เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่122 เตรียมพร้อม 2 จบ

ตอนที่122 เตรียมพร้อม 2 จบ

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันทีเพราะตรีศูลย์มันกำลังพูดออกมาผ่านกระแสจิต..โดยที่ยามนี้เหล่าสตรีและผู้คนโดยรอบต่างแข็งข้างเพราะหงส์ฟ้าดังกล่าวที่สร้างขึ้นจากพลังระดับราชันย์..โดนตัดจนหัวขาดสะบั้นเพียงแค่การโจมตีเพียงครั้งเดียว!!!

” บะ..บ้าน่า!! ”

เหล่าผู้คนเบิกตากว้างราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน..ณ เวลานี้เหล่าศิษย์และกองกำลังมากมายต่างเห็นประจักษ์

ไร้วี่แววของเสียงมีแต่ความเงียบที่เข้ามาปกคลุมพร้อมกับร่างไป๋หลงที่ยืนเด่นสง่ากำตรีศูลไว้ในมือแนบแน่น…ราวกับเทพสงคราม!!

เหมยชานิ่งข้างก่อนจะทรุดตัวลงด้วยผลกระทบของการที่กระโดดพลังข้ามขั้นแบบฉับพลัน..แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย..แม้แต่เหมยหลินยังขนลุกซู่ชันเพียงแค่สัมผัสถึงพลังที่ถูกปล่อยออกมาในแต่ละครั้ง…

” เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่!!! ”

เหมยชากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหอบหนักสตรีนับร้อยก็ล้วนใบหน้าขาวซีดไร้ซึ้งกำลังเพราะพลังทั้งหมดได้ถ่ายทอดไปกับกระบวนท่าเมื่อครู้เป็นที่เรียบร้อย..

ไป๋หลงเมินเฉยต่อคำถามก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา..

” ออกไปให้พ้น..ข้าให้เวลาเพียง10อึดใจไม่อย่างงั้น..อย่าหาว่าข้ารังแกสตรี!! ”

เหมยหลิยได้ยินเช่นนั้นก็ราวกับถูกตอกหน้าอย่างจัง..นี้พวกตนโดนไล่เหมือนหมูหมาอย่างงั้นรึ!!

ระหว่างนั้นเองแว่วเสียงที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งก็เอ่ยขึ้น..

” พอแค่นั้นแหละ..พวกเจ้าทั้งสองคนเป็นถึงศิษปี2 ชื่อเสียงก็ไม่ได้น้อยๆ..หากเรื่องนี้แพร่ออกไปเกรงว่าพวกเจ้าสองคนจะลำบากนะ ”

เหมยหลินและเหมยชาต่างสั่นสะท้านไปตามกันเพราะพวกตนจำเสียงนี้ได้เป็นอย่างดี..

” ท่านผู้อำนวยการหนึ่ง!! ”

คือบุคคลที่ทรงพลังและอำนาจที่สุดแม้จะเป็นเพียงผู้อำนวยการของศิษย์สายนอกก็ตาม!!

” เรื่องนี้ที่เกิดขึ้นเอาเป็นว่า..เจ้าช่วยให้เกียรติศิษย์ใหม่ผู้นี้จะได้หรือเปล่า..ตามจริงข้าก็ไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเด็กแต่…มันชักจะไปกันใหญ่ข้าเลยต้องมาด้วยตัวเอง ”

ผู้อำนวยการกล่าวขึ้นเห็นได้ชัดว่าผู้อำนวยการกำลังเข้าข้างไป๋หลงแต่..คำว่าให้เกียรติมันยังไงกัน..

” ท่านผู้อำนวยการหนึ่ง!! ท่านบอกว่าให้เกียรติข้าไม่เห็นว่ามีเกียรติอันใดที่ต้องให้เคารพด้วยซ้ำเป็นเพียงศิษย์นอก.. ”

เหมยชากล่าวขึ้นพลางจดจ้องไปยังไป๋หลงที่จดจ้องมายังตนราวกับมีเรื่องบาดหมางกันแต่ชาติปางก่อน

” ใช่แล้วศิษย์พี่พูดถูก ”

เหล่าสตรีต่างกล่าวยกยอคำพูดของศิษย์พี่ตน..

” เมื่อไม่กี่วันก่อนมีหนังสือสำคัญแจ้งมายัง ศิษย์สายนอกคนนึงว่า ซึ้งเนื้อความข้างในได้กล่าวไว้ว่าทำเนียบศิษย์ใหม่ขอมอบตำแหน่งศิษย์ลำดับที่1 ให้แก่ไป๋หลง แห่งศิษย์สายนอก และมีสิทธิเข้าร่วมในการชิงตำแหน่งราชันย์ศิษย์ใหม่!!! เนื้อหาดังกล่าวก็เป็นอย่างที่ข้าได้กล่าวมา ”

หลังจากสิ้นเสียงผู้อำนวยการหนึ่ง..เหมยหลินและเหมยชา ราวกับกับโดนตบหน้าจนชาไปทั่วหน้าก่อนที่สายตาทั้งหมดจะหันไปจดจ้องไป๋หลงราวกับมองสัตว์ประหลาดก็มิปาน!!!

ทุกคนในที่นี้รู้ดีว่าการได้ซึ้งลำดับมายากเพียงใดแม้อยู่ในระดับเลขสามหลักยังมีผู้คนนับหน้าถือตา..แต่นี้เป็นลำดับที่1!! อีกทั้ง ยังเข้าสถาบันได้ไม่นานก็ได้รับลำดับอย่างงั้นรึ…ต้องแข็งแกร่งขนาดไหนที่ทำเนียบให้ความสำคัญกับไป๋หลงเช่นนี้

แต่นี้ก็เป็นข้อยืนยันได้แล้วว่าความแข็งแกร่งของไป๋หลง..เหมาะสมกับลำดับที่1เป็นอย่างยิ่งหรือแม้จะสูงกว่านั้นก็ตามที!!!

” เป็นไปไม่ได้!!! ” เหมยหลินกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึงพลางจดจ้องไป๋หลงด้วยแววตาที่ซับซ้อน..

” ไป๋หลงเจ้าช่วยเอาสิ่งนั้นออกมาได้หรือไม่? เรื่องมันจะได้จบลงเพียงเท่านี้ ความบาดหมางในครั้งนี้ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน!! ” ผู้อำนวยการในชุดสีขาวบริสุทธิ์เอ่ยขึ้น

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็หยิบบางอย่างออกมาก่อนจะโยนไปทางเหมยหลิน..

” นะ..นี้มัน!! ”

เหมยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยากจะเชื่อ แต่สัญลักษณ์รูปเศียรมังกรหนึ่งเศียรกำลังคาบดาบไว้ในปาก..ลวดลายสีทองโบราณกับพลังจางๆที่แผ่ออกมา..

” สัญลักษณ์แห่งศิษย์ลำดับที่1!!! ” เหมยชาที่ยืนอยู่ใกล้ๆสามารถระบุได้ในทันทีว่าเป็นของจริงหรือไม่ก่อนจะหันไปสบตาไป๋หลง..ลึกๆลงไปนางนั้นไม่อยากให้เรื่องมาลงเอยเช่นนี้…ความผิดพลาดครั้งใหญ่คือตนนั้นสืบหาข้อมูลของไป๋หลงผู้นี้มาไม่ดีพอ…

เหมยชาและเหมยหลินต่างสบตากันเข้าใจได้ในทันทีว่าต่อจากนี้ควรทำสิ่งใดต่อไป..

” พวกเรา..กลับ!! ” เหมยชากล่าวขึ้นพร้อมกับนำกองกำลังทั้งหมดเดินทางกลับไป..เรื่องที่คิดจะเจรจาก็ตัดทิ้งไปได้เลย..เหมยหลินจดจ้องไปยังตราสัญลักษณ์ไม่นานมันก็หายไปจากมือของเหมยหลิน..ก่อนจะไปโผล่ในมือของไป๋หลงแทนแสดงให้เห็นว่าไป๋หลงเป็นศิษย์ลำดับที่1โดยแท้จริง!!!

ไป๋หลงหันไปคาราวะผู้อำนวยการหนึ่งก่อนจะขอตัวพาสหายทั้ง3เข้ารับการรักษาในทันที…

” ตรีศูลเล่มนั้น..ชั่งคล้ายกับ ” ผู้อำนวยการกล่าวขึ้นกับตนเองก่อนจะสลัดความคิดนั้นทิ้งไป..

” มันจะเป็นไปได้ยังไง…พวกเจ้ากลับไปทำหน้าที่ของตัวเองกันได้แล้วหรือต้องให้ข้าบอกพวกเจ้าเป็นรายคน!!! ” ผู้อำนวยการหนึ่งกล่าวขึ้นพลางปลดปล่อยพลังออกมาบางส่วน…

” พวกเราไปๆ..ผู้อำนวยการไล่แล้วจะอยู่ทำซากอะไร!! ”

” พวกเจ้าทุกคนจงจดจำเอาไว้ห้ามไปสร้างความบาดหมางกับเทพสังหารไป๋หลงเด็ดขาด!!! ”

เหล่ากองกำลังน้อยใหญ่ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างล้วนคิดเป็นเสียงเดียวกัน..เป็นไปได้อย่าสร้างเรื่องให้กับตนเองดีที่สุด..

” พี่ใหญ่..ข้าขอโทษ ” เหิงฟูกล่าวโทษความอ่อนด้อยของตนเองที่ประมาทจนเกินไปและไม่ยอมเปิดเผยร่างที่แท้จริงเพราะเหตุผลบางอย่าง..

” ข้าก็เช่นกัน.. ” กังเหอกล่าวพลางหอบร่างที่บาดเจ็บสาหัวของจางลี่ขึ้น..

ไป๋หลงส่ายหน้าก่อนจะก้มหัวลงสร้างความตกตะลึงให้กับกังเหอและเหิงฟูงเป็นอย่างมาก..

” นะ..นี้ท่าน!! อย่าทำเช่นนี้ ”

” ข้าขอโทษ..ข้าเองก็ประมาทเกินไปเมื่อครู่หากข้ามาไม่ทัน..ข้าคงจะสูญเสียสหายเช่นพวกเจ้าเป็นแน่!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นและกำลังถือตรีศูลอยู่!!

สาเหตุที่ไป๋หลงไม่สามารถเก็บเข้าไปได้เพราะตรีศูลเล่มนี้ขัดขืนอยู่ตลอดเวลานั้นเอง!!

” บัดซบ..ข้าไม่กลับเข้าไปแน่ที่ตั้งแคบหาที่อยู่ใหม่ให้ข้าเดี๋ยวนี้..ถ้าข้าไม่เห็นเจ้าเป็นสายเลือดชั้นสูงข้าไม่มีทางยอมรับเจ้าหรอก..เลิกเก็บข้าเข้าไปในที่แคบๆนั้นได้แล้ว!! ข้าเป็นถึงเทพศาสตร์ตราหาที่ให้มันดีกว่านี้ซิโว้ยยย!!”

ไป๋หลงแทบจะหัวระเบิดก่อนจะพาร่างของจางลี่และกลับเข้าที่พักของตนในทันทีพร้อมกับเสียงโวยวายตลอดเวลา..

……………………………………………………..

เขตที่พักของกองกำลังกระบี่เหมันต์….

มีชายผู้หนึ่งรูปร่างหน้าตาสง่างาม..ใบหน้าอันเรียบเฉยราวกับไร้ชีวิตชีวาเส้นผมสีเงินดวงตาสีน้ำเข้ม..กำลังอ่านรายงานบางอย่างพลางยกยิ้มขึ้น…

” น่าสนใจจริงๆ..ไป๋หลงอยากจะเจอตัวเจ้าซะแล้วสิ ”

บุรุษผู้หนึ่งที่นั่งไม่ห่างกันเห็นผู้เป็นสหายยิ้มขึ้นก็อดแปลกใจไม่ได้..

” ใครกันที่ทำให้องค์ชายน้ำแข็งของพวกเรายิ้มได้..ฮ่าๆๆ ”

” เจ้ากล้ากล่าวเหน็บแนมข้างั้นหรือ? ” องค์ชายน้ำแข็งกล่าวขึ้นพลางจดจ้องไปยังผู้เป็นสหาย..

” ข้า..ก็แค่กล่าวตามความจริงว่าแต่ว่าเจ้าคิดว่า เด็กที่ชื่อไป๋หลงจะลงเข้าชิงตำแหน่งราชันย์ศิษย์ใหม่หรือไม่!! ”

องค์ชายน้ำแข็งได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบกลับมาราวกับว่ามีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ..

” ใครจะไปรู้.. ”

เมื่อผู้เป็นสหายได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าออกมาก่อนจะทำงาของตนเองต่อไป..

…………………………………………………………………………….

อีกด้านของสถาบันเทพมาร..

” เตรียมการเสร็จสิ้น!!!..ทีนี้เพียงแค่องค์ประกอบทุกอย่างลงตัวข้าก็สามารถพาท่านกลับไปได้ทุกเมื่อ..ผู้สืบทอดโดยชอบธรรม!! ” เสียงที่กล่าวขึ้นก็คือชวี่เอ๋อนั้นเองที่ลักลอบเข้ามาภายในสถาบันเทพมาร..

ชวี่เอ๋อกล่าวพลางทำการเปิดค่ายกลบางอย่างเกิดหมอกควันสีดำกระจายไปทั่วบริเวณ..

” อีกไม่นานเกินรอ…ท่านจะต้องกลับไปกับพวกเรา!! ”

มารชั้นสูงที่ถูกชวี่เอ๋อใช้วิธีการบางอย่างนำพาเข้ามาในสถาบันแห่งนี้กำลังนั่งคุกเข่าก่อนจะฉายแววตาสีแดงโลหิตระดับที่แผ่ออกมาเทียบเคียงกับชนชั้นจักรพรรดิ์ขั้นปลาย!!!..และพร้อมทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย…

จบ….

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท