เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 982 กองทหารเกราะทอง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 982 กองทหารเกราะทอง

บทที่ 982 กองทหารเกราะทอง

ซูอันประสานมือคารวะตอบ “คราวหน้าข้าจะชวนท่านไปดื่มนะพี่โกว”

“ได้เลย!” โกวซือโบกมือและออกไปพร้อมกับคนของเขา

ซูอันเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้ชายคนนี้ดูค่อนข้างเรียบง่าย…ข้าหมายถึงไม่มีใครในตำแหน่งเดียวกับเขาจะโง่ได้ขนาดนี้…

นับตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเกือบจะตกเป็นเหยื่อของเฉิงซยง เขาไม่กล้าดูถูกความฉลาดของเหล่าขุนนางหรือแม่ทัพระดับสูงสักเท่าไร

บางที…โกวซืออาจเดาได้ว่าเขากำลังพยายามทำอะไร แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งล่วงหน้าของจักรพรรดิ เขาคงไม่ถอนทหารของเขาเร็วขนาดนี้

ซูอันแยกแยะความคิดของเขาแล้วเดินตรงเข้าไปในคุก

ในระดับที่ลึกที่สุดของคุก มีเสียงคนหลายคนกระซิบกระซาบกัน

“ผู้อาวุโส ท่านเพลิงเดียวดาย ทำไมตอนนี้ไม่มีใครมาช่วยเราเลยล่ะ?” เป็นกู่เยว่อีที่พูดขึ้น ความหวังในการรอดชีวิตของเขาสูงแทบจะเสียดฟ้าแล้วในทุกวันนี้ และยิ่งสูงมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกระสับกระส่ายมากขึ้นเท่านั้น

ผู้เฒ่าซุนหลูเจิ้นลืมตาขึ้น “เจ้าคิดว่าการช่วยชีวิตใครสักคนจากคุกหลวงนั้นง่ายอย่างนั้นหรือ? เจ้าต้องอดทนหน่อย!” เขากล่าว แม้ว่าร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยเลือด แต่ดวงตาก็ยังสดใส

“แล้วถ้าเขาไม่เคยคิดจะช่วยเราล่ะ? ถ้าเขาโกหกเราล่ะ?” ขณะที่กู่เยว่อีกล่าว ใบหน้าของเขาค่อย ๆ บิดเบี้ยวเมื่อคิดว่าสิ่งที่พูดมีโอกาสเป็นไปได้สูง

ซุนหลูเจิ้นและเพลิงเดียวดายเงียบไป พวกเขารู้สึกถึงความเป็นไปได้นี้เช่นกัน

ซุนหลูเจิ้นพยายามรักษาความสงบของเขาไว้ “หยุดตีตนไปก่อนไข้เสียที”

เพลิงเดียวดายเสริมว่า “ถูกต้อง และจงอย่าได้ลืมว่าก่อนเข้าโจมตีวังหลวง เราทุกคนพร้อมที่จะตายตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเขาสามารถช่วยชีวิตเราได้ เราก็จะรู้สึกขอบคุณ แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นก็ช่างมันเถอะ”

กู่เยว่อีขมวดคิ้ว เจ้าสองคนอายุมากแล้วจึงพอใจกับชีวิตที่ผ่านมา แต่ข้ายังเยาว์นัก!

เขาเก็บความคิดที่ว่า ถ้าซูอันกลับคำพูดจริง ๆ เขาจะสารภาพทุกอย่างกับโกวซือ ความลับนี้อาจมีค่าพอที่จะรักษาชีวิตของเขาได้

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น “ข้าไม่คิดเลยว่าเพลิงเดียวดายจะเป็นคนใจกว้างขนาดนี้ น่าชื่นชมจริง ๆ”

นักโทษทั้งกลุ่มหันกลับมา ทุกคนทั้งตกใจและประหลาดใจ เมื่อพวกเขาเห็นซูอัน ทั้งหมดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้คำนึงถึงชีวิตของตัวเองมากมายนัก แต่การมีชีวิตรอดย่อมดีกว่าความตายอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นกลุ่มผู้คุมยืนอยู่ข้างหลังซูอัน ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเผือด “เจ้า… เจ้าไม่ได้มาเพื่อฆ่าปิดปากพวกเราใช่ไหม?!” กู่เยว่อีถามเสียงสั่น

ซูอันหัวเราะ เขากำลังจะตอบ แต่ทันใดนั้นกลับมีเสียงเอะอะดังขึ้นกะทันหัน และผู้คุมหลายคนถูกผลักลงบันไดมา

ทหารองครักษ์เสื้อเกราะสีทองแปดคนเดินลงมาและทุบตีเหล่าผู้คุมอย่างโหดเหี้ยม “เจ้าพวกโง่! กล้าดีอย่างไรถึงมาห้ามไม่ให้เรานำตัวคนที่ราชันลมปราณต้องการพบไป!”

ความวุ่นวายทำให้ผู้คุมที่เหลือชักอาวุธออกมา ใครกันที่กล้ากระทำการอย่างโจ่งแจ้งในสถานที่ที่พวกเขาดูแลเช่นนี้?

ทว่าเมื่อได้ยินชื่อ ‘ราชันลมปราณ’ พวกเขาก็รีบเก็บอาวุธในทันที

ราชันลมปราณได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ภายในราชสำนัก และรักษาชื่อเสียงที่ดีไว้เสมอ ผู้คุมเหล่านี้จึงไม่มีใครกล้าล่วงเกิน

ทหารในชุดเกราะสีทองพึงพอใจอย่างยิ่งกับความกลัวในสายตาของเหล่าผู้คุม การมีราชันลมปราณเป็นเจ้านายทำให้พวกเขาสามารถเดินไปได้ทุกที่อย่างภาคภูมิใจ

พวกเขามาถึงด้านหน้าของซูอันด้วยท่าทางที่หยิ่งยโสจนจมูกแทบจะชี้ขึ้นไปบนฟ้า “เจ้าคือซูอันใช่ไหม?”

ซูอันมองอย่างประเมิน เขาไม่สนใจรูปร่างหน้าตาของคนพวกนี้ แต่เขาสนใจคลื่นพลังของแต่ละคน ผู้นำกลุ่มอยู่ในระดับหก ในขณะที่คนอื่น ๆ อยู่ที่ระดับที่ห้า การใช้ทักษะประสานต่อสู้รูปแบบที่ราชองครักษ์ทุกคนคุ้นเคย ทำให้คนเหล่านี้สามารถต่อกรกับผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ พวกเขายังอยู่ในพระราชวังหลวง ย่อมไม่เคยมีใครปฏิเสธการเรียกของทหารราชองครักษ์

“ข้าขอถามได้ไหมว่าทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่?” ซูอันถาม

“ราชันลมปราณให้เรามาเชิญเจ้า” หัวหน้าที่มีรูจมูกใหญ่พูดพร้อมกับประสานมืออย่างไม่ใส่ใจ

คำตอบนี้ทำให้เหล่านักฆ่าสำนักมารที่ถูกคุมขังตื่นตระหนกตกใจ พวกเขาเฝ้ารอการมาถึงของซูอันอย่างอดทน ซึ่งในที่สุดซูอันก็มา แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจากันก็กลับจะถูกคนอื่นพาตัวไปงั้นเหรอ?

ซูอันขมวดคิ้ว “รัชทายาทและองค์หญิงรัชทายาทขอให้ข้าสอบสวนนักโทษเหล่านี้ เสร็จแล้วข้าค่อยไปได้ไหม?”

ทหารรูจมูกใหญ่เย้ยหยัน “ถ้าราชันลมปราณต้องการพบใคร ปกติแล้วมันผู้นั้นจะรีบตอบรับทันทีด้วยความเคารพเกรงกลัว ใครจะกล้าหาข้ออ้างปฏิเสธอย่างที่เจ้าทำอยู่ตอนนี้?”

“เจ้ากำลังพูดว่าคำสั่งขององค์รัชทายาทและองค์หญิงรัชทายาทไร้ความหมายงั้นเหรอ? บางทีในสายตาของเจ้า องค์รัชทายาทและองค์หญิงนั้นควรค่าแก่การเคารพน้อยกว่าราชันลมปราณใช่ไหม?” ซูอันตอบกลับ

ผู้คุมยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่พื้นข้างหน้านิ้วเท้า พวกเขาไม่กล้ามีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้

ทหารรูจมูกใหญ่นิ่งขึงไปชั่วครู่ เมื่อตั้งสติได้ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรำคาญ “อย่าพยายามใส่ความพวกเรา ราชันลมปราณเป็นทั้งพระญาติและอาจารย์ขององค์รัชทายาท ต่อให้องค์รัชทายาทจะอยู่ที่นี่ พระองค์ย่อมจะสั่งให้เจ้าไปพบกับราชันลมปราณก่อน ถ้าไม่เชื่อข้าลองไปถามองค์รัชทายาทดูก็ได้!”

ท่านยั่วยุหลิวเฉิงอวี้สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444!

ผู้คุมถอยห่างออกไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัวพลางบ่นในใจ ทำไมพวกข้าต้องมารับรู้เรื่องเสี่ยงคอขาดทั้งหมดนี้!?

ซูอันถอนหายใจและส่ายหัว “ราชันลมปราณคือราชันลมปราณ แต่เจ้าเป็นเพียงราชองครักษ์ แม้ว่าองค์รัชทายาทและองค์หญิงรัชทายาทจะไม่กล้าโต้แย้งราชันลมปราณ แต่เจ้าคิดว่าทั้งสองพระองค์จะกลัวพวกเจ้าไปด้วยงั้นเหรอ? เมื่อคำพูดของเจ้ารู้ไปถึงพระเนตรพระกรรณ เจ้าคิดว่าจะเป็นอย่างไรล่ะ?”

ทหารรูจมูกใหญ่สั่นเล็กน้อย เขาเริ่มเสียใจกับคำพูดของเขา ทั้งหมดเป็นความผิดของซูอัน ทำไมเขาถึงถูกชักจูงให้พูดเรื่องที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้ออกไปได้?

ฮึ่ม! ช่างเถอะ ไอ้สารเลวนี่คงทำตัวหยิ่งผยองได้ไม่นาน ถ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของราชันลมปราณเมื่อไร หัวของมันจะหลุดออกจากบ่าทันที!

ท่านยั่วยุหลิวเฉิงอวี้สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 567!

ตอนนี้ล่ะ!

ซูอันกำลังรอช่วงเวลาที่อีกฝ่ายฟุ้งซ่าน เขาพุ่งไปข้างหน้าและแทงนิ้วไปที่หน้าผากของชายรูจมูกใหญ่

ผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดธรรมดาไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาในปัจจุบันได้ นอกจากนี้ ด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของเขา ไม่มีทางที่คู่ต่อสู้จะหลบการโจมตีได้

เกิดเสียงดังปุ! เลือดพวยพุ่งออกจากหน้าผากของทหารรูจมูกใหญ่ เขาตกใจมากจนเบิกตากว้าง เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายที่กำลังคุย ๆ กันอยู่กลับฆ่าแกงกันเอาดื้อ ๆ แบบนี้!

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า ซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ! ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปอง ดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ? ไม่เลย! บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร! ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน “ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!” **เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง** (ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท