เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่110 ข้าชอบท่าน

ตอนที่110 ข้าชอบท่าน

หลังจากไป๋หลงก้าวผ่านประตูก็มาโผ่ลยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ้งมันน่าจะอยู่ในสถาบันอย่างแน่นอนเพราะสามารถมองเห็นสถาบันหลักได้จากข้างล่างนี้…จากสภาพที่ไป๋หลงเห็นคือทุกพื้นที่ทุกตารางนิ้วมีพื้นหญ้าขึ้นระหว่างช่องว่างของพื้นกระเบื้องเกือบทั้งหมด..

อาคารถูกสร้างด้วยไม้และมีหญ้าขึ้นเกาะ..มีเถาวัลย์พันเกี่ยวกันมั่วไปหมดมีศิษย์หลายคนกำลัง..ตกอยู่ในสภาวะมึนงงว่าที่นี้คือที่ไหนกันแน่…ในระหว่างนั้นเองผู้คนรอบข้างที่สังเกตเห็นไป๋หลงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง…

” เทพสังหารไป๋หลง…มาเข้าเป็นศิษย์สายนอกนี้มันเรื่องตลกอันใดกัน!! ” เสียงของศิษย์บางคนดังขึ้นก็ทำให้ไป๋หลงกลายเป็นจุดสนใจในทันที..ไม่เว้นแม้แต่อู้เฉียงและเว่ยเว่ย

” นั้นสหายของเทพสังหารไป๋หลง..ข้าละอิจฉาจริงๆ แต่เด็กน้อยผู้นั้นงดงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ”

” ใช่ๆๆข้าเห็นด้วย ”

ขณะนั้นเองมีผู้อาวุโสผู้หนึ่งเป็นชายชราที่แต่งตัวซอมซ่อ..เดินมาพร้อมกับอาจารย์หญิงที่ดูสง่างามแววตาเฉียบคมดุจคมกระบี่..เส้นผมสีดำมันขริบอาภรณ์สีฟ้าใส..เดินออกมาพร้อมกับชายชราร่างเล็ก..ก่อนอาจารย์ทั้งสองคนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกันเพราะจำนวนศิษย์น้อยกว่าปีที่แล้วเป็นเท่าตัว!!!!….

” ขอต้อนรับพวกเจ้าทุกคนเข้าสู่ศิษย์สายนอก..พวกเจ้า ณ ที่นี้ผ่านอะไรมาเยอะถึงจะเป็นศิษย์สายนอกแต่ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าทุกคนในที่นี้ล้วนมีความสามารถทั้งสิ้น…ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ต่างมีศักยภาพนตัวเองทั้งสิ้น..จงเชื่อมั่นในตนเองส่วนเรื่องรายอละเอียดทั่วไป อาจารย์เสี่ยวจือ จะเป็นผู้อธิบาย ”

อาจารย์หญิงก้าวเท้าออกมาก่อนจะกล่าวแนะนำตัวออกมาเป็นสุรเสียงที่น่าเคบิบเคลิ้มเป็นอย่างมาก…

” ตัวข้าชื่อ เสี่ยวจือ เป็นอาจารย์หญิงที่สอนทางฝั่งของศิษย์หญิง..การเรียนนั้นจะมีการแยกชายหญิงแค่เทอมแรกเท่านั้นส่วนเทอมที่สองเท่านั้นถึงจะเรียนร่วมกันได้!!! แต่ในเทอมแรกบางวิชาเท่านั้นถึงจะเรียนร่วมกัน…อีกเดี๋ยวจะมีการจัดแจงที่พักให้ตามความเหมาะสม…ไม่สิพวกเจ้าจะเลือกพักห้องไหนก็ได้เพราะยังไงห้องก็ว่างอยู่แล้ว..แต่ข้าขอย้ำว่าไม่ให้เข้าไปในเขตแบ่งระหว่างชายหญิงถ้าจับได้จะมีโทษสถานหนัก!!! ”

ไป๋หลงรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่เลี่ยงที่จะไม่พูดออกมาก่อนจะเห็นเก๋อเก๋อยืนอยู่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้…ก่อนจะจูงมือเว่ยเว่ยไปด้วย

” เก๋อเก๋อ…ข้าขอฝากเว่ยเว่ยให้เจ้าดูแลได้ไหมปกตินางตัวติดข้าตลอดแต่เห็นครั้งนี้คงจะไม่ได้ซะแล้ว ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นกับเก๋อเก๋อที่มัวแต่ยืนฟังคำอธิบายจนไม่ได้สังเกตเห็นไป๋หลง…

” เก๋อเก๋อ ได้ยินไหม ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นอีกรอบ..

เก๋อเก๋อได้ยินถึงกับสะดุ้งและหันมาพบเจอกับใบหน้าอันคุ้นเคยตั้งแต่จบบททดสอบครั้งนั้นนางก็มิได้พูดคุยกับไป๋หลงอีกเลย…ตอนปลุงยาไป๋หลงแสดงความสามารถอันเหนือล้ำออกมาทางการปรุงยายิ่งทำให้เก๋อเก๋อประทับใจไป๋หลงยิ่งขึ้น…ในฐานะที่นางนั้นจบมาจากสำนักโอสถความสามารถของไป๋หลงจึงเป็นที่ชื่นชมแก่นาง…

” ปะ ป๋า ไม่เอาอยากอยู่กับปะป๋า!! ” เว่ยเว่ยเอ่ยพลางเกาะแขนไป๋หลงกระพริบตาด้วยแววตาที่น่าสงสาร..

ไป๋หลงส่ายหน้าเบาๆก่อนจะลูบหัวเว่ยเว่ยอย่างแผ่วเบา…

” มันเป็นกฏเชื่อปะ ป๋านะ อยู่กับพี่เก๋อเก๋อ อย่าดื้อละ เชื่อฟังพี่เก๋อเก๋อ..ถ้าเจอคนไม่ดี ” ไป๋หลงกล่าวพลางยิ้มเย็นออกมาก่อนจะเหลียวตาไปยังเหล่าบุรุษที่กำลังพยามสิ่งที่ไป๋หลงกล่าวขึ้น…

” ถ้าเจอคนไม่ดีก็ เชือดทิ้งได้เลย!!! ” ไป๋หลงกล่าวปลอบประโลมอยู่ครู่นึงก่อนที่จะเดินไปหาเก๋อเก๋อ..

” ไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีกข้านึกว่าเจ้าเข้าเป็นศิษย์สายหลัก..หรือไม่ก็สายในไปแล้วซะอีก..” เก๋อเก๋อกล่าวขึ้นพลางจับพิรุธไป๋หลง…

” ฮ่าๆ แววตาเจ้ามันฟ้องนะเก๋อเก๋อ ข้ามีจุดประสงค์บางอย่างก็จริงแต่อย่างแรกที่จะต้องทำคือ..ความลับ!!! ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นพลางเอานิ้วชิ้วมาปิดที่ปากเอาไว้..

” เห้อๆ นี้ข้าเหมือนเป็นก้างขวางคอพวกเจ้ารึป่าวเนี้ย!!!..คุยกันได้ดีจริงๆ สาวสวยทุกคนทำไมถึงคุยแต่กับเจ้าไม่เห็นมีมาคุยกับข้าบ้างเลย ”

ภายในห้วงจิตของอู้เฉียงมีอู้เฉียงอีกคนหนึ่งที่กำลังนั่งซับน้ำตาก่อนจะเอ่ยขึ้น

” สหายข้าพวกเราคือ ชายชราตรี หญิงงามที่ไหนเราก็ไม่สน พวกเราต้องโหยหาความแข็งแกร่งอยู่เสมอ อย่าน้อยเนื้อต่ำใจไปเลย ”

ผ่านมาสักระยะแล้วตั้งแต่อู้เฉียงผ่านการทดสอบหุบเขาแห่งการจองจำ ดูเหมือนว่าสมุนไพรที่ช่วยยกระดับพลังของตนจะมีผลอีกอย่างคือสามารถทำให้วิญญาณก่อตัวเป็นรูปร่างได้…นั่นทำให้อู้เฉียงสองคนร่วมมือกันมาตลอดเมื่อเจอด่านทดสอบที่ไม่ถนัดอู้เฉียงอีกคนจะเข้าควบคุมร่างเอางในทันที….

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็กำหมัดทุบลงบนหน้าอก..

” ใช่แล้วพวกเราไม่ต้องผู้หญิ…. ”

อู้เฉียงกล่าวไม่ทันจบก็มีสตรีนางหนึ่งเลือนผมสีน้ำตาลวาวแววตาสีเหลืองราวกับหยดน้ำผึ้ง ผิวกายขาวดุจหยก พร้อมกับภูเขาขนาดมหึมาสองลูก กำลังจับมืออู้เฉียงด้วยความเขิลอายจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง..

” คะ..คือว่า.อะ..เอ่อ..ข้ามีบางอย่างจะบอกท่านว่า ข้าชอบท่าน!!!! ”

อู้เฉียงถึงกับใบหน้าแข็งข้าง..สตรีนางนั้นก็วิ่งกลับไปในกลุ่มเพื่อนของนาง…

” นี้เจ้าบอกชอบเขาไปรึยัง? ” หญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจุ้มลิ้มเอ่ยขึ้น..

” ขะ..ข้าบอกไปแล้ว ”

” หืม…ไม่คิดเลยว่าคนอย่างเจ้าจะมีใจให้ชายคนนั้นปกติ มีลูกของเหล่าขุนนางใหญ่โตมาขอเจ้าแต่งงานเจ้ายังเมินใส่แถมตะเพิดไล่ด้วยซ้ำ ”

” ที่ข้าชอบเขานั้น…ก็ตอนช่วงหลังจากแข่งขันเสร็จที่ข้าบอกว่า..ข้าโดนทำร้ายจากกลุ่มคนที่แฝงตัวเข้ามาในจังหวะนั้น เขาก็มาพร้อมเปลวเพลิงสีส้มที่สง่าสงามแต่ข้ากลับไม่ร้อนเลยสักนิด เขาปกป้องข้าจากการโจมตีเหล่านั้นและโอบร่างเข้าเอาไว้และพยามรักษาข้าจนแผลหายสนิท!!! ตอนนั้นข้าแน่ใจแล้วว่าเขานั้นต้องไม่มีคู่ครองอย่างแน่นอนเพราะตอนที่คุยกับข้าเขาตอบอย่างเขิลอาย..น่ารักสุดๆไปเลย ”

เพื่อนในกลุ่มต่างมองหน้ากันเพราะเพื่อนคนนี้นั้นไม่เคยแสดงท่าทีเช่นนี้มาก่อน….

ก่อนเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มนั้นกล่าวเสริมกันยกใหญ่แต่ก็ยินดีกับเพื่อนของตนเพราะดูแล้ว…อู้เฉียงดูจะเป็นคน ออกจะซื่อบื้อด้วยซ้ำดูจากหน้าที่ยิ้มบานออกมา…

ไป๋หลงและเก๋อเก๋อถึงกับขยี้ตาพร้อมกันส่วนเว่ยเว่ยเพียงงุนงงเท่านั้นว่าเกิดอะไรขึ้น..

” ไม่น่าเชื่อจะมีคนมาบอกชอบเจ้า..นี้เจ้าไปทำอะไรนาง!!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อสายตาตัวเอง..

ขณะนี้ภายในจิตใจของอู้เฉียงมีคลื่น 3 ลูกที่กำลังจะเบิดออกมา

” นี้เจ้าไหนบอกว่า พวกเราจะแข็งแกร่งไปด้วยกัน..เจ้าคนทรยศ!!! ” อู้เฉียงอีกคนกล่าวพลางกระทืบเท้าอย่างรุนแรง…

” อู้เฉียงไม่เลวนิ หึ!! เข้าไปช่วยสาวงามแล้วนางยังหลงเสนห์เจ้าอีก!! ข้าอยากรู้จริงๆถ้าแม่งูขาวตัวน้อยที่กำลังจะตื่นภายในไม่กี่วันข้างหน้ารู้เข้าจะเป็นยังไง!!!! ” เฟิงหวงกล่าวพลางกอดอกและความรู้สึกแปลกประหลาดภายในจิตใจกำลังก่อตัวขึ้น

อู้เฉียงหลังจากได้สติก็ตบหน้าตัวเองหนึ่งครั้ง..เจ็บไม่ได้ฝันไป!!!

” นั้นมันผู้หญิงที่ข้าช่วยไว้ตอนการแข่งขันนิ…ข้าคิดละว่าทำไมใบหน้านั้นและสิ่งนั้นถึงคุ้นๆเหลือเกิน “อูเฉียงกล่าวพลางยิ้มราวกับตาแกโรคจิตก็มิปาน…

ขณะนั้นเอง…

” ข้างหลังพวกเจ้าคุยอะไรกัน!!! มีอย่างอื่นสำคัญกว่าคำพูดของอาจารย์อย่างงั้นรึ? ”

อาจารย์หญิงที่สังเกตพฤติกรรมของกลุ่มไป๋หลงก่อนจะตัดสินใจกล่าวขึ้นและเขวี้ยงกระบี่ไม้ออกไป…

ฟิ้ว!!!

ถึงแม้จะเป็นกระบี่ไม้ธรรมดาแต่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยพลังชนชั้นจักรพรรดิ์ย่อมไม่ใช่สามัญ…

ไป๋หลงสัมผัสได้ถึงกระบี่ที่ตรงมาก่อนจะใช้มือจับอย่างง่ายดายรางกับจับไม้จิ้มฟัน…ก่อนที่ไป๋หลงจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและหนักแน่น…

” มีขอรับ สหายข้ามีสตรีแสนสวยมาบอกชอบขอรับ!!!! ”

จบ

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท