ชายชราทั้งสามได้นั่งอยู่อย่างสบายใจเมื่อเฟยหลงกล่าวราคาออกมา
เเต่ทางด้านผู้อาวุโสตระกูลหยางนั้นได้ตกตะลึงกับราคาที่เฟยหลงเสนอออกมาเพราราคาหนึ่งล้านเหรียญทองนั้นมันมีจำนวนมากสำหรับตระกูลหยาง
จึงลองกล่าวต่อรองกับเฟยหลง
” หนึ่งล้านเหรียญทองมันมากเกินไปไหมพสกข้ายังไม่ได้ทำร้ายอะไรเจ้ามากมายเลยเจ้าจะเอาหนึ่งล้านเหรียญทองมันจะมากเกินไปหรือไม่”
เฟยหลงได้หัวเราะและตอบผู้อาวุโสตระกูลหยางด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็น
” โอ้…. งั้นไหนลองบอกข้าหน่อยว่ามันมากเกินไปตรงไหนทั้งที่เจ้าใส่ความข้าทำให้ชื่อเสียงของข้าเสียหาย ”
” ทำให้ตัวข้านั้นเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเเต่น่าเสียดายที่เจ้าฝีมือต่ำต้อยเกินไปจึงไม่อาจที่จะเอาชีวิตข้าได้ ”
ผู้อาวุโสตระกูลหยางที่ได้ฟังสิ่งที่เฟยหลงได้กล่าวออกมาอย่างเยือกเย็นโดยที่ไม่มีการอ้อมค้อมใดๆทั้งสิ้นจึงกล่าวยื่นข้อเสนอแก่เฟยหลง
” เอาอย่างนี้เป็นไงละข้าเสนอที่จะมอบเงินให้เจ้าห้าแสนและการที่เจ้าสามารถเป็นพันธมิตรกับเราตระกูลหยางได้ ”
” เจ้าสามารถใช้ชื่อของตระกูลข้าทำอะไรบางอย่างที่เจ้าต้องการได้เเต่อย่าสงผลกระทบกับตระกูลหยางมากเกินไป ”
ผู้อาวุโสตระกูลหยางที่ได้ยื่นข้อเสนอเสร็จก็ได้รอฟังคำตอบของเฟยหลง
ซึ่งเเตกต่างกับที่ตนได้คิดเอาไว้
” ข้าไม่สนและไม่ต้องการที่จะเปฌนพันกับตระกูลหยางของเจ้า ”
” ข้าพูดคำไหนคำนั้นจ่ายมาหนึ่งล้านหนืออยากจะเห็นตระกูลหยางที่อยู่ในเมืองฟเากระจ่างเเห่งนี้ล่มสลายหายไปเพียงเเค่ชั่วค่ำคืน ”
ผู้อาวุโสตระกูลหยางที่ได้ยินคำตอบของเฟยหลงที่ไม่ยอมถอยเเม้เเต่ก้าวเดียวจึงกล่าวเตือน
” เจ้าอย่าคิดว่าตัวเจ้าเเม้จะยิ่งใหญ่มาจากไหนเเต่ที่นี่คือเมืองฟ้ากระจ่างที่ตระกูลหยางเป็นหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุด ”
เฉินหรงที่เข้ามานั่งอย่างเงียบอยู่นานก็ได้กล่าวออกมา
” เจ้าอย่าคิดว่าตระกูลหยางของเจ้าจะสามารถเหนือกว่าตระกูลเฉินขอวพวกเราได้เพราะเเม้เเต่ตอนนี้หยางเทียนและหยางโจได้ตายไปแล้ว ”
” เเล้วใครจะมีพลังพอที่จะสืบทอดละเจ้าจงคอดให้ดีว่าตัวดจ้าไม่ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดเเม่เเต่อดีตหรือปัจจุบัน ”
ผู้อาวุโสตระกูลหยางที่ได้ยินคำกล่าวของเฉินหรงเเม่จะโกรธเคืองเเต่มันเป็นตามความจริง
ที่ตอนนี้ไม่มีผู้นำตระกูลหยางอยู่จะต้องระมัดระวังสิ่งต่างๆทีืตนเองจะกระทำ
ชายชราอีกสามคนได้กล่าวขึ้นมาเป็นเสียงเดียวกันว่า
” ใช่เเล้ว ”
เฟยหลงก็ได้นั่งจิบชาต่ออย่างสบายใจและรอคอยคำตอบของผู้อาวุโสตระกูลหยาง
จนเวลาได้ผ่านไปไม่นานผู้อาวุโสตระกูลหยางได้สูดหายใจเข้าลึกและคิดอยู่ในใจ
‘ ต่อให้ข้ามีพลังอยู่ที่ขอบเขตวิญญาณเเต่ก็ยังสู้ชายชราทั้งสามคนไม่ได้อีกอย่างชายชราทั้งสามคนได้เรียกชื่อเฟยหลงอย่างเป็นกันเองหรือไม่ก็นอบน้อม ‘
‘ ตอนนี้ยังมีตระกูลเฉินที่เข้าข้างเฟยหลงอยู่ดังนั้นข้าก็ไม่สามารถทำได้รวมทั้งตอนนี้ก็ไม่มีความสามารถพอ ‘
เมื่อผู้อาวุโสตระกูลหยางตัดสินได้เเล้วจึงกล่าวออกม่อย่างเสียงดังฟังชัด
” ข้าตัดสินใจแล้วว่าทางตระกูลหยางของเรทนั้นจะชดใช้ให้เจ้าเป็นหนึ่งล้านเหรียญทองและเจ้าต้องสัญญามาว่าจะไม่มาอยุ่งกับตระกูลข้าอีก ”
เฟยหลงได้ฟังข้อเสนอนี้ของผู้อาวุโสตระกูลหยางก็ได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจและกล่าวขึ้นมา
” ข้าทำได้เเน่นอนเเต่มันต้องอยู่ในขอบเขตที่ว่า”
” ถ้าพวกเจ้าคิดจะมาทำอะไรข้าวันนั้นเจ้าจะได้เห็นตระกูลหยางห่ยไปจากเมืองฟ้ากระจ่างอย่างที่ข้าได้กล่าวเอาไว้เเน่นอน ”
ผู้อาวุโสตระกูลหยางก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้และกล่าวตกลงกับเฟยหลง
” ได้ข้ายอมรับข้อตกลงนี้ทุกประการ ”
” เจ้าพอใจหรือไม่ละ “