บทที่ 243 คุณเป็นแพทย์ผู้นำทีมผ่าตัด
ฉินเสียงมองแผลเป็นบนใบหน้าของโต้วซินที่ถูกวาดสัญลักษณ์เหล่านั้นไว้ เค้าโครงทั้งหมด…ฉินเสียงก็คุ้นตามากขึ้นมาทันใด!
เอ๊ะ?
นี่มันแบบร่างที่ตนร่างเมื่อกี้นี้
ไปอยู่บนหน้าซินซินตั้งแต่เมื่อไหร่!
ทันใดนั้นฉินเสียงก็ชะงักงัน!
นี่มันเป็นลายเส้นที่เฉินชางร่างไว้เมื่อกลางวัน?
เหมือนกับของตนมาก…เหมือน…เหมือน…
ฉินเสียงสับสนมึนงงไปหมดแล้ว!
ทำไมผม…
มิน่าเล่า เมื่อกี้นี้ตนถึงได้รู้สึกว่าเกิดแสงแห่งปัญญาในหัว คาดไม่ถึงว่ายังไม่ทันต้องคิดอะไรทั้งนั้นก็ออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังออกมาได้อย่างไหลลื่น!
ที่แท้ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้นี่เอง!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สภาพจิตใจของเขาพลันว้าวุ่นยุ่งเหยิงจนถึงขีดสุด สีหน้าของเขาเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด ดูกระสับกระส่ายร้อนรน!
แบบนี้เท่ากับตนขโมยความคิดของคนอื่นหรือเปล่า
ไม่หรอกมั้ง ก็แค่ได้ไอเดีย จะเรียกว่าขโมยความคิดได้ไง?
ไม่ได้เรียกว่าการขโมยความคิดหรอก หลักฐานวาดอยู่บนใบหน้าผู้ป่วยแล้ว แถมมีสวีข่ายหลินยืนอยู่ข้างๆ ที่ตรงนั้น นัยน์ตากลมโตของเธอกะพริบตาปริบๆ ต้องบอกให้ทราบว่าเธอเป็นคนเอาปากกาไวท์บอร์ดให้เฉินชางกับมือ เรื่องนี้ทำให้ฉินเสียงไม่หลงเหลือความมั่นใจอยู่เลย
เมื่อโต้วเฉียงกั๋วเห็นฉินเสียงเหม่อลอย เขาก็ถามอย่างระมัดระวังว่า “หัวหน้าฉินครับ เอ่อ คุณไม่กล้าลบออกใช่มั้ยครับ…”
ฉินเสียงยิ้มเล็กน้อย “ลบครับ ลบให้สะอาดหน่อยนะครับ พรุ่งนี้ต้องวาดแบบร่าง อย่าลืมลบให้สะอาดเลยนะครับ พรุ่งนี้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังกันครับ”
หลังจากที่พูดจบ ฉินเสียงก็เอามือไพล่หลังแล้วเดินออกไป ตอนนี้ไม่หลงเหลือหลักฐานอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นผลงานออกแบบของตนได้แล้วสินะ?
แต่…สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เฉินชางเป็นเจ้าของแบบร่างนี้!
พ่อเด็กหนุ่มคนนั้น เฮ้อ…ทำไมถึงได้เป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมได้ขนาดนี้นะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสียงก็ชะเล็กน้อย เขานึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้กะทันหัน
ในเมื่อเฉินชางเป็นคนออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังแบบนี้ออกมาได้ นั่นก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเฉินชางเข้าใจเรื่องการปลูกถ่ายผิวหนังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออกแบบโดยที่ไม่พึ่งพาตน!
ฉินเสียงถึงกับตกตะลึงในทันใด
เขามีความสามารถสูงมากแค่ไหนกัน
เรื่องราวดอกไม้สีเหลืองดอกเล็ก ที่เริ่มออกดอกผลิบานในปีนั้นและปลิดปลิวไปตามสายลม
ส่วนเฉินชางแห่งแผนกฉุกเฉิน ปกปิดความสามารถของตนตั้งแต่จำความได้จวบจนปัจจุบัน
ฉินเสียงหวนนึกถึงทุกครั้งที่ติดต่อคบค้าสมาคมกับเฉินชาง ดูเหมือนว่าเฉินชางจะประสบความสำเร็จในการปกปิดความสามารถของตนอย่างสมบูรณ์
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ คิดไม่ถึงว่าฉินเสียงจะรู้สึกสงสัยอยู่นิดๆ
เฉินชางเก่งมากขนาดไหนกันแน่
หรือว่าตนกระจอกเกินไป!
เฉินชางเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ยี่สิบเจ็ดเองมั้ง!
อายุแค่นี้ปลูกถ่ายผิวหนังเป็นแล้ว?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังที่ละเอียดประณีตชวนตะลึงได้ขนาดนี้
ฉินเสียงพยายามไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง แล้วเขาก็เปลี่ยนความคิดในฉับพลัน แบบร่างที่ซับซ้อนขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือที่ต้องใช้ในการเย็บผิวหนัง เฉินชางออกแบบมาให้สอดคล้องกับระดับฝีมือของตัวเฉินชางเองไม่ใช่หรือ
ถึงแม้คนอื่นจะเอาผลงานออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังของเฉินชางไป ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะทำออกมาได้ดีมากพอ?
ไม่แน่เสมอไป!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทันใดนั้นฉินเสียงก็รู้สึกว่า มิน่าเล่า เฉินชางจึงไม่สะทกสะท้านใดๆ ไม่ถือสาหาความเลยสักนิด เพราะหลังจากที่คนอื่นได้ผลงานออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังของเขาไปแล้ว ก็ไม่กล้าลงมือทำอยู่ดี ต่อให้คิดจะทำก็ทำไม่ได้ ทำได้อย่างมากที่สุดก็แค่เลียนแบบ แต่ก็ทำไม่ได้อย่างเขา ไม่อาจบรรลุผลลัพธ์ได้
ฉินเสียงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เป็นเด็กหนุ่มที่น่าเกรงขามมากจริงๆ
หรือว่า…การผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ จะให้เฉินชางมาเป็นแพทย์ผู้นำทีมผ่าตัด?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสียงอดอยากสนับสนุนไม่ได้
…
…
เช้าวันต่อมา เฉินชางวิ่งมาที่โรงพยาบาลตงต้าแต่เช้า สำหรับเฉินชางแล้ว ระยะทางไม่ถึงสามกิโลเมตรนับว่าเป็นการออกกำลังยามเช้า
ทันทีที่มาถึงแผนกผิวหนัง เฉินชางก็เห็นว่าฉินเสียงมาถึงแล้ว เฉินชางยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย
“หัวหน้าฉิน มาเช้าจังเลยนะครับ!”
ฉินเสียงนอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืน นึกถึงตลอดชีวิตที่ผ่านมาของตนเองที่เป็นคนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ประสบความสำเร็จในด้านความรู้เฉพาะทางมาก็ไม่น้อย เป็นคนใจกว้าง เป็นที่ยอมรับในสังคม ตนจะทำให้บั้นปลายชีวิตของตนต้องมาสั่นคลอนเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้!
เมื่อคืนนี้ฉินเสียงนอนไม่ค่อยหลับ เขานอนพลิกตัวกลับไปกลับมาตลอดทั้งคืน
ทำให้ภรรยาของฉินเสียงหงุดหงิดจนทนไม่ไหว!
“เหล่าฉิน คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย พลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืนเลย”
ฉินเสียงครุ่นคิด เขาตบไหล่ภรรยาเบาๆ แล้วถามขึ้นว่า “ที่รัก ผมขอถามคุณเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร”
“ผมจะยกตัวอย่างนะ ในอดีตมีหมอคนหนึ่ง ในแผนกมีหมอหนุ่มคนหนึ่ง…”
“อ้อ…คร่อกฟี้…”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็พบว่าภรรยาของเขาหลับไปแล้ว ฉินเสียงแสดงสีหน้าจนปัญญา เฮ้อ…คนใจร้าย!
เมื่อนอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืนก็เป็นธรรมดาที่วันวันต่อมาจะมาถึงโรงพยาบาลเช้าเป็นพิเศษ
ฉินเสียงพยักหน้า “เสี่ยวเฉิน คุณเองก็มาถึงเช้ามาก!”
เฉินชางหัวเราะ “เป็นความเคยชินครับ”
ฉินเสียงมองเฉินชางทีหนึ่ง และเมื่อมองดูรอบแล้วปลอดผู้คน เขาก็หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “เสี่ยวเฉิน เรื่องแผนการปลูกถ่ายผิวหนังเมื่อวาน…”
เฉินชาง “แนวคิดของคุณดีมากครับหัวหน้า แนวคิดของคุณกับผมเหมือนกันมาก ผมคิดว่าความคิดเห็นในการปลูกถ่ายผิวหนังเคสนี้ของเราเป็นหนึ่งเดียวกันมาก! อีกอย่าง ผมรู้สึกว่าคุณคำนึงถึงรายละเอียดปลีกย่อยได้รอบด้านมากกว่าผม ประชุมกับโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่วเพื่อร่วมกันวางแผนการรักษาเมื่อวานนี้ทำให้ผมคิดอะไรได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เดิมทีผมคิดว่าจะปรับปรุงแผนการปลูกถ่ายผิวหนังอีกสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าคุณจะแก้จุดบกพร่องได้ทั้งหมดแล้ว!…
…ดังนั้นหัวหน้าฉิน คุณเข้าใจสถานการณ์ของผู้ป่วยดีมาก รวมทั้งแนวคิดของคุณเกี่ยวกับการปลูกถ่ายผิวหนังก็ชัดเจนมาก!”
ฉินเสียงชะงัก!
เอ่อ…ฟังดูเหมือนว่า..เหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ตนไม่ได้ขโมยความคิด แต่เรียกว่าสร้างสรรค์ขึ้นใหม่!
สวีข่ายหลินที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับตกตะลึง
คำเยินยอที่ไร้รูป อันตรายที่สุด!
เมื่อดูฉินเสียงที่ดูท่าทางดีอกดีใจ ดูมีความสุข…
จู่ๆ สวีข่ายก็พบว่าชีวิตการทำงานช่างยากลำบาก
…
…
ภายในห้องผ่าตัด ทุกสิ่งทุกอย่างจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว หมอแผนกผิวหนังที่ว่างอยู่ต่างก็มาร่วมผ่าตัดในเคสนี้
การถ่ายทอดสดก็เตรียมพร้อมแล้ว
จู่ๆ ฉินเสียงก็มองเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน ฝีมือปลูกถ่ายผิวหนังของคุณเป็นยังไงบ้าง”
เฉินชางกล่าวตามความจริง “ใช้ได้ครับ”
ฉินเสียงพยักหน้าเล็กน้อย เขาอยากมอบโอกาสให้เฉินชาง
การปลูกถ่ายผิวหนังเคสนี้เป็นเคสของผู้ป่วยเคสพิเศษ สามารถนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาได้
ถ้าเฉินชางเคยผ่านเคสที่ดีแบบนี้มาก่อน ถึงตอนนั้นแล้วไม่แน่ว่าตอนที่เขาได้เข้าร่วมสมาคมศัลยกรรมตกแต่งแห่งมณฑลตงหยาง กับสมาคมแพทย์ผิวหนัง จะมีอำนาจในการออกความคิดเห็นมากยิ่งขึ้น ถึงขั้นที่ไม่แน่ว่าอาจได้มีส่วนร่วมในงานของสมาคมล่วงหน้า
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสียงก็กล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “งั้นวันนี้คุณเป็นแพทย์ผู้นำทีมผ่าตัด”
คำพูดเพียงหนึ่งคำทำเอาคนอื่นๆ ถึงกับตะลึง!
นี่…
เหมาะสมหรือ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หมอท่านอื่นๆ ที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างก็อดตั้งคำถามไม่ได้ “หัวหน้า…ทำแบบนี้เหมาะสมหรือครับ”
“นั่นน่ะสิครับ การผ่าตัดในวันนี้สำคัญมากนะครับ คนของโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่วจับตาดูอยู่นะครับ! หัวหน้าครับ คุณจะทำอะไรมักง่ายแบบนี้ไม่ได้นะครับ”
แม้แต่เฉิงเยว่เจ๋อ รองหัวหน้าแผนกที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยในวันนี้ยังอดมองฉินเสียงไม่ได้ เขาลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร ฐานะที่เป็นรองหัวหน้า ก็วางตัวอย่างรองหัวหน้า
…
สวีข่ายหลินมองสีหน้าของแต่ละคน เธอยิ้มเล็กน้อย พวกคุณมันเป็นกลุ่มคนธรรมดาทั่วไป จะไปเข้าใจความคิดของหัวหน้าได้อย่างไรกัน
สวีข่ายหลินถึงขั้นที่กำลังเดาว่า ไม่แน่ว่าระดับความสามารถของเฉินชางอาจจะเก่งกล้ามามารถมากกว่าหัวหน้าก็เป็นได้!
เช้าตรู่วันนี้ สวีข่ายหลินรู้สึกว่าตนเองได้เข้าใจหลักการในการประจบอย่างเข้าถึงแก่น ถึงยังไงหัวหน้าก็คงจะไม่เป็นผู้ช่วยให้เฉินชางหรอกมั้ง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สวีข่ายหลินก็กล่าวว่า “ฉันเป็นผู้ช่วยหมอเฉินเองค่ะ”
ฉินเสียงพยักหน้า “ผมเองครับ”
สวีข่ายหลินชะงัก ดูเหมือนว่าฉันจะ…ประจบผิดที่ผิดทางอีกแล้ว?
เฮ้อ…สวีข่ายหลินอดถอนหายใจไม่ได้ ชีวิตการทำงานช่างยากลำบาก
เธอจะไปรู้ได้ยังไงกัน หลังจากที่ฉินเสียงเคยเป็นผู้ช่วยให้เฉินชางที่บ้านเจิ้งกั๋วถานแล้ว ก็เหมือนว่าเขาจะเคยชินกับการเป็นผู้ช่วยของเฉินชางไปโดยปริยาย!
อืม…
บทที่ 240 ประชุมทางไกล
การออกแบบครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย!
จู่ๆ เชินชางก็พบว่าการปลูกถ่ายผิวหนังไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ถ้าเป็นการปลูกถ่ายผิวหนังไปวางลงบนตำแหน่งมือหรือหรือตำแหน่งขาก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับบนใบหน้า มีระดับความยากที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
คุณลองจินตนาการดูว่า ถ้าใบหนน้ามีส่วนของผิวหนังที่แหว่งไป แล้วคุณต้องการจะปกปิดเติมเต็มในส่วนนั้น ทั้งยังต้องทำให้หลังที่ทำออกมาแล้วใบหน้าดูดี ผมยกตัวอย่างให้ฟังว่ายากแค่ไหน!
สิ่งที่จำเป็นต้องคิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบเยอะมาก
ต้องพิจารณาถึงความสมบูรณ์ของหลอดเลือด ต้องพิจารณาถึงตำแหน่งผิวหนังที่จะนำมาปลูกถ่าย จะต้องพิจารณาว่าจะเริ่มลงมีดจากตำแหน่งไหน ต้องเลาะผิวหนังออกขนาดกว้างแค่ไหน หลังจากที่เย็บแล้วจะต้องทำอย่างไรถึงจะคงสภาพที่ดีไว้ได้
ตอนนี้เอง สวีข่ายหลิน แพทย์เจ้าของไข้โต้วซินเตียงยี่สิบเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าเฉินชางกำลังพินิจพิเคราะห์ใบหน้าของโต้วซิน ใช้มือวัดกะประมาณไม่หยุด สีหน้าของสวีข่ายหลินก็เปลี่ยนทันที เขาเป็นใคร
แต่ขณะที่เขากำลังจะถามออกไป ทันใดนั้นฉินเสียงก็ทำเสียง ชู่ว์
สวีข่ายหลินมองหัวหน้าของตนทีหนึ่ง อดงงงันไม่ได้
เฉินชางมองใบหน้าของเด็กสาวอยู่นานมาก นัยน์ตาที่งดงามของเขายังคงวาดเค้าโครงด้วยสายตา คิดหาวิธีที่เป็นไปได้
เฉินชางบอกกับเด็กสาว “รบกวนปลดกระดุมเสื้อออกหน่อยนะครับ”
โต้วซินชะงักเล็กน้อย หลังจากที่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อออก ทว่าใบหน้าของเธอกลับเริ่มแดงระเรื่อลามไปจนถึงลำคอ
เฉินชางพบว่าผิวของเด็กสาวคนนี้ขาวมากจริงๆ อีกทั้งผิวพรรณก็ดีมากด้วย สีผิวบริเวณทรวงอกไม่ต่างกับสีผิวบริเวณใบหน้าสักเท่าไหร่ เฉินชางเกิดไอเดียขึ้นทันใด
เฉินชางคลำหาปากกาตามความเคยชิน หาอยู่ตั้งนานก็หาไม่เจอ สุดท้ายนึกขึ้นได้ว่าตนไม่ได้สวมชุดกาวน์
เมื่อฉินเสียงเห็นสถานการณ์ก็รีบเดินเข้ามา หยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อตนเองยื่นให้เฉินชาง “นี่ครับ”
เฉินชางมองปากกาหัวลูกลื่นที่ฉินเสียงยื่นให้แล้วส่ายหน้า “ผมขอปากกาไวท์บอร์ด”
สวีข่ายหลินรีบหยิบปากกาไวท์บอร์ดสีดำในกระเป๋าเสื้อยื่นให้เฉินชางทันที ในใจอดคิดไม่ได้ว่า นี่คือ…เชิญผู้เชี่ยวชาญมา? หัวหน้าถึงได้เคารพเขาขนาดนี้ แต่ดูแล้วยังหนุ่มมากอยู่เลย!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สวีข่ายหลินเริ่มอยากรู้ว่าคนอายุยังน้อยขนาดนี้จะเก่งขนาดไหน
เฉินชางรับปากกาไวท์บอร์ดมา เริ่มลงมือวาดลงบนใบหน้าของโต้วซินกับบริเวณช่วงอก
ในเวลานี้ ฉินเสียงเดินเข้าไปดูอย่างละเอียด ขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่มันคือวิธีการปลูกถ่ายผิวหนังแบบไหนกัน
การปลูกถ่ายผิวหนังแบบ O-Z[1]?
ไม่ใช่ ไม่เหมือนสักนิด!
เหมือนด้านในจะมีความคล้ายคลึงการปลูกถ่ายผิวหนังแบบ A-T อยู่นิดๆ แต่เพราะการปลูกถ่ายผิวหนังแบบ A-T มีหลากหลายรูปแบบมาก ค่อนข้างเหมาะกับการซ่อมแซ่มบริเวณที่ผมไม่ขึ้น ปีกจมูก มุมริมฝีปาก แต่…การปลูกถ่ายผิวหนังแบบ A-T จะทิ้งรอยแผลเป็นรูปตัวอักษร T ได้ง่าย? แล้วอีกอย่างเคสนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการปลูกถ่ายผิวหนังแบบ A-T
แต่วิธีนี้แตกต่างกับวิธีปลูกถ่ายผิวหนังแบบดั้งเดิมที่ใช้กันมามากจริงๆ
วิธีการปลูกถ่ายผิวหนังวิธีนี้…ฉินเสียงไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ทันใดนั้นฉินเสียงก็เข้าในในฉับพลัน เสี่ยวเฉินเป็นแพทย์ผิวหนังอยู่ที่นั่นหรือไงเนี่ย!
คิดมากไปแล้ว!
เฉินชางอยู่แผนกฉุกเฉิน เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้ป่วยเคสฉุกเฉิน มีไปทำงานที่คลินิกศัลยกรรมจื้อซินเป็นครั้งคราว แต่การปลูกถ่ายผิวหนังเป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางขั้นสูง ทำไมเฉินชางถึงทำเป็น
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสียงก็อดส่ายหน้าไม่ได้ แล้วเขาก็หัวเราะเยาะตัวเอง เสี่ยวเฉินปลูกถ่ายผิวหนังเป็นที่ไหนกัน ตนคิดมากไปแล้ว…
บางทีเขาอาจจะกำลังออกแบบแบบการศัลยกรรมตกแต่งผิวหนังอยู่ก็ได้!
หลังจากที่เฉินชางวาดๆ เขียนๆ เสร็จแล้ว ในที่สุดเขาก็วางปากกาไวท์บอร์ดในมือลง!
แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปหนึ่งรูป และนี่เป็นไอเดียที่เฉินชางคิดไว้
เฉินชางเลือกผิวหนังสามตำแหน่งที่จะนำมาปลูกถ่าย ตำแหน่งหลังหู ตำแหน่งลำคอ ตำแหน่งทรวงอก
ด้วยวิธีนี้ก็จะบรรลุผลลัพธ์ด้านความงาม และในขณะเดียวกันก็ไม่ส่งผลกระทบกับระบบไหลของเลือดบริเวณใบหน้าด้วย
เฉินชางมองว่าการปลูกถ่ายผิวหนังชิ้นใหญ่แค่เพียงหนึ่งชิ้น ผลลัพธ์ของการฟื้นฟูหลังการปลูกถ่ายผิวหนังจะไม่ดีมากเท่าที่ควร
หลังจากที่เฉินชางออกแบบเสร็จแล้ว ฉินเสียงก็มองเฉินชางที่เหมือนว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เขาเองก็อย่างรู้เหมือนกันว่าเฉินชางวาดๆ เขียนๆ เยอะขนาดนี้ หมายความว่าอะไรกันแน่ ก็เลยถามด้วยความสงสัย “เป็นไงครับ เสี่ยวเฉิน คุณมีไอเดียอะไรมั้ยครับ”
เฉินชางพยักหน้า “มีข้อเสนอเล็กๆ ครับ”
ในตอนนี้เอง เมื่อสวีข่ายหลินเห็นสิ่งที่เฉินชางวาดลงบนใบหน้าของโต้วซินเต็มไปหมด เธอก็เริ่มจะไม่พอใจ คิดว่าเป็นคนเก่งซะอีก?
คุณคิดว่าคุณจะย้ายผิวหนังจากบริเวณไหนมาปลูกถ่ายได้ตามอำเภอใจหรือไง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สวีข่ายหลินก็อดถอนหายใจออกไม่ได้ บางทีตนอาจคาดหวังไว้สูงเกินไป!
“หัวหน้าคะ โรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่วบอกว่าเข้าร่วมประชุมทางไกลเพื่อร่วมกันวางแผนการรักษาได้ตอนบ่ายสามโมงค่ะ”
เดิมทีฉินเสียงกำลังจะถามเฉินชาง จู่ๆ ก็โดนสวีข่ายหลินพูดตัดบทไป
“อ้อ? โอเค! ดีเลย พวกเขาว่ายังไง”
สวีข่ายหลินหัวเราะ “หัวหน้าเสี้ยวเป็นคนตอบกลับด้วยตนเองเลยค่ะ เขาบอกช่วงเช้าเขาเชิญผู้อำนวยการหวังมาร่วมวางแผนการรักษาด้วย หวังว่าจะช่วยเด็กสาวคนนี้ได้!”
เมื่อฉินเสียงได้ฟังเช่นนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที!
“ดี!”
“ดี!”
“ดี!”
ฉินเสียงกล่าวคำว่า ‘ดี’ ติดต่อกันถึงสามครั้ง ต้องกล่าวว่าฉินเสียงตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ
“อ้อ จริงด้วย คุณส่งประวัติของซินซินไปให้ทางนั้นแล้วหรือยัง”
สวีข่ายหลินพยักหน้าพร้อมตอบว่า “ส่งไปแล้วค่ะ”
แผนกกระดูกกับแผนกศัลยกรรมมือเป็นแผนกที่มีชื่อเสียงของโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่ว ส่วนผู้อำนวยการหวังก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการปลูกถ่ายผิวหนัง การที่มีพวกเขาเข้ามาช่วยวางแผนการรักษา จะต้องได้แผนที่สมบูรณ์แบบมากแน่ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทันใดนั้นสวีข่ายหลินก็รู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยการเฝ้าคอย
ทันทีที่เฉินชางได้ยินชื่อโรงพยาบาลแห่งนี้ เขาก็ชะงักเล็กน้อย โรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่ว? มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ธรรมดา!
เฉินชางเองก็อยากฟังเหมือนกันว่าอีกเดี๋ยวพวกเขาลงความคิดเห็นกับข้อเสนอแนะอะไรดีๆ ถึงแม้ว่าเฉินชางจะมีทักษะการปลูกถ่ายผิวหนังระดับปรมาจารย์ แต่ทางการแพทย์แล้ว การติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเช่นนี้เป็นผลดีกับผู้ป่วยมากกว่า
ทันใดนั้นฉินเสียงก็กล่าวขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน ช่วงบ่ายเข้าร่วมประชุมร่วมกันวางแผนการรักษาทางไกลด้วยกันนะครับ ตอนกลางวันเราไปกินข้าวด้วยกัน”
เฉินชางพยักหน้า
และในตอนนี้เอ งมีชายรูปร่างผอมบางเดินเข้ามา ชายคนนี้ตัวสูงมาก แต่ดูไร้กำลังวังชา เส้นผมบางๆ บนศีรษะค่อนข้างหงอกขาว ริ้วรอยที่หางตากับหน้าผากค่อนข้างเยอะ ดูเหมือนคนอายุหกสิบกว่า
ในมือของชายคนนี้ถือกล่องข้าวหนึ่งกล่อง เขาเพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องผู้ป่วยก็เห็นฉินเสียงอยู่ในห้อง เขาหัวเราะออกมาทันใด ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าดูลึกยิ่งขึ้น!
“หัวหน้าฉิน คุณมาแล้ว? วันเสาร์ไม่หยุดพักผ่อนหรือครับ” เขาวางกล่องข้าวลง มือทั้งสองข้างจับมือฉินเสียงไว้ โค้งตัวคำนับ กล่าวทักทายพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ฉินเสียงก็หัวเราะออกมาด้วยเช่นกัน “วันนี้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมปรับปรุงแผนรักษาให้สมบูรณ์ พรุ่งนี้ก็ดำเนินการปลูกถ่ายผิวหนังได้แล้ว อ้อ จริงด้วย ผมขอแนะนำให้คุณรู้จักกับหมอเฉิน เชิญมาเพื่อออกแบบแผนการรักษาให้ซินซินโดยเฉพาะ เขาเชี่ยวชาญเรื่องการตกแต่งศัลยกรรมผิวหนังมากเป็นพิเศษ”
ชายคนนี้รีบโค้งคำนับเฉินชาง “คุณหมอเฉินครับ รบกวนคุณแล้ว”
เฉินชางหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไรมาก
ตอนกลางวัน เฉินชางรับประทานอาหารกับฉินเสียงที่โรงอาหารของโรงพยาบาล จู่ๆ เฉินชางก็พบว่าโรงอาหารของโรงพยาบาลอันดับสองดีกว่าที่นี่ อย่างน้อยป้าร้านข้าวก็มือไม่สั่นเวลาตักกับข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เห็นว่าเป็นตน ป้าก็จะตักเนื้อสัตว์เพิ่มให้อีกช้อน
เวลาบ่ายสามโมง ภายในห้องสำนักงานของโรงพยาบาล โทรทัศน์สำหรับประชุมทางไกลเปิดหน้าจอเตรียมพร้อมเริ่มการประชุมร่วมกันวางแผนการรักษา
สิ่งนี้ทำให้เฉินชางอดกล่าวจากใจไม่ได้ว่าโรงพยาบาลตงต้าร่ำรวยจริงๆ ดูเหมือนว่าทุกแผนกจะมีห้องประชุมสำหรับประชุมทางไกลเช่นนี้ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนำมาซึ่งความสะดวกสบายให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน
หน้าจอขนาดใหญ่มหึมาติดตั้งอยู่ที่มุมผนัง เวลาที่ฝ่ายนั้นมองผ่านกล้องมาก็จะเห็นราวกับว่าเป็นห้องประชุมที่ใหญ่มาก และภาพก็คมชัดมากด้วย
เมื่อเห็นหมอสี่ห้าท่านปรากฏบนหน้าจอ ฉินเสียงก็ลุกขึ้นพยักหน้าเล็กเป็นการทักทาย “สวัสดีครับผู้อำนวยการหวัง หัวหน้าเสี้ยว ลำบากคุณแล้ว วันเสาร์แบบนี้ยังรบกวนพวกคุณให้มาร่วมวางแผนการรักษา ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ครับ!”
หวังอวี้ซานดูเป็นคนสง่างามน่าเกรงขาม น่านับถือ หลังจากที่พยักหน้าตามมารยาทแล้ว เขาก็กล่าวขึ้นว่า “หัวหน้าฉินครับ ตอนนี้พวกเรารู้สถานการณ์โดยรวมของผู้ป่วยแล้ว เราเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ!”
“เราได้หารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้ป่วยแล้วรอบหนึ่ง ตอนนี้มีสามแผนการรักษา แต่ยังไม่เป็นเอกฉันท์ เราจะพูดถึงแนวคิดของพวกเราให้หัวหน้าฉินฟังดูก่อน”
[1] O-Z ตัวอักษร O หมายถึงลักษณะของบาดแผลแหว่งไปเป็นรูปสัญลักษณ์ตัวอักษร O ส่วนตัวอักษร Z หมายถึงวิธีการเย็บปิดผิวหนังเป็นรูปตัว Z