บทที่ 284 ไม่นับถือไม่ได้แล้ว!
เวลาสิบเอ็ดโมงสามสิบนาที!
ป้ายชื่อกำกับชื่อแดง [ข้อต่อสเตอร์โนคลาวิคิวลาร์[1] หัก] [กระดูกไหปลาร้าหัก] [กระดูกอ่อนซี่โครงคู่ที่สองหัก]…กระดูกหลายตำแหน่งภายในช่องทรวงอกหัก!
และในส่วนถัดมาคือความเสียหายของหลอดเลือด!
ณ ขณะนี้ยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด
[หลอดเลือดดำใต้กระดูกไหปลาร้าเสียหาย] [หลอดเลือดดำใหญ่เวนาคาวาด้านบน[2]เสียหาย] [รากเอออร์ติก[3]ฉีกขาด]!
หลอดเลือดทั้งสามตำแหน่งนี้เสียหายรุนแรง!
ที่อันตรายที่สุดคือรากเอออร์ติกที่ฉีกขาด แท่งเหล็กเส้นแบบเกลียวที่แทงทะลุทรวงอกขณะนี้อยู่ชิดกับหลอดเลือดแดงใหญ่มาก บาดแผลบริเวณนี้ถูกแท่งเหล็กเส้นแบบเกลียวแนบชิดอยู่ เลือดที่ไหลทะลักออกมาจึงไม่มาก!
แต่จำเป็นต้องรีบซ่อมแซมให้ทันกาล!
ส่วนหลอดเลือดดำใหญ่เวนาคาวาด้านบนอยู่ติดกับหัวใจและรากเอออร์ติก มีรอยแผลฉีกขนาดใหญสามตำแหน่ง บาดแผลฉีกใหญ่สุดเกือบสองเซ็นติเมตร!
ทุกข้อมูลที่ปรากฏตรงหน้ากำลังบอกกับเฉินชางว่าทั้งหมดนี้ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน
แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ใช่ทั้งหมด!
เนื่องจากเหล็กเส้นแบบเกลียวแทงเข้าไปลึก ทำให้ทั่วบริเวณปรากฏข้อมูลความเสียหายขึ้นมาไม่หยุด!
[ไฮลัมของปอด[4]ขวาฉีกขาด] [หลอดเลือดดำอะไซกอสฉีกขาด] [ปอดขวาบนเสียหาย] [หลอดลมฝั่งขวาบนทะลุ]!
เมื่อเห็นบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากขนาดนี้ จิ่งหรานอดตื่นตระหนกไม่ได้
แม้แต่บรรดาหมอที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ยังกลืนน้ำลาย รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
เฉินชางตรวจสอบความเสียหายของปอดต่อด้วยความระมัดระวัง
กระดูกอ่อนซี่โครงด้านหลังฝั่งขวาทั้งสี่ซี่แตกเสียหาย หลอดเลือดแดงใหญ่ที่อยู่ระหว่างซี่โครงฉีกขาดเสียหาย
การเปิดช่องอกเพื่อตรวจสอบความเสียหายสิ้นสุดลง เฉินชางละเอียดรอบคอบมาก เขาอาศัยความพิเศษของแว่นที่สวมอยู่ตรวจสอบเนื้อของอวัยวะทั้งหมดด้วยภาพสามมิติ ทำให้มั่นใจว่าจะวางแผนรักษาอย่างไรต่อไป
แต่การที่บาดแผลสาหัสเช่นนี้ ทำให้ทุกคนต่างกังวลใจ
ระดับความอยากในการผ่าตัดรักษา แค่คิดก็รู้ว่าจะเป็นเช่นไร
การตรวจความเสียหายอย่างละเอียดสิ้นสุดลงในเวลาสิบเอ็ดโมงสี่สิบสองนาที
เฉินชางมองจิ่งหรานกับหวังเชียน แล้วกล่าวว่า “เตรียมเย็บหลอดเลือด แล้วเอาเหล็กเส้นออก คอยทำตามที่ผมบอกนะครับ!”
ทั้งสองพยักหน้าตอบรับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
ตลอดกระบวนการเหล่านี้ จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและความละเอียดรอบคอบ เหล็กเส้นแบบเกลียวไม่เหมือนกับเหล็กเส้นที่มีผิวเรียบ พื้นผิวของเหล็กเส้นชนิดนี้มีลักษะเป็นร่องเกลียว สำหรับอวัยวะภายในร่างกายที่อ่อนและบอบบางแล้วนั้น ร่องเกลียวของเหล็กเส้นนี้เปรียบเสมือนอาวุธปลิดชีพ!
เวลาแต่ละนาที แต่ละวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหล็กเส้นแบบเกลียวความยาวกว่าครึ่งเมตรจะต้องถูกดึงออก และจะต้องไม่สร้างความเสียหายให้กับอวัยวะเพิ่ม!
ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้มือหนึ่งคู่ที่มั่นคงมาก!
มีหนึ่งคู่ที่พลังไม่มีตก!
เฉินชางกัดฟันกรอด จิ่งหรานที่กำลังมองอยู่กล่าวขึ้นว่า “ระวังนะครับ อย่ารีบร้อน!”
จิ่งหรานหันไปหาหวังเชียนกับจางเสวียเลี่ยง “ห้ามเลือด!”
ผ้าก๊อซสำหรับห้ามเลือดในมือหวังเชียนใช้ไปแล้วไม่รู้กี่ก้อนต่อกี่ก้อน!
หนึ่งก้อนใช้ไป…ตามด้วยอีกหนึ่งก้อน…ผ้าก๊อซที่ใช้แล้วถูกกองทิ้งไว้บนผ้าสีเขียวราวกับเป็นสิ่งที่ไม่มีมูลค่า
ในเวลานี้เฉินชางยังต้องเฝ้าสังเกตสัญญาณชีพของผู้ป่วยด้วย กรณีที่มีอะไรผิดปกติก็จะได้แก้ไขได้ทันกาล!
เฉินชางหันมามองพยาบาล
“ให้พลาสมาต่อเนื่อง!”
พยาบาลพยักหน้า ตรวจสอบความถูกต้องของพลาสมาอยู่หลายครั้ง แล้วให้พลาสมากับผู้ป่วย
ทุกคนทำหน้าของตนอย่างเป็นระเบียบแบบแผนตามที่เฉินชางมอบหมาย
เวลานี้ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก หลังจากหลี่เป่าซานล้างมือเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินเข้ามา ตามมาติดๆ ด้วยเถามี่ หลี่เจี้ยนเหว่ย!
ศัลยแพทย์ใหญ่ผู้เป็นแกนสำคัญหลักทั้งสามท่านมาถึงแล้ว!
ทุกคนในห้องผ่าตัดต่างสบตากันไปมา
เมื่อเห็นหัวหน้าทั้งสามท่าน สีหน้าของทุกคนก็พลันเปลี่ยนเป็นปีติยินดี!
ส่วนเฉินชางรีบตำหนิทันที “อย่างขยับซี้ซั้ว!”
จิ่งหรานชะงักเล็กน้อย หวังเชียนกับจางเสวียเลี่ยงต่างไม่กล้าเงยหน้า พวกเขาจดจ่อกับการห้ามเลือด!
ในเวลานี้ เฉินชางไม่กล้าชะล่าใจแม้แต่นิด
อย่ามองว่าเฉินชางทำเกินไป ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของผู้ป่วยที่อยู่ตรงหน้า!
เมื่อได้ยินเฉินชางตำหนิคนในทีม หลี่เป่าซานก็ชะงักเล็กน้อย เขามองเถามี่ทีหนึ่ง แล้วก็มองหลี่เจี้ยนเหว่ยทีหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของทั้งคู่ปกติดี เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ!
แพทย์ผู้นำทีมผ่าตัดเปรียบเสมือนแม่ทัพที่มีอำนาจขาดในการออกคำสั่ง!
เวลาที่แพทย์อยู่หน้าเตียงผ่าตัด ไม่ควรวอกแวก ต้องทุ่มให้กับการผ่าตัดตรงหน้าอย่างเต็มที่!
ในเวลานี้เฉินชางคือแม่ทัพที่กำลังประจัญบานกับศัตรู
พยาบาลสวมชุดสำหรับผ่าตัดให้กับหลี่เป่าซาน เถามี่ หลี่เจี้ยนเหว่ย ทั้งสามเดินเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง เมื่อเดินไปถึงหน้าเตียงผ่าตัด พวกเขาก็เห็นว่ามือข้างหนึ่งของเฉินชางจับเหล็กเส้นไว้ มืออีกข้างหนึ่งค่อยๆ ดึงเหล็กเส้นออกจากบริเวณทรวงอกของผู้ป่วย
มือซ้ายที่จับเหล็กเส้นไว้มั่นคงดั่งขุนเขา ไม่สั่นคลอนแม้แต่นิด!
หลี่เจี้ยนเหว่ยค่อนข้างประหลาดใจ!
มือของเสี่ยวเฉินนิ่งมาก!
แขนแข็งแรงกำยำมาก
แต่…
เวลาผ่านไปหนึ่งนาที…สิบนาที…สามสิบนาที…หกสิบนาที…
หลี่เจี้ยนเหว่ยถึงกับตกตะลึง!
เสี่ยวเฉินไม่ล้าบ้างหรือไง
สิ่งที่เขาถืออยู่คือเหล็กเส้นไม่ใช่แผ่นกระดาษ ต่อให้เป็นแผ่นกระดาษ คุณถือไว้นิ่งๆ สักสามสิบนาทีจะไม่รู้ล้าบ้างหรือ
หัวใจสำคัญคือในกระบวนการนี้ คุณต้องแน่ใจว่าเหล็กเส้นในมือจะไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
สายตานับสิบคู่จับจ้องมาที่เฉินชางด้วยความประทับใจ!
หัวหน้าทั้งสามเข้ามาหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เฉินชางยังถือเหล็กเส้นไว้ได้อย่างมั่นคงไม่ไหวติง!
ทั้งสามคนรู้สึกกระวนกระวายใจมาก!
คนที่รู้สึกประทับใจมากที่สุดคือจิ่งหราน กำลังวังชาเช่นนี้ของเฉินชางทำให้เขารู้สึกนับถือจนหมดใจ
สิ่งนี้เป็นพลังจิตใจที่แน่วแน่แบบไหนกัน
สิ่งนี้เป็นศักยภาพประเภทไหนกัน!
สิ่งนี้เป็นพลังความแข็งแกร่งประเภทไหนกัน!
จิ่งหรานนับถือ!
นับถือจากหัวใจ!
ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายโมงสิบห้านาที
ในที่สุดเหล็กเส้นความยาวประมาณหกสิบเซ็นติเมตรที่อาบชุ่มไปด้วยเลือดก็ถูกดึงออกมาจะทรวงอกของผู้ป่วยช้าๆ
ทุกคนต่างก็รู้สึกปีติยินดีจนอยากจะตบมือชื่นชม!
แต่!
ทุกคนยังไม่ทันได้แสดงความดีอกดีมจออกมา หลอดเลือดแดงใหญ่ก็แตกเสียแล้ว!
เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมา!
เฉินชางมือไวตาไว “ใช้มือกดห้ามเลือด!…เย็บหลอดเลือด ส่งไหมเย็บหลอดเลือดมาให้ผม เตรียมเย็บหลอดเลือดทันที!”เฉินชางพูดเร็วมาก จิ่งหรานก็เตรียมคีมห้ามเลือดอย่างรวดเร็ว หวังเชียนรับเข็มเย็มหลอดเลือดมาจากมือพยาบาล
เฉินชาง “เย็บหลอดเลือด!…ห้ามเลือด!”จิ่งหรานกับหวังเชียนให้ความร่วมมือและรู้ใจกันเป็นอย่างดี เฉินชางรับคีมจับเข็มมาทันที!
ปฏิกิริยาตอบสนองของเฉินชางไวมาก!
ทำให้หัวหน้าทั้งสามคนต่างตกตะลึงจนตาค้าง ความสามารถในตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันควันเช่นนี้ เป็นความสามารถที่แพทย์อาวุโสผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความสามารถล้ำเลิศพึงมี!
เฉินชางในเวลานี้มีคุณสมบัตินั้นแล้ว!
ระหว่างการผ่าตัดมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้าในชั่วพริบตาเดียว ถ้าไม่มีความสามารถเช่นนี้ ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดความเสียหาย!
เหมือนกับการออกรบ ในสนามรบมิอาจคาดการณ์สถานการณ์ที่แน่นอน ในฐานะแม่ทัพ จำเป็นต้องเลือกวิธีรับมือที่เหมาะสมที่สุดตามสถานการณ์!
ส่วนเฉินชางมีคุณสมบัตินี้อย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากที่เขารับคีมจับเข็มมาแล้ว ไม่มีเวลาได้พักสักนิด ก็เริ่มเย็บหลอดเลือดแดงใหญ่ทันทีการเย็บหลอดเลือดแดงใหญ่จำเป็นต้องเย็บได้ถี่และไวมาก!
ฝีมือการเย็บหลอดเลือดของเฉินชางล้ำเลิศมาก
จิ่งหรานค่อนข้างกังวล เขาอ้าปากจะเอ่ยพูด ทว่าเมื่อชำเลืองมองเฉินชางแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่…ก็ยังรู้สึกไม่วางใจ ถึงอย่างไรเสียจากขั้นตอนก่อนหน้านี้มือทั้งสองข้างของเฉินชางก็น่าจะอ่อนล้ามากแล้ว ในตอนนี้เฉินชางจะยังไหวอยู่หรือ
การเย็บเส้นเลือดเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความประณีต ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ไม่ใช่เพียงจิ่งหราน เถามี่กับหลี่เป่าซานต่างก็พากันขมวดคิ้ว
เถามี่กำลังจะเดินเข้าไป ทันใดนั้นเขาก็เห็นเฉินชางเริ่มเย็บหลอดเลือดใหญ่แล้ว!
มือของเขายังคงปราดเปรียวพลิ้วไหวมากเช่นเคย เวลาที่เขาเย็บเส้นเลือด เย็บได้ถี่และเป็นระเบียบ เย็บได้แน่นแต่มีความยืดหยุ่น!
เถามี่ถึงกับตกตะลึงทันใด
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นเฉินชางเย็บหลอดเลือดมาก่อน เขาเคยเห็นมากก่อน แล้วก็รู้ด้วยฝีมือของเฉินชางล้ำเลิศมาก
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งทั่วไป!
ทำไมไม่เหมือนล่ะ
คุณลองคิดให้ถี่ถ้วน ลองให้คุณย้ายก้อนอิฐเป็นเวลาต่อเนื่องกันหนึ่งชั่วโมง แล้วจู่ๆ ก็มีคนยื่นเข็มกับด้ายให้คุณเย็บเสื้อผ้า คุณมั่นใจได้หรือไม่ว่าจะเย็บผ้าด้วยท่วงท่าที่ถูกต้องและเย็บผ้าออกมามีคุณภาพดีขนาดนี้ได้หรือไม่
ยากมาก! ยากมาก!
แต่ดูแล้วความเหนื่อยล้าก่อนหน้านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเฉินชางเลยสักนิด!
ในเวลานี้ สายตาของหัวหน้าทั้งสามต่างจับจ้องอยู่ที่มือทั้งสองข้างกับแขนของเฉินชาง ความรู้สึกของพวกเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความตกตะลึง!
หลังจากเย็บหลอดเลือดใหญ่เสร็จแล้ว เฉินชางก็เริ่มเย็บหลอดเลือดเส้นอื่นที่เสียหายต่อทันที
เวลาแต่ละนาที แต่ละวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็วดั่งสายน้ำ!
ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงตรง!
การผ่าตัดเพิ่งจะดำเนินไปได้เศษหนึ่งส่วนสามของขั้นตอนทั้งหมด!
ขั้นตอนต่อไป เป็นขั้นตอนยิ่งสำคัญ…
เฉินชางจะยังไหวอยู่หรือเปล่า
[1] ข้อต่อสเตอร์โนคลาวิคิวลาร์ (Sternoclavicular joint) คือข้อต่อที่กระดูกไหปลาร้าติดกับกระดูกหน้าอก
[2] หลอดเลือดดำใหญ่เวนาคาวาด้านบน คือหลอดเลือดที่มีหน้าที่รับเลือดเสียจากศีรษะ คอ และแขนทั้งสองข้างเข้าสู่หัวใจทางห้องบนของหัวใจด้านขวา
[3] รากเอออร์ติก (Aortic root) เป็นส่วนหนึ่งของหลอดเลือดแดงใหญ่เอออตาร์ส่วนบน
[4] ไฮลัมของปอด (Hilum lung) เป็นอวัยวะรูปทรงสามเหลี่ยมที่อยู่ตรงกลางของปอดแต่ละข้าง ช่วยยึดปอดให้อยู่กับที่ เป็นตำแหน่งที่เชื่อมโยงการทำงานกับหลอดเลือดและเส้นประสาทที่ทำงานระหว่างหลอดลมไปยังปอด
บทที่ 281 เป็นตายเท่ากัน!
ตั้งแต่ทำงานที่แผนกฉุกเฉิน เฉินชางก็กลายเป็นคนที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่ผ่อนคลาย บางครั้งเวลาที่กำลังหลับอยู่แล้วได้ยินเสียงไซเรนที่ล่างตึก เฉินชางก็จะเปิดผ้าห่มออกและลุกจากเตียงทันที
ปีนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว อาจเป็นเพราะเคยชินกับชีวิตเช่นนี้แล้วก็เป็นได้
ดังนั้นชั่วขณะที่ได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลือ เฉินชางก็วิ่งไปตามต้นตอของเสียงโดยอัตโนมัติ ก่อนที่สติของเขาจะทันตอบสนองเสียอีก
จิ่งหรานเองก็เช่นกัน!
จิ่งหรานเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก มักจะร่วมมือกับแผนกฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยเคสต่างๆ อยู่เสมอ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาถูกบ่มเพาะให้กลายเป็นคนที่มีความตื่นตัวเช่นนี้
เป็นความตื่นตัวเวลาที่ได้ยินคำว่า ‘ช่วยด้วย โจรปล้น ฆาตกรรม!’
ในฐานะคนเป็นหมอเวลาที่ได้ยินคำว่า ‘ช่วยด้วย’ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักจะกลายเป็นความรับผิดชอบของตนเองทันที
การช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บเป็นหน้าที่ของคนเป็นหมอ
ด้วยเหตุนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีเรื่องหมอถูกต่อว่าเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่คุณก็ยังคงเห็นหมอลุกขึ้นมาช่วยคนเวลาเกิดเหตุตามป้ายรถเมล์ ลานกว้าง บนรถไฟ และบนเครื่องบินอยู่เสมอ
บางครั้งถึงแม้ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายจะเกิดขึ้นตรงหน้า ก็ยังคนมีคนบางคนที่ไม่หวาดกลัว เพราะคนเหล่านั้นมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
ก็เหมือนที่กัวจื้อหย่งกระโจนเข้าไปช่วยเด็กสามคนในช่วงเวลาคับขันโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น เฉินชางกับจิ่งหรานในเวลานี้ก็เช่นกัน มีเพียงความคิดเดียวในใจคือ ช่วยคนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน!
เดิมทีคิดว่าสถานที่เกิดเหตุอยู่ห่างออกไปไม่ไกล แต่คิดไม่ถึงว่าผู้ประสบเหตุไม่ได้ตกบริเวณนี้ แต่เป็นอาคารก่อสร้างที่ต้องเดินอ้อมไปด้านหลังตึกสำนักงานขาย
ทั้งสองคนไม่สนใจว่าจะต้องวิ่งลุยฝุ่นไปตลอดทาง ระหว่างที่กำลังรีบร้อนวิ่งไปถึงจุดเกิดเหตุก็ใช้เวลาไปสามถึงห้านาทีแล้ว!
ในเวลานี้ มีคนเจ็ดแปดคนยืนอยู่รอบๆ
เฉินชางรีบตะโกนขึ้นว่า “ทุกคนหลีกทางด้วยครับ พวกเราเป็นหมอ!”
คำพูดหนึ่งประโยค ทำให้ผู้คนพากันสลายตัว!
เมื่อไม่มีใครยืนมุง สภาพของผู้บาดเจ็บก็ปรากฏสู่สายตาเฉินชางกับจิ่งหราน!
เมื่อเห็นสภาพของผู้ป่วย เฉินชางก็อดวิตกกังวลไม่ได้
สิ่งที่เห็นคือเหล็กเส้นที่แทงทะลุลำคอช่วงล่างผ่านทรวงอกซีกขวา เลือดออกเยอะมาก ชีวิตของผู้บาดเจ็บตกอยู่ในอันตราย เขาถูกเหล็กเส้นยาวสิบเมตรกว่าเสียบอยู่ ขยับไม่ได้!
เฉินชางก้มลงไปดู เหล็กเส้นที่แทงทะลำคอช่วงล่างทะลุผ่านทรวงอกซีกขวา แท่งเหล็กเส้นแตกต่างจากของจูหย่งวั่งเมื่อครั้งนั้น เหล็กเส้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณยี่สิบห้ามิลลิเมตร ความยาวประมาณสิบเมตรกว่า!
ทั้งยังมีแผ่นหินที่เชื่อมติดอยู่กับแท่งเหล็กเส้น ทำให้ผู้บาดเจ็บขยับเขยื้อนไม่ได้
เป็นภาพที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ทำให้ผู้คนเห็นตุการณ์ต่างตัวสั่นขนลุกของพองอย่างควบคุมไม่อยู่
ในเวลานี้เลือดยังคงไหลทะลักออกาจากทรวงอกไม่หยุด เฉินชางกับจิ่งหรานเห็นแล้วก็รู้สึกใจสั่น!
ผู้ป่วยเป็นชายวัยกลางคนร่างกายกำยำ อายุไม่ถึงห้าสิบปี สวมชุดคนงาน ใบหน้าเปื้อนฝุ่น ทว่าในตอนนี้เขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น กัดฟันกรอด มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น ไม่พูดอะไรสักคำ!
ความเจ็บปวดเช่นนี้เป็นความเจ็บปวดที่แสนสาหัส แต่ชายผู้บาดเจ็บนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใดๆ ใบหน้าดำคล้ำของเขาเปี่ยมด้วยความทรหดอดทน เหมือนชายชาตรีผู้แข็งแกร่งที่เคยเห็นในโทรทัศน์มาก
แต่เฉินชางรู้ดีว่าชายชาตรีผู้แข็งแกร่งที่เคยเห็นในโทรทัศน์เป็นแค่การแสดง แต่ผู้บาดเจ็บคนนี้แสร้งทำแบบนั้นไม่ได้!
ใครจะเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่น?
เฉินชางทำงานอยู่ในแผนกฉุกเฉินมาสามปี ยังช็อกกับภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้เลย
คนงานคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างตกใจกลัวจนตัวแข็งทื่อ!
เฉินชางรีบกล่าวทันทีว่า “โทร 119!”
จิ่งหรานอยู่ในอาการตกตะลึง เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก
ในเวลานี้ เฉินชางจำเป็นต้องรู้อย่างกระจ่างแจ้งว่าผู้บาดเจ็บได้รับบาดเจ็บตรงไหนอย่างไร และตรึกตรองอย่างรวดเร็วว่าอวัยวะส่วนไหนของร่างกายบ้างที่จะได้รับผลกระทบไปด้วย รวมถึงเวลาที่ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บต้องระวังด้านใดบ้าง
หลังจากที่โทรแจ้ง 119 แล้ว จิ่งหรานก็โทรออกอีกเบอร์ด้วย เขาไม่ได้โทรไปที่ศูนย์ฉุกเฉิน 120 แต่โทรไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล ทว่าก็ไม่มีใครรับสาย
จิ่งหรานร้อนใจจนมือขวาที่ถือโทรศัพท์มือถือของเขาสั่นเล็กน้อย เมื่อได้เสียงตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด สีหน้าของเขาก็ซีดเผือด เขาโกรธจนอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือทิ้ง!
เฉินชางจึงโทรหาพยาบาลประจำเคาน์เตอร์ของโรงพยาบาลอันดับสอง “ที่หว่านเคอจื่อหยาง มีผู้บาดเจ็บอายุเกือบห้าสิบปีพลัดตกจากที่สูง โดนเหล็กเส้นแทงทะลุ…รีบไปส่งรถมาที่นี่!”
พยาบาลที่ประจำเคาน์เตอร์ในวันนี้คือเสี่ยวหลิน!
เมื่อได้ยินเสียงที่ฟังดูรีบร้อนของเฉินชาง เธอก็ติดต่อคนขับรถศูนย์ฉุกเฉิน 120 ทันที เธอหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากห้องฉุกเฉิน
หวังเชียนเข้าเวรประจำแผนกฉุกเฉินวันนี้ หลังจากทราบเรื่องแล้ว เขาติดต่อห้องผ่าตัดเพื่อเตรียมกู้ชีพฉุกเฉินทันที!
หลังจากนั้นก็แจ้งเรื่องให้หลี่เป่าซานทราบ!
แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลอันดับสองติดต่อประสานงานกับทุกฝ่ายทันที!
แม้แต่วันหยุดฉลองวันชาติเช่นนี้ ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิการทำงานช่วยชีวิตผู้คน
บนโลกใบนี้มีบางอาชีพที่ไม่กล้าหยุดพัก!
อาชีพหมอ อาชีพตำตรวจ (เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด)!
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขตแดน!
อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการช่วยชีวิตผู้คน!
หลังจากโทรเรียก 119 ได้สักครู่ การดำเนินการส่งทีมเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือก็เริ่มขึ้น
เฉินชางมองดูเวลา
ขณะนี้เป็นเวลาเก้าโมงสิบห้านาที!
ไม่มีจอมอนิเตอร์ติดตามสัญญาณชีพ และไม่มีหลักประกันความความปลอดภัยใดๆ เฉินชางไม่กล้าทำอะไรเกินขอบเขต!
สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็ห้ามเลือด!
เฉินชางถอดเสื้อแขนสั้นของเขาออก แล้วใช้เสื้อกดห้ามเลือดที่บาดแผลของผู้บาดเจ็บ!
การห้ามเลือดเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้!
ทุกส่งทุกอย่าง…ต้องรอรถพยาบาล 120 มาถึง และหลังจากตรวจสัญญาณชีพแล้ว ถึงจะพิจารณาว่าจะตัดเหล็กเส้นด้วยวิธีใด
ขณะนี้เวลาเก้าโมงยี่สิบสามนาที
ผู้บาดเจ็บเริ่มมีอาการเพ้อเล็กน้อย และเฉินชางคาดว่าผู้บาดเจ็บคงจะเสียเลือดไปราวๆ 1000 cc แล้ว
เฉินชางเริ่มร้อนใจ
คิดจะเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปที่รถพยาบาล สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำคือตัดเหล็กเส้นก่อน!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมในไซต์ก่อสร้าง จึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจาก 119
เวลาเก้าโมงยี่สิบห้านาที!
ในที่สุดเสียงรถดับเพลิงก็ดังขึ้น และรถดับเพลิงก็ขับเข้ามา
หลังจากที่ผู้คนหลีกทาง นักดับเพลิงก็เข้ามา!
หลังจากที่นักดับเพลิงเข้ามาแล้ว เฉินชางก็รีบเข้าไปประสานงาน
“สวัสดีครับ! ผมเฉินชางจากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสอง รถพยาบาล 120 น่าจะใกล้มาถึงแล้ว สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำคือต้องตัดเหล็กเส้นออก!”
เว่ยหงมองเฉินชางที่ท่อนบนเปลือยเปล่า กำลังใช้เสื้อผ้าตนเองกดห้ามเลือดที่บาดแผลของผู้บาดเจ็บ
เสื้อแขนสั้นสีขาวเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด
เว่ยหงพยักหน้า งานที่นักดับเพลิงต้องทำคือให้ความร่วมมือกับหมอในการชีวิตผู้บาดเจ็บให้สำเร็จ “สวัสดีครับหมอเฉิน ตอนนี้เราต้องทำยังไงบ้างครับ”
เว่ยหงเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ เขารู้ว่าอะไรก็ทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งสิ่งนั้นก็คือให้ความร่วมมือกับหมอ ไม่ใช่การตัดสินใจทำอะไรแบบคนตาบอด!
เฉินชางพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง “จำเป็นต้องพยุงตัวผู้ป่วยขึ้นมาครับ จากนั้นก็ตัดเหล็กเส้นด้านล่างแล้วจึงตัดเหล็กเส้นด้านบนออก พวกคุณเตรียมเครื่องมือไว้ให้พร้อม ศูยน์ฉุกเฉิก 120 ใกล้จะมาถึงแล้ว!”
ขณะนี่เวลาเก้าโมงสามสิบนาที!
ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บมาประมาณยี่สิบนาทีแล้ว ยังเสียเลือดไม่มากถึงขั้นรุนแรง การห้ามเลือดชั่วคราวยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ!
ขณะนี้อาการของผู้ป่วยค่อนข้างทรงตัว!เฉินชางรอรถศูนย์ฉุกเฉิน 120 อย่างใจจดใจจ่อ