ตอนที่ 587 เป่าและพ่อช่วยแม่
แสงสีม่วงเจิดจ้าที่ไหลออกมาจากร่างกายของต้าซือมิ่งจมหายเข้าไปในมิติแห่งนี้
ผ่านไปครู่หนึ่ง… พื้นที่ที่เดิมทีกำลังจะพังทลายก็ถูกทำให้เสถียรอย่างสมบูรณ์
หมาป่ายักษ์เฟนเลย์รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ที่แต่เดิมจะพังทลายแห่งนี้ นอกจากกฎจะกลับมาเสถียรดังเดิมแล้ว ยังเหมือนกับว่าจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย?
นี่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเค่อเองมิใช่หรือ เรียบร้อยง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ
ทว่าต้าซือมิ่งที่ ‘เสร็จธุระ’ แล้วยังไม่ได้จากไปก็นั่งขัดสมาธิลงอีกครั้งและสวมเสื้อคลุมกลับไปให้เด็กน้อย เฟนเลย์งุนงง เด็กน้อยเองก็เกาศีรษะ “ไม่ ไป?”
“อืม” หรงต้าซือมิ่งที่หลับตาลงและตอบเด็กน้อย เขาก็รวบตัวเด็กน้อยไว้ในอ้อมอก “ช่วยท่านแม่ของเจ้าก่อน”
“ช่วย อยู่ ไหน” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากะพริบตาถาม และยังมองไปรอบทิศ ไม่เห็นท่านแม่เลยนี่
แต่ต้าซือมิ่งไม่ตอบอะไรอีก เพียงแค่ลูบศีรษะของเด็กน้อย ขณะเดียวกันก็แผ่ซ่านจิตเหนือสำนึกออกไปตามกฎของแอตแลนโดยยึดพื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลาง
หรงอี้ที่รู้สึกได้ว่าภรรยาผิดปกติตั้งแต่แรก เขารู้ว่าหากเร่งตามไปตอนนี้คงไม่ทันแล้ว สู้ยืมพื้นที่แห่งนี้ ‘ช่วยเหลือ’ ดีกว่า บางทีอาจจะยังพอช่วยได้บ้าง
หรงอี้ที่คาดเดาได้ว่าการพังทลายของพื้นที่แห่งนี้ต้อง ‘เกี่ยวข้อง’ กับภรรยาแน่นอน เขาก็สัมผัสภรรยาของเขาอย่างตั้งใจท่ามกลางจักรวาลน้อยใหญ่
การลูบของเขาทำให้หนังตาของเด็กน้อยเริ่มหย่อนคล้อย ท่าทางกำลังจะหลับ อันที่จริงในสมองของเขาปรากฎภาพที่ท่านพ่อเขาส่งให้เขาแล้ว จากนั้น…
“แม่”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าพบว่า เหมือนกับว่าเขาจะเห็นท่านแม่ของเขาแล้ว
จากนั้นเขาจึงเรียก จากนั้นเขาก็สะดุ้งตื่น จากนั้นเขาก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย
เยี่ยนเสี่ยวเป่า “…?”
“หลับตา” ต้าซือมิ่งลูบเด็กน้อยต่อไป เขาสอนอย่างใจเย็น “เจ้าต้องพยายามรู้สึกถึงท่านแม่เจ้าตามกลิ่นอายของพ่อ เจ้าจึงจะเห็นนางได้ หากจิตใจไขว้เขวก็จะมองไม่เห็น”
“อ๋อ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเหมือนจะรู้แต่ก็เหมือนไม่รู้ ทว่าเขาก็หลับตาลงอย่างเชื่อฟังแล้ว
ส่วนหมาป่ายักษ์เฟนเลย์ มันหมดแรงประชดประชันแล้ว มันถึงกับอยากจะถามลูกพี่ท่านนี้ นายน้อยยังเด็กขนาดนี้ ท่านสอนให้เขาใช้จิตเหนือสำนึกสัมผัสมารดาหรือ คิดอย่างไรกันแน่ จะทำได้อย่างไรกันเล่า
แต่ไม่ว่าเฟนเลย์จะคิดอย่างไร เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับนอนหลับไปแล้ว หลับไปแล้วจริงๆ ทำให้ต้าซือมิ่งที่สอนเด็กน้อยรู้สึกล้มเหลว เขาไม่ได้ให้เด็กน้อยนอนเสียหน่อย แต่ในเมื่อเด็กน้อยอยากนอน เช่นนั้นก็นอนเถอะ
“…”
หมาป่ายักษ์เฟนเลย์เห็นถึงตรงนี้ มันก็อยากจะหัวเราะ แต่ก็ไม่กล้า ได้แต่กลั้นไว้
ทว่าสิ่งที่มันไม่รู้คือ แม้เด็กน้อยจะนอนหลับไปแล้ว แต่เมื่อต้าซือมิ่งแผ่ซ่านจิตเหนือสำนึกอย่างต่อเนื่องเขาก็รู้สึกได้ว่ามีกลิ่นอายอันบางเบาพัวพันกับลมหายใจของเขา
“หืม?” หรงอี้เลิกคิ้วด้วยสัญชาติญาณ คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยจะมีความสามารถไม่เบา นอนหลับไปแล้วยังจับกลิ่นอายจิตเหนือสำนึกของเขาได้และยังทำตาม ‘วิธี’ ที่เขาบอกด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ เท่ากับว่าเขาไม่ได้ล้มเหลวในการสอนลูก
หรงต้าซือมิ่งที่ยกมุมปากเล็กน้อยสงบนิ่งลง คอยสัมผัสทั่วทั้งแอตแลนอย่างจดจ่อ โดยเฉพาะการสัมผัสด้วยการติดตามลมหายใจของภรรยาของเขา
…
ในขณะเดียวกัน
ขณะที่ต้าซือมิ่งทำให้ศูนย์กลางของแอตแลนเสถียร จิตเหนือสำนึกของเยี่ยนอวี๋ก็กำลังสลายแหล่งกำเนิดกัดกร่อนในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของแอตแลนอย่างรวดเร็ว
เรื่องนี้ทำให้เทียนตี้ที่คอยจับตามองการเปลี่ยนแปลงของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ‘เห็น’ ในทันทีว่า หลายๆ มุมในจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีแสงหลากสีกำลังหลั่งไหลออกมา
“นี่มัน…” เทียนตี้ขมวดคิ้วเป็นปม จิตเหนือสำนึกที่ทรงพลังเหมือนกันคอยติดตามพื้นที่ที่แสงเหล่านี้ไหลออกมา จากนั้นเขาก็พบว่า พื้นที่ที่มีแสงหลากสีล้วนเป็นตำแหน่งที่เคยเกิดรอยร้าว และถูกเขาอุดไว้แล้ว แม้ตอนนี้จะยังไม่แตก แต่เหมือนกับว่ามีแนวโน้มจะแตกอีกครั้ง
“ชูชูกำลังทำอะไรนะ” เทียนตี้สัมผัสอย่างตั้งใจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยซ่อมแซมพื้นที่ที่ไม่เสถียรเหล่านี้ ทำให้เยี่ยนอวี๋ไม่ต้องเสียแรงมาซ่อมแซมรอยร้าวต่อไป
แต่เยี่ยนอวี๋พบทันทีว่า การย่อยสลายเช่นนี้ยังคงช้าเกินไป การย่อยสลายของนางสู้พลังกัดกร่อนที่หูจวิ้นปล่อยเข้าไปในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไม่ได้ พลังเหล่านี้แม้ส่วนใหญ่จะถูกกดไว้ที่บริเวณภูเขาปู้โจวซาน แต่เนื่องจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าถูกกัดกร่อนมาเกือบสามหมื่นปีแล้ว รอยแตกร้าวและการกัดกร่อนเล็กน้อยเหล่านั้นมีมากเกินไปจริงๆ หรือพูดได้ว่า รอยแตกร้าวสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเป็นเพียงรอยแยกใหญ่ที่สุด รอยแยกที่เหลือแม้จะเล็ก แม้จะเหมือนกับว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็เพียงพอสำหรับหูจวิ้นแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…
“สวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะพังทลายสิ้นเชิง อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็ว” เยี่ยนอวี๋รู้เรื่องนี้ดี แม้ว่าผลลัพธ์นี้อาจต้องใช้เวลานานมากเนื่องจากการแทรกแซงของนาง แต่ว่าในระหว่างนี้หูจวิ้นจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นยิ่งเมื่อถึงช่วงหลัง อันที่จริงนางจะกลายเป็นฝ่ายรับ กลับกันกับตอนนี้ นางยังมีข้อได้เปรียบ ยังเป็นฝ่ายรุก ถึงอย่างไรภายใต้การชี้นำของนาง เทียนตี้ก็รู้ปัญหาแล้ว มีเขาเฝ้าอยู่ทั้งคน สวรรค์เก้าชั้นย่อมไม่สามารถพังทลายได้ในทันที
เช่นนั้น… เยี่ยนอวี๋ที่เก็บจิตเหนือสำนึกกลับมา นางก็มองจักรพรรดิหู
วิ้ง
หูจวิ้นที่กลิ่นอายแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนกับความเร็วที่เยี่ยนอวี๋คาดคิดไว้ เขากำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่ริกเกิร์ตและไทร์ที่ถูกเขาปกป้องก็ฟื้นตัวแล้ว ทำให้เซ่าเฮ่าที่เห็นถึงตรงนี้รู้สึกร้อนรน ทว่า…
ไทร์ผู้ที่จ้องเซ่าเฮ่าตลอดเวลา เขาก็เตรียมพร้อมจู่โจม เขาฟื้นตัวกลับมาอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาอยากจะฉวยโอกาสนี้ออกมากำจัดหนุ่มชุดขาวคนนี้ทิ้ง ไทร์ยังไม่ลืมว่าเสียงพิณที่หนุ่มน้อยชุดขาวของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าคนนี้บรรเลงเกือบจะทำให้เขาและจักรพรรดิตาย ความสามารถนั่นแค่คิดก็รู้สึกขนหัวลุกชัน ต้องกำจัดเขาทิ้งเสียก่อน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ไทร์ก็ทำท่าจะโจมตี
ทว่า…
“นายท่าน!”
“พี่เซ่าเฮ่า!”
ซีหวังหมู่และพรรคพวกปรากฎตัวมาทันเวลา ดับฝันไทร์หมดสิ้น เขาไม่กล้าออกจากวงแหวนป้องกันแม้แต่ก้าวเดียว
ริกเกิร์ตเองก็พึมพำน่าเสียดาย เขารู้ความคิดของไทร์และไม่คิดจะห้าม แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อผู้ช่วยฝั่งศัตรูมาแล้ว
ทว่า… ริกเกิร์ตก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นแล้ว เพราะว่ากลิ่นอายของเยี่ยนอวี๋ซึมเข้าไปในวงแหวนป้องกันของพวกเขาแล้ว
ริกเกิร์ตที่รู้สึกได้ก็อุทานขึ้นทันที “แย่แล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้น” ไทร์ยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ เขายังคงหงุดหงิดที่ไม่ได้ลงมือเร็วกว่านี้จึงไม่ทันได้สนใจ
“กลิ่นอายของปฐมราชินีเยี่ยนรุกล้ำเข้ามาแล้ว” ริกเกิร์ตพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด
