ตอนนี้พวกเฟยหลงได้วิ่งนำไปก่อนเเล้วโดยมีหลินหยางเเละหลีเหวินกำลังวิ่งตามไปติดๆ
เมื่อผ่านเหล่าผู้บ่มเพาะกลุ่มใหญ่ที่กำลังเดินอยู่ลนถนนเเละเเอบซ่อนอยู่ในอาคารต่างๆเพราะเกรงกลัวจิตวิญญาณเปลวเพลิงจะเผาพวกเขาเป็นเถ้าถ่าน
” เออ………. พวกเขาจะไปไหนกันนะ ”
” พวกเราออกไปดูหน่อยดีไหม ”
” เจ้าอยากถูกเผาเป็นเถ้าถ่านเหรอ ”
” เเต่ดูเหมือนมีคนกำลังพยามทำอะไรกับวัตว์ประหลาดตัวนั้นเปลวเพลิงนั้นเเล้วนะ ”
ทางด้านเหล่าผู้บ่มเพาะเเต่ละคนได้เถียงกันเรื่องนี้ว่าพวกเขาควรจะตามไปหรือไม่เเต่เมื่อทุกคนคิดถึงจิตวิญญาณเปลวเพลิงที่เเสนดุร้ายตนนั้นจึงล้มเลิกความคิดไป
เเล้วตัดสินใจซ่อนตัวอยู่ต่อเพื่อความปลอดภัยในชีวิตเเละทรัพย์สินของตัวพวกเขาเอง
เเล้วด้วยการนำทางของเสี่ยวไป๋ผู้ที่เคยเดินสำรวจมาก่อนหน้านั้นเเล้วจึงไม่หลงอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินเหล่านั้น
พวกเฟยหลงตอนนี้นั้นได้มาถึงพื้นที่ๆเต็มไปด้วยอาวุธต้างๆมากมายกำลังปักอยู่เเต่ตอนนี้มีม่านเเสงปกคลุมเอาไส้เเล้วด้านในนั้นมีเปลวเพลิงที่กำลังเเผดเผาหมอกสีดำอย่างบ้าคลั่ง
” โฮกกกกกกกกกกกกกก ”
เสียงคำรามได้ยินเป็นบางครั้งคราวไม่ไกลจากนั้นมีโครงกระดูกตัวหนึ่งถือดาบยืนอยู่อย่างสงบราวกับเป็นรูปปั้นหิน
เมื่อโครงกระดูกนั้นสังเกตุเห็นเฟยหลงจึงกล่าวออกมาว่า
” พวกเจ้าตามด้วยอย่างนั้นเหรอ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าก่อนที่จะกล่าวตอบกลับไปว่า
” กผ็นะพวกเรายังต้องมาดูผลงานที่ร่วมกันสร้างเอาไว้………. เเล้วอีกอย่างนั้นท่านลืมบอกสถานที่เก็บทรัพยากรบ่มเพาะเหล่านั้น ”
โครงกระดูกที่ได้ยินดังนั้นเกือบที่จะทรุดลงไปกับพื้นจริงๆก่อนที่จะกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” เรื่อวนั้นพวกข้าไม่ผิดสัญญาอยูาเเล้วเเต่ต้องรอให้เจ้าพวกนี้ถูกทำลายก่อนเเล้วข้าถึงจะวางใจได้ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงไม่ได้กล่าวอะไรต่อไปอีกเเล้วเเล้วยืนรับชมการต่อสู้ระหว่างเขตเเดนที่เกิดจากปราณสีดำที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายเเละจิตวิญญาณเปลวเพลิงที่ดูดซับพลังจากค่ายกลมายาวนานหลายร้อยปี
การต่อสู้ของทั้งสองได้เริ่มรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆเเต่ค่ายกลที่กักขังมันนั้นไม่ได้มีวี่เเววว่าจะสั่นคลอนลงเเม้เเต่น้อยเลย
จิตวิญญาณเแลวเพิงเเละทางฝั่งเขตเเดนที่กำลังต่อสู้กันอย่างรุนเเรงทั้งคู่เริ่มที่จะได้รับความเสียหายไม่น้อยเเล้ว
ใตัวอจิตวิญญาณเปลวเพลิงนั้นตอนนี้เปลวเพลิงบางส่วของมันเริ่มเเผ่วเบาลงอย่าเห็นได้ชัด
ส่วนทางด้านเขตเเดนนั้นนเริ่มที่จะสร้างร่างเงาสีดำได้น้อยลงเรื่อยๆเเล้วตอนนั้นเองที่พวกมันได้ตัดสินใจจบการต่อสู้ครั้งนี้
” โฮกกกกกปปกกกก ”
เสียคำรามของจิตวิญญาณเปลวเพลิงได้ดังกึกก้องไปทั่วค่ายกลกักขังนั้นเปลวเพลิงที่อ่อนเเออยู่ๆก็ได้ลุกโชติช่วงราวกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก
ครั้งนี้นั้นเปลวเพลิงได้รุนเเรงยิ่งกว่าครั้งใดๆทางด้านเฟยหลงที่เห็ดังนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยความเเปลกใจ
” ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณเปลวเพลิงคิดจะจบการต่อสู้ครั้งนี้ลงเเล้วละ……….. การเผาผลาญเเก่นเเท้ของเปลวเพลิงของตัวมันเองเเล้ว”
ซูซ่านที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวถามออกมาด้วยความเเปลกใจ
” ท่านพี่เฟยหลงเผาผลาญเเก่นเเท้ของเปลวเพลิงมันคืออะไรเหรอ ”
เฟยหลงที่ได้ยินซูซ่านถามออกมาเเบบนั้นจึงกล่าวตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
” การเผาผลาญเเก่นเเท้ของเปลวเพลิงนั้นก็เหมือนกับการเผาผลาญพลังชีวิตของมนุษย์นั้นเเหละ…………. มันสามารถเเลกพลังที่มหาศาลมาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งเเต่ถึงอย่างนั้นเเล้วตัวจิตวิญญาณเปลวเพลิงต้องได้รับความเสียหายอย่างมาก ”
” ถึงขั้นที่พลังของมันที่ดูดซับมาในหลายร้อยปีมานี้หายไปอย่างสูญเปล่าก็ว่าได้……… ถ้าร้ายเเรงกว่านั้นมันอาจจะดับสูญไปเลย “
