เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 392 ขอโทษ…ผิดไปแล้ว!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 392 ขอโทษ…ผิดไปแล้ว!

วันต่อมาเฉินชางและฉินเยว่ไปทำงานตามปกติ แต่ละคนก็คิดในใจว่าจะต้องเซอร์ไพรส์อีกฝ่ายให้ได้

ช่วงเวลาแลกเวร สายตาที่ทั้งสองใช้มองกันแฝงไปด้วยประกายและรอยยิ้ม

มนุษย์เราก็เป็นเช่นนี้เอง ตอนมีความรักมักซ่อนความลับไม่อยู่ มีข่าวดีอะไรก็อยากแบ่งปันกับอีกฝ่าย

ความรักในที่ทำงานของเฉินชางและฉินเยว่ยังไม่ถูกเปิดเผยให้คนอื่นรู้ อีกอย่างเฉินชางถึงขั้นคิดแล้วว่าการแอบคบกันแบบนี้ ตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย!

ทว่า…เหล่าเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ เฉินชางเห็นสายตาลับๆ ล่อๆ ของเฉินชางและฉินเยว่ชัดเจนจนเกิดสงสัยขึ้นมาแล้ว

ต้องทราบว่าเหล่าเฉินดูแลเฉินชางมาเกือบสามปี ดูแลเหมือนกับลูกศิษย์คนหนึ่ง จะไม่เข้าใจเฉินชางได้อย่างไร

เมื่อแลกเวรเสร็จ เหล่าเฉินก็ยิ้มแปลกๆ ให้เฉินชาง จนเฉินชางกระสับกระส่าย

“ลูกพี่! คุณก็แต่งงานแล้ว…อย่ามามองผมแบบนี้สิ มองจนผมหลอนไปหมดแล้วเนี่ย! ระวังเถอะผมจะไปบอกภรรยาคุณ…”

เฉินปิ่งเซิงใช้ฝ่ามือตบหัวเฉินชางเบาๆ “เด็กบ้าเอ๊ย เดี๋ยวจะตีให้ตาย! เลิกงานแล้วอย่าเพิ่งไปไหนนะ กินข้าวเป็นเพื่อนผมก่อน ผมมีอะไรถามคุณหน่อย”

พูดจบเฉินปิ่งเซิงก็รีบร้อนเดินไปที่ห้องผ่าตัดโดยไม่สนใจต่อปากต่อคำกับเฉินชางอีก

ช่วงนี้เฉินปิ่งเซิงค่อนข้างยุ่ง ตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างแผนกฉุกเฉินและแผนกศัลยกรรมทั่วไปพัฒนาจากแปลกหน้าเป็นสงครามเย็นจนมาถึงขั้นคลุมเครือในทุกวันนี้ การผ่าตัดของเหล่าเฉินก็มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยของแผนกศัลยกรรมทั่วไป

เฉินปิ่งเซิงเห็นเฉินชางก้าวหน้าไปทีละก้าวด้วยตาตัวเอง นี่ทำให้เขาดีใจที่สุดแล้ว ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นเหมือนลูกศิษย์ที่ติดตามตนเอง หากมีอนาคตตั้งตัวได้ย่อมดีที่สุด

เฉินชางหัวเราะ “ฮ่าๆ ไปด้วยกันสิครับ วันนี้ผมไม่มีธุระ ยอมให้คุณตีทั้งวันเลย”

พูดจบเฉินชางก็รีบเดินตามเฉินปิ่งเซิงออกไป

เหล่าเฉินเห็นดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย รู้สึกอุ่นวาบในใจ จากนั้นจึงพูดยิ้มๆ ว่า “ไปสิ”

อันที่จริง เรื่องการติดตามสั่งสอนในโรงพยาบาลเช่นนี้ ใช้เวลาสามปีก็ถือว่ามากที่สุดแล้ว โดยทั่วไปเมื่อหมอใหมมาทำงานที่โรงพยาบาลจะมีหมออาวุโสดูแลครึ่งปีถึงหนึ่งปีค่อยปล่อยให้ทำงานด้วยตัวเอง ดูแลคนไข้ด้วยตัวเอง

ตอนนี้ทุกคนมีความสัมพันธ์กันแบบเพื่อนร่วมงาน และเป็นความสัมพันธ์ที่แฝงการแข่งขันอยู่เล็กน้อย ดังนั้นช่วงดูแลหมอใหม่ หมอส่วนใหญ่จึงไม่ได้ปฏิบัติตัวเหมือนอาจารย์อย่างแท้จริง เพียงสอนไปตามกระบวนการเท่านั้น น้อยคนที่จะทุ่มเทเหมือนที่เหล่าเฉินปฏิบัติกับเฉินชาง

สิ่งเหล่านี้เฉินชางรู้ดีแก่ใจ ตั้งแต่เข้าสู่อาชีพนี้ เหล่าเฉินปฏิบัติกับเขาไม่เลวเลย ตอนที่เขาได้เงินน้อยก็ไปเนียนกินกับเหล่าเฉินทุกวัน มิฉะนั้นจะเก็บเงินได้ถึงสองหมื่นหยวนได้อย่างไร

หากจะพูดว่าเงินเป็นเรื่องเล็ก เช่นนั้นการสอนเรื่องมนุษยธรรมและเรื่องที่ไม่มีสอนในโรงเรียน หรือในหนังสือให้เฉินชางเล่า สิ่งเหล่านี้จะถือเป็นเรื่องเล็กหรือ ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา เหล่าเฉินมีทั้งความรักและมิตรภาพให้เฉินชาง เรื่องนี้เขาย่อมจดจำไว้ในใจ

ระหว่างทาง จู่ๆ เหล่าเฉินก็ยิ้มจนตาหยีแล้วถามว่า “ช่วงนี้มีแฟนหรือ”

เฉินชางหัวเราะ ไม่ได้คิดปิดบังเหล่าเฉิน “ฮะๆ คุณรู้แล้วหรือ”

เหล่าเฉินหัวเราะออกมาเช่นกัน “คิดว่าจะปิดบังผมได้หรือไง”

เฉินชางยิ้ม “ครับ เพิ่งเริ่มต้นเอง ยังไม่นานเท่าไหร่”

เหล่าเฉินส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “ยัยหนูฉินเยว่ก็ไม่เลว นิสัยก็ดีไปทุกเรื่อง ส่วนคุณค่อนข้างสะเพร่า มีเสี่ยวฉินอยู่ก็ถือว่าเติมเต็มกันได้พอดี! คุณนี่ตาดีจริงๆ รีบทำเวลาสานสัมพันธ์ซะนะ นี่เป็นลูกสาวสุดที่รักของผู้อำนวยการฉิน ต่อไปผมคงต้องกอดขาคุณให้แน่นซะแล้ว”

เฉินชางยิ้มกระอักกระอ่วน “ถึงตอนนั้นถ้าผมได้เป็นหัวหน้าแพทย์ ผมจะช่วยให้คุณเป็นรองหัวหน้าแพทย์แล้วกัน”

เหล่าเฉินตบหัวเฉินชาง “ไอ้หนู เผยความคิดชั่วๆ ออกมาแล้วสินะ”

“เห็นจื้อซินบอกว่าช่วงนี้คุณไม่ค่อยได้ไปคลินิกศัลยกรรมหรือ”

เฉินชางทอดถอนใจ “ช่วงนี้ยุ่งมากเลยครับ พอมีเวลาว่างก็ต้องตามอาจารย์ไปผ่าตัด สุดสัปดาห์ที่แล้วก็ไปดูบ้าน ถ้ามีลูกค้าที่คลีนิคผมก็จะไป แต่ส่วนใหญ่ผมรอให้นัดเต็มเวลาก่อนถึงจะไปน่ะครับ ปกติไม่ไปหรอก”

เหล่าเฉินได้ยินว่าเฉินชางซื้อบ้านแล้วก็หัวเราะออกมาทันที “ซื้อบ้าน มีเงินพอหรือไง ถ้าไม่พอผมจะไปขอภรรยามาให้คุณดีหรือเปล่า”

เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาทันที รีบปฏิเสธความหวังดีของเหล่าเฉิน “พอครับพอ ถ้าแต่งบ้านเสร็จแล้วก็ไปดูด้วยกันนะครับ”

เฉินปิ่งเซิงมองเฉินชางด้วยท่าทางครุ่นคิดก่อนเตือนว่า “เอ่อ…เสี่ยวเฉิน ผมว่าไม่ต้องรีบหรอก อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป เงินหาได้ไม่จบไม่สิ้น หาเท่าไหร่ก็ไม่พอ คุณยังหนุ่มแน่น รอให้เป็นหัวหน้าแพทย์ก่อนก็มีเงินใช้ไม่หมดไม่สิ้นเองแหละ ถ้าคุณขาดเงินก็มาบอกผมได้ ผมกับภรรยาพอมีเงินอยู่บ้าง ห้ามเกรงใจเด็ดขาด”

เฉินชางยิ้ม “ได้เลยครับลูกพี่ ผมไม่เกรงใจแน่!”

ตอนนี้เอง จางจื้อซินก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นเฉินชางและเฉินปิ่งเซิงอยู่ด้วยกันก็ยิ้มออกมาทันที “โย่! อยู่นี่กันหมดเลย เสี่ยวเฉิน ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

เฉินชางกลอกตาใส่ “ก็เจอกันในห้องผ่าตัดทุกวันนั่นแหละ!”

จางจื้อซินส่ายหน้า ถูมือพลางพูดยิ้มๆ ว่า “มันจะเหมือนกันได้ยังไงล่ะครับ ผมพูดว่าไม่เจอกันนาน คุณก็ต้องตีมือทักทายผมสิ”

พูดถึงตรงนี้จางจื้อซินก็ชะโงกหน้ามาข้างๆ เหล่าเฉิน “เฮ้อ เหล่าเฉิน ตอนนี้ผมทรมานสุดๆ แทบจะเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว!”

เฉินปิ่งเซิงถามอย่างแปลกใจ “เป็นอะไรล่ะครับ”

จางจื้อซินตอบ “ผมจะบอกคุณให้ ตั้งแต่เสี่ยวเฉินเริ่มทำงานที่คลินิกผมเป็นเดือนที่สอง ถ้าผมผ่าตัดกับเขาก็ไม่ได้จับมีดผ่าตัดเลย! คุณว่าผมจะหดหู่หรือเปล่าล่ะ ได้แต่เป็นผู้ช่วยทุกครั้ง เฮ้อ…ใจเจ็บ”

เฉินปิ่งเซิงแค่นเสียงเย็น “คุณยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ เสี่ยวเฉินก็ทำงานให้คุณไม่ใช่หรือไง!”

จางจื้อซินหน้าแดง “ผมก็ไล่ตามอนาคตของหน้าที่การงานเหมือนกันนะครับ! แล้วผมก็มีความฝันด้วย โอเคไหม!”

พูดถึงตรงนี้ จางจื้อซินก็ยิ้มออกมา ปรายตามองเฉินชาง “วันนี้ผมเป็นศัลยแพทย์หลักนะ”

เฉินปิ่งเซิง “ได้!”

จางจื้อซินมองเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน วันนี้อาจารย์จางคนนี้จะแสดงให้คุณรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าทักษะผ่าตัดขั้นสูง! ให้คุณเห็นหน่อยว่าอะไรคือการผ่าตัดใหญ่!”

เฉินชางสงสัยขึ้นมาบ้างแล้ว รีบถามไปว่า “ผ่าตัดอะไรครับ”

จางจื้อซินพูดยิ้มๆ “วิปเปิล ออเพอเรชั่น (Whipple operation) ครับ ไม่เคยเห็นใช่ไหม!”

เฉินชางพยักหน้า เขาไม่เคยเห็นจริงๆ

วิปเปิลออเพอเรชั่นเป็นการผ่าตัดระดับสี่ เขายังไม่เคยสัมผัสจริงๆ พริบตานั้น เขาก็รู้สึกคาดหวังขึ้นมาบ้างแล้ว แต่…เฉินชางยังทำเป็นหูหนวกตาบอดกับท่าทีเวอร์วังของอีกฝ่าย

……

ขณะสนทนาทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องผ่าตัด

เฉินปิ่งเซิงส่งประวัติคนไข้ให้เฉินชาง

ภาพเช่นนี้ไม่ได้เห็นมาเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่หลี่เป่าซานปฏิวัติแผนก เฉินชางก็ผ่าตัดร่วมกับเหล่าเฉินน้อยมาก

เมื่อจางจื้อซินได้ยินว่าตนเองเป็นศัลยแพทย์หลักก็เบิกบานใจขึ้นมาโดยพลัน ทั้งอิ่มเอมและมีความสุข

“เสี่ยวเฉิน อย่าลืมมายืนถือตะขอคอยดูดของเหลวให้ผมด้วยนะครับ!”

เฉินชางกลอกตาใส่ ท่าทางอวดดีจริงๆ

ตอนนี้เอง จู่ๆ จางโหย่วฝูก็วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเฉินชาง จากเดิมที่คิดจะเดินผ่านไปก็หยุดเท้าลงทันที จากนั้นก็เดินอ้อมเข้ามา

“เอ๋? เสี่ยวเฉิน วันนี้มีผ่าตัดด้วยเหรอ!”

บทที่ 387 กู้หน้าให้อาจารย์เมิ่ง

เมิ่งซีรู้สึกเหมือนตัวเองไม่รู้อะไรเลย ราวกับตัวเองเป็นคนเก่งท่ามกลางความสับสนมึนงงอย่างไรอย่างนั้น

เมิ่งซีถูกคำพูดของเถามี่ทำเอาตะลึงพรึงเพริดไปหมดแล้ว!

เฉินชางเก่งขนาดนี้ ทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ

เขาเรียนเทคนิคการผ่าตัดของฉันไปเหรอ

แล้วฉันสอนการผ่าตัดโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเฉียบพลันแบบบีบรัดให้เขาแล้วเหรอ

ต่อให้สอนไปแล้ว…ฝีมือของฉันอยู่ระดับไหน ฉันจะไม่รู้ตัวเองเลยหรือไง ยังห่างชั้นจากหัวหน้าเถาอีกไกล!

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นคนรอบๆ มองมาที่ตนด้วยท่าทางตกตะลึงและนับถือ เมิ่งซีก็ยังอดดีใจไม่ได้

ความรู้สึกที่ถูกมองด้วยสายตานับถือเช่นนี้ช่างดีจริงๆ!

คิดได้เช่นนี้ เมิ่งซีก็เงยหน้ายืดอกขึ้นเล็กน้อย ทว่า…เสื้อผ้ามันจะรัดไปหน่อยหรือเปล่า

……

……

ขณะเดียวกัน เฉินชางที่อยู่ในห้องทำงานหมอก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือน

[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี +10!]

เฉินชางชะงักไป

โอ้โห เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

ทำไมค่าความรู้สึกดีของอาจารย์เมิ่งถึงเพิ่มขึ้นสิบแต้มล่ะ!

หากทำให้เธอเซอร์ไพรส์ไปตามปกติคงทำได้ไม่ถึงขนาดนี้แน่! คราวที่แล้วเขาลำบากแทบตายเพิ่งจะได้มาสิบแต้ม ตอนนี้ไม่ทันไรก็ได้มาอีกสิบแต้มแล้ว

ปัจจุบันค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซีกลับไปอยู่ที่สี่สิบแต้มอีกครั้งแล้ว

จอถ่ายทอดสดในห้องทำงานถ่ายแค่ตอนผ่าตัดเท่านั้น เมื่อการผ่าตัดจบลงหน้าจอก็กลายเป็นสีดำ คนนอกห้องย่อมไม่ได้ยินและไม่เห็นสถานการณ์ภายใน

……

……

ภายในห้องผ่าตัด เถามี่กล่าวอย่างปลงอนิจจังว่า “หัวหน้าเมิ่งยังอายุน้อยแต่มีความสามารถสูงจริงๆ เก่งทั้งงานวิจัยและงานคลินิกเลยนะครับ! หัวหน้าซย่า แผนกศัลยกรรมหัวใจของโรงพยาบาลตงต้ามีคนเก่งเยอะจริงๆ!”

แม้ซย่าเกาเฟิงจะสับสนมึนงงไปบ้าง แต่ความรู้สึกที่ถูกคนอื่นชื่นชมก็ยังยอดเยี่ยมอยู่ดี

“ที่ไหนกันครับ! หัวหน้าเถาชมเกินไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ซย่าเกาเฟิงรู้สึกเสียใจบ้างแล้ว ทำไมที่ผ่านมาเขาถึงไม่ยอมดูการผ่าตัดของเมิ่งซีให้มากสักหน่อย ทั้งๆ ที่ได้ครอบครองภูเขาหยกล้ำค่าแต่กลับไม่รู้ตัวจนถูกเถามี่ค้นพบไปก่อนแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซย่าเกาเฟิงก็รู้สึกเสียดาย ทว่าตอนนี้เอง จู่ๆ หัวหน้าแพทย์คนหนึ่งก็กล่าวขึ้นว่า “จริงสิ วันนี้ผมยังมีการผ่าตัดอีกเคสหนึ่ง เป็นผู้ป่วยโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเฉียบพลันแบบบีบรัดเหมือนกัน ไม่งั้น…หัวหน้าเมิ่งมาแสดงฝีมือให้ทุกคนดูหน่อยเป็นไงครับ”

เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ ทุกคนพลันดวงตาทอประกาย!

ใช่แล้ว!

เป็นความคิดที่ดี

แม้แต่ซย่าเกาเฟิงและเถามี่ที่อยู่ข้างๆ ก็มองเมิ่งซีด้วยความคาดหวังอันเปี่ยมล้น

ส่วนเมิ่งซีก็อึ้งจนนิ่งไปแล้ว

เอิ่ม…

ฉัน…

เทียบกับเถามี่แล้ว ฝีมือเขาดีกว่าฉันอยู่หลายขุม!

แต่เถามี่ชมถึงขนาดนี้แล้ว จะทำยังไงดีล่ะ

คิดถึงตรงนี้เมิ่งซีก็อดถอนใจไม่ได้

ไม่เป็นไร ผ่าก็ผ่าสิ!

อย่างมากก็แค่ยอมรับอย่างเปิดเผยจริงใจว่าฝีมือของตนมีจำกัด

ในตอนนี้เอง เถามี่พูดขึ้นว่า “จริงสิ เสี่ยวเฉินล่ะครับ เฉินชางไม่ได้มาหรือ ผมว่าให้เสี่ยวเฉินลองดูสักหน่อยก็ดีนะครับ”

เมิ่งซีเตรียมใจผ่าแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเถามี่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดไปทันที

ใช่แล้ว!

ให้เฉินชางผ่าก็ได้นี่!

ตัวเองทำไม่ได้ แล้วเฉินชางจะทำไม่ได้เชียวหรือ

คิดเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลางพูดว่า “เดี๋ยวฉันโทรเรียกเสี่ยวเฉินให้นะคะ”

……

ทางด้านเฉินชาง เมื่อได้รับโทรศัพท์จากเมิ่งซีก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบทันที

[ติ๊ง! ภารกิจกู้หน้าให้อาจารย์เมิ่ง หากทำสำเร็จจะได้รับ: ค่าความรู้ค่าสึกดีของเมิ่งซี +10]

งดวงตาเฉินชาเปล่งประกาย ค่าความรู้สึกดีสิบแต้ม ก็เป็นห้าสิบแต้มแล้ว หากได้มาก็เอาไปแลกทักษะการผ่าตัดระดับสามของแผนกศัลยกรรมหัวใจได้แล้ว

คิดได้ดังนี้ เฉินชางก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที รีบพยักหน้าโดยพลัน

“อาจารย์ รอผมก่อน ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

เฉินชางวางโทรศัพท์ ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปยังห้องผ่าตัดราวกับโผบิน

เมื่อมาถึงห้องผ่าตัด ทุกคนก็มองเฉินชางด้วยสีหน้าฉงนสงสัย

เสี่ยวเฉินคนนี้เก่งเหมือนที่หัวหน้าเถามี่บอกจริงๆ หรือ

ทุกคน…ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก แต่คนก็มาแล้ว ลองดูหน่อยก็ได้!

คนอื่นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แม้แต่เมิ่งซีก็ไม่มั่นใจ เธอลากเฉินชางออกไปด้านนอก ถือโอกาสตอนที่กำลังล้างมือถามขึ้นด้วยสายตากึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อว่า “คุณทำได้ไหมคะ”

เฉินชางตอบไปทันใด “ทำได้แน่นอนครับ!”

เมิ่งซีชะงักไป “จริงเหรอ”

เฉินชาง “แน่นอนที่สุด!”

เมื่อทั้งคู่ล้างมือเสร็จเฉินชางก็เดินเข้ามาในห้อง หมอระดับหัวหน้าแพทย์ของแผนกศัลยกรรมหัวใจอีกคนหนึ่งที่ชื่อเกาเจี้ยนซินเดินเข้ามา “เสี่ยวเฉิน เดี๋ยวผมจะแนะนำอาการของผู้ป่วยให้คุณนะครับ ผู้ป่วยมีอาการเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจากเชื้อวัณโรคเป็นเวลานาน…ตอนนี้กลายเป็นเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเฉียบพลันแบบบีบรัดแล้ว สภาพอาการภายในเป็นยังไงยังไม่แน่ชัด ตอนผ่าตัดคุณต้องระวังหน่อยนะครับ!”

เฉินชางพยักหน้า หลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหัวหน้าเกาอยู่พักใหญ่ก็มองไปที่ภาพเอกซเรย์ มีแผนการผ่าตัดในใจบ้างแล้ว

วิสัญญีแพทย์สอดสายออกซิเจนไปในหลอดลมของผู้ป่วย จากนั้นก็รมยาสลบทั้งตัว ผู้ป่วยอยู่ในท่านอนหงายตามปกติ

เฉินชางพูดกับพยาบาลว่า “ยกช่วงสะบักหลังขึ้นหน่อยครับ”

เสี่ยวฉินผู้เป็นบุรุษพยาบาลรีบพยักหน้าแล้วนำผ้าปลอดเชื้อมารองไว้ใต้ร่างของผู้ป่วย

ในห้องผ่าตัดมีบุรุษพยาบาลอยู่ไม่น้อย เนื่องจากการขยับร่างกายผู้ป่วยเป็นงานที่ต้องใช้แรง บางครั้งผู้หญิงก็มีแรงไม่พอ สู้แรงของผู้ชายไม่ได้

ทุกคนเห็นเฉินชางทำเช่นนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย

นี่เขาจะใช้การผ่าเปิดแบบปกติหรือ

ใช่แล้ว! ครั้งนี้เฉินชางไม่ได้เลือกผ่าเปิดแบบที่ทุกคนคาดหวังและเฝ้ารอ แต่เขาจะเปลี่ยนไปใช้วิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิม

เฉินชางถือมีดผ่าตัดไว้ในมือ เริ่มกรีดจากกลางกระดูกอก!

อืม เป็นการลงมีดที่เด็ดขาดมาก

อวัยวะหลังกระดูกอกสะอาดมาก ไม่มีพังผืด นี่ทำให้ทุกคนผ่อนคลายลงได้บ้าง

บางครั้งหากตรวจเพียงภายนอกก็มองไม่เห็นพังผืด หลายครั้งหลังจากผ่าเปิดหน้าท้อง หรือช่องอกแล้วมักจะเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ที่คิดไม่ถึงอยู่บ่อยๆ หรือบางครั้งก็อาจเจอเรื่องน่าตกใจ

เฉินชางผ่าตัดเปิดช่องอกได้ดี ผ่าได้ประณีตและมีเลือดออกน้อยมาก

เกาเจี้ยนซินอาสาเป็นผู้ช่วยเฉินชางด้วยตัวเอง เขามองเฉินชางแล้วพยักหน้า ดูท่าทางเฉินชางจะมีความสามารถจริงๆ

เฉินชางหันไป “เครื่องถ่างอก!”

เกาเจี้ยนซินรีบนำเครื่องถ่างอกมา ถ่างกระดูกอกทั้งสองข้าง

ตอนนี้มองเห็นเยื่อหุ้มหัวใจแล้ว

เฉินชางเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วทันที! เนื่องจากลักษณะของเยื่อหุ้มหัวใจ…เหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง กระทั่งเกาเจี้ยนซินก็ยังพบความผิดปกติ!

“ดูเหมือนเยื่อหุ้มหัวใจจะเป็นพังผืดหนักเลยนะครับ”

ใช่แล้ว!

หากหมอที่มีประสบการณ์เห็นเยื่อหุ้มหัวใจลักษณะนี้ย่อมรู้ได้ทันทีว่ามีพังผืดอยู่ด้านใน นี่ก็คือพลังของประสบการณ์

ทุกคนค่อยๆ ล้อมวงเข้ามา ส่วนเมิ่งซีมองเฉินชางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กลัวเฉินชางรับมือไม่ไหว

เฉินชางหยิบมีดขึ้นมาเริ่มกรีดจากบริเวณยอดหัวใจ (Apex Heart) เพื่อลอกพังผืดออกจากเยื่อหุ้มหัวใจ แต่เมื่อกรีดลงไปแล้วก็ต้องพบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือเยื่อหุ้มหัวใจหนากว่าปกติอย่างชัดเจน! เมื่อเป็นเช่นนี้การผ่าตัดก็ยากขึ้นมาก

[ติ๊ง! มอนสเตอร์เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบแบบบีบรัด ระดับบอส เลเวล 60: เยื่อหุ้มหัวใจที่มีภาวะพังผืดรุนแรงทำให้เยื่อหุ้มหัวใจหนาขึ้น พบภาวะพังผืดระหว่างเยื่อหุ้มหัวใจและหัวใจอย่างรุนแรง ขณะลอกพังผืดต้องระมัดระวังไม่ให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย]

เฉินชางชะงักไปทันที ถึงกับกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่!

ไม่ใช่กลัว! แต่กำลังโลภ!

เขาไม่ได้เจอมอนสเตอร์ระดับบอสนานแล้ว อันที่จริงเฉินชางค่อนข้างเฝ้ารอเลยทีเดียว แต่เมื่อทุกคนเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขากลับชะงักไป

เกาเจี้ยนซินขมวดคิ้วเล็กน้อย “เป็นพังผืดหนักเลยนะครับ ถ้าจะลอกออกจากเยื่อหุ้มหัวใจคงยุ่งยากมากแน่ๆ เสี่ยวเฉิน…คุณ…ไหวหรือเปล่าครับ หรือจะให้หัวหน้าเถามาแทน”

เฉินชางส่ายหน้า หยิบมีดผ่าตัดขึ้นมา เริ่มลอกพังผืดออกไปทีละชั้น

แววตาไม่มีความหวั่นเกรงอยู่เลย มันเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท