บทที่ 266 ช่วยอันเยี่ยนจวินบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็น!
เมื่อใกล้ถึงวันชาติแล้ว
เป็นธรรมดาที่แผนกฉุกเฉินจะลาหยุดกันยกแผนกไม่ได้ จำนวนคนที่เข้าเวรยังต้องมีตามจำนวนที่ตั้งไว้ หลังจากที่กำหนดตารางงานที่ระบุวันหยุดได้กับวันห้ามหยุดเรียบร้อยแล้ว เฉินชางได้สัญลักษณ์หนึ่งขีดสองวัน สัญลักษณ์สองขีดสองวัน
สัญลักษณ์หนึ่งขีด หมายถึงวันเข้างานตามปกติ สัญลักษณ์สองขีด หมายถึงหยุดพักผ่อนอยู่บ้านได้ แต่เรียกเมื่อไหร่ต้องมา
วันนี้หลังจากที่เฉินชางเข้าไปในโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ได้รับแจ้งเตือนภารกิจประจำวันจากระบบ
[ติ๊ง! ภารกิจประจำวัน: เดินตรวจผู้ป่วย 10 รายในวอร์ด
ได้รับรางวัล: วินิจฉัย +30, เงิน +30 หยวน]
หลังจากที่เห็นภารกิจแล้ว เฉินชางก็รู้ว่าวันเวลาแสนพิเศษจบลงแล้ว
แต่เฉินชางก็พบว่าภารกิจพิเศษอาจจำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนในการกระตุ้นหนึ่งครั้ง แต่จะต้องใช้เวลาทำภารกิจแต่ละครั้งนานแค่ไหนไม่อาจรู้ได้
ภารกิจเย็บเส้นเอ็นครั้งที่แล้วใช้เวลาต่อเนื่องถึงหนึ่งเดือน จึงทำให้ทักษะการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางพัฒนาไปถึงระดังสมบูรณ์ได้
ไม่ว่าจะเป็นทักษะใดก็ตาม ระดับสมบูรณ์กับระดับปรมาจารย์ก็ห่างชั้นกันมาก!
…
ข่าวสิงอวี่เมื่อวานนี้กระจายไปทั่วทั้งแผนกแล้ว ทุกคนต่างก็ออกความคิดเห็นกันออกรส ถึงขั้นที่ติดสิบอันดับรายการข่าวฮิตบนเวยปั๋ว การเป็นซุปเปอร์สตาร์มีข่าวซุบซิบเยอะมาก แค่ผายลมก็เป็นที่สนใจถึงขั้นอาจมีคนเก็บใส่กระป๋องไปวางขายในเถาเป่า และไม่แน่ว่ามูลค่าอาจสูงลิ่ว!
เฉินชางรู้สึกว่าตนยังไม่เหมาะกับชีวิตรูปแบบนี้
เฮ้อ…
เขาหลงใหลอยู่กับการผ่าตัดจนดึงตนเองออกมาจากความหลงใหลนี้ไม่ได้
อยู่ที่โรงพยาบาล ภารกิจประจำวันคือผ่าตัด รับเคส เดินตรวจผู้ป่วยในวอร์ด
จืดชืดแต่ไม่ขาดรสชาติ
ทุกครั้งที่รักษาผู้ป่วยหาย เฉินชางก็ดีใจไปกับผู้ป่วยด้วย
ความสำเร็จจากการรักษาผู้ป่วยอาจเป็นความอิ่มเอมใจที่สุดในชีวิตแพทย์แล้ว
ปกติแล้วผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลก่อนสามวันแล้วจึงจะกลับได้ แต่แผนกฉุกเฉินก็ไม่มีพื้นว่างมากพอให้คุณอยู่พักฟื้น แน่นอนว่าประเด็นสำคัญที่สุดคือแผนกฉุกเฉินไม่มีห้องสำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพมือของผู้ป่วยหลังผ่าตัด
กว่าเส้นเอ็นจะหายเป็นปกติ ไม่ใช่แค่ว่าผ่าตัดเสร็จก็รอชัยชนะได้เลย
ยังจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟู ซึ่งเรียกว่าการฟื้นฟูสมรรถภาพ
แต่น่าเสียดายมากที่โรงพยาบาลอันดับสองไม่ได้มีแผนกศัลยกรรมมืออย่างเป็นทางการ มีแต่แผนกศัลยกรรมมือที่รวมอยู่ในแผนกฉุกเฉิน จึงไม่มีห้องฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัด
เมื่อเปิดดูตารางคุณลักษณะของตนเอง เฉินชางเห็นภารกิจเย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคส จนถึงวันนี้ระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือน ตนเย็บเส้นเอ็นไปแล้วสี่ร้อยห้าสิบเคส ขาดอีกห้าสิบเคสก็จะทำภารกิจสำเร็จแล้ว
อาศัยจังหวะนี้ทำให้สำเร็จเสียเลย เพราะรอถึงวันชาติอาจทำไม่ได้ตามเป้า
เดิมทีสังหารมอนสเตอร์ตัวลูกพวกนี้ก็อัปเลเวลกับดรอปไอเทมได้แล้ว
หลังจากที่เฉินชางผ่าตัดเสร็จหนึ่งเคสโดยมีฉินเยว่เป็นลูกมือแล้ว หลังจากที่เขาเห็นข้อความแจ้งเตือนจากระบบ เขาก็ค่อนข้างจนปัญญา
[ติ๊ง! สังหารมอนสเตอร์เส้นเอ็น lv.20 ได้รับ:
ประสบการณ์ +1, เงิน +10 หยวน, ประสบการณ์เย็บเส้นเอ็น +0]
การสังหารมอนสเตอร์เส้นเอ็นไม่เพิ่มคะแนนประสบการณ์ให้เฉินชางได้อีกแล้ว แม้แต่เงินก็ยังได้มาแค่สิบหยวน ช่างน่าสงสารนัก
เฉินชางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที เดิมทีคิดว่าเย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคสจะเพิ่มระดับให้ตนเองได้เจ็ดถึงแปดระดับ ตอนนี้ดูแล้วหนึ่งถึงสองระดับก็ยังไม่ถึง
ถ้าไม่ใช่เพราะตนต้องการทำภารกิจเย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคสให้สำเร็จ คงถอดใจไปตั้งนานแล้ว
ดูแล้วตนคงต้องมองหาเป้าหมายใหม่แล้ว
หลังจากที่กลับมาถึงห้องทำงานแล้ว เฉินชางพบว่าหัวหน้าอันกำลังนั่งคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
เฉินชางอดถามไม่ได้ว่า “หัวหน้าอันครับ ไม่มีผู้ป่วยหรือครับ”
อันเยี่ยนจวินขมวดคิ้ว “ผมก็คิดอยู่หมือนกัน แปลกจัง…ทำไมวันนี้ไม่มีผู้ป่วย”
ฉินเยว่หัวเราะ “ไม่มีผู้ป่วยไม่ดีหรือไงคะ ไม่มีผู้ป่วยหมายความว่าประชาชนสุขภาพแข็งแรงดีไงคะ ส่วนพวกเราก็ได้พักผ่อน”
ช่วงนี้ฉินเยว่เหนื่อยมากแล้วจริงๆ…
อันเยี่ยนจวินหัวเราะ เขามองเฉินชางพร้อมกล่าวว่า “เสี่ยวเฉิน วันนั้นหลังจากที่ผมเห็นฝีมือผ่าตัดของคุณ เป็นอะไรที่เปิดมุมมองให้ผมได้มาก ผมว่าคุณมีความเข้าใจเกี่ยวการเย็บเส้นเอ็นมากกว่าผม เดี๋ยวตอนผ่าตัด ผมเป็นผู้ช่วยให้คุณ?”
[ติ๊ง! พบภารกิจ ช่วยอันเยี่ยนจวินบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็นไปสู่ระดับที่เหนือกว่า
คำอธิบายภารกิจ: อันเยี่ยนจวินเย็บเส้นเอ็นมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้วยังติดอยู่ที่ระดับสูง ไม่สามารถผ่านระดับนี้ไปได้เสียที ช่วยอันเยี่ยนจวินบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็นระดับสูงเพื่อไปสู่ระดับที่เหนือกว่า
รางวัลหลังภารกิจเสร็จสิ้น: คะแนนทักษะ +3]
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบแล้ว เฉินชางก็เลือกรับภารกิจ
ทักษะการเย็บเส้นเอ็นของตนได้มาตั้งแต่ตอนที่ตนเพิ่งเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ อันเยี่ยนจวินเป็นคนสอนตนเอง เฉินชางยังคงรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของหัวหน้าจวินท่านนี้
ต่อให้ไม่มีภารกิจ เฉินชางก็ยังรู้จักสำนึกในบุญคุณ
เฉินชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีปัญหาครับอาจารย์อัน!”
ทว่ารอผู้ป่วยมานานมากแล้ว ผู้ป่วยสักคนก็ไม่มี เหตุการณ์เช่นนี้ทำเอาอันเยี่ยนจวินถึงกับมึนงง…
เฉินชางเองก็พูดอะไรไม่ออก สวรรค์ไม่อยากให้หัวหน้าอันบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็นระดับสูงมากขนาดนั้นเลยหรือไง
จำนวนผู้ป่วยเมื่อเดือนที่แล้วเรียกได้ว่ามืดฟ้ามัวดิน ถึงอย่างไรเสียทุกโรงพยาบาลในละแวกนี้ก็ต้องส่งตัวผู้ป่วยจำนวนหนึ่งมาที่นี่อยู่แล้ว ทำไมวันนี้เงียบผิดวิสัยแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่
…
…
ภายในแผนกศัลยกรรมมือของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลตงหยาง หลังจากที่เปลี่ยนเวรในรอบเช้าแล้ว ถานจงหลินให้หมอทุกคนอยู่ต่อ
เมื่อคืนนี้ถานจงหลินครุ่นคิดตลอดทั้งคืนจนนอนไม่หลับ ได้แต่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนอน
ในหัวยังคงวนเวียนคิดถึงการผ่าตัดเย็บเส้นเอ็นที่เฉินชางทำให้สิงอวี่ เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เฉินชางไม่ได้เย็บเส้นเอ็นได้ยอดเยี่ยมถึงขั้นนี้ ทำไมแค่ระยะเวลาสั้นๆ ถึงพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดขนาดนี้
ถานจงหลินยังคงคิดหาสาเหตุไม่หยุด จนกระทั่งหลี่เป่าซานโทรมาหาเขา เขาถึงเข้าใจในฉับพลัน!
อ๋อ! ตาเฒ่าหลี่!
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!
ทันใดนั้นถานจงหลินก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ หลี่เป่าซานให้ตนส่งผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นมาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสอง
มิน่าเล่า!
ที่แท้ที่เฉินชางเย็บเส้นเอ็นได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ก็เพราะอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจากผู้ป่วยที่ตนส่งไปนั่นเอง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถานจงหลินก็รู้สึกเสียดาย
แม้แต่ตอนที่เปลี่ยนเวร สายตาที่เขามองหมอแต่ละคนก็ยังค่อนข้างเข้มงวด
พวกคุณแต่ละคน ไม่สนใจเคสเย็บเส้นเอ็น ตอนนี้เห็นความห่างชั้นหรือยัง
หลังจากที่หมอแผนกศัลกรรมมือทั้งกลุ่มได้เห็นคลิปผ่าตัดเย็บเส้นเอ็นแล้ว ทุกคนต่างก็ตกตะลึงตาค้าง จนพูดอะไรไม่ออกสักคำ!
คิดไม่ถึงว่าจะมีทักษะการเย็บเส้นเอ็นขั้นสูงแบบนี้ด้วย
หรือควรจะกล่าวว่า คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะผสมผสานแต่ละวิธีได้อย่างล้ำเลิศขนาดนี้!
หลังจากที่ดูคลิปวิดีโอจบแล้ว ถานจงหลินมองทุกคน
“ทุกคนดูคลิปจบแล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ”
ทุกคนเงียบขรึมไม่พูดจา จะรู้สึกอะไรได้ คุณให้ศัลยแพทย์ด้านมืออย่างพวกเราชมเทคนิคการเย็บเส้นเอ็นขั้นเทพ นอกจากความรู้สึกอยากตะโกนว่า เยี่ยมๆๆๆ ยังจะมีความรู้สึกอื่นอีกหรือ
เมื่อถาจงหลินเห็นว่าทุกไม่ตอบ เขาก็กล่าวอย่างฮึกเหิมว่า “ผมจะบอกให้ทุกคนฟัง ว่าพวกเรารู้สึกยังไง…
…การเย็บเส้นเอ็นเป็นสิ่งที่หมอทุกคนในแผนกศัลยกรรมมือของเราจำเป็นเรียนรู้และฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ การเย็บเส้นเอ็นเป็นทักษะขั้นพื้นฐานที่สุดที่พวกที่เราต้องมี แล้วทุกวันนี้ล่ะ? กลายเป็นทักษะที่พวกเราทุกคนมองข้ามไป!…
…ตอนนี้เห็นความห่างชั้นแล้วหรือยัง หมอในคลิปเย็บเส้นเอ็นได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น แน่นอนว่าไม่ได้อาศัยพรสวรรค์ แต่เป็นความขยัน!…
…ผมรู้ว่าพวกคุณทุกคนมีอีโก้สูงมาก ไม่เห็นการเย็บเส้นเอ็นอยู่ในสายตา แต่ผมจะบอกพวกคุณว่า การเย็บเส้นเอ็นเป็นจิตวิญญาณของแผนกศัลยกรรมมือ!…
…วันนี้ผมจะบอกกับทุกคนเรื่องหนึ่งว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นทุกราย ไม่อนุญาตให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลอื่นแม้แต่รายเดียว ในทุกเดือนหมอทุกคนต้องเย็บเส้นเอ็นให้ได้ยี่สิบเคสขึ้นไป ช่วงปลายเดือนผมจะประเมินผลหนึ่งครั้ง ใครไม่ถึงเป้า หักโบนัส!”
ถานจงหลินมองบรรดาหมอเหล่านั้น แล้วก็มองภาพมือคู่นั้นในคลิปวิดีโอ
กล่าวพึมพำกับตนเองในใจ: พี่เป่าซาน อย่าหาว่าน้องไม่รักษาสัจจะเลยนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเฉินชางที่ระเบิดพลังศักยภาพออกมา!
…
…
เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลตงต้าสาขาหนึ่ง โรงพยาบาลตงต้าสาขาสอง โรงพยาบาลเทศบาล โรงพยาบาลเบธูนแห่งมณฑลตงหยางด้วยเช่นกัน…
หัวหน้าแผนกศัลยกรรมทุกโรงพยาบาลต่างก็ตาสว่างนอนไม่ตลอดทั้งคืน ออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดกับหมอในแผนกว่า ‘ห้ามปล่อยผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นหลุดมือไปแม้แต่รายเดียวเด็ดขาด! ถ้าผู้ป่วยวิ่งหนีก็ตามผู้ป่วยกลับมาให้ได้ เย็บเส้นเอ็นเสร็จแล้วค่อยปล่อยผู้ป่วยกลับ!’
เมื่ออันเยี่ยนจวินเห็นเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว ยังไม่มีผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นเข้ามาสักราย อันเยี่ยนจวินก็รู้สึกว่าใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำด้วยความกระอักกระอ่วนใจ
เฉินชางเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนมากเช่นกัน นี่…นี่ดูจะบังเอิญเกินไปแล้ว
บทที่ 261 เล่นเปียโนแทนคำอวยพรให้คุณในงานแต่งงาน (1)
ฉางหงเหล่ยเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมมือประจำโรงพยาบาลจีสุ่ยถานแห่งเมืองหลวง อีกทั้งยังเป็นรองประธานสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งชนชาติจีน เป็นรองประธานผู้หญิงเพียงคนเดียวของสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือ
ในแวดวงศัลยแพทย์ด้านมือ ผู้หญิงที่ก้าวมาถึงระดับสูงเช่นนี้ได้มีน้อยมาก
แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าศัลยแพทย์ด้านมือไม่มีหมอผู้หญิงที่เก่ง ไม่ต้องพูดถึงแผนกสูตินรีเวช แผนกนี้เป็นอาณาจักรของหมอผู้หญิง มีหมอผู้ชายน้อยมาก
นอกจากแผนกสูตินรีเวชแล้ว ยังมีอีกสองแผนกที่มีหมอผู้หญิงเยอะเช่นกัน เช่น แผนกศัลยกรรมมือ แผนกศัลยกรรมหัวใจ เป็นต้น
ทุกคนอาจมองว่าหมอผู้หญิงมีรสนิยมด้านความงามค่อนข้างดี แผนกศัลยกรรมตกแต่งจะต้องมีหมอผู้หญิงเยอะมากใช่ไหม
กล่าวแบบนี้แล้วกัน คลินิกศัลยกรรมตกแต่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีหมอผู้หญิงค่อนข้างเยอะ แต่แผนกศัลยกรรมตกแต่งในโรงพยาบาลแทบไม่มีหมอผู้หญิงเลย
เพราะหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกัน
คลินิกศัลยกรรมตกแต่งเป็นการศัลยกรรมเพื่อเสริมความงาม ระดับความยากของเนื้องานไม่มากเท่าการผ่าตัดเพื่อการรักษาร่วมกับการศัลยกรรมตกแต่ง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่คลินิกศัลยกรรมตกแต่งจะมีหมอผู้หญิง
แต่แผนกศัลยกรรมตกแต่งของโรงพยาบาลกับแผนกผิวหนังแทบจะเป็นรวมเป็นแผนกเดียวกัน มีบางโรงพยาบาลที่ใช้ชื่อเหมารวมว่าเป็นแผนกศัลยกรรมตกแต่งเลยโดยที่ไม่มีชื่อแผนกผิวหนัง แต่บางโรงพยาบาลก็แบ่งแยกชื่อแผนกอย่างชัดเจน
แต่โดยปกติแล้ว เคสผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมตกแต่งของโรงพยาบาลล้วนเป็นเคสผ่าตัดใหญ่ทั้งสิ้น มักจะเป็นเคสที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมงในการผ่าตัด เมื่อเจอกับเคสผ่าตัดใหญ่ จะต้องผ่าตัดกันยาวนานสิบกว่าชั่วโมง โดยทั่วไปหมอผู้หญิงมักไม่ไหว
ดังนั้นเวลาที่เลือกศิษย์ปริญญาโท อาจารย์ที่ปรึกษาส่วนใหญ่มักจะไม่เลือกผู้หญิง ไม่ใช่เพราะไม่ไม่อยู่ในสายตา แต่เพราะลำบากเกินไป!
และแผนกศัลยกรรมมือกลับเป็นแผนกที่พิเศษอย่างหนึ่ง เป็นแผนกที่ขนาดกลาง แต่ก็ขึ้นกับโรงพยาบาลด้วย
แล้วก็มีบางโรงพยาบาลที่ไม่มีแผนกศัลยกรรมมือ โดยส่วนใหญ่แล้วโรงพยาบาลระดับภูมิภาค โรงระดับกลางส่วนใหญ่ไม่มีแผนกศัลยกรรมมือ เพราะโรงพยาบาลเหล่านี้ไม่แบ่งแยกแผนกละเอียดขนาดนั้น
เคสการผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมมือส่วนใหญ่เป็นเคสผ่าตัดเย็บซ่อมแซมเส้นเอ็น เส้นประสาท หลอดเลือด และความอดทน ความละเอียดและความใส่ใจของหมอผู้หญิงมักสะท้อนให้เห็นได้ชัดในแวดวงนี้ และอีกอย่างหนึ่ง เคสเหล่านี้เป็นเคสที่ไม่ได้เหนื่อยมากนัก ความละเอียดและความใส่ใจคือความสำคัญกับเคสเหล่านี้
ดังนั้นจึงปรากฏให้เห็นหมอผู้หญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับต้นเยอะมาก
ฉางหงเหล่ยเป็นหัวหน้าใหญ่แผนกศัลยกรรมมือประจำโรงพยาบาลจีสุ่ยถานแห่งเมืองหลวง ระดับความรู้ความสามารถในแวดวงของการศัลยกรรมเส้นเอ็น เส้นประสาทมือ หลอดเลือดมืออยู่ในระดับลึกซึ้งมาก!
เธอทำการวิจัยเทคนิคเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีเย็บเส้นเอ็นมาเป็นเวลายาวนานหลายปี วิเคราะห์ทุกวิธีในระดับต่างๆ โดยส่วนตัวมองว่าตนมีความรู้ความเข้าใจในเส้นเอ็นมือในระดับที่สูงมากคนหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้คิดค้นวิธีเย็บเส้นเอ็นใหม่ๆ ได้เหมือนศาสตราจารย์ทัง แต่สำหรับมุมมองของเธอแล้ว วิธีผ่าตัดเป็นอะไรที่ไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งโรคและอาการบาดเจ็บก็มีหลากหลายรูปแบบ
แทนที่จะเจาะลึกเทคนิคเย็บเส้นเอ็นที่ซับซ้อน สู้นำข้อดีของเทคนิคดั้งเดิมมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพจะดีกว่า
แต่แนวคิดของเธอในช่วงตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพราะว่าคนจำนวนมากยังมีแนวคิดที่ผิดอยู่ นั่นก็คือยิ่งเป็นวิธีผ่าตัดระดับสูงยิ่งยอดเยี่ยม ก็เลยมุ่งเน้นที่จะเรียนเทคนิคการผ่าตัดระดับสูงเหล่านั้น และมักจะมองข้ามการทำวิจัยเทคนิคเชิงลึกของเทคนิคขั้นพื้นฐานไป
ดังนั้นจำนวนผู้สนับสนุนแนวคิดของฉางหงเหล่ยจึงเทียบไม่ได้กับจำนวนผู้สนับสนุนของศาสตราจารย์ทัง
ถึงอย่างไรเสีย ปัจจุบันนี้ วิธีเย็บเส้นเอ็นของทังก็เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เป็นที่ยอมในแวดวงศัลยศาสตร์มือในยุโรป
ฐานะที่อยู่ในโลกของนักวิจัยในโลกของการแพทย์ จำเป็นต้องว่ากันด้วยบทความทางวิชาการกับตัวเลขชี้วัด หลายปีมานี้ความล้ำเลิศในด้านนี้ของฉางหงเหล่ยยังไม่ทัดเทียมศาสตราจารย์ทัง
‘ทฤษฎีการแบ่งเขตเส้นเอ็นยืดเหยียดของทัง’ ยังคงพัฒนาอย่าต่อเนื่อง
ทว่าในตอนนี้ เมื่อฉางหงเหล่ยได้เห็นฝีมือการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชาง จู่ๆ เธอเกิดความรู้สึกเห็นพ้องต้องกันอย่างทีไม่เคยเป็นมากก่อน!
เพราะนี่อาจเป็นแนวคิดที่ตรงกันกับฉางหงเหล่ยโดยที่ไม่เคยได้พูดคุยกันมาก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฉินชางนำวิธีการเย็บเส้นเอ็นที่หลากหลายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
ในจุดนี้ฉางหงเหล่ยทำได้ไม่ดีเท่าเฉินชาง
ในการผ่าตัดหนึ่งเคส เย็บเส้นเอ็นสามเส้น วิธีเย็บเส้นเอ็นสี่วิธี
บาดแผลบนเส้นเอ็นทุกเส้นได้รับการซ่อมแซมด้วยเทคนิควิธีที่ล้ำเลิศที่สุด นี่เป็นทิศทางเดียวกันกับสิ่งที่ตนศึกษามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่ใช่หรือ
ในเวลานี้ฉางหงเหล่ยอดใจเต้นไม่ได้
นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องการ!
จู่ๆ เธอก็พบว่าการศึกษาวิจัยตลอดหลายปีที่ผ่านมาของเธอใช่ว่าจะไร้ผลลัพธ์ ก็แค่ไม่มีใครที่มีศักยภาพอย่างแท้จริงที่จะอธิบายแนวคิดออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่านั้นเอง
แต่เฉินชางกลับทำได้!
การผ่าตัดในวันนี้ เขาได้แสดงให้เห็นถึงทักษะพื้นฐานขั้นสูงในการผสมผสานแต่ละวิธีเข้าด้วยกันผ่านความรู้ความเข้าใจระดับลึกซึ้ง ถึงขั้นที่กลั่นกรองหัวใจสำคัญของแต่ละวิธีออกมาได้
นับว่าเก่งกาจมากจริงๆ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉางหงเหล่ยก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าในครั้งนี้จะกลับปักกิ่งช้าหน่อย เธอต้องคุยกับเฉินชางเรื่องนี้สักหน่อย
เธอเชื่อว่าการได้พูดคุยกับเฉินชางจะช่วยอธิบายแนวคิดนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพถึงขีดสุด
…
…
หวังอวี้ซานมองเฉินชางถึงกับทำเสียงจึ๊ๆ ออกมาด้วยความรู้สึกชื่นชมจากใจ
คนที่ผสมผสานวิธีเย็บเส้นเอ็นวิธีต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาดขนาดนี้หายากจริงๆ!
ไม่เพียงแต่ต้องมีประสบการณ์ในเย็บเส้นเอ็นมาหลายเคสเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าเข้าใจในเส้นเอ็นแต่ละเส้น ทั้งยังมีความรู้ความเข้าใจในการเย็บเส้นเอ็นขั้นสูงด้วย
จำเป็นต้องอาศัยพรสวรรค์!
แต่คนที่ดีใจมากที่สุดควรจะเป็นฉางหงเหล่ย หวังอวี้ซานมองฉางหงเหล่ย “หัวหน้าหวัง เดินทางมาที่นี่วันนี้นับว่าไม่เสียเที่ยว!”
แน่นอนว่าฉางหงเหล่ยรู้ความหมายของหวังอวี้ซาน เธอพลันหัวราะ “ไม่เสียเที่ยว เก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ ได้เยอะมาก!”
หวังอวี้ซานพยักหน้า “ฝีมือเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางพิสูจน์สิ่งที่คุณศึกษาวิจัยได้จริงๆ ว่ามีประสิทธิภาพ ผมว่ารอพวกเรามีเวลานั่งคุยกัน แล้วมาช่วยกันวางแผนจัดทำคู่มือการเย็บเส้นเอ็นในแบบฉบับที่เป็นของคนจีนกันดีกว่า เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว สมาคมศัลยแพทย์ด้านมือของยุโรปจะมาเรียนวิธีเย็บเส้นเอ็นกับเราแน่!”
ใบหน้าของฉางหงเหล่ยแดงระเรื่อ สีหน้าค่อนข้างเฝ้าฝัน
ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ก็ดีสิ ยกระดับอำนาจบารมีของประเทศเรา สรรเสริญความโชติช่วงชัชวาลของประเทศเรา!
…
…
หวังอวี้ซานมองเฉินชางแล้วเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เสี่ยวเฉิน คุณรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ผมคิดอะไรอยู่”
เฉินชางส่ายหน้า ทุกคนมองมา
หวังอวี้ซานถอนหายใจออกมา แล้วจ้องมองเฉินชาง กล่าวทีจริงทีเล่นว่า “ตอนนี้ผมอยากดึงตัวคุณไปอยู่ที่โรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่ว”
เมื่อทุกคนได้ฟังดังนั้น ต่างก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา
เฉินชางหัวเราะ “ผู้อำนวยการหวัง คุณล้อผมเล่นแล้ว โรงพยาบาทหมัวตูซื่อลิ่วอัดแน่นไปด้วยบุคลากรที่มีความสามารถ ไม่ขาดแคลนท่านๆ เหล่านี้เลย…อีกอย่างนะครับ ถึงแม้ผมจะอยู่ตงหยาง แต่เราก็ยังติดต่อกันได้”
หวังอวี้ซานพยักหน้า โรงพยาบาทหมัวตูซื่อลิ่วไม่เคยขาดหมอวัยหนุ่มสาว แต่ยังไม่เคยมีหมอวัยหนุ่มสาวที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางขั้นสูง
บุคคลมีความสามารถ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็เป็นสิ่งหายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคคลที่มีความสามารถขั้นสูง
หวังอวี้ซานพยักหน้าจริงจัง เขามองเฉินชางแล้วกล่าวเน้นทีคำทีละประโยค “ครับ ผมพูดจริงๆ เสี่ยวเฉิน เมื่อถึงเวลาที่จำเป็น ต้องเชิญคุณให้เข้าร่วมประชุมทางไกลเพื่อร่วมวินิจฉัย หรือเวลาจำเป็นต้องเชิญคุณเข้าร่วมอภิปรายหัวข้อสำคัญ คุณห้ามปฏิเสธนะครับ”
หวังอวี้ซานมองเฉินชาง เกิดกลัวว่าเฉินชางจะให้รับปากแบบขอไปที
เฉินชางยิ้มพร้อมส่ายหน้า แล้วกล่าวตามความจริง “ไม่ปฏิเสธแน่นอนครับ ผมยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้จากผู้อำนวยการหวังครับ!”
เฉินชางกล่าวตามความจริง หวังอวี้ซานเป็นบุคคลที่เจิดจรัสมาก กล่าวให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือหวังอวี้ซานเป็นศัลยแพทย์ด้านมือผู้ทรงคุณวุฒิที่เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถในสาขานี้มากพอให้เฉินชางได้เรียนรู้ไปอีกนาน
แต่ตอนนี้เขายังไม่อยากจากมณฑลตงหยางไป เพราะมณฑลตงหยางทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ กว่าเขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ว่าเวทีแห่งนี้จะไม่ใหญ่โต แต่ก็เป็นเวทีที่เหมาะสมกับเขามากที่สุดเวทีหนึ่ง
เฉินชางสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองไปตามจังหวะตนเองบนเวทีนี้ได้ แต่ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากขนาดนั้น ไม่ใช่เพียงการจำกัดไว้แค่เพียงทักษะใดทักษะหนึ่ง แต่เป็นการพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน
แผนกฉุกเฉิกเป็นเวทีใหญ่เวทีหนึ่ง
เฉินชางไม่มีทางที่จะจำกัดการเรียนรู้ไว้ที่การศัลยกรรมมือเพียงด้านเดียว การได้เข้าไปทำงานในโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่วนับเป็นเรื่องดีสำหรับการพัฒนาฝีมือในด้านศัลยกรรมมือของเฉินชาง แต่สำหรับด้านสาขาอื่นแล้วไม่เป็นเช่นนั้น
แล้วปัจจุบันนี้ที่โรงพยาบาลอันดับสอง เฉินชางมีหลี่เป่าซาน ฉินเสี้ยวยวน หลี่เจี้ยนเหว่ยเป็นผู้สนับสนุนอยู่ข้างหลัง แล้วก็มีฝางยงหลิน อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลคอยสนับสนุน การพัฒนาของเฉินชางจึงมีความมั่นคง
บวกกับตนเพิ่งจะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท จะเปลี่ยนเป็นอาชีพลับได้ต้องได้ค่าความรู้สึกดีจากจักรพรรดิเมิ่งซีเสียก่อน
กล่าวให้ชัดเจนก็คือ ยังต้องอยู่ที่มณฑลตงหยางต่อไปก่อน รอให้ตนแอบยกระดับขึ้นมาถึง lv.99 เรียนทักษะต่างๆ ครบแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นจะไปที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ได้
สำหรับในตอนนี้ เฉินชางรู้ตัวดีว่าถึงแม้ตอนนี้ตนจะดูเก่งมาก แต่ถ้าคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ก็แค่เคสเย็บเส้นเอ็นเคสหนึ่งก็เท่านั้นเอง ถึงอย่างไรเสียการศัลยกรรมมือก็ไม่ได้มีแค่การเย็บเส้นเอ็นเท่านั้น ต้องกล่าวถึงการศัลยกรรมทั้งหมด ลำพังแค่การศัลยกรรมมือก็ไม่ได้มีแค่ทักษะพื้นฐานแค่เพียงทักษะใดทักษะหนึ่ง เฉกเช่นเดียวกับการศัลยกรรมทรวงอกก็ไม่ได้มีแค่การเย็บซ่อมแซ่มหลอดอาหารแต่เพียงอย่างเดียว
คำชมของพวกเขา เฉินชางแค่รับฟังด้วยรอยยิ้ม เขารู้ตัวว่าตนเองยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะมาก จำเป็นต้องเดินทางอยู่บนหนทางแห่งการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอีกไกลมาก
ถ้าคิดที่จะกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างแท้จริง คุณจำเป็นต้องเข้าใจและให้ความสำคัญกับแวดวงนี้มากพอ!
ก็เหมือนกับผู้อำนวยการหวัง หวังอวี้ซาน ศึกษาวิจัยโรคเกี่ยวกับมือมาตลอดชีวิตของเขา เชี่ยวชาญทุกโรคที่เกี่ยวกับมือชนิดที่เรียกว่ารับมือได้อย่างอยู่หมัด
ประสบการณ์อันยาวนานสร้างความมั่นใจในฝีมือ ไม่ว่าหวังอวี้ซานจะเผชิญกับเคสผ่าตัดใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับที่การศัลยกรรมมือ เขาก็รับมือได้อย่างยอดเยี่ยม
ในฐานะหมอ ยิ่งลู่ทางของคุณกว้าง อนาคตของคุณก็ยิ่งเจิดจรัส ผู้ป่วยของคุณก็ยิ่งปลอดภัย!
ยกตัวอย่างเช่นศาสตราจารย์ทังกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในและต่างประเทศไม่ใช่แค่เพราะเขาคิดค้นวิธีเย็บเส้นเอ็นของทังเพียงอย่างเดียว
ทังศึกษาวิจัยและคิดวิธีเย็บเส้นเอ็นของทังได้เมื่อตอนอายุเพิ่งสามสิบ
เมื่อเทียบกับเฉินชางแล้ว ศาสตราจารย์ทังเก่งกว่าเฉินชางมาก อายุสามสิบคิดค้นวิธีเย็บของทังได้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้จู่ๆ เฉินชางก็เกิดความคิดที่ว่า หรือว่าศาสตราจารย์ทังก็มีระบบเช่นเดียวกัน?
สาเหตุที่ศาสตราจารย์ทังเก่งขนาดนี้ได้จะต้องไม่ใช่แค่เพราะเขาคิดค้นวิธีเย็บเส้นเอ็นของทังง่ายๆ แค่นั้นแน่
เขามีชื่อเสียงที่สุดในแวดวงศัลยกรรมมือในด้านของเส้นเอ็นยืดเหยียดกับกระดูกข้อมือ ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในด้านการรักษาฟื้นฟูเส้นเอ็นมือที่ได้รับบาดเจ็บ การวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับกระดูกข้อมือ การรักษาฟื้นฟูไขข้อกระดูก การปลูกถ่ายหลอดเลือดดำของตัวผู้ป่วยเองเพื่อรักษาเส้นประสาทโดยรอบที่เสียหาย เป็นต้น
ด้วยวิธีของทังหนึ่งวิธี?
ในยุคสมัยนี้มีวิธีเย็บผิวหนังเย็บเส้นเอ็นหลากหลายวิธีนับไม่ถ้วน วิธีที่เป็นที่จดจำล้วนเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยม
เมื่อเห็นสายตาของหวังอวี้ซานกับฉางหงเหล่ย เฉินชางก็เผยรอยยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฝ่ายนั้นคิดอะไร
เส้นทางของวิชาชีพแพทย์ เป็นเส้นทางที่ยาวไกลกว้างใหญ่ไพศาล