เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่114 การฝึก 2

ตอนที่114 การฝึก 2

อย่างแรกเลยไรท์ต้องขอโทษ ผู้อ่านเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคืนไรท์ง่วงมากจนเบลอๆก็อปเนื้อหาของตอนนี้ไปใส่ของตอนที่แล้ว…ไรท์ขอโทษผู้อ่านทุกคนครับและเพื่อเป็นการชดเลย ไรท์จะไม่พยามให้ค้างนะ..มั้ง ฮ่าๆๆๆ

………………………………………………..

ไป๋หลงเพียงปริยิ้มออกมาเท่านั้นก่อนจะปรับมือให้ต่ำลงและเเรงกดดันก็เพิ่มขึ้นไปอีกทำให้เหล่าศิษย์ทั้งหมดจดจำความรู้สึกนี้ได้ในทันที..

” บัญญัติแห่งราชันย์!!! ”

แรงสะกดข่มที่เกิดขึ้นสั่นสะท้านเข้าไปถึงจิตใจของเหล่าผู้คนมีบางคนเท่านั้นที่สามารถต้านทานได้…สาเหตุที่เหล่าศิษย์บางคนสามารถต้านทานแรงกดดันนี้ได้เพราะ หนึ่งประสบการณ์ครั้งแรกที่โดนกระบวนท่านี้…เหล่าศิษย์บางคนจึงเริ่มต้านทานได้และสอง ศิษย์เหล่านี้มีการพัฒนาขึ้น!!!

ซึ้งบัญญัติแห่งราชันย์แตกต่างจากจิตจักรพรรดิ์!!! จิตจักรพรรดิ์เป็นพลังแฝในหมู่เหล่าชนชั้นจักรพรรดิ์ขึ้นไป…แต่การที่จะมีจิตจักรพรรดิ์นั้นไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีพลังนี้ได้..ราวกับเป็นพลังของผู้ถูกเลือกเท่านั้น!!!

จิตจักรพรรดิ์นั้นสามารถบดขยี้ได้แม้กระทั่งขุนเขาคงไม่ต้องคิดถึงถ้าถูกใช้กับมนุษย์ด้วยกัน!!! ซึ้งแตกต่างกับบัญญัติแห่งราชันย์ที่โจมตีจิตใจโดยตรง…

ไป๋หลงปริยิ้มออกมาก่อนจะสลายแรงกดดันทั้งหมดออกไป…เหล่าศิษย์ต่างหายใจหอบหนักเหงื่อตก

” เอาละต่อไปนี้..พวกเจ้าทุกคนต้องฝึกรับแรงกดดันจากข้าให้ได้อีกอย่างได้สำรวจดูแล้วมีแค่พวกเจ้าบางคนเท่านั้นที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ถึงแม้จะมีอาการอ่อนล้าแสดงออกมาก็ตาม!!! ”

เหล่าศิษย์กว่า30ชีวิตมิได้แสดงความย่อท้อ ออกมามีเพียงความมุ่งมันที่ผ่านมาทางแววตาเท่านั้น…

” ขอรับ ว่าแต่พี่ใหญ่ที่ท่านบอกว่าจะปรับการฝึกวิชาและการบ่มเพาะพลังของพวกเราทำได้จริงๆใช่หรือไม่?…ที่ข้าถามไม่ได้หมายถึงข้าสงสัยในความสามารถของท่าน แต่พวกข้าที่อยู่ในที่แห่งนี้ก็ล้วนสงสัยเช่นกันว่าท่านจะทำยังไง? ” จางลี่เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง…

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอธิบายทันที..

” เรื่องนั้นข้าเตรียมการไว้แล้ว ”

ไป๋หลงกล่าวจบอู้เฉียงก็โผล่มายืนข้างๆไป๋หลงด้วยความเร็วที่พิศดาร..ทำให้เหล่าศิษย์ส่วนใหญ่ล้วนตกตะลึงไปชั่วขณะ..

อู้เฉียงยื่นส่งบางอย่างมาให้ไป๋หลงเป็นอุปกรณ์อักขระที่ไป๋หลงประดิษฐ์ขึ้นมาแต่ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้เท่านั้น..อุปกรณ์ชิ้นนี้มีรูปร่างเป็นกล่องสีเหลี่ยมเล็กๆสีดำพิลึก..

” นี้คืออุปกรณ์อักขระ กล่องย่นเวลา!!! หลักการทำงานของมันก็ง่ายๆเพียงส่งพลังเข้าไปกระตุ้นแบบนี้.. ”

ไป๋หลงอธิบายก่อนที่ไป๋หลงจะโยนกล่อง สีดำทมิฬลงไปตั้งกับพื้นก่อนที่กล่องใบนั้นจะขยายใหญ่ขึ้นและหยุดลง..กล่องใบนี้มีรูปร่างเป็นสีเหลี่ยมจัตตุรัสสูง สามเมตร มีประตูเพียงบานเดียวเท่านั้น…

” สิ่งนี้คืออะไรกัน!! ” จาลี่กล่าวพลางตกตะลึงกับวัตถุทรงสี่เหลือ เหล่าศิษย์ต่างมุงดูก่อนที่จะมีศิษย์ตนนึงเอามือไปแตะก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกเสียดแทงเข้ามาจนต้องล้มลงด้วยความตื่นกลัว!!!

” มะ..มันเย็นมากแถมยังความรู้สึกแปลกๆ!!!นั่นอีกมันคืออะไรกันแน่พี่ใหญ่ ” ศิษย์ร่างโตกำยำที่กำลังล้มนั่งอยูเอ่ยถามขึ้น…

” มันคือกล่องย่นระยะเวลา 1 วัน จากข้างนอกเท่ากับ 10วัน ในพื้นที่ด้านในนั่นก็หมายความว่า พวกเจ้าทุกคนฝึก1วัน เท่ากับ 10 วัน แต่ถึงกระนั้นก็ย่อมมีข้อเสียในตัวของมันเองเหมือนกัน เหมือนกับที่เจ้าสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมารอบตัวกล่อง…ซึ้งภายในกล่องใบนี้อัดแน่นไปด้วยความเย็นที่เกิดจากวัตถุดิบที่ข้าใช้สร้างขึ้น… ”

เหล่าศิษย์ต่างเบิกตากว้างพลางตกตะลึงหากเรื่องที่ไป๋หลงกล่าวมาเป็นความจริงแล้วทางสถาบันรู้เรื่องนี้เข้า..อาจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นก็ได้

” พี่ใหญ่ แล้วผลเสียที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ใช้ก็ย่อมมีเหมือนกันใช่หรือไม่!! ” ศิษย์เผ่ามังกรเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่แสดงออกถึงความเคารพของไป๋หลง..

ไป๋หลงพยักหน้าก่อนจะกล่าวออกมา..

” ใช่พวกเจ้าจะเหนื่อยเร็วกว่าปกติเป็น10เท่า!!! และทุกคนในตอนนี้เพียงก้าวเข้าไปก็อาจจะสลบ โดยไม่ทันรู้ตัวเลยจากบรรยากาศที่เสียดแทงออกมา… ”

เหล่าศิษย์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ต่างแสดงสีหน้าและแววตาออกมาคนละแบบ บ้างผิดหวัง บ้างหวาดหวั่น…

” เพราะการนั้นข้าถึงจะฝึกพวกเจ้าทั้งหมด..และทำตามที่ข้าเคยลั่นวาจาเอาไว้ กองกำลังของเราจะแข็งแกร่งที่สุด!!! ”

ไป๋หลงกล่าวออกมาอย่างแน่วแน่ก่อนจะเริ่มสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับวิชาที่ฝึกอยู่เป็นรายคน…

” จางลี่เริ่มจากเจ้า อธิบายวิชาที่ฝึกและกระบวนการบ่มเพาะพลังของเจ้า ข้าจะรับฟังและเเก้ไขในจุดที่ควรแก้และส่งเสริมในจุดที่ควรส่งเสริม… ”

จางลี่ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวบอกออกมาทั้งหมดต่อหน้าเหล่าศิษย์นับไม่ถ้วน…

เวลาผ่านไปเกือบค่อนวันไป๋หลงจดจำลายละเอียดทั้งหมดบ้างก็จดบันทึกลงในตำรา..สร้างความตื้นตันใจให้กับเหล่าศิษย์ในที่นี้เป็นอย่างมาก…

” พี่ใหญ่พวกเราขอบใจท่านจริงๆที่ทำเพื่อพวกเราถึงขนาดนี้..แต่ในตอนการสอบรอบแรกพวกเรากลับทำเช่นนั้นกับท่าน ”

ศิษย์คนนึงเอ่ยขึ้นด้วยความสำนึกผิด..

ไป๋หลงเพียงส่ายหน้าเท่านั้นก่อนจะปริยิ้มออกมา…

” ตอนนี้พวกเราคือครอบครัว แค่นี้ก็เกินพอ…นี้ก็จะเย็นแล้วพวกเจ้าแยกย้ายกันไปก่อนแล้วค่อยมารวมตัวกัน พรุ้งนี้ตอนเช้า..มันจะผิดสังเกตหากพวกเราอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่เช่นนี้เราอาจจะถูกเพ่งเล็งก็ได้.. ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยพลางใช้หางตามองไปยังหลังต้นไม้ที่ไกลออกไป!!!!

” ขอรับ…พวกเรากลับแยกย้ายกันไปได้แล้ว ”

เหล่าศิษย์ต่างสลายตัวเชื่อฟังคำสั่งของไป๋หลงเป็นอย่างดีมีเพียงสตรีนางหนึ่งเท่านั้นที่ยืนอยู่…ซึ้งเป็นสตรีที่มีใจให้กับอู้เฉียงนั่นเอง…

” ดูเหมือนนางอยากคุยกับเจ้านิ….ไปคุยซะสิ ข้าขอไปทำธุระบางอย่างก่อน ” ไป๋หลงกล่าวจบก็สลายกลายเป็นร่างเงาที่หายไปเป็นหนึ่งเดียวเงาของสรรพสัตว์และพงไพรราวกับเงาเหล่านั้น!!!

……………………………………………….

อีกด้าน…

” เขาหายไปไหนแล้ว? ได้ยังไงกัน!!! ” เสียงที่ดังไปด้วยความแปลกใจปนตกตะลึงเพราะร่างของไป๋หลงกลายเป็นกลุ่มควันสีดำ…

ก่อนจะมีบางอย่างโผล่มาข้างหลังหลินหลิน!!! ที่แอบสังเกตการณ์อยู่สักระยะหนึ่งแล้วแต่เพียงไป๋หลงสัมผัสไม่ได้ถึงเจตนามุ่งร้ายแต่อย่างใด…

จิตสัมผัสของหลินหลินนั้นเฉียบคมเป็นอย่างมากสัมผัสบางอย่างที่โผล่มาข้างหลังตนก่อนจะตวัดกระบี่กลับไปด้านหลังไป๋หลงโผล่ออกมาจากเงามืดเจอกระบี่ที่ถูกตวัดมาด้วยความเร็วที่มิอาจจะต้านรับทัน…ซึ้งแน่นอนถ้าเป็นกระบี่ธรรมดาย่อมมิทำให้ไป๋หลงสั่นครอน!! แต่นี้เป็นคระบี่พิเศษที่ไป๋หลงไม่เคยเจอมาก่อน

อำนาจที่แผ่ออกมาทำให้ไป๋หลงถึงกับใบหน้าขาวซีด..จะหลบก็หลบไม่ทัน เกร็งพลังต้านรับก็ยังอันตรายอยู่ดี…สิ่งเดียวที่ไป๋หลงทำได้คือ..

” เดี๋ยวก่อน…นี้ข้าเอง!!! ”

กระบี่ดังกล่าวหยุดลงห่างจากปลายคอของไป๋หลงเพียงนิดเดียวเท่านั้น!!! หลินหลินหันกลับไป ความงามของหลินหลินแทบจะทำให้ไป๋หลง…เคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

ใบหน้าที่สง่างามดวงตาสีแดงอำพัน เหมือนกับตน เส้นผมยาวสลวย ผิวกายขาวเนียนดุจหยกแม้จะอยู่ภายใต้การปกปิดซ่อนตัวก็ตาม…

” เป็นเจ้าเองศิษย์ใหม่ที่สร้างเรื่องวุ่นวายตอนเข้าสอบ…ข้าขอถามตามตรง เจ้าเป็นมนุษย์ใช่หรือไม่!!! ” หลินหลินกลาวถามออกมาตามตรง..

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงอยู่ชั่วขณะแต่พยามทำตัวเป็นปกติ..แต่มิอาจรอดพ้นสายตาของนางไปได้!!!

เมื่อไป๋หลงตั้งสติได้ก็ปรยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงใสซื่อ…

” ข้าชอบท่าน ”

หลินหลินได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาออกมาในทันที..ก่อนจะปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมาทำให้ไป๋หลงถึงกับใบหน้าขาวซีดในทันที…

” พลังนี้มัน..เผ่ามาร!!! ”

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท