสำนักศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ถูกจับไปหรือเปล่า?” อวิ้นเจียนเยว่ถาม “หลักฐานมีเสมอ เราแค่ต้องดูว่าเจ้าจะใช้มันได้หรือไม่”

ซูอันรู้สึกถึงประกายความคิดที่ลอยผ่านมา เขากำลังจะคว้ามันไว้ แต่ดูเหมือนมันจะเล็ดลอดผ่านเขาไป เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันไปหาอวิ้นเจียนเยว่อีกครั้ง “ข้าหวังว่าท่านจะชี้ความกระจ่างให้แก่ข้า

อวิ้นเจียนเยว่ดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของเขา “หาวิธีติดต่อพวกเขา ตราบใดที่พวกเขายอมรับว่าสมรู้ร่วมคิดกับเฉิงซยง เฉิงซยงจะถูกประหารชีวิตอย่างแน่นอน!”

ซูอันมองอวิ้นเจียนเยว่ด้วยสายตาซับซ้อน ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจเลือดเย็นอย่างคาดไม่ถึง! เชลยเหล่านั้นถึงวาระแล้ว แต่นางต้องการบีบเค้นเอาประโยชน์จนหยดสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะตาย!

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า ซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ! ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปอง ดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ? ไม่เลย! บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร! ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน “ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!” **เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง** (ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท