บทที่ 384 เถามี่ อย่ารังแกกันมากเกินไปนัก!
เมื่อเห็นการกรีดผ่าของเถามี่ ทุกคนก็ตะลึงจนตาค้าง! แม้แต่ซย่าเกาเฟิงก็อดยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ไม่ได้
นี่เป็นวิธีการกรีดผ่าแบบไหนกัน ทำไมผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
คิดถึงตรงนี้ ซย่าเกาเฟิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยพลัน ทว่าในตอนที่แผลถูกผ่าเปิดจนเห็นเยื่อหุ้มหัวใจ ซย่าเกาเฟิงก็ต้องตกตะลึงจนตาค้าง!
โอ้โห แบบนี้ก็ได้ด้วย!
นี่เขาทำอะไรน่ะ
ซย่าเกาเฟิงแปลกใจจริงๆ เขาพบว่าตนเองยืนอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วย แต่ยังเห็นพื้นที่ผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจได้ดี
โดยปกติ การผ่าตัดมักมีข้อจำกัดอยู่ที่พื้นที่ผ่าตัดอันมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมหัวใจ เนื่องจากตำแหน่งของหัวใจค่อนข้างพิเศษ พื้นที่การผ่าตัดจึงอำนวยความสะดวกให้ศัลยแพทย์หลักเท่านั้น ส่วนตำแหน่งยืนของผู้ช่วยมือหนึ่งมือสอง หากได้พื้นที่การผ่าตัดดีๆ สักคนหนึ่งก็ถือว่าไม่เลวแล้ว!
แต่ตอนนี้ซย่าเกาเฟิงค้นพบอย่างประหลาดใจว่าการผ่าเปิดเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างพื้นที่การผ่าตัดอันสมบูรณ์แบบให้กับเถามี่ผู้เป็นศัลยแพทย์หลักเท่านั้น แต่ยังดีกับเขาด้วย!
ในตอนที่เขาเตรียมจะกล่าวชมนั้นเอง จู่ๆ ก็ชำเลืองสายตามองไป ทันใดนั้นก็ต้องตกใจจนหน้าถอดสี!
นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด
สิ่งที่สำคัญสุดๆๆๆ ก็คือ!
การกรีดผ่าเช่นนี้ดูเหมือนจะยอดเยี่ยมกว่าการกรีดแนวขวางช่วงเหนือหน้าอกทั้งสองข้างมาก เพราะไม่ทำให้เนื้อเยื่อปอดเสียหาย นี่มันสุดยอดจริงๆ!
ซย่าเกาเฟิงยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าการกรีดผ่าเช่นนี้มหัศจรรย์สุดๆ
คิดได้ดังนี้ ซย่าเกาเฟิงก็พิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าในหนังสือแนะนำการผ่าตัดมีวิธีการเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ ด้วยเหตุนี้จึงอดถามไม่ได้ว่า “หัวหน้าเถา การผ่าของคุณ…”
เถามี่กล่าวอย่างสบายอกสบายใจว่า “อ้อ! ปรับให้ดีขึ้นน่ะครับ”
เพียงประโยคเดียวทำเอาซย่าเกาเฟิงตกใจจนตาค้าง ทุกคนที่อยู่รอบๆ ก็ตื่นตะลึงจนนิ่งไปเช่นกัน
หัวหน้าเถาถึงกับปรับปรุงการกรีดผ่าสำหรับการผ่าตัดให้ดีขึ้นเชียวหรือ ยิ่งไปกว่านั้นการกรีดผ่าเช่นนี้…ดูแล้วมหัศจรรย์มากจริงๆ
ทุกคนอดตื่นเต้นไม่ได้ กระทั่งเมิ่งซีที่อยู่ข้างๆ ก็ยังรู้สึกใจสั่น
หัวหน้าเถาสุดยอดจริงๆ!
……
……
ขณะเดียวกัน ภายในห้องทำงานหมอคึกคักกว่าห้องผ่าตัดอันเงียบสงัดที่อยู่ไกลออกไปมากนัก!
เก่อฮว๋ายยืดตัวขึ้นพลางพูดว่า “โอ้โห! เป็นการกรีดผ่าที่ยอดเยี่ยมจริงๆ หัวหน้าเถาคิดได้ไงเนี่ย! การผ่าเปิดแบบนั้นมหัศจรรย์เกินไปแล้ว ช่วยขยายพื้นที่การผ่าตัดอย่างเห็นได้ชัด ดีกว่าการกรีดแบบแผลคู่ซะอีก ความเสียหายต่ออวัยวะภายในก็น้อยลง สุดยอดจริงๆ…”
เพื่อนร่วมงานข้างๆ ก็พากันตบขาด้วยความตื่นเต้น “ใช่แล้ว ดูสิ ผ่าแบบนี้ไม่เสียหายไปถึงปอด แถมยังช่วยลดความเสียหายต่อปอดและผลข้างเคียงอื่นๆ ได้มากเลยทีเดียว!”
“หัวหน้าเถาเจ๋งจริงๆ! ทำไมผมคิดว่าดีกว่า…”
เพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งรีบกระแอมออกมา “เบาหน่อย เบาเสียงหน่อย!”
ทางด้านเฉินชางกลับลูบคางของตน ปรายตามองไปพลางกล่าวพึมพำบางอย่าง
หัวหน้าเถาคนนี้เรียนรู้เร็วจริงๆ!
ถึงจะ…ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็ปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นได้อยู่!
หลังจากดูมาพักหนึ่ง เฉินชางก็ตัดสินการผ่าตัดทั้งหมดได้แล้ว!
การผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากการหดรัดอย่างเคสนี้ อย่างมากก็เป็นมอนสเตอร์ชั้นสูง ไม่สิ บางทีอาจไม่ถึงระดับมอนสเตอร์ชั้นสูงด้วยซ้ำ ก็แค่มีพังผืดมากไปสักหน่อย มีภาวะบีบรัดรุนแรงเล็กน้อย ถึงอย่างไรก็ไม่เป็นปัญหา
เมื่อคิดได้ดังนี้ ความกระตือรือร้นที่จะดูการผ่าตัดของเฉินชางก็ถูกลดทอนลงไปแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความหยอกเย้ายัยหมาขี้ประจบฉินต่อไป
แต่ใช่ว่าเฉินชางจะไม่ดูเลย เขายังคงปรายตามองไปเป็นบางครั้ง ไม่ได้ดูอย่างจริงจังนัก
เก่อฮว๋ายๆ ที่อยู่ข้างๆ ตะโกนว่า ‘โอ้โห’ เป็นระยะ นี่ทำให้เฉินชางแอบว่าร้ายในใจว่า พ่อคุณแซ่โอ้ชื่อโหรึไง ถึงได้ตะโกนว่าโอ้โหๆ ทั้งวัน…พ่อคุณรู้เข้าจะไม่ตีคุณตายหรือ
แต่เมื่อเห็นการผ่าตัดของเถามี่ เฉินชางก็ต้องพูดเลยว่าหัวหน้าเถาก็คือหัวหน้าเถาจริงๆ! หากเทียบกับครั้งที่แล้ว เขาพัฒนาขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ท่าทางการบรรยายคราวที่แล้วคงไม่เสียเปล่า
อืม!
เรียกว่าเป็นเด็กมีอนาคตสอนสั่งได้หรือเปล่านะ
ดูเหมือนไม่ค่อยถูก
แต่ก็ประมาณนี้แหละ
ดูท่าทางต่อไปนี้คงต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนกับหัวหน้าเถาให้มากสักหน่อยแล้ว ถือเป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกัน
และแน่นอนว่า…สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เฉินชางแอบขโมยเรียนมาก่อนแล้ว จึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
เมื่อเห็นท่าทางจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเฉินชาง เก่อฮว๋ายก็เตือนเขาจากใจว่า “เสี่ยวเฉิน อย่าเอาแต่เล่นมือถือสิครับ มือถือจะมีอะไรน่าดูกว่าการผ่าตัด!”
เพื่อนร่วมงานที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกก็พยักหน้า “ใช่แล้ว มือถือจะน่าสนใจกว่าการผ่าตัดได้ยังไง!”
เฉินชางชะงัก ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี
หมอดีกรีปริญญาเอกอีกคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว จุดประสงค์ในการใช้มือถือของผมก็เพื่อหาดูการผ่าตัดที่ดียิ่งขึ้นนั่นแหละ!”
เฉินชางไม่สนใจ นั่นเพราะพวกคุณไม่มีแฟนสาวน่าสนใจแบบผมน่ะสิ!
เหอะ!
ตอนนี้เศรษฐินีฉินส่งซองแดงมาให้ซองหนึ่งพร้อมกับแนบคำพูดมาด้วยว่า “เอาละ แสดงผลงานได้ดี ไปเลย เปิ่นกง[1]ต้องไปผ่าตัดแล้ว ค่าอาหารของเดือนนี้ เปิ่นกงส่งไปให้แล้ว!”
เฉินชางกดเปิดซองแดงด้วยความเปรมปรีดิ์ ได้รับเงิน 0.01 หยวน!
เขาหัวเราะพลางตอบกลับไปประโยคหนึ่ง “ขอบพระคุณขอรับนายหญิง! คราวหน้ามาใช้บริการอีกนะขอรับ!”
……
……
ภายในห้องผ่าตัดเงียบสงัดหาใดเปรียบ แต่ยังคงได้ยินเสียงแปลกๆ ดังแว่วออกมาเป็นระยะ
“โอ้ว!”
“ซี้ด…”
“อา!”
หัวหน้าพยาบาลในห้องผ่าตัดเห็นทุกคนมีสภาพเช่นนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปโดยพลัน ถึงกับเรียกคนมาปรับแอร์จากยี่สิบสององศาเป็นยี่สิบเอ็ดองศาเลยทีเดียว!
เธอกลัวว่าลมหายใจของคนเหล่านี้จะทำให้อุณหภูมิของห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้น! ถึงกับต้องตรวจดูอุณหภูมิห้องด้วยความเคร่งครัด…
ตอนนี้การผ่าตัดของเถามี่ดำเนินการไปอย่างเชื่องช้า!
ในตอนนี้ พวกเขาพบว่าการกรีดผ่าของหัวหน้าเถาดูอัศจรรย์ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว การกรีดของเขาทำให้เห็นเยื่อหุ้มหัวใจอย่างพอดิบพอดี ไม่เพียงแต่ช่วยขยายพื้นที่การผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับงานผ่าตัดมากจริงๆ!
ทุกคนมองด้วยความแปลกใจ
นี่มันเป็นการกรีดผ่าแบบใดกันแน่!
หัวหน้าเถาเก่งมากจริงๆ ถึงกับปรับปรุงการผ่าเปิดให้ดีขึ้นเชียวหรือ!
เมื่อซย่าเกาเฟิงคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าพลันแดงเรื่อ
เถามี่คนนี้เก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ถึงกับปรับปรุงวิธีการผ่าตัดให้ดีขึ้นได้เชียว!
เป็นไปไม่ได้
เขาย้อนคิดไปถึงตอนที่ตนพูดคุยแลกเปลี่ยนกับอีกฝ่ายช่วงก่อนหน้านี้ ตอนนั้นเถามี่ก็ไม่ได้เก่งกว่าเขาสักเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ดูแล้ว…
ซย่าเกาเฟิงสับสน
หรือว่า…นี่คือฝีมือที่แท้จริงของเหล่าเถา
ปกติ…เหล่าเถาคิดถึงใจเขา เลยไม่ได้แสดงความยอดเยี่ยมนี้ออกมา!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซย่าเกาเฟิงก็ทอดถอนใจ รู้สึกคล้ายเกิดรอยแตกร้าวบนหัวใจของตน
……
……
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดขั้นต่อไปทำให้ซย่าเกาเฟิงต้องยอมสยบต่อฝีมือของเถามี่อย่างแท้จริง
การผ่าตัดของเถามี่มหัศจรรย์และละเอียดลออมาก ทุกขั้นตอนดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ในตอนที่จับแยกเส้นประสาทกระบังลม (phrenic nerve) เถามี่ทำตามข้อเสนอแนะของเฉินชางอย่างเคร่งครัด เขาเหลือเนื้อเยื่อรอบๆ เส้นประสาทเอาไว้ส่วนหนึ่งเพื่อปกป้องเส้นประสาท!
อันที่จริงการผ่าตัดจะทำไปแบบเรียบง่ายก็ได้! แต่หากจะจัดการรายละเอียดที่คนทั่วไปไม่สนใจให้ดีกลับทำได้ยาก!
ความแตกต่างระหว่างยอดฝีมือกับคนธรรมดาอยู่ที่การรับมือกับรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้เอง ซึ่งเถามี่ก็จัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยม
ซย่าเกาเฟิงมองจนตะลึงพรึงเพริดไปหมดแล้ว นี่ทำให้เขาต้องนับถือฝีมือของเถามี่จากใจจริง
ซย่าเกาเฟิงไม่ใช่คนประเภทที่เห็นตนเองถูกตนเองดีอยู่ตลอดเวลา เขารู้จักเรียนรู้จากข้อดีของคนอื่นด้วย มิเช่นนั้นคงไม่เชิญเถามี่มาแสดงฝีมือผ่าตัดเช่นนี้แน่นอน สิ่งที่เขาต้องการก็คือการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันนี่แหละ!
ซย่าเกาเฟิงยิ่งมองก็ยิ่งพึงพอใจ!
ยิ่งมองก็ยิ่งเบิกบานใจ!
เพราะคราวนี้เขาได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง
ทว่า…ทางด้านเถามี่ เมื่อเขามองซย่าเกาเฟิงแล้วกลับต้องถอนใจออกมา!
เฮ้อ…
ก่อนหน้านี้เถามี่ได้เฉินชางเป็นผู้ช่วยครั้งหนึ่ง พอตอนนี้ได้ซย่าเกาเฟิงเป็นผู้ช่วย ทำให้รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง…
คิดถึงตรงนี้เถามี่ก็อดทอดถอนใจไม่ได้
การช่วยเหลือของเฉินชางทำให้เขาสบายมากจริงๆ!
เถามี่ส่ายหน้า การช่วยเหลือของหัวหน้าซย่าก็ยังไม่ดีเท่าเฉินชางเลย
ไม่ได้ๆ ต่อไปจะทำตัวเรื่องมากแบบนี้ไม่ได้! ยังไงซะเสี่ยวเฉินก็มาเป็นผู้ช่วยทุกวันไม่ได้
คิดถึงตรงนี้ เถามี่ก็ถอนใจออกมายาวๆ รู้สึกหดหู่อย่างไรชอบกล!
กระทั่งซย่าเกาเฟิงก็ยังมองความรังเกียจของเถามี่อย่างเคร่งขรึม!
เถามี่คนนี้นี่! ถึงกับรังเกียจที่ผมช่วยได้ไม่ดีเชียวหรือ!
อย่ารังแกกันเกินไปนัก!
ผมยอมเป็นผู้ช่วยคุณก็ให้หน้าคุณมากแล้ว!
คิดได้ดังนี้ ซย่าเกาเฟิงก็ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะช่วยให้ดีๆ จนเถามี่เห็นถึงความร้ายกาจของตน…
การผ่าตัดดำเนินไปอย่างเชื่องช้า หัวหน้าแผนกทั้งสองร่วมมือกันอย่างรู้ใจ ทำให้ทุกคนเปรมปรีดิ์เหมือนติดยา!
[1] เปิ่นกง เป็นคำเรียกแทนตัวเองของสนมนางในระดับสูงในสมัยโบราณ
บทที่ 378 ก้างปลาชิ้นเดียวก็ทำให้เลือดออกได้!
หลูเสี่ยวจวินเป็นหมอที่มีประสบการณ์สูงคนหนึ่ง เขามีประสบการณ์ด้านการส่องกล้องมากมาย ประสบการณ์ด้านงานคลินิกก็ยิ่งไม่อาจมองข้าม เมื่อเห็นสภาพของผู้ป่วย จึงรีบหยุดเฉินชางที่คิดจะดึงก้างปลาออกทันที
เห็นได้ชัดว่าผู้ป่วยไม่เข้าใจ ก็แค่ก้างปลาไม่ใช่หรือ แค่ดึงออกก็พอแล้ว!
ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยจึงถามออกมาตามตรง “หมอครับ ทำไมไม่ดึงก้างปลาให้ผมไปเลยล่ะครับ!”
เมื่อเฉินชางได้รับคำเตือนจากหลูเสี่ยวจวินก็เข้าใจได้ทันทีว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร! นี่เป็นเรื่องง่ายดายมาก คุณไม่มีทางทราบได้เลยว่าสภาพภายนอกของหลอดอาหารเป็นอย่างไร!
ในช่องอกของคนเรามีหลอดเลือดเรียงรายกันซับซ้อน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีระบบและอวัยวะต่างๆ อยู่มากมาย เมื่อดูจากตำแหน่งและทิศทางแล้ว…พูดให้ฟังดูแย่สักหน่อยก็คือ หากก้างปลาทิ่มถูกหลอดเลือด…ผลลัพธ์ย่อมคาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มองผู้ป่วยชายแล้วอธิบายอย่างจริงจัง “ตำแหน่งมันค่อนข้างพิเศษน่ะครับ ยิ่งไปกว่านั้น…พวกเราก็ยังไม่มั่นใจเรื่องขนาดและความยาวของก้างปลา หากดึงออกทันทีจะทำให้เกิดปัญหาได้ง่ายน่ะครับ!”
ชายคนนั้นชะงักไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก!
“ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งคับ เมื่อก่อนผมก็เคยก้างติดคอ…ก็แค่กินข้าวสักหลายคำแล้วกลืนลงไป…”
ภูมิปัญญาชาวบ้านก็เป็นเช่นนี้เอง เมื่อก้างติดคอก็จะใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการแก้ปัญหาด้วยการฝืนกลืนอาหารเข้าไปเพื่อบังคับให้ก้างไหลลงคอไปด้วย
แต่ว่า! เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลูเสี่ยวจวินและเฉินชางก็หน้าเปลี่ยนสีไปโดยพลัน เนื่องจากก้างปลาไม่ใช่แค่สิ่งแปลกปลอมเท่านั้น หากพูดถึงก้างปลาที่มีขนาดเล็กย่อมไหลลงหลอดอาหารไปพร้อมสิ่งที่กลืนลงไปภายหลังได้ แต่คุณเคยคิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งหรือไม่
หากก้างปลาทิ่มเข้าไปที่ผนังหลอดอาหารแล้ว เมื่อคุณกลืนอาหารลงไป ก้างปลาก็จะเหมือนกับตะปู มันจะถูกอาหารดันให้ทิ่มเข้าไปในหลอดอาหารเหมือนกับตะปูตัวหนึ่ง! ซึ่ง ‘ตะปู’ ตัวนี้อาจทิ่มแทงเข้าไปถึงอวัยวะรอบข้างอย่าหลอดลมและหลอดเลือดก็เป็นได้!
นี่ก็นับเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลูเสี่ยวจวินก็รีบดึงผู้ป่วยไว้แล้วชี้ไปที่ภาพเอกซเรย์ “คุณดูนะครับ นี่คือภาพถ่ายเอกซเรย์บริเวณที่ก้างติดคอ ตอนนี้ก้างปลาที่อยู่ในหลอดอาหารมีขนาดไม่ถึงสี่มิลลิเมตร คุณรู้ไหมครับว่านี่หมายถึงอะไร”
หลูเสี่ยวจวินมีสีหน้าเคร่งขรึม พูดต่อไปด้วยใบหน้าจริงจังว่า “นี่หมายความว่าก้างปลาส่วนหนึ่งได้แทงทะลุผนังหลอดอาหารเข้าไปในช่องอกแล้ว! ดังนั้นที่ผมไม่ให้ดึงออกก็เพราะตำแหน่งที่ก้างปลาอยู่มันลึกเกินไป อีกอย่าง ด้านหลังก็เป็นตำแหน่งของหลอดเลือดแดงที่สำคัญซึ่งเรียกว่าเอออร์ตาส่วนนอก (thoracic aorta)!
พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าสมมุติว่าก้างปลาแทงไปถูกหลอดเลือดเอออร์ตาส่วนนอกแล้วถูกพวกเราดึงออกมา เลือดก็จะกระฉูดเหมือนน้ำพุจนไม่มีโอกาสให้ช่วยชีวิตเลยด้วยซ้ำ!”
เมื่ออีกฝ่ายได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปโดยพลัน เขามองท่าทีเคร่งขรึมจริงจังของเฉินชางและหลูเสี่ยวจวิน ดูแล้วไม่เหมือนล้อเล่นเลยจริงๆ
“หลอดเลือดเอออร์ตาส่วนนอกคืออะไรครับ” ผู้ป่วยดูไม่พอใจเล็กน้อย เขารู้ว่าอะไรคือ CT scan เมื่อทำ CT scan ครั้งหนึ่งต้องใช้เงินหลายร้อยหยวนเลยทีเดียว!
หลูเสี่ยวจวินอดพูดไม่ได้ว่า “ผมจะบอกคุณแบบนี้แล้วกันนะครับ เอออร์ตาก็คือหลอดเลือดแดงที่ใหญ่และยาวที่สุดในร่างกายมนุษย์ ซึ่งบริเวณนั้นจะมีแรงดันเลือดมากที่สุด ก็เหมือนกับปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ถ้ามีส่วนใดเกิดช่องโหว่ขึ้นมา เลือดที่อยู่ด้านในก็จะพุ่งทะลักออกมาอย่างรุนแรงเหมือนเขื่อนแตก และไม่มีทางปิดรอยแตกได้เลย!”
แม้จะฟังเหมือนหลูเสี่ยวจวินพูดเกินจริงไปบ้าง แต่นี่คือเรื่องจริง เฉินชางเองก็ทราบดีว่าสถานการณ์เช่นนี้จะปล่อยยืดเยื้อไว้ไม่ได้!
ผู้ป่วยขอบคุณหลูเสี่ยวจวินแล้วออกจากห้องส่องกล้องไป
……
……
ตอนนี้ผู้ป่วยชายกำลังตกใจกับคำพูดของหลูเสี่ยวจวิน เมื่อเดินมาถึงห้องฉุกเฉิน เขาก็รีบเตรียมตัวเข้ารับการรักษาทันที
ภรรยาของเขาเห็นดังนั้นก็รีบถามขึ้นว่า “หมอคะ…ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ สามีของฉัน…จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
เฉินชางส่ายหน้า “ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่มีใครกล้ารับประกันหรอกครับ รอให้ตรวจขั้นต่อไปเสร็จก่อนค่อยว่ากันเถอะ ดูก่อนว่าสถานการณ์เป็นยังไง”
พูดจบเฉินชางก็พาผู้ป่วยชายไปยังแผนกรังสีวิทยา เมื่อทางแผนกทราบสถานการณ์ของผู้ป่วยชายแล้วก็รีบเตรียมการตรวจให้ทันที
ความจริงเฉินชางไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียงหมอคนหนึ่ง ไม่ใช่เทพเทวดา ไม่มีดวงตาที่มองทะลุได้! ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่! ทำได้เพียงรอผลตรวจออกมาค่อยว่ากันอีกครั้ง
จริงดังคาด ไม่กี่นาทีต่อมา หมอจากแผนกรังสีวิทยาก็เรียกเฉินชางเข้าไป
“หมอเฉิน สภาพของผู้ป่วย…ไม่ค่อยดีนะครับ”
ประโยคนี้ทำให้เฉินชางตกใจจนตาค้าง
“เป็นยังไงกันแน่ครับ”
ตอนนี้ฟิล์มยังไม่ออก! หมอแผนกรังสีวิทยาชี้ไปยังภาพเอ็กซเรย์บนหน้าจอคอม สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า “คุณเห็นไหมครับ นี่เป็นก้างปลา มันแทงทะลุผนังหลอดอาหารไปแล้ว ส่วนปลายทะลุเข้าไปถึงหลอดเลือดเอออร์ตาส่วนนอกแล้ว!”
เฉินชางได้คะแนนเต็มในการอ่านภาพเอกซเรย์ ย่อมต้องเข้าใจกระจ่างแจ้ง!
“ต่อได้เลยครับ ผมดูอยู่!”
ภาพบนจอเปลี่ยนไปภาพแล้วภาพเล่า หลังจากดูภาพเอกซเรย์เสร็จ เฉินชางก็นิ่งเงียบไปทันที
อันตรายกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก! พูดได้เลยว่าอันตรายมาก ความสามารถในการอ่านภาพเอกซเรย์อันสมบูรณ์แบบของเฉินชางกำลังสร้างภาพร่างอวัยวะผู้ป่วยที่ถูกก้างปลาแทงขึ้นมาในสมองของตน
ตอนนี้การสถานการณ์ไม่ได้ง่ายเหมือนถูกก้างปลาติดคอธรรมดาแล้ว ดูจากภาพที่ปรากฏออกมา เฉินชางก็ยิ่งคิดว่าก้างปลาเหมือนกับอาวุธฆ่าคน!
มันเหมือนกับดาบวงจันทร์ที่แทรกขวางอยู่ระหว่างหลอดอาหารและเอออร์ตาส่วนนอก! หากดึงออกมาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ จะทำให้เอออร์ตาส่วนนอกถูกทำลายจนเลือดพุ่งกระฉูด!
เมื่อถึงตอนนั้น แม้จะทำการกู้ภัยฉุกเฉินก็ไม่แน่ว่าจะทันเวลา!
จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าลมหายใจของตนกระชั้นถี่ จะต้องรีบทำเรื่องแอดมิทให้พักอยู่ในห้องไอซียูเพื่อจับตาดูอย่างใกล้ชิด ดูแลให้สัญญาณชีพมั่นคง จัดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมารักษาร่วมและเตรียมตัวผ่าตัด!
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่เฉินชางคิดอีกต่อไปแล้ว เพราะอาการของผู้ป่วยยังอาจแย่ลงได้อีก ก้างปลาที่แทงทะลุไปถึงเอออร์ต้าส่วนนอก ไม่มีใครรู้ว่าจะทำให้แรงดันเลือดที่หลอดเลือดเอออร์ตาส่วนนอกเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ไม่มีใครรู้ว่าการบีบตัวภายในหลอดอาหารจะทำให้มันเคลื่อนย้ายไปอีกหรือไม่!
หากเกิดการเคลื่อนย้าย ผลลัพธ์ย่อมไม่อาจคาดเดา…จะต้องอันตรายมากแน่นอน
ตอนนี้ผู้ป่วยเดินออกมาจากห้อง CT Scan แล้ว เฉินชางเดินเข้าไปหาแล้วอธิบายสถานการณ์ให้ผู้ป่วยรับทราบ จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ให้ภรรยาคุณไปทำเรื่องแอดมิทเถอะครับ ส่วนคุณก็ไปพักที่ห้องสังเกตการณ์ก่อนนะครับ!”
ชายคนนั้นหน้าซีดไปโดยพลัน ตอนนี้เขาตกใจจนอึ้งไปแล้ว จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าก้างติดคอจะอันตรายถึงเพียงนี้!
อันตรายถึงชีวิตได้เชียวหรือ เรื่องแบบนี้ในนิยายยังเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่กลับเกิดในชีวิตจริงเนี่ยนะ!
เขาอยากจะถามเฉินชางจริงๆ ว่าล้อเล่นใช่ไหม
แต่เมื่อเห็นใบหน้าจริงจังของเฉินชาง เขาก็รู้ได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น!
เมื่อมาถึงแผนกฉุกเฉิน เฉินชางก็กำชับให้ภรรยาของผู้ป่วยไปทำตามระเบียบการให้เรียบร้อย จากนั้นก็รีบไปจัดเตรียมคำสั่งแพทย์
เขายุ่งอยู่นานจนเวลาล่วงเลยมาถึงสามโมงกว่า หมอทั้งหลายทยอยกันมา
ในตอนนี้เฉินชางจึงค่อยได้สติ!
ว่าแล้วทำไมเพียงเคสก้างติดคอเล็กๆ ระบบจึงให้รางวัลใหญ่ขนาดนี้!
เฉินชางส่ายหน้า!
เกือบมองพลาดไปแล้ว
แผนกฉุกเฉินหนอ แผนกฉุกเฉิน!
แผนกนี้ไม่มีเรื่องเล็กๆ เลยจริงๆ
ประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!
ใครจะรู้ว่าเพียงก้างปลาติดคอก็จะมีอันตรายถึงชีวิตได้ล่ะ