บทที่ 454 นี่ความเร็วปกติ!
เฉินชางสวมสเวตเตอร์ที่ ‘ยืมมาใส่’ อย่างไม่สะทกสะท้าน!
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณหกโมงถึงหนึ่งทุ่มแล้ว เป็นช่วงที่ตลาดกลางคืนเปิดทำการพอดี ทั้งสองเดินเคียงคู่กันไป มือกุมกันไว้ พูดคุยหัวเราะไปด้วยกัน
ช่วงเวลานี้ทำให้เฉินชางรู้สึกว่าความสุขมันก็เรียบง่ายเพียงเท่านี้เอง
วันนี้เฉินชางไม่อยากกินหม้อไฟเพราะเขาใส่เสื้อสเวตเตอร์ตัวใหม่ หากกินหม้อไฟแล้วกลิ่นติดขึ้นมาคงปวดใจแย่ พวกเขาคิดไปพลางเดินไปพลางจนมาถึงถนนอาหารสายเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ต้องกล่าวว่า การที่เมืองอันหยางเป็นเมืองในภาคกลางมีข้อดีอยู่จริงๆ อย่างน้อยอาหารเลิศรสของแต่ละท้องถิ่นก็มารวมกันอยู่ที่นี่ ตอนนี้ฉินเยว่อยากกินของอร่อยมากแล้ว เฉินชางจึงเดินดูร้านรอบๆ ไปกับเธอ ใช้เวลาไม่นาน ในท้องของทั้งคู่ก็มีของกินกองอยู่ไม่น้อยแล้ว
เฉินชางเห็นของกินเล่นมากมายละลานตาเช่นนี้ก็พานคิดไปถึงเรื่องน่ากลัวบางอย่าง เขาคิดว่ากระเพาะอาหารของมนุษย์เราช่างแข็งแกร่งจริงๆ ไม่ว่าอะไรก็ย่อยได้หมด แต่ดูเหมือนฉินเยว่ไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย เธอสนใจว่าเฉินชางยังไม่เคยกินอะไรมากกว่า
เธออยากซื้อของที่เฉินชางยังไม่เคยกินให้เขาลองชิม แน่นอนว่าต้องเป็นของที่ตัวเธอเองอยากกินด้วย
ถนนอาหารยามค่ำคืนเป็นเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะในเมืองนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่เป็นคู่รัก แต่ละคู่เดินจับมือกัน
สามีภรรยาวัยชราคู่หนึ่งเปิดร้านขายถังหูลู่ พวกเขาขายถังหูลู่มาทั้งชีวิต มีมากมายหลายแบบ ทุกครั้งที่ฉินเยว่มาที่นี่ก็จะซื้อกินสองไม้ ไม้หนึ่งให้ตัวเอง อีกไม้หนึ่งให้แม่
เมื่อพวกเขาเห็นฉินเยว่เดินเข้ามาก็ยิ้มต้อนรับพลางมองสำรวจเฉินชางครู่หนึ่ง
“แฟนเหรอหนู” คุณลุงเป็นมิตรมาก เขาส่งถังหูลู่ให้ฉินเยว่แล้วถามยิ้มๆ
บนใบหน้าเล็กๆ ของฉินเยว่ปรากฏรอยยิ้มงดงามราวดอกไม้ เธอพยักหน้ารับ “ค่ะ!”
ดูเหมือนนี่เป็นครั้งแรกที่เธอบอกเรื่องนี้กับคนอื่น! ให้ความรู้สึกต่างไปจากเดิมจริงๆ
……
……
ขณะเดียวกัน ภายในห้องหัตถการ คนกลุ่มหนึ่งกำลังดูคลิปการผ่าตัดพลางพูดคุยวิเคราะห์กันไปด้วย
“ถ้าเสี่ยวเฉินไปช้าอีกนิดเดียว ผู้บาดเจ็บคนนี้คงแย่แน่ เสียเลือดยังไม่ต้องพูดถึง แถมยังมีเส้นเลือดใหญ่เสียหายอยู่สองเส้น ม้ามแตก อวัยวะในช่องท้องก็เสียหายไปหลายส่วน…”
โจวหงกวงมองภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏแล้ววิเคราะห์อย่างรวดเร็ว
เฉียนเลี่ยงและจางโหย่วฝูย้อนคิดไปถึงสถานการณ์ในตอนนั้น พวกเขาดีใจจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินชาง ผู้บาดเจ็บอาจเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้ แม้จะกล่าวกันว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์คือหนึ่งถึงสองชั่วโมงแรก แต่หากเลือดออกมากขนาดนี้และคุณมาช้าไปอีกสองชั่วโมง ผู้บาดเจ็บยังจะรอดอีกหรือ
หลี่เป่าซานพยักหน้า “ครับ ตอนนั้นผู้บาดเจ็บช็อกไปในที่เกิดเหตุด้วยครับ เพราะหลอดเลือดแดงบริเวณม้ามและหลอดเลือดแดงในช่องท้องซึ่งเป็นหลอดเลือดสำคัญเสียหายมาก ทำให้เลือดพุ่งอย่างกับน้ำพุเลยครับ”
พวกเขากล่าวได้โดยไม่มีข้อสงสัยเลยสักนิดว่าเฉินชางคือผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บหญิงคนนั้น!
ภาพการผ่าตัดเปลี่ยนไป ช่วงขั้นตอนทำความสะอาดบาดแผลถูกกดกรอผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงช่วงรักษาอาการบาดเจ็บในช่องท้อง ทุกคนต่างมองดูด้วยอารมณ์อันหลากหลาย
ไม่นานก็ถึงขั้นตอนรักษาม้าม ทันทีที่ทุกคนเห็นม้ามต่างก็พากันกลั้นหายใจ เพราะทุกคนทราบดีว่าเคสอย่างนี้เก็บม้ามไว้ได้ไม่มากแล้ว! คนเราจะหวังมากขนาดนั้นได้ที่ไหนกัน หากช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เรื่องอื่นก็พูดง่ายแล้ว
ทว่าฉากต่อไปทำให้ทุกคนตกตะลึงจนตาค้าง! พวกเขาพบว่าการผ่าตัดต่อจากนั้นไม่ใช่การผ่าตัดเพื่อตัดม้ามออก!
แต่…นั่นเขาทำอะไรน่ะ
หยิบคีมจับเข็มขึ้นมาทำไม
เย็บหลอดเลือด!
ทันใดนั้น ทุกคนถึงกับตาค้าง
โจวหงกวงรีบบอกให้หยุดคลิป เขามองหลี่เป่าซานด้วยสีหน้าฉงนสงสัย “หัวหน้าหลี่…นี่เย็บหลอดเลือดในม้ามเหรอครับ”
หลี่เป่าซานพยักหน้า “ใช่ครับ!”
โจวหงกวงตกตะลึงไปทันที
ลักษณะโครงสร้างของหลอดเลือดภายในม้ามค่อนข้างซับซ้อน เมื่อม้ามถูกกระแทกอย่างแรงจนหลอดเลือดฉีกขาดจะทำให้มีเลือดออกในม้ามเป็นจำนวนมากทั้ งยังทำให้ม้ามบวมจนผิดปกติและแตกได้ง่าย! หากเย็บหลอดเลือดตอนนี้จะเป็นการเพิ่มความเสียหายให้ม้ามโดยไม่ต้องสงสัยเลย!
แต่…
ไม่นานโจวหงกวงก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา เขารู้แล้วว่าเหตุใดต้องทำเช่นนี้! นั่นเป็นเพราะพวกหลี่เป่าซานไม่ต้องการตัดม้ามออกมากเกินไป เพราะผู้ป่วยเพิ่งอายุสามสิบต้นๆ ชีวิตข้างหน้ายังอีกยาวไกล
ตอนนี้ม้ามของผู้ป่วยเพิ่งเสียหายเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเย็บหลอดเลือดแล้วก็จะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ…อย่างน้อยก็แค่ตัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วรอบๆ ออกไปเท่านั้น ทว่าความยากและความอันตรายของการผ่าตัดจะเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล!
คิดแล้วโจวหงกวงก็ต้องสูดหายใจลึก!
“ลดความเร็วคลิปให้กลับไปที่ความเร็วปกติด้วยครับ”
ย่วนย่วนพยักหน้าทำตามคำขอ ไม่นานคลิปก็ถูกลดความเร็วเป็นปกติ โจวหงกวงมองดูภาพในคลิป มองดูมือคู่นั้นที่เย็บหลอดเลือดอย่างรวดเร็วและประณีต…มองจนเขาต้องขมวดคิ้ว!
“ขอความเร็วปกติครับ ไม่ต้องเร่ง”
ย่วนย่วนชะงัก ฉันก็กดความเร็วปกติแล้วนะคะ ก็กดให้เล่นที่ความเร็ว 1.0 แล้วนี่ไง
“หัวหน้าคะ นี่เป็นความเร็วปกติแล้วค่ะ” ข่งย่วนย่วนอดพูดขึ้นไม่ได้
โจวหงกวงชะงักไปโดยพลัน “จะเป็นไปได้ยังไง คนเราจะเย็บเร็วขนาดนั้นได้ที่ไหนล่ะ นี่แหละม้ามนะครับ…”
ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็พบว่าบริเวณมุมขวาบนของคลิปแสดงความเร็วที่ 1.0 จริงๆ
เขาถึงกับตกตะลึงไปทันที!
หลี่เป่าซานและเถามี่มองโจวหงกวง เห็นอีกฝ่ายทำหน้าราวกับเห็นผีก็พานให้รู้สึกสบายไปทั้งใจ!
“หัวหน้าโจว นี่เป็นความเร็วปกติแล้วครับ”
โจวหงกวงเบิกตากว้าง รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ!
นี่จะเป็นความเร็วปกติไปได้อย่างไรกัน นี่คือหลอดเลือดขนาดเล็กภายในม้าม ไม่ต้องพูดถึงปัญหาเรื่องโครงสร้างที่ซับซ้อนเลย ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาถึงเนื้อเยื่อรอบข้างให้ดี หากคุณเย็บเร็วเกินไป ก็จะอันตรายขึ้นไปอีก…แต่สิ่งที่ปรากฏคือภาพในความเร็วปกติแล้วจริงๆ!
นี่ทำให้โจวหงกวงต้องรีบเก็บความสงสัยกลับไป แทนที่ด้วยความตื่นตะลึงและสีหน้าพึงพอใจ!
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคนจริงๆ
คิดไม่ถึงว่าการมาตงหยางครั้งนี้จะทำให้เขาเปิดหูเปิดตา
คิดแล้วโจวหงกวงก็มองหลี่เป่าซาน สูดหายใจลึกๆ ครั้งหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเลื่อมใส กล่าวอย่างจริงจังว่า “นี่…หัวหน้าหลี่เย็บสินะครับ เทคนิคการเย็บและความเร็วระดับนี้ทำให้ผมตะลึงจริงๆ!”
หลี่เป่าซานได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสุขสบายไปทั้งใจ หากเขาเป็นคนเย็บจริงๆ ก็คงดี แต่น่าเสียดาย! หลี่เป่าซานได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
เขายังไม่ทันตอบอะไร จางโหย่วฝูก็ชิงพูดแทรกเสียก่อน “หัวหน้าหลี่ เสี่ยวเฉินเป็นคนเย็บใช่ไหมครับ”
หลี่เป่าซานเห็นใบหน้าเขาขาวๆ อ้วนๆ ของจางโหย่วฝูแล้วก็เกิดเหม็นขี้หน้าขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
ไอ้อ้วนนี่ จะปล่อยให้ฉันดีใจสักสองสาามวิไม่ได้เลยหรือไง
เมื่อเห็นหลี่เป่าซานไม่ตอบ เถามี่ก็พูดขึ้นว่า “อืม! ใช่ครับ เสี่ยวเฉินเป็นคนเย็บหลอดเลือด สุดยอดจริงๆ เลยนะครับ”
โจวหงกวงส่งเสียงครางในลำคอ รีบกลืนน้ำลายลงคอเพื่อระงับความตกใจ!
“เสี่ยวเฉินที่พวกคุณพูดถึง…ก็คือเฉินชางสินะครับ”
เฉียนเลี่ยงพยักหน้า “ครับ! ผมเคยเห็นเสี่ยวเฉินเย็บหลอดเลือดมาก่อนแล้วครับ ก็เก่งประมาณนี้แหละ”
โจวหงกวงได้ยินก็ต้องตกตะลึงไปอีกครั้ง ทำไมเฉินชางถึงได้เก่งขนาดนี้
เฉียนเลี่ยงกล่าวต่อไป “อันที่จริง…ลองดูสิครับ ส่วนที่สุดยอดที่สุดของเขาไม่ใช่แค่การเย็บเส้นเลือดเท่านั้นนะครับ พวกคุณลองดูสิ เขาทราบลักษณะโครงสร้างของหลอดเลือดในม้ามดีมาก หากทักษะและความรู้พื้นฐานไม่แน่นคงทำไม่ได้ขนาดนี้หรอกครับ!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉียนเลี่ยงก็กล่าวว่า “ลดความเร็วเหลือ 0.5!”
ย่วนย่วนพยักหน้า ในใจแอบ ‘กลอกตามองบน’ ใส่หัวหน้าแผนกผู้ยิ่งใหญ่จากเมืองหลวงคนนี้ไปรอบหนึ่ง
เป็นผู้เชี่ยวชาญจากในเมืองจริงหรือเปล่าเนี่ย ไม่มีมาดเอาซะเลย…
บทที่ 449 ลงคะแนน!
[ติ๊ง! เสื้อกาวน์ประณีต ไอเทมระดับสีม่วง ถักทอจากวัสดุพิเศษ ป้องกันความเสียหายจากของมีคมได้ (มีผล 3 ครั้ง)
คุณสมบัติเพิ่มเติม:
1. ความเร็วในการหลบหนี +5 (หลีกเลี่ยงการถูกล่าสังหาร)
2. กำลัง +5
คำอธิบาย: หลังจากสวมใส่จะทำงานอัตโนมัติ]
เฉินชางมองดูเสื้อกาวน์ประณีตตัวนั้น จู่ๆ ก็รู้สึกโศกเศร้าขึ้นมา! ไม่ใช่เพราะเสื้อกาวน์ดีไม่พอ แต่เป็นเพราะเสื้อกาวน์มันป้องกันส่วนคอไม่ได้ต่างหาก…ถ้าถูกแทงที่คอก็จบเลยไม่ใช่หรือ
เฉินชางถอนใจออกมา
ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไร อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวถูกคนอื่นแทง
ในฐานะที่เป็นหมอผ่าตัดผู้มีความเชี่ยวชาญและมั่นคงในด้านการงาน เขาควรเตรียมใจเรื่องเช่นนี้เอาไว้บ้าง
[หินเสริมแกร่ง: เพิ่มคุณสมบัติพลังกายของคุณถาวร 2 แต้ม]
เฉินชางกดใช้โดยไม่แม้แต่จะคิด รับรู้ถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้นมายี่สิบเปอร์เซ็นต์ได้อย่างชัดเจน ดีกว่าค่าความคล่องแคล่วของมืออะไรนั่นมากเลยทีเดียว ท่าทางหินเสริมแกร่งพวกนี้คงเป็นไอเทมระดับสูง
ส่วนรางวัลอย่างสุดท้ายก็คือเลือกรับทักษะการผ่าตัดที่ปรากฎในการผ่าตัดครั้งนี้ที่ตัวเองยังไม่มี
[กรุณาเลือก: ทักษะผ่าตัดซ่อมแซมม้าม ทักษะผ่าตัดกระดูกสะโพก…]
เฉินชางเลือก [ทักษะผ่าตัดซ่อมแซมม้าม] หากมีทักษะนี้ อย่างน้อยเมื่อถึงเวลาต้องรักษาม้ามที่เสียหาย เขาจะได้จัดการคนเดียวได้เลย
เมื่อเห็นรางวัลเหล่านี้แล้ว จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าการเปลี่ยนอาชีพเป็นศัลยแพทย์ตับและถุงน้ำดีจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเถอะ เพราะว่า…ขอเพียงตนนําวิทยานิพนธ์ไปให้เฉียนเลี่ยงดูก็คงกระตุ้นภารกิจคารวะอาจารย์ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงกระตุ้นระบบเกี่ยวกับศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีได้ด้วย
ทว่า…ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือจะต้องมีคะแนนอาชีพศัลยแพทย์หัวใจและศัลยแพทย์ทรวงอกถึงหนึ่งร้อยคะแนนก่อน ซึ่งค่อนข้างใช้เวลานาน
ไม่นานเจ้าหน้าที่ห้องไอซียูมารับตัวผู้ป่วยไปเพื่อสังเกตอาการและรักษาต่อ
……
……
ณ เวลานี้ ภายในที่จัดงานสัมมนาศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำปี การแข่งขันผ่าตัดจบไปนานแล้ว ผู้ได้รับรางวัลก็ขึ้นไปกล่าวคำขอบคุณในตอนบ่ายแล้ว
ผู้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ดีใจมาก เพราะมีคนใหญ่คนโตมาร่วมงานสัมมนาประจำปีในครั้งนี้มากมาย การได้ขึ้นเวทีใหญ่เช่นนี้ก็เท่ากับได้แสดงตัวต่อหน้าคนใหญ่คนโตทั้งหลาย นี่เป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว
หากสร้างความประทับใจให้คนใหญ่คนโตเหล่านี้ได้ย่อมเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เพียงแต่…คนใหญ่คนโตบางคนกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์!
โจวหงกวงเบื่อหน่ายเป็นอย่างยิ่ง เขาอยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นจริงๆ แต่ก็คิดว่าการทำเช่นนี้ในงานออกจะไม่เหมาะสมอยู่บ้าง จึงทำได้เพียงทอดถอนใจออกมา
ไม่ได้จะบอกว่างานสัมมนาประจำปีไม่มีอะไรน่าสนใจ กลับกัน งานสัมมนาของปีนี้มีคนหนุ่มสาวที่โดดเด่นมากมายเลยทีเดียว วิดีโอการผ่าตัดก็น่าสนใจและทำให้ทุกคนได้เปิดหูเปิดตามาก ทว่าโจวหงกวงกลับรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป ใช่แล้ว สิ่งที่ขาดก็คือเฉินชาง!
จุดประสงค์ที่เขามาร่วมงานก็คือเฉินชาง เขาถึงกับเรียกลูกศิษย์มาที่นี่ก็เพราะเฉินชาง อยากให้ลูกศิษย์มาดูคนเก่งของตงหยางสักหน่อย ให้พวกเขาเห็นโฉมหน้าใหม่ของแผนกฉุกเฉินว่าทำได้ดีเพียงใด แต่วันนี้มาร่วมงานก็แล้ว สิ่งที่ควรเห็นกลับไม่ได้เห็น แม้ผลงานของผู้อื่นจะควรค่าแก่การชื่นชม แต่ว่า…ยังคงห่างชั้นกับเฉินชางมากจนชัดเจนเกินไป
โจวหงกวงอดถอนใจไม่ได้ ช่างเถอะ งานจบแล้วรีบกลับดีกว่า…
ทางด้านเฉียนเลี่ยงและจางโหย่วฝูก็หน้าดำคร่ำเครียด ไม่ทราบว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เดิมทีตกลงกันไว้แล้วว่าจะให้เฉินชางเข้าร่วมการแข่งขัน ทว่ากระทั่งการแข่งขันจบแล้วเฉินชางก็ยังไม่มา แบบนี้จะไม่เป็นการขายหน้าคนอื่นเขาหรือ
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ เฉียนเลี่ยงก็รู้สึกกระอักกระอ่วน
พิธีกรเรียกเฉินชางหลายครั้งแต่เจ้าตัวก็ยังไม่มา สุดท้ายจึงข้ามไปเรียกคนต่อไป นี่ทำให้ใครหลายคนรู้สึกอับอายจริงๆ
เฉียนเลี่ยงหงุดหงิดจนไม่พูดไม่จา
ทำไมเฉินชางถึงไม่มา…แต่ไอ้หนูนั่นเป็นคนที่มีเหตุผล!
โทรไปหลายสิบสาย แต่ไม่รับสักสาย แล้วก็ไม่โทรกลับด้วย!
ทำอะไรอยู่!
จางโหย่วฝูเห็นท่าทางคล้ายกำลังเดือดดาลของเฉียนเลี่ยงจึงรีบอธิบายว่า “หัวหน้าเฉียนครับ บางที…เสี่ยวเฉินอาจติดธุระน่ะครับ”
จางโหย่วฝูให้อภัยเฉินชางได้ เพราะจะอย่างไรก็เป็นคนจากโรงพยาบาลเดียวกัน อีกทั้งยามปกติเสี่ยวเฉินก็ไม่ใช่คนหยิ่งจองหองอะไร เขากลัวว่าเฉียนเลี่ยงผู้นี้จะไม่พอใจมากกว่า
ถึงอย่างไรเฉียนเลี่ยงก็เป็นอันดับหนึ่งของวงการศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งมณฑลตงหยาง คอนเน็คชันและวงสังคมของเขาใหญ่มาก หากคนคนนี้วิจารณ์เฉินชางในทางไม่ดีคงแย่แน่
อันที่จริงคนที่กังวลใจที่สุดในงานนี้ยืนอยู่บนเวทีนั่นเอง ซึ่งก็คือฉินเยว่ผู้เป็นพิธีกร!
เธอสวมชุดกี่เพ้าตัวสวย ใบหน้าประดับรอยยิ้มสดใส แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เธอเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับเฉินชาง
ต้องทราบว่าเฉินชางไม่ใช่คนที่ชอบทำให้คนอื่นขายหน้า ทำงานมาสามปียังไม่เห็นเขามาสายแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นการที่อีกฝ่ายไม่มาร่วมงานจะต้องมีสาเหตุแน่นอน
คงไม่เกิดเรื่องอะไรกับเขาหรอกนะ
ตอนนี้ในใจของฉินเยว่ยังจะมีการแข่งขัน หรืองานสัมมนาประจำปีอะไรอยู่อีก สิ่งที่เธอคิดล้วนเกี่ยวข้องกับเฉินชางทั้งสิ้น
ต่อไปคือการสรุปผลโดยจะให้คนใหญ่คนโตแต่ละคนขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์และสรุปผลการแข่งขันผ่าตัดในวันนี้
เฉียนเลี่ยงขึ้นมาบนเวที ทั้งยังเชิญแพทย์ผู้มีชื่อเสียงในวงการศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งประเทศจีนขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์ด้วย
ทุกอย่างดำเนินไปตามกำหนดการ แม้เขาจะไม่พอใจ แต่จะทำให้งานสัมมนาศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของปีนี้ต้องล่าช้าเพราะเฉินชางเพียงคนเดียวไม่ได้
งานสัมมนาประจำปียังคงดำเนินต่อไป กิจกรรมต่อไปก็คือการเลือกคณะกรรมการสมาคม
จางโหย่วฝูมองทุกคนแล้วพูดว่า “ต่อไปเป็นเวลาของการเลือกคณะกรรมการแล้วครับ หวังว่าทุกท่านจะลงคะแนนอย่างจริงจังและยุติธรรม เลือกคนที่คุณคิดว่าเหมาะสมที่สุดในใจคุณนะครับ”
“รายการต่อไป ขอเชิญผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งตำแหน่งคณะกรรมการขึ้นมาพูดบนเวทีด้วยครับ”
ตำแหน่งคณะกรรมการที่ถูกเพิ่มเข้ามามีไม่มากนัก ทั้งหมดแค่ห้าตำแหน่งเท่านั้น ทว่ามีผู้ลงสมัครถึงสามสิบกว่าคน
ผู้สมัครทยอยขึ้นไปกล่าวอะไรง่ายๆ บนเวทีคนละสองนาทีตามลำดับ ทุกคนเต็มไปด้วยความมั่นใจ ส่วนใหญ่เป็นแพทย์เจ้าของไข้อายุประมาณสี่สิบปีที่ทำงานมานานแล้ว เฉินปิ่งเซิงก็ขึ้นไปพูดด้วยเช่นกัน ในคำแนะนำตัวของเขากล่าวว่าเขาเป็นผู้นิพนธ์อันดับหนึ่งของวิทยานิพนธ์ที่ได้ตีพิมพ์กับวารสาร ‘การปลูกถ่ายตับ’ นี่ทำให้ทุกคนในงานฮือฮาขึ้นมาทันใด
ตำแหน่งคณะกรรมการมีอยู่ห้าตำแหน่ง ดูเหมือนเหล่าเฉินจะถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในนั้นแน่แล้ว!
เมื่อถึงเวลาของเฉินชางก็ยังคงไม่มีใครขึ้นไป จางโหย่วฝูถอนใจออกมา
หากเสี่ยวเฉินอยู่คงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน แต่ว่า…
เขาได้แต่ถอนใจออกมาอีกครั้ง
ทำอะไรไม่ได้แล้ว…
จากนั้นก็เป็นเวลาของการลงคะแนน
การลงคะแนนในปัจจุบันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน โดยจะให้ลงคะแนนผ่านทางวีแชท ตำแหน่งประธานจะมีคะแนนเสียงมากที่สุด รองลงมาก็คือตำแหน่งกรรมการ สุดท้ายจึงจะเป็นสมาชิก
ในขณะที่ทุกคนเตรียมลงคะแนนกันนั้นเอง จู่ๆ ก็มีข่าวเด้งขึ้นมา ทุกคนเตรียมปัดทิ้งด้วยความเคยชิน แต่กลับเห็นข่าวของวันนี้เข้าเสียก่อน
“เช้าวันนี้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ขึ้นข้างโรงหนังจงหนาน ถนนผิงเถียว ผู้ใช้ถนนสองรายถูกรถเก๋งคันหนึ่งชนจนบาดเจ็บสาหัสเป็นอันตรายถึงชีวิต หมอหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือ…หลังจากความพยายามในการรักษาสิบกว่าชั่วโมง สุดท้ายก็รักษาสำเร็จ ตามที่นักข่าวของเราทราบมา วันนี้หมอเฉินชางต้องไปร่วมงานสัมมนาปีของสามคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีในตอนเช้า…”
“แต่เมื่อพบสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงตัดสินใจทิ้งเรื่องของตนเองไปอย่างเด็ดขาดและเข้ามารักษาเพื่อช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ ซึ่งการรักษาในครั้งนี้ใช้เวลาไปสิบกว่าชั่วโมง ไม่ได้กินไม่ได้ดื่ม สุดท้ายก็ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บสำเร็จ! เพราะมีหมออย่างคุณหมอเฉินชาง ชีวิตของพวกเราจึงสงบปลอดภัย!”
“ตอนนี้คนขับที่ชนแล้วหนีถูกตำรวจจับตัวได้แล้ว ผู้ต้องสงสัยก็คือ…”