ตอนที่ 671 ชีวิตของเม่ยเอ๋อร์ จะฆ่าต้าซือมิ่ง
คำพูดนี้… สะกิดให้ซีหวังหมู่นึกขึ้นได้ว่าเหมือนกับว่าจะเคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น
แต่แล้วเยี่ยนอวี๋กลับพูดว่า “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”
“…” เจี่ยนชิวที่อ้ำอึ้ง นางมองเยี่ยนอวี๋อย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านไม่เชื่อ ท่านลืมไปแล้วใช่หรือไม่”
เยี่ยนอวี๋กลับสงบนิ่งมาก “หากไม่พูด ข้าจะทำให้เจ้าพ้นทุกข์”
“ท่าน…” เจี่ยนชิวรู้สึกอึ้งจริงๆ ทว่าจู่ๆ นางก็หัวเราะพูดขึ้นว่า “ช่างเถอะ จะเชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ท่าน เรื่องที่สอง ราชาแห่งจักรวาลจะไม่จากหลุมศพไป เขาไม่สามารถออกจากที่นี่ได้ เขาออกไปไม่ได้จนกว่าท่านจะตาย”
นี่ถือเป็นการเปิดโปง อีกทั้งยังมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง
เยี่ยนอวี๋ประเมินเสร็จจึงถามต่อไปว่า “ข้าให้โอกาสเจ้าพูดครั้งสุดท้าย”
“…” เจี่ยนชิวที่จู่ๆ เงียบลง นางกลับมาเป็นปกติแล้ว ชั่วจังหวะหนึ่งเหมือนกับว่ายังเผยความเศร้าโศกออกมา สุดท้าย…
“บอกเทียนตี้ หม่อมฉันเกลียดเขา” เมื่อพูดจบ เจี่ยนชิวก็หลับตาลงพร้อมตายแล้ว
ถึงแม้ว่า… นางยังคงไม่ยินยอม นางยังคงอยากเห็นว่าคำพูดของนางมีประโยชน์
เจี่ยนชิวเชื่อว่า เยี่ยนอวี๋จะเชื่อคำพูดของนางในไม่ช้าก็เร็ว เพราะว่าราชาแห่งจักรวาลไม่สามารถออกจากหลุมศพได้ชั่วคราวจริงๆ ที่นางพูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นต่อไป… หากราชาแห่งจักรวาลวางแผนทำอะไรอีก สิ่งที่นางพูดในวันนี้จะเป็นเมล็ดแห่งความคลางแคลงในใจของปฐมราชินี ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะหยั่งราก
หากนางไม่ได้คุณชายหรงในชีวิตนี้ เช่นนั้นปฐมราชินีเยี่ยนก็อย่าคิดจะอยู่อย่างมีความสุขกับคุณชายหรง นางขอสาปแช่งพวกเขา สาปแช่งพวกเขาทั้งครอบครัว ขอให้…
คำสาปแช่งสุดท้าย เจี่ยนชิวยังไม่ทันคิด ปฐมราชินีเยี่ยนก็มอบแสงหลากสีอันเป็น ‘มงคล’ ให้นาง ทำให้นางสิ้นสลายไปอย่างสมบูรณ์
และในครานี้ เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่า เจี่ยนชิวสูญสิ้นไปจนหมดแล้ว
เห็นทีก่อนหน้านี้ที่เจี่ยนชิว ‘มีชีวิต’ อยู่ได้ตลอดคงจะเป็นเพราะมีเหล่า ‘ราชาแห่งจักรวาล’ คอยปกป้อง
ที่แท้พวกเขาขนานนามตนเป็น ‘ราชาแห่งจักรวาล’ ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าพวกเขาแค่ต้องการกุมจักรวาลแห่งนี้แทนนางเท่านั้นจริงๆ
“หากต้องการพวกนี้จริงๆ บอกข้าก็ได้ ข้าให้ได้ทั้งหมด” เยี่ยนอวี๋เอ่ยขึ้นเบาๆ ยังคงรู้สึกไม่ชอบมาพากล บัดนี้นางแค่อยากหาพวกเขาให้เจอ ถามพวกเขาด้วยปากตนเองว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่?
หรงอี้เข้าใจความคิดของนางดีจึงโอบนางไว้อย่างสงสารยิ่งกว่าเดิม “ต้องหาเจอแน่นอน นางบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าพวกเขาออกจากหลุมศพไม่ได้ บางทีอาจจะมีเบาะแสบางอย่างในปราสาทผีแห่งนี้ก็ได้”
“อืม” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า กลับมองไปที่กู้จื่อเฟิงและทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ “เรื่องที่ได้ยินวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไป”
“นายท่าน?” ซีหวังหมู่โยนตะขาบที่ตายไปแล้วทิ้งอย่างเป็นกังวลและเดินมาข้างหน้าเยี่ยนอวี๋ “ท่านกลัวว่า…” แพร่งพรายออกไปจะส่งผลกระทบต่อจวินโฮ่วหรือ
“ใช่” เยี่ยนอวี๋พูดแทรกขึ้นและยกมือขึ้นลูบมงกุฎของซีหวังหมู่ อธิบายว่า “คำพูดของเจี่ยนชิว ข้างหลังเชื่อได้ ข้างหน้าเชื่อไม่ได้ อีกทั้งข้าสงสัยว่าพวกเขาต่างหากที่เกี่ยวข้องกับการร่วงหล่นของข้า”
“ราชาแห่งจักรวาล?” สายตาของซีหวังหมู่ดุร้ายขึ้นมาทันที “ใคร ซีซีไปกัดพวกเขาเอง” คิดถึงตอนนั้นมันและพี่น้องร้องไห้กันแทบตาย
ความรู้สึกที่ต้องสูญเสียนายท่านไปนั่น ทรมานมากจริงๆ
ทรมานจน ตอนนี้แค่คิดก็… ซีหวังหมู่กอดขาของนายท่านพวกมันไว้ “นายท่าน รับปากซีซีว่าจะไม่จากพวกเราไปอีกแล้ว”
ซีหวังหมู่แค่คิดก็น้ำตาไหลแล้ว
“วางใจเถอะ ไปไหนก็จะพาเจ้าไปด้วย” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะของมันอย่างขบขัน “แต่ว่าหากเจ้าทำเรื่องงี่เง่าเช่นก่อนหน้านี้อีก ข้าจะไม่ต้องการเจ้าแล้วนะ”
“ไม่แล้ว” ซีหวังหมู่กล่าวอย่างมั่นใจว่า “ครั้งเดียวพอแล้ว ตราบใดที่นายท่านอยู่ ซีซีทำเรื่องงี่เง่าเช่นนั้นไม่ได้แน่นอน แต่ว่าราชาแห่งจักรวาลนั่นคือใครกันหรือ”
ซีหวังหมู่ที่หมกมุ่นอยากจะรู้ว่าศัตรูคือใคร มันกำลังกัดฟันกรอดแล้ว
เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้พูดอะไร แต่ส่งกระแสจิตให้ซีหวังหมู่
ซีหวังหมู่ระเบิดทันที “อะไรนะ?”
เยี่ยนอวี๋พยักหน้า “อย่าแพร่งพราย”
“ข้า…” ซีหวังหมู่กระวนกระวายใจ “เพราะอะไรกัน”
คำถามนี้เยี่ยนอวี่ก็อยากรู้เช่นกัน
“อะไรเพราะอะไรหรือ” เทพอัสนีและเทพองค์อื่นๆ ที่จัดการความยุ่งเหยิงข้างนอกเสร็จก็เข้ามาในตำหนักกันหมดแล้ว
ซีหวังหมู่ใช้กรงเล็บขูดพื้น ทำให้พื้นที่แข็งถูกขูดจนเกิดประกายไฟ นี่แค่แรงที่มันยังไม่ได้ใช้พลังใดๆ เพียงแค่ขูดอย่างไม่รู้ตัวเท่านั้น
เทพอัสนีกลัดกลุ้ม “ซีซี เป็นอะไรไป เหตุใดเจ้าจึงขูดพื้นเล่า เจ้าทำแบบนี้แค่ตอนเด็กไม่ใช่หรือ”
“อย่ามายุ่งกับข้า รำคาญ” ซีหวังหมู่หันไปขูดพื้นต่อไป
เทพอัสนีประหลาดใจ “เจ้ารู้จักรำคาญด้วยหรือ เล่าให้พี่ๆ ฟังหน่อยสิ”
“เดี๋ยวข้าจะต่อยให้” ซีหวังหมู่ขู่
เทพอัสนีกลัว “ก็ได้ เจ้าขูดต่อไปเถอะ ข้าไปถามนายท่านเอง”
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง” จางอวิ๋นเมิ่งในครานี้ถามขึ้น
เยี่ยนอวี๋กล่าวว่า “กุ่ยหมู่ตายแล้ว”
“ตายจริงแล้วหรือ” เยี่ยนจื่อเยี่ยถามเพื่อยืนยัน ถึงอย่างไรกุ่ยหมู่ก็หนีเก่งมากจริงๆ
“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋พยักหน้าอย่างมั่นใจ จู่ๆ ก็มองไปที่เม่ยเอ๋อร์
เม่ยเอ๋อร์ในครานี้ นางกำลังครุ่นคิดและเอาแต่มองไปข้างนอก
เยี่ยนอวี๋คิดบางอย่างขึ้นได้ นางมองไปที่ชายข้างกายทันที “เจ้าเดาได้แต่แรกว่าเมื่อเราเข้ามาแล้วจะเจอพวกเขาหรือ”
“ไม่แน่ใจ แต่บนตัวเม่ยเอ๋อร์มีกลิ่นอายซับซ้อน ข้าเดาว่านี่คือชีวิตใหม่ที่เจ้าใช้โอกาสเกิดใหม่ของเจ้ามอบให้ มีความรู้สึกเหมือนสหายเก่าของเจ้า อีกทั้งข้าก็สงสัยมาตลอดว่า การตายของเจ้าไม่ใช่การกลับสู่ธรรมชาติปกติ แม้จะยังตรวจสอบไม่ได้ แต่การปรากฏตัวของหลุมศพสะกิดให้ข้าคิดได้ว่าอาจจะเป็นทวยเทพบรรพกาลสี่ห้าองค์นั่น แต่ว่า…”
ต้าซือมิ่งที่พูดถึงตรงนี้แล้วเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ไอ เยี่ยนอวี๋ตกใจ เขาโบกมือบอกว่าไม่เป็นไร ทว่า…
แค่ก
ต้าซือมิ่งที่ไอเป็นเลือดข้นออกมา เขาเองก็ขมวดคิ้วและเริ่มนับนิ้วทำนายเหมือนกับกู้จื่อเฟิง อินหลิวเฟิงที่เห็นดังนั้นกะพริบตามองไปที่กู้จื่อเฟิง
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ‘ศัตรู’ ทั้งห้าของเยี่ยนอวี๋ที่หนีไปแล้วบัดนี้ยังอยู่ในหลุมศพจริงๆ มิหนำซ้ำพวกเขาเริ่มใช้พลังของต้าซือมิ่งต่อสู้กับเขาแล้ว
