เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 422 โรงพยาบาลอันดับสองคือแหล่งเสือหมอบมังกรซ่อน

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 422 โรงพยาบาลอันดับสองคือแหล่งเสือหมอบมังกรซ่อน

ตั้งแต่เดินออกมาจากห้องผ่าตัด แม้จะผ่านไปนานแล้ว โจวหงกวงก็ยังปล่อยวางไม่ได้!

หวังหย่งอายุพอๆ กับเฉินชางแต่กลับร้ายกาจขนาดนี้แล้ว แม้ไม่รู้ว่าเขาผ่าตัดอะไร แต่ดูแค่การจัดการบาดแผลก็ทราบถึงความสามารถเขาแล้ว

เป็นคนหนุ่มที่ไม่เลวเลย!

น่าเสียดายที่พลาดการผ่าตัดของเขา เฮ้อ…

เรื่องนี้ทำให้โจวหงกวงรู้สึกแปลกใจมาก แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองเล็กๆ แห่งนี้กลับมีเสือหมอบมังกรซ่อนอยู่ด้วย นี่ไม่ใช่แผนกที่โดดเด่นอะไรเลย แต่กลับมีหมอน้อยวัยเยาว์มากความสามารถโผล่ออกมาถึงสองคนแล้ว!

น่าสนใจจริงๆ

คิดถึงตรงนี้โจวหงกวงก็คิดต่อไปว่า นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า

ต้องบังเอิญแน่ๆ!

คิดแล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปดูการผ่าตัดเคสต่อไปสักหน่อย หวังว่าจะได้เห็นการผ่าตัดเต็มๆ สักเคส

หลี่เป่าซานเห็นท่าทางตกใจของโจวหงกวงเช่นนั้นก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว มีความสุขมากๆ ได้หน้าสุดๆ

หลี่เป่าซานที่ตัวพองจนแทบลอย เกือบฮัมเพลงงิ้วออกมาแล้ว…

การผ่าตัดเคสต่อไปอยู่ห้องข้างๆ หมอทั้งหลายพากันเดินเข้าไปด้านใน

โจวหงกวงสงสัยจริงๆ ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบไหน

เมื่อเดินเข้าไปแล้วก็พบสาวน้อยคนหนึ่ง เธออายุไม่มาก ดูแล้วพอๆ กับพวกเฉินชาง ดูเหมือนการผ่าตัดยังไม่เริ่ม ในที่สุดก็ได้เห็นการผ่าตัดเต็มๆ แล้ว!

หลี่เป่าซานพูดยิ้มๆ ว่า “เสี่ยวฉิน ผ่าตัดอะไร”

ฉินเยว่ตอบ “หัวหน้าคะ ผ่าตัดไส้ติ่งค่ะ”

โจวหงกวงยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่ส่งเสียงอะไร ผ่าตัดไส้ติ่งหรือ เป็นการผ่าตัดที่ไม่ต้องใช้ทักษะความสามารถอะไรมากมาย แต่ก็ทดสอบฝีมือของศัลยแพทย์ได้ดีที่สุด คงได้เห็นรายละเอียดมากมายจากการผ่าตัดนี้สินะ

คิดแล้วโจวหงกวงก็รู้สึกเฝ้ารอและคาดหวัง

การผ่าตัดเริ่มต้นขึ้นแล้ว ฉินเยว่หยิบมีดผ่าตัดขึ้นมา กดไปตรงจุดที่ทำสัญลักษณ์ไว้แล้วกรีดเบาๆ ปรากฏแผลไม่ถึงสองเซนติเมตร นี่ทำให้โจวหงกวงชะงักไปทันที

แผลเล็กขนาดนี้จะผ่าตัดด้วยการส่องกล้องหรือ

แต่ดูไปดูมาก็ไม่เห็นฉินเยว่ใช้กล้องเพราะเธอกรีดแค่รอยเดียว นี่ทำให้เขาชะงักไปอีกครั้ง

ฉินเยว่เริ่มงานของตนไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โจวหงกวงที่ยืนดูด้านหลังพบว่าการกรีดเช่นนี้ทำให้มีพื้นที่ผ่าตัดค่อนข้างดีทีเดียว จนในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่านี่คือการผ่าตัดไส้ติ่งแบบแผลเล็ก

ทว่าผ่านไปไม่นานโจวหงกวงก็พบว่าไส้ติ่งนี้ไม่ง่ายเลย ดูเหมือนจะเป็นไส้ติ่งอักเสบที่ไม่ธรรมดา เป็นไส้ติ่งอักเสบที่มีภาวะเป็นหนองร่วมด้วย หากใช้การผ่าตัดแบบแผลเล็กจะไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า

รีบขยายแผลเถอะ!

โจวหงกวงกังวลใจขึ้นมาแล้ว

ทว่าฉินเยว่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย ในตอนนี้เธอหันไปพูดกับพยาบาลว่า “เคลื่อนไปทางซ้ายสิบห้าองศา กดลงสิบองศา…”

ดูเหมือนพยาบาลคุ้นเคยกับวิธีนี้แล้วจึงรีบปรับเตียงผ่าตัดทันที

ในตอนนี้โจวหงกวงก็ต้องตะลึงอีกครั้ง เขาพบว่าพื้นที่ผ่าตัดดูดีขึ้นกว่าเดิม!

นี่ทำให้เขาตกใจจนตาค้าง

นี่…แผลเล็กนี่ เอามาปรับใช้แบบนี้ด้วยหรือ

ทำไมเมื่อก่อนผมไม่รู้ล่ะ

หรือเป็นเพราะผมไม่สนใจการประชุมเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาหลายปีแล้ว

ไม่ใช่แน่นอน!

โจวหงกวงให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวสารของวงการศัลยแพทย์มาก มักจะอ่านนิตยสารฉบับล่าสุดอยู่บ่อยๆ แต่เหมือนจะไม่เจอเรื่องพวกนี้เลย

เห็นการผ่าตัดของฉินเยว่แล้ว โจวหงกวงก็เริ่มสับสนกับชีวิต การผ่าตัดสามเคสนี้ทำให้ว่าที่นักวิชาการโจวท่านนี้กระสับกระส่ายแล้ว

แม้การผ่าตัดเหล่านี้จะไม่ยาก เรียกได้ว่าถึงขั้นธรรมดาด้วยซ้ำ แต่การแก้ไขและปรับปรุงวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมให้ดีขึ้นเป็นเสมือนจิตวิญญาณที่วงการศัลยแพทย์ในปัจจุบันขาดไป มันคือนวัตกรรม!

สิ่งที่โจวหงกวงมองดูไม่ใช่เพียงการผ่าตัดเท่านั้น เขามองไปไกลกว่านั้น และมองลึกว่าใคร ยิ่งเป็นเช่นนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองไม่ธรรมดาจริงๆ การผ่าตัดทั้งสองเคสนี้ล้วนใช้วิธีการผ่าตัดที่พัฒนามากจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นี่อาจเปลี่ยนแปลงวงการใดวงการหนึ่งได้เลยทีเดียว

หากจะกล่าวว่าการปรับปรุงการผ่าตัดแบบแผลเล็กให้ดียิ่งขึ้น เหมาะสมกับโรงพยาบาลรากหญ้า เช่นนั้น การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กก็เหมาะสมกับโรงพยาบาลเมืองใหญ่

ทั้งคุ้มค่าและมีความหมาย!

พริบตานั้นโจวหงกวงก็รู้สึกสั่นสะท้านราวถูกคลื่นซัดสาด เขามองฉินเยว่ที่ยังอายุน้อย รู้สึกปลงอนิจจัง…และไม่รู้จะพูดอะไรดี

เฉินชางเห็นการผ่าตัดของฉินเยว่ก็อดชื่นชมไม่ได้ ไม่เลวๆ มีการพัฒนา!

ตอนนั้นฉินเยว่เขียนวิทยานิพนธ์เรื่องการผ่าตัดแบบแผลเล็กร่วมกับเฉินชาง เฉินชางก็คอยสอนเธอเสมอว่าจะผ่าตัดอย่างไร จะปรับมุมมองอย่างไร ตอนนี้ถือว่าพัฒนาไปเร็วทีเดียว

อีกเดี๋ยวเลิกงานแล้วต้องให้รางวัลสักหน่อย!

ว่าแต่ให้อะไรดีล่ะ

ชานมหนึ่งแก้วเหรอ มากไป!

ไม่งั้นก็จุ๊บๆ สักทีแล้วกัน

คิดถึงตรงนี้เฉินชางก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา…

……

……

โจวหงกวงดูการผ่าตัดจนจบ ในใจรู้สึกซับซ้อนจริงๆ พอออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วก็มองไปที่หลี่เป่าซาน กล่าวชื่นชมจากใจว่า “เฮ้อ! หัวหน้าหลี่เก่งจริงๆ ครับ คิดไม่ถึงเลยว่าแผนกฉุกเฉินจะมีคนหนุ่มคนสาวที่ยอดเยี่ยมอยู่มากขนาดนี้ แต่ละคนแสดงทักษะได้ดีทีเดียว! เป็นแหล่งเสือหมอบมังกรซ่อนจริงๆ!”

หลี่เป่าซานฟังจบก็รู้สึกสบายไปทั้งใจ ถูกคนระดับหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศซึ่งใกล้จะได้เป็นนักวิชาการกล่าวชมเชยเช่นนี้ มันรู้สึกดีขนาดนี้เลยหรือ

มิน่าล่ะ คนเราถึงชอบคำประจบประแจง!

ที่แท้มันก็ดีแบบนี้เอง!

หลี่เป่าซานรีบยิ้มแล้วส่ายหน้า “เกรงใจไปแล้วครับ!”

จางโหย่วฝูที่อยู่ข้างๆ เห็นหลี่เป่าซานยิ้มหวานเหมือนดอกไม้บานก็อยากจะด่าออกไปจริงๆ ตอแหล! ดูทำหน้าเข้าสิ ยิ้มจนฟันจะหลุดออกมาแล้ว เกรงใจบ้างเถอะ!

คิดถึงตรงนี้จางโหย่วฝูก็ถอนใจออกมา นี่เป็นผลงานของเสี่ยวเฉินนะ!

วิธีที่ใช้ในการผ่าตัดทั้งสองเคสเป็นวิธีที่เฉินชางวิจัยออกมาด้วยตัวเอง ขอเพียงตกอยู่ในมือเฉินชาง ไม่ว่าอะไรก็ไม่รอดทั้งนั้น!

เฉียนเลี่ยงจะไม่รู้ได้อย่างไร

ในใจของเขารู้สึกเจ็บแปลบราวกับกำลังหึง เขารู้เรื่องการผ่าตัดไส้ติ่งแบบแผลเล็กอย่างกระจ่างชัด นี่เป็นความสามารถของเฉินชางโดยแท้

โจวหงกวงส่ายหน้า มองไปยังหลี่เป่าซานแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หัวหน้าหลี่ ผมไม่ได้เกรงใจเลยครับ การผ่าตัดสองเคสนี้มีความหมายมากจริงๆ ที่สำคัญก็คือพวกคุณทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ซึ่งเป็นสิ่งที่ศัลยแพทย์อย่างพวกเราขาดไป!”

“โดยเฉพาะการผ่าตัดแบบแผลเล็ก เป็นที่ต้องการของโรงพยาบาลในตัวเมืองจริงๆ! ถ้าเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางต้องมีผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน!”

“หัวหน้าหลี่ นี่เป็นวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ที่คุณวิจัยออกมาหรือครับ ผมว่าพวกเราร่วมมือกันได้นะครับ!”

หลี่เป่าซานได้ยินดังนั้นก็หน้าแดง “คือ…ไม่ใช่ผมหรอกครับที่วิจัยออกมา!”

โจวหงกวงได้ยินดังนั้นก็สงสัยขึ้นมาทันที “หรือว่า…จะเป็นหมอหนุ่มคนเมื่อกี้”

หลี่เป่าซานส่ายหน้า “วิธีพวกนี้…เสี่ยวเฉินเป็นคนคิดครับ! ทั้งการผ่าตัดแบบแผลเล็กและการผ่าตัดไส้ติ่งแบบแผลเล็กที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น ล้วนเป็นผลงานวิจัยของเฉินชาง ได้ยินว่าตอนนี้เผยแพร่วิทยานิพนธ์ไปแล้วนะครับ หัวข้อการศึกษาก็ถูกรับรองแล้วด้วย”

โจวหงกวงได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนตาค้าง!

ปรับปรุงวิธีการผ่าตัดทั้งสองวิธีให้ดีขึ้น นี่เป็นผลงานของเฉินชางหรือ

นี่…มัน…มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

โจวหงกวงกลืนน้ำลาย มองไปที่หลี่เป่าซาน อยู่ดีๆ ก็นึกอิจฉาขึ้นมา

บทที่ 414 ขโมยแสงจากเหล่าเฉิน!

ตอนนี้เฉินชางไม่ต้องดูแลผู้ป่วยแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปวอร์ดทุกวันตามเวลาที่กำหนดอีก และไม่ต้องบันทึกประวัติผู้ป่วยด้วยตัวเอง เวลาทำงานของเขาค่อนข้างอิสระ ส่วนใหญ่จะจัดการเรื่องเร่งด่วนอยู่ที่แผนกฉุกเฉิน หรือไม่ก็ทำงานผ่าตัดอะไรพวกนั้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อสังเกตอาการผู้ป่วยหลังผ่าตัดและประเมินผลหลังผ่าตัด เขายังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการตรวจเยี่ยมผู้ป่วย ปกติจะติดตามไปตรวจเยี่ยมผู้ป่วยด้วยกันกับแพทย์ผู้รับผิดชอบ

หลังเสร็จงาน เหล่าเฉินก็ส่งประวัติคนไข้หลายสิบเล่มไปให้เฉินชาง “ไปเถอะ ราวด์วอร์ดกัน”

เฉินชางถือประวัติคนไข้ไปตามความเคยชิน แต่เมื่อย้อนคิดดูอีกครั้ง นี่มันไม่ถูกแล้ว!

“ลูกพี่ ผมขอประท้วง ผมมีข้อเสนอ ตอนนี้ผมไม่ใช่แพทย์ภายใต้ความดูแลของคุณแล้วนะครับ! คุณไม่ต้องทำกับผมแบบนี้ก็ได้มั้ง…”

เฉินปิ่งเซิงร้องอ้อออกมา “ผมรู้แล้ว แล้วไง”

เฉินชาง “…”

อยู่ดีๆ ก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออก

ใช่สิ…แล้วไงล่ะ

เหมือนจะหาเหตุผลมาประท้วงไม่ได้เลย!

เฉินชางอดทอดถอนใจไม่ได้ ช่างเถอะ…

[ติ๊ง! ภารกิจตรวจเยี่ยมผู้ป่วยร่วมกับเฉินปิ่งเซิง ค่าประสบการณ์ +20 แต้ม เงิน +20 หยวน]

เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ยกมือขึ้นกดรับภารกิจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่า อืม…ดีเหมือนกันนี่

จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าระบบใส่ใจจริงๆ ภารกิจที่มอบให้ก็ทำให้เขาสบายใจและมีความสุข ถึงรางวัลจะน้อย แต่ให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมไปเลย

อันที่จริง หากคนเรามีระบบเช่นนี้อยู่กับตัวทุกคน ทุกคนอาจคิดว่าแม้จะเหนื่อยสักหน่อย หรือจะลำบากสักหน่อยก็จะพยายามให้มากสินะ

……

……

ในหมู่คนไข้ของเฉินปิ่งเซิงมีไม่น้อยเลยทีเดียวที่เคยผ่าตัดกับเฉินชาง เมื่อเห็นเฉินปิ่งเซิงและเฉินชางเดินเข้ามา แต่ละคนก็อารมณ์ดี พากันลุกขึ้นกล่าวขอบคุณ

ถึงอย่างไรผ่าตัดสำเร็จก็เป็นเรื่องที่สมควรยินดีและเฉลิมฉลอง

การตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว เฉินชางไม่ได้เป็นตัวละครจำพวก ‘หมอที่ผ่านทางมา’ หรือ ‘อินเทิร์น A’ เหมือนตอนแรกๆ อีก

ถึงแม้จะยังถือประวัติคนไข้กองใหญ่เหมือนเมื่อก่อน แต่ท่าทีของคนไข้ที่มีต่อเขาก็เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว ถึงอย่างไรในปัจจุบันนี้เฉินชางก็ได้เป็นศัลยแพทย์หลักในการผ่าตัดของพวกเขาหลายคน ทุกคนเห็นแผลตัวเองแล้วรู้สึกพอใจมาก

“หมอเฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะผมยังเจ็บแผลอยู่คงคิดว่าตัวเองไม่เคยผ่าตัดแน่ๆ คุณจัดการแผลได้ดีเลยนะครับ!”

“ใช่แล้ว หมอเฉิน ผมว่าแผลผ่าตัดออกมาดูดีมากเลยครับ!”

……

เมื่อเฉินปิ่งเซิงได้ยินคำพูดของผู้ป่วยก็ทราบทันทีว่าพวกเขาไม่ได้ชมตัวเอง ทางที่ดีอย่าไปตอบอะไรเลย มิฉะนั้นจะกระอักกระอ่วนกันเปล่าๆ

เฉินชางสวมผ้าปิดปากทำให้มองอารมณ์ไม่ออก เขาถามผู้ป่วยหลายคำถาม จากนั้นก็ตรวจแผลแล้วตรวจเยี่ยมผู้ป่วยต่อไป

เมื่อออกมาจากห้องผู้ป่วยแล้ว เฉินปิ่งเซิงก็ดึงเฉินชางไว้แล้วพูดว่า “เสี่ยวเฉิน เดี๋ยวก่อน…ตอนสายๆ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”

เฉินชางชะงักไป ดูเหมือนสายๆ ของวันนี้ตนจะไม่มีผ่าตัด “ไม่มีธุระอะไรครับ ทำไมเหรอครับ”

เฉินปิ่งเซิงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกระแอมออกมา “เอ่อ ตอนสายผมมีผ่าตัดด้วยการส่องกล้องสองเคส คุณสอนหน่อยสิครับว่าการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กทำยังไง ผมดูแล้วผมว่ามันสุดยอดไปเลย”

[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน สอนวิธีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กให้เฉินปิ่งเซิงเป็นการตอบแทนที่เฉินปิ่งเซิงเคยสั่งสอนคุณ รางวัลภารกิจ: ทักษะตรวจสอบท่อทางเดินถุงน้ำดี]

เฉินชางถึงกับชะงักไปทันที!

มีอะไรแบบนี้ด้วยหรือ

ภารกิจเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ไม่เลว!

ต่อให้ไม่มีรางวัลอะไรให้ เฉินชางก็ยังตั้งใจจะสอนการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กให้เฉินปิ่งเซิงอยู่ดี แต่นี่ยังมีรางวัลติดมาด้วย เหมือนเป็นการเพิ่มพูนความสุข เขาย่อมไม่ปฏิเสธแน่นอน

คิดถึงตรงนี้เฉินชางก็พูดขึ้นว่า “ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ”

คนเรามีสิ่งที่แตกต่างกันมากมาย

ช่วงแรกๆ ที่เฉินชางวิจัยและพัฒนาการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กออกมาได้ ทางโรงพยาบาลค่อนข้างให้ความสำคัญกับเขา เคยให้ศัลยแพทย์หลายคนมาเรียนรู้กับเขา แต่ส่วนใหญ่มาดูแค่ครั้งสองครั้งก็ไม่มาอีก

หลายคนเห็นเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญ! หรือบางทีอาจมองว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจให้มากนักเพราะเดิมทีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องก็มีแผลเล็กอยู่แล้ว ทุกคนจึงคิดว่าเรื่องที่เขาทำไม่มีความหมายอะไรมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนคิดว่าเฉินชางเป็นแค่คนรุ่นหลัง ต้องใช้ความกล้ามาเรียนด้วย จึงอับอายไม่กล้ามาเรียน

แม้กระนั้นพวกเขาก็ไม่อาจละเลยคำสั่งของหัวหน้าแผนก ดังนั้นจึงมาดูครั้งสองครั้งแล้วก็จากไป ไม่สนใจอะไรอีก ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ภารกิจของเฉินชางในตอนนั้นล้มเหลวไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้รางวัลสักอย่างเดียว

เฉินปิ่งเซิงพูดเรื่องขอเรียนขึ้นมาเองเช่นนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยากจริงๆ

ทั้งสองเดินเคียงกันไปยังห้องผ่าตัด หลิวเจี้ยนเดินออกมาพอดี เมื่อเห็นทั้งคู่ก็ยิ้มให้

“โอ้ เสี่ยวเฉิน มาแจมผ่าตัดกับเหล่าเฉินอีกแล้วหรือครับ”

เฉินชางหัวเราะ “ไม่ๆๆ อาจารย์หลิว ครั้งนี้เหล่าเฉินมาแจมผมต่างหาก!”

อืม ก็ไม่ได้มีอะไรเหนือความคาดหมาย

เขายกฝ่ามือขึ้นตบศีรษะเบาๆ

หลิวเจี้ยนหัวเราะออกมา “เสี่ยวเฉินรู้จักพูดจริงๆ นะครับ ติดตามเรียนรู้กับเหล่าเฉินให้มากๆ หน่อย เขามีความสามารถมากเลย”

เฉินชางพยักหน้า เรื่องนี้อีกฝ่ายพูดถูกแล้ว

ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังไม่มีโอกาสเจอมอนสเตอร์ระดับสูง ต้องอาศัยเป็นผู้ช่วยร่วมแจมผ่าตัดถึงจะได้ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ติดตามเหล่าเฉินไปยืนๆ นั่งๆ แจมผ่าตัดใหญ่คงดีมาก เผื่อว่า…จะขโมยทักษะอะไรมาได้บ้าง

คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็วางเป้าหมายของตนในใจ จะต้องขโมยแสงสว่าง (ทักษะ) ของเหล่าเฉินมาให้ได้!

……

……

เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว หลิวเจี้ยนก็รมยาให้ผู้ป่วย

การผ่าตัดเริ่มต้นขึ้นแล้ว เฉินชางหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาแล้วพูดกับเฉินปิ่งเซิงว่า “เหล่าเฉิน จริงๆ แล้วหลักการสำคัญของการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กอยู่ที่ตอนกรีด ที่สำคัญที่สุดก็คือการเลือกตำแหน่งกรีด โดยเริ่มจากคิดว่ากรีดอย่างไรจึงจะเหมาะสม จากนั้นก็พิจารณาเรื่องลำดับขั้นตอนในการกรีดรวมไปถึงการเย็บแผลหลังผ่าตัดเสร็จ…”

เฉินปิ่งเซิงตั้งใจฟังมาก เขาไม่ได้รู้สึกอายสักนิด การจะเรียนรู้อะไรบางอย่างก็ต้องขอคำชี้แนะจากผู้รู้อย่างนอบน้อม

เนื่องจากการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องจะต้องรมยาสลบ ทั้งสองจึงคุยกันได้ตามสะดวก หากผู้ป่วยมีสติอยู่ จะต้องกระวนกระวายใจแน่นอน

ทักษะ [การกรีด] ของเหล่าเฉินอยู่ในระดับปรมาจารย์แล้วจึงมีความรู้ความเข้าใจมากกว่าเฉินชาง แต่จะอย่างไรก็ยังมีปัญหาเรื่องความคิด จึงต้องใช้เวลาในการปรับตัว

ยิ่งไปกว่านั้น การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กจะต้องพิจารณาถึงการเย็บหลังผ่าเสร็จด้วย กล่าวคือต้องกรีดโดยคำนึงถึงมุมในการเย็บเพื่อเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า

เคสแรกเฉินชางเป็นคนผ่าและเย็บ เคสที่สองเหล่าเฉินลองวิชาด้วยความตื่นเต้น แม้ผลที่ได้จะด้อยกว่าเฉินชางไปมาก แต่…แต่หากเทียบกับการเย็บแผลในตอนแรกของตัวเองยังดีกว่าบ้าง

เมื่อการผ่าตัดสองเคสนี้จบลง เหล่าเฉินยังมีการผ่าตัดอื่นอีก ส่วนเฉินชางก็มีธุระจึงกลับไปที่แผนกฉุกเฉิน

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสิบเอ็ดโมงกว่า จู่ๆ ญาติผู้ป่วยของผู้ป่วยเตียงสิบเอ็ดและหวังหย่งซึ่งเป็นแพทย์ผู้รับผิดชอบก็ทะเลาะกันขึ้นมา เฉินชางเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้ามาดู

ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนด่าอยู่ตรงประตูห้องผู้ป่วย ยกมือชี้หน้าด่าหวังหย่งอย่างหยาบคาย

หากเทียบกันแล้ว หวังหย่งมีใบหน้าแดงก่ำ อยากจะอธิบายแต่เห็นได้ชัดว่าผู้ป่วยไม่ให้โอกาสเลย!

ชายคนนั้นสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ตัวสูงใหญ่เป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับหวังหย่งที่สูงไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรแล้ว ร่างกายของเขาดูผอมบางไปเลย

แต่ไม่ใช่เรื่องความแตกต่างทางร่างกายที่ทำให้หวังหย่งไม่ด่ากลับ หรือไม่ตอบโต้ผู้ป่วย ที่นี่คือโรงพยาบาล หากทะเลาะ หรือตบตีกับผู้ป่วย คนที่จะเป็นฝ่ายเสียหายก็คือหมอ

“พ่อผมเป็นถุงน้ำดีอักเสบไม่ใช่หรือ แอดมิทแล้วทำไมยังไม่ผ่าตัดอีก คุณเป็นหมอหรือเปล่าเนี่ย ในอินเทอร์เน็ตบอกว่าถ้าเป็นถุงน้ำดีอักเสบจะต้องรีบผ่าตัดให้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยไว้นานจะทำให้อาการหนักขึ้น!”

“เมื่อวานพอคุณมาถึงก็บอกว่าจะทำการตรวจให้ดีเสียก่อน ตอนนี้ผลการตรวจออกมาแล้วก็ยังไม่ยอมจัดแจงเรื่องผ่าตัดอีก คุณรอเงินสินบนจากผมใช่ไหม”

“เศษสวะเอ๊ย! หมอแบบคุณผมเห็นมาเยอะแล้ว ออกไป! อย่าให้ผมเจอก็แล้วกัน!”

บทที่ 407 รางวัลพิเศษและเซอร์ไพรส์

ฉินเยว่สวมชุดนอนนอนอยู่บนเตียง ช่วงปลายเดือนตุลาคมอากาศเริ่มหนาวแล้วเธอจึงห่มผ้าห่มด้วย

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา อยากทำเซอร์ไพรส์เฉินชางสักหน่อย

“พรุ่งนี้ฉันกับพ่อและแม่มีธุระนะคะ ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว เป็นเด็กดีนะคะ!”

ฉินเยว่อยากซื้อบ้านด้วยตัวเอง เฉินชางไม่ต้องเป็นฝ่ายซื้อหรอก เธอจะทำให้เฉินชางอึ้งให้ดู

ความจริงอาจไม่เรียกว่าเซอร์ไพรส์ แต่คงพอจะแบ่งเบาภาระเฉินชางได้บ้าง

ฉินเยว่เห็นเฉินชางทำงานลำบากลำบนทุกวันจึงไม่อยากสร้างความกดดันให้เขามากเกินไป แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่เป็นห่วงพ่อแม่ของตน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เอาเงินไปซื้อบ้านเงินก็ไม่ได้หายไปไหน

นอกจากนี้เธอและเฉินชางเพิ่งพัฒนาความสัมพันธ์กัน หากเอาเงินไปซื้อบ้านหมดคุณภาพชีวิตคงย่ำแย่ และใช่ว่าเฉินชางจะไม่พยายามสักหน่อย

เธอเชื่อมั่นในตัวเฉินชาง ในสายตาของเธอ เฉินชางสุดยอดที่สุด เก่งที่สุด!

เธอยอมเป็นยัยฉิมขี้ประจบของเฉินชางไปชั่วชีวิตเลย!

……

อันที่จริงเธออยากให้เฉินชางไปดูห้องด้วยกัน แต่คงไม่เหมาะสมนัก ประการแรกเพราะเธอกลัวว่าจะเป็นการทำลายความภาคภูมิใจในตนเองของเฉินชาง ประการที่สอง…เธอไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตนจะคิดอย่างไร บางทีอาจดูถูกเฉินชางไปเลยก็ได้

ความคิดของผู้หญิงค่อนข้างละเอียดอ่อน ฉินเยว่จึงใช้ความคิดของตนปกป้องเฉินชาง

เฉินชางเห็นข้อความก็หัวเราะออกมา

พรุ่งนี้เช้าเขาก็ต้องไปจัดการเรื่องบ้านกับผู้จัดการหวังพอดี ตอนบ่ายค่อยนัดฉินเยว่ออกมา ทำให้เธอเซอร์ไพรส์แล้วกัน

เมื่อทราบว่าฉินเยว่มีธุระเขาก็ถามไปว่า “แล้วพรุ่งนี้ตอนบ่ายคุณมีธุระหรือเปล่า”

ฉินเยว่ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องบ้านเสร็จหรือไม่ จึงส่งสติ๊กเกอร์ ‘ไม่รู้’ ไปให้

จากนั้นทั้งสองก็ส่งข้อความหวานๆ ตามประสาคู่รักหากันอีกสองสามประโยค ผ่านไปพักใหญ่จึงค่อยเข้านอน

……

……

เช้าวันต่อมา เวลาประมาณเก้าโมง ฉินเยว่และครอบครัวกินข้าวเสร็จแล้วก็พากันไปยังตึกอยู่อาศัยที่เขตไห่อันใหม่ ตอนนี้ฝ่ายขายของโครงการกำลังคึกคักเป็นพิเศษ

จี้หรูอวิ๋นชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาเปล่งประกายแวววาว “เอ๋ มีกิจกรรมเหรอ ท่าทางพวกเรามาได้จังหวะพอดี!”

ฉินเยว่พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น “ค่ะ คราวที่แล้วตอนหนูมายังไม่มีเลย ว้าว…ดูสิคะ จัดกิจกรรมใหญ่เลย”

ดูเหมือนว่าผู้หญิงจะมีเรดาร์หาของเซลล์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

ป้ายแบนเนอร์กิจกรรมขนาดใหญ่ถูกนำมาแขวน มีกงล้อเสี่ยงโชคของกิจกรรมซื้อบ้านแถมเฟอร์นิเจอร์วางอยู่ตรงนั้น ดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง

ขอเพียงซื้อบ้านก็จะร่วมกิจกรรมได้ รางวัลใหญ่คือได้รับส่วนลดค่าบ้านเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์และตกแต่งห้องฟรี ได้รับเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรีอีกด้วย

ส่วนรางวัลที่ห้าซึ่งเป็นรางวัลสุดท้ายคือฟรีค่าส่วนกลางหนึ่งปี ดูแล้วน่าสนใจจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงรางวัลที่ใหญ่กว่านี้เลย!

รางวัลพวกนี้ ใครเห็นก็ต้องใจสั่น ใครเห็นก็ต้องอิจฉา!

ยิ่งรางวัลพิเศษก็ยิ่งทำให้ทุกคนตาลุกเป็นไฟ ถึงอย่างไรการตกแต่งห้องก็เป็นเสมือนหลุมที่ถมไม่เคยเต็ม ต่อให้ซื้อห้องแบบตกแต่งแล้ว ส่วนใหญ่ก็อยากตกแต่งใหม่อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นยังแถมฟรีเฟอร์นิเจอร์ ของพวกนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่กัน!

ที่สำคัญก็คือส่วนลดค่าบ้านเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์!

ประหยัดไปได้หลายล้านหยวนเลย

ทุกคนดวงตาเปล่งประกาย ราวกับมีแสงพุ่งออกมาจากดวงตา

แต่อัตราที่จะได้รับต่ำมาก

ฉินเยว่มองป้ายกิจกรรมแล้วหัวเราะออกมา “พ่อคะ อีกเดี๋ยวหนูจะจับรางวัลพิเศษกลับมาให้เอง!”

ฉินเสี้ยวหยวนพูดยิ้มๆ “เด็กคนนี้นี่ ตั้งแต่เล็กจนโตจับสลากอะไรก็ไม่เคยได้รางวัลมูลค่ามากกว่าห้าหยวนเลย ยังฝันได้รางวัลใหญ่ขนาดนั้นอีก!”

เป็นจริงเช่นนั้น รางวัลพิเศษที่ว่านี้มีมูลค่าถึงห้าล้านหยวนเลยทีเดียว!

ใครจะไปคิดว่าเจิ้งซื่อกรุ๊ปจะมือเติบขนาดนี้ พริบตาเดียวก็ดึงดูดลูกค้ามาดูบ้านได้เป็นจำนวนมากแล้ว

อันที่จริงนี่คือความฉลาดหลักแหลมของผู้จัดการหวัง ขณะที่เขาคิดกิจกรรมให้เฉินชางก็คิดกิจกรรมพวกนี้ขึ้นมาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นกลโกงให้เฉินชาง และกิจกรรมที่คิดได้อย่างกะทันหันพวกนี้ก็ช่วยเพิ่มลูกค้าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ตอนนี้อสังหาริมทรัพย์อยู่ในยุคตกต่ำ บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งล้วนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกันทั้งนั้น

ครอบครัวของฉินเยว่มองไปที่แบบจำลอง กำลังตั้งใจฟังเซลล์แนะนำห้องต่างๆ นี่ทำให้ฉินเยว่เปลี่ยนความคิดแล้ว มีหลายห้องที่ค่อนข้างน่าสนใจ ขณะกำลังจะถามก็ได้ยินเสียงแตรดังขึ้นกลางห้องโถง

“วันนี้พวกเราได้ผู้โชคดีแล้วครับ มีผู้ชนะรางวัลพิเศษแล้ว!”

กล่าวจบทุกคนที่อยู่รอบๆ ก็พากันมองไป พบว่าเฉินชางยืนยิ้มแฉ่งเขย่ามืออยู่กับผู้จัดการหวังบนเวที

หวังจื้อมองทุกคนแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ยินดีกับคุณลูกค้าท่านนี้ด้วยนะครับที่ได้รางวัลพิเศษของพวกเรา พวกเราจะคืนเงินค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องให้คุณโดยเร็วที่สุด และจะตกแต่งห้องตามความต้องการของคุณอย่างแน่นอน หากไม่อยากแต่งห้อง พวกเราจะมอบเป็นเงินให้คุณตามค่าแต่งห้องตารางเมตรละสองหมื่นห้าพันหยวน รวมทั้งสิ้นเป็นเงินสามแสนหยวน รวมไปถึงแพคเกจเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์อีกสองแสนหยวน ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะรางวัลพิเศษของพวกเราด้วยครับ!”

กล่าวจบคนที่อยู่ด้านล่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์

จี้หรูอวิ๋นสะกิดฉินเยว่และฉินเสี้ยวหยวนทันที กล่าวด้วยสีหน้าหดหู่ว่า “โธ่ ดูสิ ทำไมพ่อหนุ่มคนนั้นถึงได้ดูคุ้นๆ แบบนี้ล่ะ!”

ฉินเสี้ยวหยวนที่กำลังดูห้องกับเซลล์สาวตอบกลับไปโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง “คุณเห็นพ่อหนุ่มคนไหนก็ดูคุ้นหน้าไปหมดนั่นแหละ!”

ฉินเยว่อดยิ้มไม่ได้ แต่ก็ยังมองไปด้วยความสงสัย…

เมื่อมองไปก็ต้องตกตะลึงจนตาค้าง!

นั่นเฉินชางไม่ใช่หรือ

ฉินเยว่เบิกตากว้าง จ้องชายบนเวทีอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เธอคุ้นเคยจริงๆ นั่นเฉินชางยังไงล่ะ!

เหล่าฉินปรายตามองไปอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่ทันใดนั้นก็ต้องตาค้างไปเช่นเดียวกัน “นั่นเฉินชางไม่ใช่หรือ”

กล่าวจบจี้หรูอวิ๋นก็ดวงตาสว่างวาบ “นี่คือพ่อหนุ่มเสี่ยวเฉินเหรอ ก็ว่าอยู่ว่าทำไมคุ้นๆ! เด็กคนนี้นี่ โชคดีจริงๆ วาสนาสูงจริงๆ แป๊บเดียวก็ได้บ้านแล้ว!”

ฉินเสี้ยวหยวนมองเฉินชาง พึมพำกับตัวเองว่า “ก็นึกว่าเป็นแค่การตลาด ไม่มีรางวัลพิเศษอะไรจริงๆ ไม่คิดเลยว่ามันจะจริง!”

เหล่าฉินคิดว่าการจับสลากรางวัลเป็นเรื่องจริง แต่ของรางวัลเป็นเรื่องหลอกลวง!

ถึงอย่างไรก็มีมูลค่าหลายล้านหยวน ต่อให้มือเติบอย่างไรคงไม่ให้ง่ายๆ!

แต่ตัวเฉินชางเองจะไม่รู้เชียวหรือ

คิดไม่ถึงว่ารางวัลพิเศษจะเป็นของจริง!

แบบนี้…เขาก็ไม่ต้องซื้อบ้านแล้วสิ

ยิ่งไปกว่านั้น…ตกแต่ง…เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เรื่องพวกนี้ก็ไม่ต้องคิดด้วย

คิดถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉินเสี้ยวหยวนก็คิดว่าไอ้หนุ่มเสี่ยวเฉินนี่ยิ่งดูก็ยิ่งดี ยิ่งมองก็ยิ่งดูมีวาสนา ไม่เลวเลย!

แม้แต่จี้หรูอวิ๋นก็ยังดึงฉินเยว่เข้ามาแล้วพูดว่า “เยว่เยว่ ห้องของเสี่ยวเฉินใหญ่แค่ไหนนะลูก ส่วนลดเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์นี่ต้องเอาไปซื้อห้องใหญ่แล้วนะ ทางที่ดีก็เอาห้องสามร้อยตารางเมตรไปเลย โชคดีจริง!”

แต่ด้านฉินเยว่ ผ่านไปนานแล้วก็ยังพูดอะไรไม่ออก เธอไม่รู้ว่าเฉินชางซื้อบ้านทำไม

ตอนนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์ของฉินเยว่ก็ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นเบอร์ของเฉินชาง

ฉินเยว่แค่นเสียงเย็น ดูสิว่าคุณจะพูดอะไร!

“ฮัลโหล!”

เฉินชางกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ฉินเยว่ ผมซื้อห้องที่พวกเราไปดูกันตอนนั้นมาแล้วนะครับ คุณรู้เปล่าว่าผมจ่ายเงินไปเท่าไหร่”

ฉินเยว่ได้ยินเฉินชางพูดเช่นนี้โทสะก็ลดลงไปครึ่งหนึ่ง ที่แท้ก็จะทำเซอร์ไพรส์เธอนี่เอง!

แต่ฉินเยว่ก็ยังพูดเจือหัวเราะไปว่า “จ่ายไปล้านสอง ได้ค่าตกแต่งสามแสน ค่าเฟอร์ฯ สองแสน ใช่ไหมคะ”

เฉินชางที่เพิ่งลงจากเวทีก็ต้องตกตะลึงไปโดยพลัน!

เหมือนเป๊ะเลยไม่ใช่หรือไง

คุณควรเซอร์ไพรส์ไม่ใช่เหรอ

ต่อให้ไม่เซอร์ไพรส์ก็ต้องสงสัยบ้างสิ

แต่ตอนนี้…ท่าทางในตอนนี้มัน…

ไม่ถูกต้อง!

หรือเธออยู่ที่นี่ด้วย

เฉินชางรีบมองไปรอบๆ ทันที พริบตานั้นเองเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นสาวสวยคนหนึ่งกำลังจ้องมองมาที่ตนพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือก

ข้างกายยังมี…เหล่าฉินที่มองเฉินชางด้วยสายตาร้อนแรง

รวมไปถึงหญิงท่าทางใจดีคนหนึ่ง คงเป็น…แม่ของฉินเยว่สินะ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท