เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวถามเพื่อความเเน่ใจ
” พี่ใหญ่ท่านเเน่ใจเหรอ ”
เฟนหลงได้กล่าวตอบกลับไปอย่างราบเรียบ
” ข้าเคยผิดคำพูดด้วยเหรอ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆในอดีต
” พี่ใหญ่ไม่ได้ผิดคำพูดอะไร…………. เเค่บางครั้งอาจจะขอบทำอะไรโดยที่อธิบายพวกเราเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยท่าทางที่ไม่เห็นด้วยพร้อมกับบอกเหตุผล
” เรื่องนั้นเป็นเจ้าเองที่ไตร่ตรองสิ่งที่ข้ากล่าวบอกไปช้าเอง ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็ได้เลิกกล่าวเรื่องนี้ต่อเเล้วหันไปสนใจดาบหักเล่มที่เฟยหลงยทนมาให้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยพร้อมกับครุ่นคิดในใจว่า
” มันก็ดูเหมือนดาบธรรมดาๆเบ่มหนึ่ง……………. ของเเค่นี้ข้าทำลายได้สบาย ”
เมื่อเสี่ยวไป่คิดได้ดังนั้นจึงฉีกยิ้มออกมาด้วยท่าทางเจ้าเลห์
” เเต่เพื่อความปลอดภัยข้าควรลงมือเต็มที่จะได้ไม่พลาดรางวัลที่พี่ใหญ่สัญญาไว้ ”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้เสั่ยวไป๋ได้รวบรวมพลังปราณเอาไว้ที่กรงเล็บอย่างรวดเร็วก่อนที่จะใข้กรงเล็บนั้นตะปบไปบนใบดาบที่เต็มไปด้วยสนิม
” ตู้ม ”
เสียงระเบิดเกิดขึ้นในระหว่างการปะทะเสั่ยวไป๋กระโดออกมาจากกองฝุ่นที่ตลบอบอวลไปทั่วบริเวณเเล้วกล่าวกับเฟยหลงว่า
” พี่ใหญ่ข้าชนะเเล้วใช่ไหมรางวัลของข้าละ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวตอบเสี่ยวไป๋กลับไปด้วยรอยยิ้มที่กำลังมองเรื่องราวสนุกสนานเรื่องหนึ่งอยู่
” ข้ายังไม่เห็นกับตาเลยว่าดาบเล่มนั้นมันถูกทำลายตามที่เจ้ากล่าวจริงหรือไม่………. ลองกลับไปมองดูดีๆ”
เสี่ยวไป๋กลับไปมองตามที่เฟยหลงบอกเเต่เเล้วกลับพบกับความจริงอันน่าตกใจสำหรับมัน
” มันไม่เป็นอะไรเลยเหรอ ”
สภาพของดาบหักเล่มนั้นยังคงเหมิอนเดิมไม่เปลี่ยนเเปลงเเม้เเต่น้อยเเละยังคงตั้งอยู่ตรงที่เดิมเเม้พื้นที่นั้นจะถุกทำลายจนเป็นหลุมลึกลงไป
” มันทำจากอะไรกันทำไมถึงเเข็งขนาดนี้ขนาดกรงเล็บข้ายังทำอะไรไม่ได้เลย”
เฟยหลงที่ำด้ยินเสี่ยวไป๋กล่าวออกมาดังนั้นก็ได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” เเล้วตอนนี้เจ้ารู้เเล้วเหรอยังว่าเจ้าดาบหักเล่มนี้ยังเป็นดาบธรรมดาอยู่อีกไหม ”
เสี่ยวไป๋รีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็วซูซ่านที่มองอยู่ก็รู้สึกแปลกใจจึงกล่าวถาทเฟยหลงว่า
” ท่านพี่เฟยหลงดาบเล่มนี้ทำมาจากอะไรงั้นเหรอถึงจะมีสภาพนี้ยังสามารถทนการโจมตีโดยกรงเล็บของเสี่ยวไป๋ได้ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบคำถามของซูซ่าน
” วัสดุที่ใช้สร้างนั้นล้วนเเต่เป็นของที่หายากอย่างมากจนขนาดที่ทำให้เเม่น้ำถูกย้อมเป็นสีเเดงเพราะความโลภที่จะต้องการครอบครองดาบเล่มนี้เลยก็ว่าได้……………… ถ้าบอกพวกเจ้าไปมากกว่านี้ไม่ได้เเล้ว ”
เฟยหลงเงียบไปขั่วครู่กอ่นที่จะกล่าวต่อไปอีก
” เเต่ในอนาคตที่พวกเจ้ามีพลังมากพอเเล้วข้าจะบอกว่ามันคืออะไรกันเเน่ ”
เมื่อทั้งสามได้ยินดังนั้นจึงล้มเลิกที่จะกล่าวถามเรื่องนี้ต่อเฟยหลงก็ได้เจ้าในไปในห้องลับโดยที่มีเจียงหงตามไปด้วย
ส่วนพวกซูซ่านเเละเสี่ยวไป๋นั้นไม่ได้ตามเข้าไปเพราะถึงเจ้าไปก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเฟยหลงกำลังทำอะไรบ้างในขั้นตอนการซ่อมเเซมอาวุธ
เฟยหลงที่นั่งลงบ่มใจกลางห้องลับโดยที่มีเจียงหงนั่งอยู่ห่างจากตัวเฟยหลงไม่ไกลมากนัก
” ก่อนอื่นต้องสื่อสารกับดวงจิตของเจ้าพวกนี้ก่อน ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้ปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณเข้าไปในตัวดาบซึ่งเมื่อเฟยหลงเจ้าไปก็พบกับโลกที่มีสีขาวเเละสีดำถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง
โดยที่ด้านสีขาวนั้นมีเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีขาวคนหนึ่งถือดาบหักสีขาวที่ขนาดปกติทั่วไปอยู่
ส่วนทางด้านสีดำนั้นมีเด็กผู้ชายใส่ชุดสีดำกำลังยืนอยู่ด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความจริงจัง
ทางด้านเด็กผู้ชายคนนั้นเริ่มกล่าวออกมาว่า
” เป็นท่านจริงๆด้วย ทางด้านเด็กผู้หญิงก็กล่าวออกมาเช่นกัน
” ในที่……….. การรอคอยของพวกเราก็สิ้นสุดลง”
