เฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋ได้เริ่มออกเดินทางตั้งเเต่เมืองฟ้ากระจ่างและมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของอาณาจักรสายลม
ระหว่างทางก็ได้หยุดพักผ่อนหย่อนใจกันเล็กน้อย
โดยตรงที่พวกเฟยหลงหยุดพักนั้นมีเเม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่านซูซ่านที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวกับเฟยหลงว่า
” ท่านพี่เฟยหลงข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนจะได้ไหม ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวกับซูซ่านว่า
” อืม……. เเต่อย่าไปไกลนักละถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็ตะโกนบอกข้าได้เลย ”
ซูซ่านได้กล่าวกับเฟยหลงว่า
” คะท่านพี่เฟยหลง ”
หลังจากนั้นซูซ่านก็ได้เดินไปหาเสี่ยวไป๋เเล้วกล่าวว่า
” นี่เสี่ยวไป๋เจ้าจะไปอาบน้ำไหม ”
เสี่ยวไป๋ได้พยักหน้าของมันและเดินไปยังจุดที่ไม่ห่างจากเฟยหลงมากนักแล้วก็ได้กระโดดลงไป
” อ๋าว ”
เฟยหลงที่ได้เห็นเสี่ยวไป๋ว่ายไปมาอยู่ในเเม่น้ำก็ได้กล่าวออกมาว่า
” เสี่ยวไป๋มันก็แปลกนะทั้งที่พวกสัตว์อสูรประเภทนี้จะไม่ค่อยที่จะชอบน้ำสักเท่าไหร่เเต่ตัวมันนั้นกลับชอบ ”
เฟยหลงที่ได้เห็นดังนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากถึงเเม้ว่าการที่เสี่ยวไป๋ชอบอาบน้ำซึ่งเฟยหลงสังเกตเห็นหลายครั้ง
ก็รู้สึกแปลกใจถึงเเม้ว่าคิดไปก็หาเหตุผลไม่ได้
” ชั่งมันละกันถึงเเม้ว่าเสี่ยวไป๋จะชอบอาบน้ำก็ไม่น่าแปลกอะไีมากนักคงเพราะว่าอาจจะชอบมากก็ได้ ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้ไปหาวัตถุดิบหรือสิ่งของต่างๆที่ตนนำมานั้นออกมาทาน
…………………………………
ราตีมาเยือนดวงดาวกนะจ่างใสระยิบระยับบนท้องฟ้าเฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋ได้นั้งรอทานอาหารที่เฟยหลงปรุงขึ้นมา
โดยที่ซูซ่านก็ได้กล่าวออกมาระหว่างที่รอว่า
” อ่า…….. กลิ่นหอมของอาหารที่ท่านพี่เฟยหลงปรุงขึ้นมานั้นไม่ว่าจะได้กลิ่นอีกกี่ครั้งก็ยังคงหอมน่าทานเหมือนเดิม ”
ด้านเฟยหลงกำลังย่างเนื้อของสัตว์อสูรที่ล่ามาจากแถวเเม่น้ำ
” ช่า ช่า ช่า ”
เสียงเนื้อย่างที่โดนไฟของเฟยหลงย่างเรื่อยเสี่ยวไป๋นั้นได้นั่งจ้องมองอย่างไม่คชาดสายตาซูซ่านที่นี่งอยู่ใกล้นั้นก็เหมือนกัน
เฟยหลลที่ปำลังย่างเนื้อสัตว์อสูรอย่างสบายใจก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นมา
” อาววู่……………..”
ซึ่งเป็นเสียงตะโกนเฟยหลงที่ได้นั่งอยู่ก็ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเสี่ยวไป๋ซูซ่านก็เช่นกัน
” ท่านพี่เฟยหลงท่านได้ยินเสียงนั้นไหม ”
เฟยหลงได้ตอบซูซ่านกลับไปว่า
” อืมข้าก็ได้ยิน ”
เสี่ยวไป๋ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ำด้ร้องออกมา
” อ๋าว ”
เฟยหลงจึงกล่าวออกมาว่า
” ดูเหมืิอนพวกเราทั้งสามจะได้ยินมันเหมือนกัน ”
ระหว่างที่เฟยหลงกำลังพูดคุยกันอยู่นี้นก็ได้มีกลิ่นเลือดลอยเข้ามาดฟยหลงจึงกล่าสอย่างประหลาดใจว่า
” หืม……. นี่มันกลิ่นเลือด ”
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงที่ระเบิดดังขึ้น
” ตู้ม ”
เฟยหลงจึงตัดสินใจเข้าไปตรวจสอบยังต้นตอของเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นและกล่าวกับทั้สองคน
” พวกเจ้าจะตามข้าไปด้วยไหม ”
ซูซ่านได้ตอบเฟยหลงกลับไป
” ข้าจะไปด้วยคะท่านพี่เฟยหลง ”
เสี่ยวไป๋ก็ได้ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเเน่วเเน่ตอบเฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวกับทั้งสองว่า
” ถ้ามีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นพวกเจ้าจงฟังคำกล่าวของข้าให้ดีถ้าข้าบอกว่าหนีก็จงหนีอย่าได้ลังเลเข้าใจไหม ”
ซูซ่านได้กล่าวรับปากเฟนหลง
” คะท่านพี่เฟยหลงข้าจะทำตามที่ท่านกล่าวออกมาอย่างเเน่นอน ”
……………………….
อีกด้านหนึ่งได้มีเสียงของการต่อสู้กันดังขึ้นมา
” โฮก ”
โดยที่ด้านหนึ่งนั้นมีหมาป่าตัวหนึ่งกำลังสู้กับหมีตัวหนึ่งซึ่งการต่อสู้ได้ดำเนิดเรื่อยไปแม้เเต่พวกมันนั้นก็ไม่ได้สัมผัสว่ามียืนอยู่ไม่ไกลจากพวกมัน
” ที่เเท้ก็พวกสัตว์อสูรสู้กันเเต่ว่า………. ”
” ระดับขอบเขตวิญญาณหรือข้าชั่งโชคดีอะไรอย่างนี้
