เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 251 อยากจะ…กอดทั้งสองแม่ลูกพร้อมกันเลย!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ความรู้ที่ถูกตุ่มหนองเหลืองดูดก่อนหน้านั้น!

เหมือนกับความรู้สึกนี้เลย! ฮือ…

เอ้อร์เหมาคิดในใจ เหตุใดถึงเป็นข้าอีกแล้ว!

ส่วนอินหลิวเฟิงที่หันไป เขาก็…

“มารดามันเถอะ!”

อินหลิวเฟิงที่ร้องลั่นเกือบจะกระโดดแล้ว หากมิใช่ว่าเขาสัมผัสได้ว่า ‘แมงมุม’ หลากสีที่ปรากฏตรงหน้าไม่ได้มีกลิ่นอายชั่วร้ายล่ะก็ เกรงว่าเขาคงกระโดดไปแล้ว!

เยี่ยนจื่อเสาอ้ำอึ้งอยู่ข้างๆ “นี่คืออะไร”

“แมงมุมมนุษย์?” จวินฮวนใช้ความรู้ทั้งหมดที่มี แต่กลับไม่มีแก่นวิญญาณอสูรตนไหนที่เหมือนกับ ‘แมงมุม’ ตรงหน้านี้เลย มันช่างพิเศษเหลือเกิน

นี่เป็นแมงมุมมนุษย์หลากสีที่ครึ่งบนเป็นร่างสตรีงามครึ่งล่างเป็นแมงมุม และใยแมงมุมที่มันพ่นออกจากปากนั้นได้แปะอยู่บนศีรษะของเอ้อร์เหมาพอดี

อินหลิวเฟิงไม่กล้าลงมือผลีผลาม “กูไหน่ไน ขอถามได้หรือไม่ว่านี่คือตัวอะไร”

เยี่ยนอวี๋ที่ดูอ่อนโยนไม่ตอบอันใด แต่นางได้เดินไปทางแมงมุมมนุษย์แล้ว ฝ่ายหลังโค้งคำนับเยี่ยนอวี๋อย่างรวดเร็ว พร้อมกับส่งเสียง ‘คำราม’ ของอสูรออกมา

“คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถแปลงกายได้แล้ว” เยี่ยนอวี๋สัมผัสขาหน้าของแมงมุมยักษ์อย่างระลึกถึง “ลำบากเจ้าที่ต้องสู้อยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว”

อึก… แมงมุมยักษ์ที่ส่งเสียงอึกออกมาอย่างต่อเนื่อง ใช้ขาหน้าอีกข้างหนึ่งสัมผัสเยี่ยนอวี๋เบาๆ แสดงความรักและความอาลัยที่มีต่อนาง

เพราะแมงมุมมนุษย์ตัวนี้ก็คือร่างที่แปลงแล้วของทั้งผนึก มันเป็นสิ่งที่เยี่ยนอวี๋สร้างขึ้น ดังนั้นจึงมีความรักความใกล้ชิดต่อผู้ที่สร้างมันอยู่ตั้งแต่กำเนิด

ทว่าเอ้อร์เหมาไม่เข้าใจ “ไม่ใช่ ใครนะ…คุณหนูใหญ่ ในเมื่อมันเป็นคนของเรา แล้วมันเป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงต้องมาดูดข้าด้วย!”

“มันกำลังรักษาเจ้าอยู่” เยี่ยนอวี๋กล่าว

“หา?” เอ้อร์เหมารู้สึกว่าตนเองแข็งแรงดี ไม่จำเป็นต้องรักษา อีกอย่างเหตุใดการรักษาเช่นนี้ดูเหมือนจะกลืนกินเขาอย่างไรอย่างนั้น ลนลานเหลือเกิน…

“ก่อนหน้านี้เจ้าถูกขังเป็นตุ่มหนองเป็นเวลานาน พลังจิตได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน มองไปดูไม่มีปัญหาอะไร แต่ในวันหลังมีความเป็นได้สูงที่เจ้าจะกลายเป็นเหมือนอิงหลงตนนั้นที่ถูกควบคุม มันกำลังช่วยถอนคำสาปแก่เจ้า”

“อ้อ!” ถึงแม้เอ้อร์เหมาจะไม่เห็นด้วยกับการรักษาเช่นนี้ แต่เขาก็ทนได้! ถูก ‘ของเหนียวหนืดอมไว้’ ก็ดีกว่ากลายเป็นหุ่นเชิดในภายหลัง

แต่เขาจะไม่กินของเหนียวหนืดอีกต่อไปแล้ว! ช่างขยะแขยงเหลือเกิน…

เอ้อร์เหมาที่เต็มไปด้วยปมในใจ ทำได้เพียงปาด ‘น้ำลาย’ ที่ค่อยๆ ไหลลงจากหน้าออก เขาไม่ไหวแล้วจริงๆ ฮือ…

และความสนใจของผู้คนรอบๆ ก็เปลี่ยนจากเอ้อร์เหมาที่ไม่มีอะไรเลยไปยังช่องอากาศที่ลอยเต็มไปด้วยแสงสี เยี่ยนจื่อเสายังถามอย่างกระตือรือร้นว่า “แสงพวกนี้…ข้าเหมือนกับว่าอยากจะเข้าไปร่วมกับพวกมันด้วย ว่าอย่างไรดีล่ะ…ข้าปรารถนาที่จะเข้าไปใกล้พวกมันนัก”

“เพราะนี่คือห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ที่สุด!” ครั้งนี้จวินฮวนรู้บ้างแล้ว และเพราะเหตุนี้จึงทำให้เขาหายใจลำบากขึ้น “นี่คือห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่สาบสูญไปนานแล้ว เป็นพลังแห่งสวรรค์และปฐพี!”

เฮือก… อินหลิวเฟิงเองก็ลอบสูดอากาศเข้าเฮือกหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็รีบนั่งขัดสมาธิลง “พวกเจ้าอย่ารบกวนข้า! ข้าจะฝึกฌานแล้ว หากไม่ผ่านขั้นวิญญาณปฐมภูมิ…ข้าจะไม่ออกมา!”

จวินฮวนที่เก่งกว่าอินหลิวเฟิงเล็กน้อย คารวะไปทางเยี่ยนอวี๋ก่อนครั้งหนึ่ง แล้วค่อยตามไปฝึกฌานอย่างรวดเร็ว! ต้องทราบเสียก่อนว่า…

อยู่ด้านนอก พลังแห่งสวรรค์และปฐพีที่ผู้ฝึกฌานขั้นสุวรรณชาดจะก้าวไปสู่ขั้นปฐมภูมิจำเป็นต้องมีนั้นก็มีน้อยนิดตั้งนานแล้ว! อย่าพูดถึงห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์จนแทบจะโปร่งแสงนี้เลย

ขั้นปฐมภูมิแบ่งออกเป็นพลังจิตขั้นปฐมภูมิและพลังกายขั้นปฐมภูมิสองอย่าง ในโลกของผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ ผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่มีพรสวรรค์สามารถเข้าสู่ขั้นปฐมภูมิจากชั้นพลังจิตได้อย่างง่ายดาย แต่กายเนื้อคิดอยากจะเลื่อนขั้นไปพร้อมกันกลับยากมาก ยากมากๆ…

ดังนั้นตั้งแต่ผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าขึ้นไป ดูเหมือนทำได้เพียงเพิ่มพูนพลังจิตเรื่อยๆ เท่านั้น พลังกายนั้นยากมากที่จะเพิ่มขึ้นได้ เพราะผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์เดิมก็ไม่เหมาะสมที่จะฝึกพลังกายอยู่แล้ว ดังนั้นแล้วระดับผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ยิ่งมากเท่าใดอายุขัยก็จะยิ่งน้อยลงมากเท่านั้น

เพราะทุกครั้งที่อัญเชิญวิญญาณอสูรที่แข็งแกร่งออกมา กายเนื้อที่อ่อนแอของผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ต้องได้รับผลกระทบอย่างมากแน่นอน! ต้องใช้เวลานานมากในการฟื้นฟู หรือไม่ก็ไม่อาจฟื้นฟูได้อีกเลย

ทว่าตรงหน้านี้…

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ หากไม่มีเรื่องอื่นใด ข้าเองก็ฝึกที่นี่เลยแล้วกัน?” เยี่ยนจื่อเสาที่ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน เขาข่มกลั้นความปรารถนาเอาไว้และถามความเห็นของน้องสาวก่อนว่ามีแผนการอะไรอีกหรือไม่

“ไม่มีอะไรแล้ว พยายามเข้านะเจ้าคะ” เยี่ยนอวี๋ตบไหล่พี่รองของนาง นางเองก็หวังว่าพี่รองของนางจะสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการบรรลุกายเนื้อเช่นกัน บางทีมันอาจจะเกิดปาฏิหาริย์กับกายเนื้อมนุษย์วานรหวาไหวที่เขาไม่สามารถแปลงกลับมาได้ก็เป็นได้

นี่ถือเป็นความเจ็บปวดในใจของเยี่ยนอวี๋ด้วยเช่นกัน ทุกครั้งที่นางเห็นพี่รองอุ้มเสี่ยวเป่าอย่างระมัดระวังและไม่กล้าอุ้มนานนั้น ใครก็รู้ว่าเขากลัวจะไปทิ่มโดนตัวลูกน้อยเข้า เพราะมีขนหนามอยู่เต็มตัวเขาไปหมด ทั้งยังแข็งอีกด้วย

“บางทีข้าอาจช่วยได้” ต้าซือมิ่งหรงที่ดูเหมือนรู้ว่าเยี่ยนอวี๋คิดอะไรอยู่เสนอขึ้น “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักซือมิ่งอาจช่วยพี่รองได้”

เยี่ยนอวี๋รีบหันไปมองต้าซือมิ่งผู้นี้ทันที “ช่วยอย่างไร”

“รอถึงเมืองหลวงก่อน ข้าจะพาเจ้าไปดูแล้วเจ้าจะรู้เอง”

“ได้” เยี่ยนอวี๋ตอบรับอย่างจริงจัง แต่ทว่า…

“เขาไม่ใช่พี่รองของเจ้า”

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้ากำลังข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานทิ้งนะ”

เยี่ยนอวี๋ “…”

“แม้นว่าเราทั้งสองจะไม่มีพิธีสมรสอันยิ่งใหญ่ แต่เขาเป็นท่านลุงรองของเสี่ยวเป่าก็ต้องเป็นพี่รองของข้าด้วย”

เยี่ยนอวี๋ “…”

นับเช่นนี้ได้ด้วยหรือ

เหตุใดนางจึงไม่รู้มาก่อน

แต่นี่กลับไม่ใช่ปัญหาแล้ว ต้าซือมิ่งยังกล่าวว่า “อีกอย่างพี่รองเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ เจ้าจะมาตัดสินแทนพี่รองไม่ได้”

เยี่ยนอวี๋ปวดศีรษะจนต้องเม้มริมฝีปาก “ข้าไม่ยุ่งกับเจ้าแล้ว ข้ายังต้องฟื้นฟูฌานตบะ ถึงแม้ที่แห่งนี้จะกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ทางออกของเราก็ถูกปิดผนึกไว้เพราะเหตุนี้เช่นกัน ด้วยพลังของข้าในตอนนี้ไม่อาจทำลายผนึกนั้นได้แน่นอน”

“ไปเถิด” ต้าซือมิ่งบางคนดูไม่มีความเห็นใดๆ ทั้งยังแสดงออกอย่างรู้ตัว “ข้าจะดูแลเสี่ยวเป่าอย่างดี ประเดี๋ยวตอนเขาตื่น…ข้าจะทำของอร่อยให้เขากินทันที”

เมื่อเยี่ยนอวี๋เห็นว่าเขาไม่วุ่นวายอีกต่อไป จึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แล้วเดินหน้าไปดูลูกน้อยอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขานอนหลับฝันดีอยู่ในอ้อมกอดของบิดา ทั้งยังดูดปากน้อยๆ เป็นครั้งคราว ดูท่าคงจะหิวแล้วจริงๆ

หลังจากที่มองสัตว์ประหลาดอันน่าขยะแขยงไปมากแล้ว เยี่ยนอวี๋รู้สึกว่าลูกน้อยดูน่ารักน่าชังเข้าไปใหญ่! ขาวอมชมพูราวกับไข่มุกที่รังสรรค์อย่างประณีต ที่สำคัญยังมีชีวิตชีวาและน่ารักเสียด้วย

ดังนั้น ต้าซือมิ่งผู้เป็นสามีและบิดาผู้ทรงคุณธรรมก็ถามขึ้นอย่างมีน้ำใจว่า “อุ้มหรือไม่”

“…ไม่ล่ะ” เยี่ยนอวี๋กลัวว่าหากอุ้มแล้วจะไม่อยากปล่อยมืออีก และตอนนี้นางยังไม่มีเวลามากพอที่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงลูกน้อย ยังต้องรออีกหน่อย

เพียงแต่นางเพิ่งจะตอบกลับ ต้าซือมิ่งก็ยื่นแขนออกไปแล้ว จากนั้นก็โอบนางที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมกับลูกน้อย!

ท่าทางนั่น…

ช่างเป็นธรรมชาติเหลือเกิน!

แต่ในขณะนั้นเอง…

วิ้งงง!

ทั้งพื้นที่สั่นคลอนเล็กน้อยราวกับมีอะไรบางสิ่งไปขยับผนึกทั้งอัน

ขณะเดียวกัน!

โครมมม!

อิงหลงอาวุโสที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นค่ายกล มันลองเปิดตาค่ายกลและรีบตามปฐมราชินีของมันไป ดังนั้นการเคลื่อนไหวนี้เป็นฝีมือของมันจริงๆ

แม่น้ำหมิงเย่ว์ก็เกิดคลื่นน้ำอีกครั้งเพราะฝีมือของมัน! แต่ทว่าอิงหลงอาวุโสได้ฟื้นคืนสติแล้ว ดังนั้นมันจึงควบคุมพลังและไม่ได้ก่อให้เกิดคลื่นพายุอีก

แต่ผู้คนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำต่างก็ตกใจกลัว ยิ่งไปกว่านั้นคือเซี่ยเย่าแห่งสำนักเหยาไถเซียนได้ส่งเสียงร้องขึ้น “ดู! ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของสำนักข้าสมคำร่ำลือใช่หรือไม่! สถานการณ์เช่นนี้…ต้องเป็นสัญญาณของความล้มเหลวแน่ๆ!”

“นี่มัน…” เฉินฉุนเฟิงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลที่ค่อยๆ จางหายไปในท้องฟ้าเหนือเมืองโยวตูนั้นกลับสลายหายไปหมดโดยบังเอิญในขณะนี้เอง! และม่านพลังศักดิสิทธิ์ที่ต้าซือมิ่งได้เปิดขึ้นตั้งแต่ตอนแรกก็หายไปจนหมดเช่นกัน

“ไม่ดีแล้ว!” เฉิงคั่วมีสีหน้าเคร่งขรึม คิดในใจหรือว่าเขาควรจะต้องกลับเมืองหลวงไปก่อนจริงๆ

ชิงอ้ายเฟิงเองก็ตระหนกเช่นกัน ประเด็นคือการหายไปของภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจคนในที่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก กลิ่นอายของต้าซือมิ่งเองก็หายไปด้วย และแม่น้ำเย่ว์หมิงก็เกิดคลื่นทะเลขึ้นอีกครั้ง!

เซี่ยเย่าใช้ครั้งนี้ส่งเสียงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ทุกคน! ภาพม้วนไม่อยู่แล้ว ข้าว่าคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ก็ไร้ความหมาย ไม่สู้เราเชิญเซ่าซือมิ่งกู้มา ให้ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของข้าเป็นผู้ตัดสินขั้นตอนการรับมือหลังจากนี้ดีกว่าเฝ้าอยู่ที่นี่อย่างไม่ทราบอะไรเลย”

“ข้าเห็นด้วยกับพี่เซี่ย” เหลียงเฉิงคุนที่ในที่สุดก็มีโอกาสพูดบ้างแล้วพูดขึ้น

เฉิงฉุนเฟิงกลับเงียบขรึม เฉิงคั่วเองก็ไม่กล่าวอะไร เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังคงลังเลอยู่

แต่อินสวินอี้กลับกล่าวขึ้นอย่างเปิดเผยว่า “หากทุกท่านอยากจะถอยกลับ ข้าเองก็ไร้คำพูด เพราะข้าไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้ทุกคนเฝ้าต่อไปได้ แต่กองทัพโยวตูของข้าไม่ถอยอย่างแน่นอน!

ทุกท่านอยากจะทำอย่างไรก็ตามใจ แต่โปรดอย่ารบกวนกองทัพโยวตูของข้าที่จะคุ้มกันเมืองโยวตู! ข้าคิดว่านี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ขอร้องทุกท่านด้วย”

“โยวตูอ๋องกล่าวหนักไปแล้ว พวกเราเฝ้าต่ออีกวันเถอะ” ในที่สุดเฉินฉุนเฟิงก็กล่าวขึ้น

เฉิงคั่วเองก็เงียบขรึมเป็นการตอบรับ

แต่เซี่ยเย่าได้พาคนของสำนักเหยาไถเซียนไปตามหากู้หยวนซูแล้ว

และกู้หยวนซูในขณะนี้ ขณะที่กำลังรักษาตัวอยู่ก็สังเกตเห็นว่า…

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้” เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้น แต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย! เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือน จากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใคร โอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้ จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจง ชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท