ตอนที่ 627 กระหายเจ้ามาหลายภพชาติ เปิดเผยความลับ
เขา ‘พบเจอ’ นาง เจ้าปลาน้อยตัวนี้เมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่วินาทีที่นางเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง… เขาก็รู้จักนางแล้ว แต่เขาในครานั้นยังอยู่ในจักรวาลทางเหนือ ถือว่าเป็นความบังเอิญ จิตเหนือสำนึกของเขาออกจากจักรวาลแห่งนั้น เขาได้เห็นนางที่กำลังก่อตัวจุติเป็นร่างจริง
ในครานั้น… เขา ‘หลงใหลในความงาม’ ของนางเหมือนกับตอนที่อยู่ริมแม่น้ำเย่ว์หมิง รู้สึกว่านางวิจิตรงดงามไปเสียทุกส่วน เป็นสตรีที่งดงามที่สุดที่เขาเคยเจอมา
เขาในยามนั้นจึงคิดไว้ว่าหลังจากผ่านพ้นพิบัติกาลแล้ว เขาจะต้องแต่งสตรีนางนี้เข้าเรือน ไม่คิดว่าเขายังไม่ทันลงมือ เจ้าปลาน้อยตัวนี้กลับว่ายเข้ามาหาเขาเอง เข้ามาอยู่ในหัวใจของเขาและอาศัยอยู่ในวิญญาณของเขาเองเสียก่อน
ต้าซือมิ่งเช่นนี้… ทำให้เยี่ยนอวี๋หูร้อนผ่าว ถามว่า “เจ้า จำได้แล้วหรือ”
หรงอี้ที่เห็นใบหูของภรรยาค่อยๆ เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีชมพู เขาก็จูบใบหูของนางเบาๆ พูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า “อืม”
เยี่ยนอวี๋ที่เงียบงัน นางก็มุดตัวเข้าไปในซอกคอของเขาอย่างเขินอาย จู่ๆ ก็เข้าใจว่าคำว่า ‘ไม่ใช่แค่…’ ของผู้ชายคนนี้หมายความว่าอะไรแล้ว
นางก็…
“เนะ”
เด็กน้อยบินกลับมาแล้ว
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ลากมังกรยักษ์และสอดมุกมังกรเม็ดนั้นในเสื้อผ้าบินกลับมาหาท่านพ่อและท่านแม่ของเขา หลังจากที่เขาทิ้งมังกรยักษ์ลงก็ ‘พูด’ พลางบินอย่างดีอกดีใจ “อ้ะเนะๆ เนะๆ…” เป่าฉุดยอด เป่าเก่งที่สุด รีบชมเป่าสิ…
หรงต้าซือมิ่งที่กอดภรรยาไว้ เขาก็แบ่ง ‘ความสนใจ’ ให้เล็กน้อย เขาใช้มือเรียวยาวลูบศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อย กล่าวชมว่า “ใช่แล้ว เสี่ยวเป่าสุดยอด เก่งที่สุดเลย”
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหัวเราะอีกครั้ง
ไม่เพียงเท่านี้ เขายังทำท่าจะจับมือของท่านแม่เขา “เนะ เนะๆ…” ท่านแม่ก็ชมเป่าด้วยสิ…
เยี่ยนอวี๋เข้าใจสิ่งที่เด็กน้อยต้องการ แต่ยังรู้สึกเขินอายไม่หายเลย
ทว่าเจ้าตัวน้อยบินไปข้างหลังท่านพ่อ ส่งเสียงเรียกท่านแม่ที่อยู่ในซอกคอของท่านพ่อเขาไม่หยุด “อ้ะเนะ เนะๆ” แม่ดูเป่าเร็วเข้า เป่าอยู่นี่
เยี่ยนอวี๋จำใจต้องมองไปที่เด็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าที่ระรื่นจนมีสีแดงระเรื่อและดวงตาเป็นประกายคู่นั้นทำให้เยี่ยนอวี๋อดตกหลุมรักไม่ได้ นางยิ้มให้พูดว่า “เสี่ยวเป่าเก่งจริงๆ”
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ดีใจโถมเข้าไปใกล้ท่านแม่ของเขาและจูบท่านแม่ของเขาสองสามที “อ้ะเนะๆ…” แม่สวย แม่สีชมพูดูดีจังเลย…
เยี่ยนอวี๋ผละตัวออกมาโอบเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมอก ต้าซือมิ่งเองก็เปลี่ยนท่า เขาโอบภรรยาและลูกเข้ามาในอ้อมอกพร้อมกัน
หลังจากที่เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อยน่ารักน่าชังแล้วก็ตำหนิสามีนางว่า “ต่อไปห้ามพูดเหลวไหลเช่นนี้อีกนะ” น่าอายมากเลย ในที่สาธารณะเช่นนี้ หากว่า… เยี่ยนอวี๋ที่ไม่อยากคิดต่อไปก็หยิกหน้าอกของต้าซือมิ่งเบาๆ
ต้าซือมิ่งจับมือของนางไว้ ยิ้มพลางย้อนถามว่า “พูดเหลวไหลอะไรหรือ”
เยี่ยนอวี๋ถลึงตาใส่เขา
ต้าซือมิ่งหัวเราะ “ข้าไม่ใช่แค่มีใจใหญ่เท่านั้น ข้ายังมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ด้วย ตั้งแต่หลายภพชาติที่แล้ว ครั้นเจ้าเริ่มก่อตัว ข้าก็กำหนดให้เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว”
เยี่ยนอวี๋ “?” หมายความว่าอะไรกัน
ต้าซือมิ่งประชิดไปที่ข้างใบหูของนาง ถามด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วภรรยาคิดว่าอะไรหรือ”
“สิ่งที่เจ้าจำได้คือ เรื่องนี้… ?” เยี่ยนอวี๋เผลอทำหน้ามุ่ย หน้าตาเหมือนกับเวลาที่ลูกของนางโมโหและหงุดหงิด
หรงอี้ที่สังเกตปฏิกิริยาของนางตลอดเวลาก็จูบปากของนาง เจ้าปลาน้อยตัวนี้ น่ารักจริงๆ ข้ารักมากจริงๆ เลย…
“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายื่นศีรษะโล้นเข้ามาทันที “อ้ะเนะๆ…” ทำไมพ่อไม่จูบเป่า เป่าเก่งที่สุด ต้องจูบเป่าไม่ใช่หรือ ทำไมจูบแม่ล่ะ
ต้าซือมิ่งจึงได้แต่จูบศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อยด้วย จะจูบภรรยานานเกินไปก็ไม่ดี ถึงอย่างไรก็อยู่ในที่สาธารณะ หากคนอื่นเห็นภรรยาที่น่ารักน่าชังเช่นนี้ คนที่เสียเปรียบจะเป็นเขา
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกจูบ เขาก็กระดกก้นขึ้น และขยับตัวเข้าไปในข้างหน้าท่านพ่อ จากนั้นก็ ‘จุ๊บ’ ท่านพ่อเขาทีหนึ่ง ก่อนจะนั่งกลับไปอย่างพึงพอใจและมีความสุข
ตายจริง เจ้าตัวน้อยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องนำมุกมังกรสีดำให้ท่านพ่อ “เนะ” ที่พ่อจะเอา เป่าไม่ชอบ ดำๆ ไม่สวย…
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ก็เปลี่ยนเรื่อง “เจ้ารู้ว่านี่คือมุกมังกรของมันตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วหรือ”
ต้าซือมิ่งที่มือข้างหนึ่งโอบภรรยาไว้ เขาก็ไม่ได้ขัดภรรยา เขาพยักหน้าพูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว เดิมทีคิดไว้ว่าจะสืบค้นวิญญาณของมันหลังจากได้มุกมังกรมาแล้ว”
“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเชิดหน้าขึ้นบอกว่า เป็นเพราะเป่า เป่าช่วยพ่อไว้ เป่าเก่งที่สุด…
เยี่ยนอวี๋เห็นท่าทีภูมิใจของเด็กน้อยก็รู้ว่าเขาจะพูดอะไรแล้ว นางหัวเราะทันที “นั่นสิ เป็นเพราะมีเป่าที่เก่งที่สุดของเราช่วยท่านพ่อไว้ ใช่หรือไม่จ๊ะ”
“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างเริงร่า
อินหลิวเฟิงที่มัดมังกรยักษ์ไว้อย่างแน่นหนาอีกครั้งก่อนจะถีบมันสองสามที “ดูซิว่าครานี้เจ้าไม่มีมุกมังกรแล้วจะหนีไปไหนได้อีก”
“@ @…” มังกรยักษ์ที่ดวงตาหมุนติ้ว ครานี้มันไม่หนีไปไหนแล้ว ถึงอย่างไรแม้ค้อนของเด็กน้อยจะเล็ก แต่พลังกลับไม่น้อยเหมือนกับที่ท่านพ่อเขาพูดไว้ หากต้องการให้มันหมอบ มันก็ต้องหมอบ
เยี่ยนอวี๋เห็นทางนี้ก็ถามขึ้นว่า “ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง รู้หรือยังตอนนี้ว่าเจ้าร่างสีเขียวอยู่ที่ไหน”
“มันไม่รู้ แต่ข้ารู้แล้ว” ต้าซือมิ่งพูดพลางในที่สุดก็ยืนขึ้นมา และปล่อยภรรยาลงพื้น แต่มือข้างหนึ่งยังคงสอดนิ้วประสานมือของภรรยาไว้ ส่วนมือข้างหนึ่งก็อุ้มเด็กน้อยไว้
ส่วนเยี่ยนอวี๋… เมื่อนางสัมผัสถึงนิ้วเรียวยาวของสามีรูปงามที่สอดเข้ามาระหว่างนิ้วของนาง นางก็จับมือของเขาไว้แน่น และหันไปถามว่า “ไปตอนนี้เลยหรือ”
“อืม” เมื่อพูดจบ ต้าซือมิ่งก็พาภรรยาและเด็กน้อยจากไปแล้ว
อินหลิวเฟิงงงงัน เพราะว่ามันรับรู้ไม่ได้เลยว่าครอบครัวนี้ไปไหนกันแล้ว
กลับกลายเป็นกู้จื่อเฟิงที่พอจะรับรู้ได้ เขาจึงมองไปที่… ท้องของมังกรยักษ์?
ต้าซือมิ่งในครานี้ เขาก็พาภรรยาปรากฏตัวอยู่ในท้องของมังกรยักษ์จริงๆ เพียงแต่ว่าในท้องขนาดใหญ่ของมังกรตัวนี้มีพระตำหนักที่วิจิตรงดงามแห่งหนึ่งตั้งอยู่
ที่สำคัญคือ… เยี่ยนอวี๋รู้สึกคุ้นตากับตัวอักษรสามตัวข้างหน้าประตูตำหนักมาก
