เเม้เฟยหลงจะมีพลังถึงขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดเเละอีกฝ่ายเป็นเพียวขอบเขตเซียนขั้นสูงเท่านั้นเเต่การสังหารตัวตนระดับขอบเขตเซียนนั้นนับว่ายากเย็น
เพราะการที่พวกเขาขึ้นมาถึงขอบเขตเซียนขั้นสูงเเล้วมีชีวิตอยู่มาหลายพันปีได้นั้นต้องมีสิ่งต่างๆที่ไว้รักษาชีวิตยามจำเป็น
เเม้สุดท้ายจะสังหารไม่สำเร็จเเต่นั้นก็ถือได้ว่าเป็นตำนานอย่างหนึ่งที่ถูกเล่าขานต่อกันไปเป็นวงกว้าง……..
กับมาท้างด้านเฟยหลงตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าขั้นบันไดที่สูงอย่างมากรอบด้านเต็มไปด้วยความมืดมิดไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอะไรเลย
มีเพียงบันไดที่ทอดยาวขึ้นไปอย่างไร้ที่สิ้นสุดเท่านั้น
” ดูเหมือนว่าเเม้ระดับหอคอยขั้นบันไดนี้จะเป็นระดับต่ำเเต่รูปเเบบการทดสอบก็ไม่ได้เเตกต่างจากหอคอยขั้นบันไดระดับสูงเท่าไหร่ ”
เฟยหลงเมื่อกล่าวจบก็ได้ก้าวเดินขึ้นขั้นบันไดที่วกวนขึ้นไปด้านวนราวกับไร้ที่สิ้นสุดอย่างเงียบเชียบเเละตอนนั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในความคิดของเฟยหลง
” มีผู้ทดสอบเข้ามาหนึ่งคน ”
” ยืนยันตัวตนเป็นเผ่ามนุษย์ ”
” เริ่มการทดสอบได้ ”
เฟยหลงที่ได้ยินเสียงนี้ไม่ได้แปลกใจอะไรมากเพราะสิ่งนี้คือจิตวิญญาณเเห่งหอคอย
……… หอคอยขั้นบันไดไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเเบบหอคอยธรรมดาเเต่มันคืออุปกรณ์มิติขนาดใหญ่ก็ว่าได้…………
เเละตัวหอคอยนั้นเป็นคนควบคุมค่ายกลเเละสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นภายในด้วยตัวมันเอง
ตอนที่เฟยหลงก้าวต่อไปจนกระทั่งถึงขั้นที่สิบนั้นก็ได้มีเเสงสว่างเกิดขึ้นพร้อมกับเฟยหลงได้มาปรากฏตัวอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าเเห่งหนึ่ง
ที่ว่างเปล่าเเต่จู่ก็มีสัตว์อสูรที่คล้ายคลึงกับหมาป่าปรากฏตัวออกมาเป็นจำนวนสิบตัวเเล้วมีเสียงเดิมได้ดังขึ้นอีกครั้ง
” เริ่มการทดสอบเเรกได้ ”
” ผู้เข้าทดสอบต้องสังหารสัตว์อสูรหมาป่าทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด ”
” ขอลเขตพลังของผู้เข้าทดสอบคือขอบเขตหลอมรวมขั้นต่ำสัตว์อสูรจะถูกปรับให้อยู่ในขอบเขตหลอมรวมขั้นกลางซึ่งมากกับตัวผู้เข้าทดสอบ ”
” เเละหากผู้ทดสอบผ่านก็จะได้ก้าวเดินไปยังขั้นบันไดต่อไปที่อยู่สูงมากกว่านี้หากล้มเหลวจะถูกส่งกลับออกไปเเล้วไม่สามารถเข้ามารับการทดสอบได้อีก ”
เฟยหลงที่ได้ยินก็เริ่มลงมือเเละตัวเขาก็สัมผัสได้ขอบเขตพลังของขอบเขตหลอมรวมขั้นกลางจากหมาป่านับสิบตัวที่ร้ายล้อมรอบตัวเขา
” โฮกกกกกกกกกก ”
เสียงคำรามได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเเละพวกมันได้เริ่มโจมตีตัวเฟยหลง
เฟยหลงที่ตกอยู่ท่ามกลางสัตว์อสูรหมาป่าสิบตัวนี้ก็ได้หัวเราะออกมาด้วยท่าทางที่มีความสุขเเ้
ล้วกล่าวออกมา
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่คาดคิดเลยว่าจะต้องเข้ามาในที่เเห่งนี้เเละต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ถูกจำลองขึ้นมาด้วยค่ายกล ”
เมื่อเฟยหลงก็ได้เงียลไปเพียงชั่วครู่เเล้วกลาวออกมาด้วยท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาในการต่อสู้พร้อมกับกล่าวออกมาว่า
” สิ่วที่น่ากลัวที่สุดในการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรคือ….. สัตว์อสูรที่ออกล่ากันเป็นกลุ่มหรือฝูง ”
สัตว์อสูรหมาป่าทั้งสิบได้โจมตีกันอย่างเป็นระเบียบเเบบแผนราวกับมันกำลังวางแผนเอาไว้เเล้วล่วงหน้า
คมเขี้ยวของสัตว์อสูรหมาป่านั้นมีความเเหลมคมสามารถฉีกกระชากร่างกายของสัตวํอสูรต่างๆที่อยู่ในขอบเขตเดียวกันหรือเเม้เเต่อเกราะเเละโล่ก็สามารถถูกทำลายโดยคมเขี้ยวของพวกมันได้
เฟยหลงนั้นไม่ได้รอช้าใช้งานรูปแบบเต่าทมิฬเเละรูปแบบมังกรครามของทักษะสี่สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ทำให้อีกไม่สามารถใช้คมเขี้ยวของพวกมันเจาะผ่านชุดเกราะนี้ได้
ลวกกับเปลวเพลิงสีครามที่กำลังลุกไหม้อยู่นั้นสัตว์อสูรหมาป่าเเต่ละตัวก็สัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างที่น่าเกร่งขาม
” เอาละที่นี้พวกเจ้าก็เข้ามาให้พร้อมกันเลย………. ข้าจะได้เผาพวกเจ้าให้เป็นเถ้าถ่านในครั้งเดียว “
