เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 453 ยัยขี้ประจบฉินขายพ่อเพื่อเอาหน้า

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 453 ยัยขี้ประจบฉินขายพ่อเพื่อเอาหน้า

หลังจากเฉินชางคุยโทรศัพท์เสร็จ ฉินเยว่ก็พูดขึ้นยิ้มๆ ว่า “วันนี้ลำบากแล้วนะคะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปเลี้ยงอะไรอร่อยๆ เอง!”

เฉินชางถอดเสื้อกาวน์ออก ฉินเยว่ถึงเพิ่งเห็นว่าท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า!

เฉินชางทอดถอนใจ “เสื้อผมมันสกปรกน่ะครับ มีแต่เลือด ใส่ไม่ได้แล้ว”

ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที รีบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “รอฉันก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาเสื้อมาให้คุณ!”

กล่าวจบเธอก็รีบวิ่งตรงกลับบ้าน

เธอจำได้ว่าสัปดาห์ที่แล้วเธอไปซื้อของกับเหล่าฉิน ได้เสื้อสเวตเตอร์มาตัวหนึ่ง ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป กำลังพอดี อีกทั้งรูปร่างของเฉินชางก็พอๆ กับพ่อของเธอ ดังนั้นฉินเยว่จึงตั้งใจว่าจะ ‘ขอยืม’ เสื้อของพ่อมาให้เฉินชางเสียหน่อย คงไม่เป็นอะไรหรอก

นอกจากนี้ก็เป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อคงไม่ใส่ใจแค่เสื้อตัวเดียวหรอก

อืม!

คิดแล้วฉินเยว่ก็วิ่งดุ๊กดิ๊กกลับบ้าน พอไปถึงแล้วเห็นแม่กำลังกำลังมาส์กหน้าอยู่จึงหรี่ตาลงทันใด

โชคดีจริงๆ!

“แม่คะ ไม่กินข้าวเหรอคะ”

จี้หรูอวิ๋นได้ยินเสียงลูกสาวกลับมาแล้วจึงหยิบแตงกวาฝานสองแผ่นขึ้นมาโปะไว้บริเวณดวงตา “อืม แม่ลดความอ้วนอยู่”

ฉินเยว่ชะงักไปเล็กน้อย “พ่อล่ะคะ”

จี้หรูอวิ๋นถอนหายใจออกมา “เหมือนพ่อเขาออกไปกินข้าวกับพวกนักข่าวน่ะลูก จะกลับเมื่อไหร่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน มีแม่อยู่บ้านคนเดียวก็ขี้เกียจทำกับข้าว เลยถือโอกาสลดน้ำหนักซะเลย”

ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที

สวรรค์เข้าข้างฉันแท้ๆ!

คิดแล้วเธอก็เดินย่องเข้าไปห้องพ่อแม่ เปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดอย่างตั้งใจ ในที่สุดก็เจอเสื้อที่พ่อของเธอเพิ่งซื้อมาใหม่ที่มุมตู้ เป็นเสื้อสเวตเตอร์ที่ยังไม่ทันตัดป้ายออกด้วยซ้ำ

เธอนำเสื้อตัวนั้นยัดใส่กระเป๋าแล้วย่องออกมาอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆ “หนูลืมกระเป๋าตังค์น่ะค่ะ แม่ขา หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะออกไปกินข้าวกับเฉินชาง”

จี้หรูอวิ๋นที่นอนอยู่บนโซฟาประชดประชันว่า “เห็นคนอื่นดีกว่าครอบครัวจริงๆ มีแฟนแล้วก็ลืมแม่ตัวเองเลยนะ!”

ฉินเยว่หัวเราะ

คุณแม่จะดูถูกลูกสาวเกินไปแล้ว ความจริงหนูไม่ได้ลืมแค่แม่คนเดียว ขนาดเสื้อพ่อก็ยังถูกลูกสาวแม่ขโมยไปแล้ว!

คิดแล้วฉินเยว่ก็รีบกลับไปที่โรงพยาบาล

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เธอก็พูดกับเฉินชางว่า “มานี่สิคะ ฉันซื้อของขวัญมาให้คุณด้วย!”

เฉินชางมองฉินเยว่ที่วิ่งหอบแฮ่กกลับมาด้วยความสงสัย ถามไปว่า “ของขวัญอะไรเหรอครับ”

ฉินเยว่ดึงเฉินชางไปที่ห้องเวร “ตามมาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ!”

เฉินชางถูกฉินเยว่จูงไปยังห้องเวรด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ จากนั้นเธอก็กดล็อคประตูดังกึก มองเฉินชางแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ถอดเสื้อออกสิคะ!”

เฉินชางใจเต้นตึกตัก

ที่ห้องเวรนี่…ไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่า

แต่มือก็ปลดกระดุมไปแล้วสองเม็ด…

……

ทว่าฉินเยว่กลับหยิบเสื้อสเวตเตอร์สีกากีออกมาจากกระเป๋าเสียก่อน “อืม คุณลองใส่ดูสิคะ! ดูว่าพอดีตัวหรือเปล่า”

เฉินชางชะงักไปทันที เขามองเสื้อตัวนั้นด้วยความประหลาดใจ “ซื้อให้ผมหรือครับ”

ฉินเยว่พยักหน้าด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ เพราะเธอเผลอคิดไปถึงของขวัญที่ตนยังไม่ได้มอบให้เฉินชาง! ทว่าเสื้อตัวนี้ดูดีไม่น้อย หากพอดีตัวก็ถือว่าเป็นของขวัญได้อยู่ แต่หากไม่เหมาะก็เอาไปคืนพ่อ!

คิดแล้วฉินเยว่ก็พูดขึ้นว่า “ลองสวมดูสิคะ!”

เฉินชางพยักหน้าแล้วสวมเข้าไป

ใส่สบายจริงๆ!

ฉินเยว่มองเฉินชาง ยิ่งมองก็ยิ่งพอใจ ไม่เลว ใส่แล้วหล่อ! อย่างน้อยก็ดูดีกว่าพ่อเธอใส่ แล้วก็ไม่ได้ดูแก่ด้วย

คิดแล้วฉินเยว่ก็กล่าวออกไปโดยหน้าไม่เปลี่ยนสี “เป็นยังไงคะ ฉันเซ้นส์ดีหรือเปล่า!”

เฉินชางส่องกระจก เขาพอใจมากเลยทีเดียว เทียบกับเสื้อผ้าเก่าๆ ของเขาแล้ว เสื้อตัวนี้ดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่กว่ามาก เมื่อสวมเข้าชุดกับเสื้อสูทกางเกงสแล็คและรองเท้าหนังก็ทำให้เขาดูเป็นผู้ชายสไตล์ยุโรป หล่อเหลาอ่อนโยนดูแพง

ไม่เลว!

“ขอบคุณมากนะครับ!”

เฉินชางมองฉินเยว่ด้วยความตื้นตันใจ เธอถึงกับจำไซส์เสื้อผ้าของเขาได้ แล้วยังซื้อเสื้อสเวตเตอร์พอดีตัวมาให้ด้วย เขาซึ้งใจจริงๆ

ดูเหมือนเขา…ยังไม่เคยให้อะไรฉินเยว่เลยสินะ

คิดแล้วเฉินชางก็แอบคิดกับตัวเองว่าจะต้องเลือกให้ดี ต้องทำให้ฉินเยว่เซอร์ไพรส์ให้ได้!

เฉินชางเข้าไปกอดฉินเยว่แล้วกระซิบบอกว่า “ขอบคุณนะครับที่รัก!”

ฉินเยว่ได้ยินพลันรู้สึกราวกับหัวใจของตนเบ่งบานดั่งบุปผา เขาโอบกอดเธอไว้ในอ้อมอกเช่นนี้ ทำให้เธออบอุ่นไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสเวตเตอร์อุ่น หรือเป็นเฉินชางที่อุ่น

ตอนนี้เธอได้รู้ข้อดีของการ ‘ขายพ่อเพื่อเอาหน้า’ แล้ว!

ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ลืมว่าวันหน้าต้องแอบไปซื้อเสื้อให้พ่อใหม่ตัวหนึ่งด้วย

ช่างเถอะ นี่คงไม่นับว่าเป็นการขายพ่อเพื่อเอาหน้าหรอก!

ไม่นับ!

คิดแล้วฉินเยว่ก็จับมือเฉินชางแล้วพูดว่า “ไปเถอะค่ะ ไปกินข้าวกัน! เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง!”

เฉินชางพยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินตามฉินเยว่ออกไปจากห้องเวร

……

……

วันนี้เหล่าฉินค่อนข้างอารมณ์ดีทีเดียว เพราะเรื่องของเฉินชางนับเป็นเรื่องดีสำหรับเขาและโรงพยาบาล พรุ่งนี้เขาจะโฆษณาให้ดังไปเลย เมื่ออยู่ในสังคมและสภาพแวดล้อมอันตึงเครียด เรื่องดีๆ ที่เต็มไปด้วยพลังบวกอย่างนี้เหมาะจะนำไปโฆษณาพอดี

เหล่าฉินคิดแล้วก็ยิ่งพอใจในตัวเฉินชาง

เมื่อรับประทานอาหารกับนักข่าวเรียบร้อย ฉินเสี้ยวหยวนก็เดินนำทุกคนออกมาจากร้านอาหาร เขามองหลี่เป่าซานแล้วพูดขึ้น “เป่าซาน วันนี้ลำบากคุณแล้วนะครับ!”

หลี่เป่าซานยิ้ม “ผู้อำนวยการฉิน เรื่องวันนี้เป็นผลงานของเสี่ยวเฉินนะครับ ผมไม่กล้ารับหรอก อีกอย่าง ผมว่าให้ทางโรงพยาบาลเชิดชูเฉินชางหน่อยก็ดีนะครับ เพราะยังไงเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องดี เป็นตัวอย่างในเชิงบวกได้เลย”

ฉินเสี้ยวหยวนพยักหน้า ถูกต้องตามนั้น!

“ครับ คุณพูดถูกแล้ว พรุ่งนี้ผมจะไปคุยกับฝ่ายกิจการแพทย์ให้พวกเขายกย่องชมเชยเฉินชางสักหน่อย!”

ขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลี่เป่าซานก็ดังขึ้น ผู้โทรมาคือจางโหย่วฝู เมื่อเขากดรับแล้วก็ถามขึ้นทันที “ฮัลโหล หัวหน้าจาง มีอะไรหรือครับ!”

จางโหย่วฝูตอบ “หัวหน้าหลี่ ผม เฉียนเลี่ยงแล้วก็หัวหน้าโจวหงกวงอยากดูคลิปการผ่าตัดวันนี้หน่อยน่ะครับ คุณสะดวกหรือเปล่าครับ”

หลี่เป่าซานได้ยินก็ตอบทันที “สะดวกมันก็สะดวกอยู่หรอกครับ แต่…มันจะไม่ดึกไปเหรอครับ”

ตอนนี้เอง โจวหงกวงรับโทรศัพท์ไปคุยต่อ “หัวหน้าหลี่ ผมโจวหงกวงนะครับ ผมอยากดูคลิปผ่าตัดช่วยชีวิตของวันนี้หน่อยนะครับ ดึกแล้ว ขอรบกวนคุณหน่อยนะครับ!”

หลี่เป่าซานหัวเราะ “ไม่เลยครับ หัวหน้าโจว พวกคุณตรงมาได้เลยครับ ผมจะรออยู่ที่แผนกฉุกเฉิน!”

เมื่อวางสายไปแล้ว หลี่เป่าซานก็พูดขึ้นยิ้มๆ “ผู้อำนวยการฉิน หัวหน้าโจวหงกวงจากโรงพยาบาล 301 อยากดูคลิปผ่าตัดครับ คุณจะไปด้วยหรือเปล่า”

ฉินเสี้ยวหยวนได้ยินชื่อโจวหงกวงก็คิดว่าอาจได้สานสัมพันธ์กันจึงพยักหน้าตอบ “ไปดูหน่อยแล้วกันครับ กลับบ้านไปก็ไม่มีอะไรทำ”

ว่าแล้วพวกเขาก็พากันเดินทางไปยังโรงพยาบาล

ระหว่างทาง ฉินเสี้ยวหยวนถามข้อมูลเฉินชางจากหลี่เป่าซานไม่หยุดเพื่อหาเรื่องคุย แต่ไม่นึกเลยว่าพอหลี่เป่าซานได้พูดถึงเฉินชางแล้วเขาจะพูดอย่างออกรสออกชาติ จ้อไม่หยุดจนไม่ต้องหาเรื่องคุยอีกเลย

ฉินเสี้ยวหยวนไม่คิดเลยว่าหลี่เป่าซานจะประเมินเฉินชางไว้สูงขนาดนี้! เขาดีใจขึ้นมาทันที!

ไม่เสียทีที่เป็นผู้ชายที่ลูกสาวผมเลือก

ได้อยู่…

ก็ได้อยู่!

บทที่ 448 คุณดีใจเร็วเกินไปแล้ว

ซุนเซี่ยงเฉิงนั่งอยู่ตรงนั้น มีลูกชายนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ เป็นเพื่อนกัน ทั้งสองกำลังนั่งรอปาฏิหาริย์อยู่นอกห้องผ่าตัด!

เมื่อครู่เขาเห็นชายที่ประสบอุบัติเหตุเดียวกันออกมาแล้ว หมอบอกว่าการผ่าตัดประสบความสำเร็จดีและรักษาขาเอาไว้ได้! ครอบครัวผู้ป่วยดีใจจนน้ำตาไหล จากนั้นผู้ป่วยก็ถูกเข็นไปยังห้องพักคนไข้

ตอนนี้เด็กชายก็คาดหวังว่ามารดาของตนจะโชคดีเช่นเดียวกัน!

ยิ่งเวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า สองพ่อลูกก็ยิ่งร้อนรน!

พวกเขาสองคนซื้อขนมปังมาตอนเที่ยง แต่กลับไม่ได้กินแม้แต่คำเดียว น้ำก็ดื่มไปเพียงสองสามขวด

ซุนเซี่ยงเฉิงกำมือแน่น คิดอะไรมากมายจนรู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบสะบัดหัวไล่ความคิดเลวร้ายและน่ากลัวเหล่านั้นออกจากสมอง แต่ว่า…จะทำอย่างไรความหวาดกลัวเหล่านั้นก็ยังคงไม่หายไป

เขายอมรับว่าเขากลัวมากจนสองมือสั่นระริก

ขณะนั้นเอง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีมืออันอบอุ่นคู่หนึ่งกุมมือเขาเอาไว้ เมื่อหันไปก็พบว่าลูกชายกำลังเบิกตากว้างจ้องมองมาที่ตนอย่างเด็ดเดี่ยวพลางบอกว่า “พ่อครับ แม่ต้องไม่เป็นอะไรแน่! จริงๆ นะครับ!”

คำพูดประโยคนี้ของลูกชายทำให้ซุนเซี่ยงเฉิงรู้สึกแสบจมูก กระบอกตามีน้ำตาคลอ เขารีบสูดหายใจลึกครั้งหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น กะพริบตาไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา ไม่ยอมให้ลูกชายเห็นความอ่อนแอของตน…

จากนั้นเขาก็ได้ยินลูกชายพูดขึ้นอีกครั้งว่า “พ่อครับ ต่อให้แม่ไม่อยู่แล้ว ผมก็จะดูแลพ่อให้ดี…”

เด็กที่ยังไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่คนนี้คิดไปไกลมาก เขาพยายามเลียนแบบท่าทางของผู้ใหญ่ เลียนแบบคำพูดคำจาและน้ำเสียงของผู้เป็นมารดา กล่าวแต่ละคำออกมาอย่างจริงจัง

แม้น้ำตาของเขาจะไหลจนเข้าไปในปากแล้ว แต่สายตากลับเด็ดเดี่ยวแน่วแน่หาใดเปรียบ ท่าทางเช่นนี้ทำให้ซุนเซี่ยงเฉิงที่อายุสามสิบกว่าปีถึงกับโผเข้ากอดลูกชายแล้วร้องไห้ออกมา

เขาไม่คิดเลยว่าลูกชายที่ปกติเป็นเด็กซุกซนจะกล่าวคำที่ทำให้เขาอบอุ่นหัวใจเช่นนี้ออกมาได้ แม้กระนั้น ซุนเซี่ยงเฉิงยินดีเห็นท่าทางซุกซนไม่รู้ความของลูกมากกว่าจะอยากเห็นท่าทางราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อยเช่นนี้

ซุนเซี่ยงเฉิงที่เป็นคนเข้มแข็งมาตลอดร้องไห้จนน้ำหูน้ำตาไหล ส่งเสียงสะอึกสะอื้นออกมา

ในตอนที่นาฬิกาแขวนผนังตีบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกา ประตูห้องก็เปิดออก สองพ่อลูกรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปอย่างร้อนรน

“หมอ หมอครับ! ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ!”

“คุณอา คุณลุง แม่ผม…เป็นยังไงบ้างครับ…”

เมื่อทุกคนเห็นสายตาร้อนอกร้อนใจของทั้งสองก็ยิ้มออกมา หลี่เป่าซานพูดขึ้นว่า “การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากครับ พวกคุณวางใจได้เลย”

ประโยคนี้ทำให้ซุนเซี่ยงเฉิงถึงกับใจสั่น! เข้าไปกอดหลี่เป่าซานแล้วพูดว่า “ขอบคุณมากครับคุณหมอ!”

โปโปตัวน้อยที่อยู่ข้างๆ ก็โค้งตัวลงแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณครับคุณลุง!”

หลี่เป่าซานตบซุนเซี่ยงเฉิงเบาๆ “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ ไปห้องพักผู้ป่วยเถอะ ตอนนี้ผู้ป่วยถูกส่งตัวไปที่ห้องพักแล้วครับ”

……

……

เมื่อมาถึงห้องพักผู้ป่วยแล้ว พวกเขาก็เพิ่งทราบว่าผู้ป่วยต้องถูกส่งตัวไปที่ห้อง ICU เพื่อสังเกตอาการต่อไป เพราะผู้ป่วยได้รับการถ่ายเลือดไปถึงสองในสามของร่างกาย ยังไม่ทราบว่าจะมีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่ ทั้งยังมีเรื่องการฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ให้ต้องจัดการอีกมากมาย หลังจากนี้ยังมีปัญหาอีกมาก!

แต่เพื่อให้เธอได้พบกับสามีและลูกชาย ทางโรงพยาบาลจึงจัดแจงให้อยู่ในห้องสังเกตอาการไปก่อนชั่วคราว

ซุนเซี่ยงเฉิงพาลูกชายเดินเข้ามาในห้อง ในที่สุดครอบครัวก็ได้พบหน้ากันแล้ว

ซุนเซี่ยงเฉิงไม่กล้าแตะต้องภรรยา เพราะตอนนี้ทั่วทั้งตัวของเธอเต็มไปด้วยบาดแผล คิดแล้วเขาก็ปวดใจจริงๆ

ขณะเดียวกัน ลูกชายก็ยืนมองผู้เป็นมารดาอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “แม่ครับ ผมสาบานกับพระเจ้าไว้แล้วว่าถ้าแม่ตื่นขึ้นมา ต่อไปผมจะไม่ซนอีก จะไม่ดื้ออีก จะเชื่อฟังคำพูดของแม่ จะตั้งใจกินข้าว…”

จู่ๆ ลูกชายก็รู้ความขึ้นมาเช่นนี้ ทำให้เธอยิ้มออกมาพร้อมน้ำตา ซุนเซี่ยงเฉิงจึงรีบเช็ดน้ำตาให้ภรรยา แล้วพูดด้วยอารมณ์ซับซ้อนว่า “ที่รัก โปโปโตแล้ว!”

เธอกะพริบตาใส่

เฉินชางยืนมองดูภาพบรรยากาศอันอบอุ่นอยู่ตรงนั้น จู่ๆ ก็รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาคุ้มค่าแล้ว

รางวัลการแข่งขันประกวดวิดีโอการผ่าตัดของสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยางอะไรกัน!

ตำแหน่งคณะกรรมการสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยางอะไรกัน…

สิ่งเหล่านี้เมื่อมาอยู่ต่อหน้าชีวิตอันสดใหม่ จะมีน้ำหนักแค่ไหนกันเชียว

หน้าที่ของหมอคือช่วยชีวิตผู้ป่วยช่วยและรักษาผู้คนไม่ใช่หรือ

เฉินชางปลอบใจตัวเอง…

เมื่อดูโทรศัพท์มือถือก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับร้อยกว่าสาย ส่วนใหญ่คือฉินเยว่ จางโหย่วฝู เฉียนเลี่ยง จางจื้อซิน และเฉินปิ่งเซิง กระทั่งโจวหงกวงก็ยังโทรมาสองสาย

คิดแล้วเฉินชางก็อดทนไม่ไหว!

ตอนนี้เอง เด็กชายก็พูดกับพ่อและแม่ว่า “เป็นคุณอาคนนี้ที่ช่วยคุณแม่ไว้ครับ!”

พูดจบก็ชี้มาที่เฉินชาง จากนั้นเด็กชายก็เดินเข้ามา “คุณอา ขอบคุณที่ช่วยแม่ผมนะครับ! คุณคือฮีโร่”

เฉินชางชะงักไปก่อนยิ้มออกมา “อาเป็นหมอครับ”

เด็กชายได้ยินดังนั้น ในดวงตาก็มีประกายบางอย่างที่เรียกว่าความคาดหวังแผ่ออกมา จากนั้นก็พูดกับเฉินชางด้วยท่าทางจริงจังว่า “ต่อไปผมจะเป็นหมอ จะเป็นหมอที่เก่งเหมือนคุณอาให้ได้!”

เฉินชางชะงักไป มองดูเด็กชายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจตรงหน้า อดก้มตัวลงแล้วพูดกับเขาไม่ได้ว่า “ถ้างั้นก็พยายามเข้านะครับ!”

เด็กชายตอบอืมแล้วเน้นย้ำอีกครั้ง “ผมจะต้องเป็นหมอที่ยิ่งใหญ่เหมือนคุณอาให้ได้เลยครับ!”

เฉินชางยิ้มบางๆ “เราชื่ออะไรครับ”

เด็กชายตอบ “ผมชื่อซุนจิ้งโป”

เฉินชางค่อนข้างประทับใจเด็กชายมากทีเดียว เขาชอบเด็กชายที่กล้าหาญเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อยๆ คนนี้จริงๆ

คิดแล้วเฉินชางก็ถอดหูฟังแพทย์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ของตนออกแล้วส่งให้อีกฝ่าย “อาให้เราครับ”

ซุนจิ้งโปท่าทางตื่นเต้นจนหน้าแดงระเรื่อ “ผมจะต้องเป็นหมอที่ยิ่งใหญ่ให้ได้เลยครับ!”

เฉินชางพยักหน้า “อาเชื่อเรานะครับ!”

……

……

เฉินชางออกมาจากห้องสังเกตอาการ เดินไปนั่งบนเก้าอี้ เขาลังเลอยู่นานว่าจะโทรกลับดีหรือไม่ ทว่าคิดไปคิดมาก็ได้แต่ทอดถอนใจ

ช่างมันเถอะ…

ยังไงซะการประชุมก็ใกล้จบแล้ว ไปแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ ไปกินข้าวด้วยกันหรือไง ถึงร้านบุฟเฟ่ต์ร้านนั้นจะไม่เลวก็เถอะ…

เฉินชางเดินกลับไปที่ห้องหมอ เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเปิดหน้าจอเสมือนของระบบขึ้นมาแล้วมองดูภารกิจของระบบ

“เข้าร่วมการแข่งขันประกวดวิดีโอการผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยาง รางวัลที่จะได้รับ: ใบรับรองการเปลี่ยนอาชีพเป็นศัลยแพทย์ตับและถุงน้ำดี ภารกิจล้มเหลว!”

เฉินชางทอดถอนใจออกมา

ช่างเถอะ ไม่เป็นไร…

เฉินชางปลอบใจตัวเอง

ส่วนเรื่องคณะกรรมการ…ก็ช่างมันเถอะ!

[ติ๊ง! ภารกิจทดสอบคุณธรรมแพทย์สำเร็จ ยินดีด้วย คุณยอมละทิ้งผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย ได้รับรางวัลพิเศษ: บัตรฝึกอบรมพิเศษ 1 ใบ]

เฉินชางชะงักไปทันที!

เขารีบมองไปที่บัตรฝึกอบรมพิเศษอย่างเหลือเชื่อ!

บัตรฝึกอบรมพิเศษหมายถึงอะไรน่ะหรือ มันก็คือทักษะระดับสมบูรณ์แบบไงล่ะ!

เฉินชางเคยโชคดีได้รับมาครั้งหนึ่งแล้ว เพียงแต่…ตอนนั้นเขายังไม่ทราบถึงความล้ำค่าของมัน จึงใช้ไปกับการฝึกอบรมทักษะการผ่าตัดไส้ติ่ง ภายหลังก็รู้สึกเสียใจแทบตาย ตอนนี้เขาได้ตั๋วฝึกอบรมพิเศษมาอีกแล้ว

เพียงแต่เฉินชางเพิ่งรู้ตัวว่าตนดีใจเร็วเกินไป…

[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณช่วยชีวิตผู้ป่วยสำเร็จ ได้รับรางวัลต่อไปนี้:

1. เสื้อกาวน์ประณีต (ไอเทมสีม่วง)

2. เลือกรับทักษะอย่างใดอย่างหนึ่งที่ใช้ในการผ่าตัดนี้

3. ได้รับหินเสริมแกร่ง 1 ก้อน (ถาวร)]

เฉินชางยิ้มออกมาทันที

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท