บทที่ 492 ตอนนี้จบเห่แล้ว!
การรับประทานอาหารมื้อนี้ถือว่าปรองดองกัน ทุกคนเข้ากันได้ดีมาก
ทุกคนพูดคุยเคล้าเสียงหัวเราะ แต่ติดที่ฐานะของข่งเสียงหมิน ย่อมไม่อาจพูดซี้ซั้วได้ และไม่สะดวกพูดเรื่องอื่นมากนัก ดังนั้น…ทุกคนจึงเริ่มคุยกับเฉินชางแทนเสียเลย
การสนทนานี้…ทำให้เฉินชางกลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมหนึ่งเดียวในใต้หล้า
เมื่อบรรยากาศเป็นใจแล้ว ทุกคนก็ปลดปล่อยเต็มที่ เริ่มพูดคุยกันแล้ว
ส่วนข่งเสียงหมินก็มองฉินเสี้ยวยวน “ผู้อำนวยการฉิน เมื่อคืนผมได้ยินหัวหน้าแผนกต้วนบอกว่าคุณพบปัญหานิดหน่อยเหรอ”
ฉินเสี้ยวยวนอึ้งทันที แล้วก็ตอบพร้อมรอยยิ้ม “เรื่องเล็กครับเรื่องเล็ก ไม่รบกวนผู้อำนวยการดีกว่า”
ข่งเสียงหมินยิ้มให้เขา “ไม่เป็นไรครับ บอกมาได้เลย มีเรื่องอะไร”
ฉินเสี้ยวยวนนึกไม่ถึงว่าข่งเสียงหมินมุ่งมั่นจะช่วยตนขนาดนี้ ถึงได้ตอบว่า “เช้าตรู่เมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่ผมเดินผ่านแผนกฉุกเฉิน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายข้างใน แล้วก็เจอผู้ชายคนหนึ่ง เขา…”
ฉินเสี้ยวยวนเล่าออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ จากนั้นก็บอกเรื่องที่ตัวเองตำหนิจูเซวียนเหวินด้วย
“วันนี้หัวหน้าแผนกต้วนมาบอกผมว่า ช่วงนี้จูเซวียนเหวินเหมือนยุยงให้คนมาฟ้องร้องเรื่องผม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรจริงๆ ครับ”
หลังจากได้ฟังแล้ว ข่งเสียงหมินก็พยักหน้าเล็กน้อย
ฮั่วกว๋อชิ่งที่อยู่ข้างกันเข้าใจกระจ่างทันที เขามองฉินเสี้ยวยวน “ผู้อำนวยการฉิน นั่นคือคุณเองเหรอ! เมื่อสองวันก่อนผมยังเห็นคลิปนี้ในโต่วอิน[1]อยู่เลย”
ทุกคนเริ่มอยากรู้อยากเห็นทันที ฮั่วกว๋อชิ่งตบต้นขาแล้วพูดกับทุกคนว่า “วันนั้นผู้อำนวยการฉินพูดได้ดีมากจริงๆ ผมดูแล้วฮึกเหิมเลย อ้อ ใช่ เดี๋ยวผมเปิดคลิปให้ทุกคนดู”
ดังนั้น โทรศัพท์มือถือจึงส่งมาที่ข่งเสียงหมินก่อน เห็นได้ชัดว่าคลิปเคยถูกตัดมาแล้ว แต่ดูได้ลื่นไหลมาก
ได้ยินชัดเจนว่าจูเซวียนเหวินด่าทอและสบประมาทบุคลากรทางการแพทย์
‘คุณคิดว่าผมเหมือนคุณหรือไง งานที่พวกคุณทำมันไร้ความหมาย คนหลายร้อยรอกินข้าวกับผมอยู่!’
‘คุณเชื่อไหมว่ารายได้ชั่วโมงเดียวของผมเยอะกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของคุณอีก!’
‘คอยดูเถอะ เก่งนักก็อย่าออกจากโรงพยาบาลแล้วกัน!’
‘ฉันทนกับเธอมามากพอแล้ว กฎเหรอ กฎข้อบังคับก็เป็นมนุษย์กำหนดขึ้นมานี่แหละ!’
‘…’
คำพูดพวกนี้ ข่งเสียงหมินฟังจนเสียดหู เดิมทีเขากับภรรยามีพื้นเพมาจากตำแหน่งงานด้านเทคนิค ข่งเจียฮุยก็เหมือนกัน เนื่องจากพวกเขาเคารพบุคลากรด้านเทคนิคพวกนี้มาก พอได้ยินจูเซวียนเหวินทำตัวเป็นคนรวยไร้มารยาทก็โมโหทันที!
ดูมาถึงช่วงท้าย ทุกคนก็เห็นฉินเสี้ยวยวนสั่งสอน
“คุณลืมของหรือเปล่า!”
“ถ้าคุณไม่อยากรักษาศักดิ์ศรีหน้าตาของตัวเองแล้วก็อย่าเอามาทิ้งเป็นขยะเรี่ยราด เดี๋ยวคนอื่นเขาจะรังเกียจเอาได้ อย่าลืมเก็บเศษหน้าไปด้วยนะครับ ทำลายสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาลหมด!”“งานที่พวกคุณทำเป็นงานที่มีความหมายมากนะครับ ไม่ว่าใครก็มาแทนพวกคุณไม่ได้! ขอแค่มีพวกคุณอยู่ที่โรงพยาบาล จัดการเรื่องราวไปตามกฎข้อบังคับของโรงพยาบาล โรงพยาบาลก็จะเป็นที่พึ่งให้พวกคุณ!”
……
คำพูดเหล่านี้ทำให้ทุกคนเงียบลงทันที เขาช่างเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ดีจริงๆ!
พอได้ยินตรงนี้ ข่งเสียงหมินก็อดยกนิ้วหัวแม่มือให้ฉินเสี้ยวยวนไม่ได้ “ผู้อำนวยการฉินเป็นแบบอย่างที่ดี! พูดได้ดี!”
“พวกเราต้องการผู้อำนวยการโรงพยาบาลแบบคนนี้แหละ ปกป้องผลประโยชน์ของบุคลากรอย่างแท้จริง!”
หลังจากพูดจบ ข่งเสียงหมินก็มองจูเซวียนเหวินที่อยู่ในคลิปอย่างเหยียดหยาม แล้วถามว่า “เขาคือใคร”
“เขาชื่อจูเซวียนเหวิน เป็นหัวหน้าวิศกรบริษัทจื้อต๋าคอนสตรัคชั่น” ฉินเสี้ยวยวนตอบ
ข่งเสียงหมินฟังแล้วพยักหน้า “อืม ผมรู้แล้ว”
หลังจากทุกคนดูคลิปจบรอบหนึ่ง เขาก็ปรบมือทันที “ผู้อำนวยการฉินเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นต้นแบบที่ผมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”
อาหารมื้อนี้ใช้เวลากินไปหนึ่งชั่วโมง ทุกคนถึงได้ทยอยแยกย้าย
ข่งเสียงหมินกับภรรยามองข่งเจียฮุย หยิบกล่องข้าวมาห่ออาหารบำรุงร่างกายแล้วส่งให้
อยู่ต่ออีกไม่นานก็ออกไปแล้ว
เรื่องของข่งเจียฮุย ลูกชายผู้อำนวยการข่ง ตอนนี้ถือว่าเก็บเป็นความลับชั่วคราว ไม่ให้คนรู้มากเกินไป
ข่งเสียงหมินบอกกับภรรยาว่า “คุณกลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวผมจะไปออฟฟิศสักรอบ”
ภรรยาพยักหน้า “อืม ได้ค่ะ ช่วงนี้ฉันจะมาดูแลลูกเอง ฉันจะลาหยุด”
ข่งเสียงหมินพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอ
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับลูกตัวเอง ในฐานะคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่ว่าใครก็เป็นห่วงมากทั้งนั้น
พอข่งเสียงหมินเดินออกจากประตูโรงพยาบาล คนขับรถก็รีบเข้ามาจอดรถทันที
หลังจากรถหยุดแล้ว ข่งเสียงหมินก็บอกกับคนขับว่า “ไปส่งผมที่รัฐบาลมณฑลก่อน”
คนขับรถพยักหน้า แล้วขับรถพาเขาไปส่งที่รัฐบาลมณฑล
บนรถยนต์ ข่งเสียงหมินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร “ช่วยฉันสืบเรื่องใครบางคนให้หน่อย ชื่อจูเซวียนเหวิน บริษัทจื้อต๋าคอนสตรัคชั่น ใช่แล้ว สืบเรื่องบริษัทให้ฉันด้วย”
ถ้าเป็นเรื่องของฉินเสี้ยวยวน เดิมทีก็เต็มใจช่วยอยู่แล้ว แต่ตอนที่ข่งเสียงหมินเห็นคลิปวิดีโอ เขาก็ไม่ได้รู้สึกแค่โมโหเฉยๆ แล้ว
พฤติกรรมที่ใช้อำนาจรังแกคนอื่นแบบนี้ เป็นอะไรที่ขัดหูขัดตาเขาที่สุด
ไม่สนกฎระเบียบเกินไปแล้ว
เขาพอจะรู้จักบริษัทจื้อต๋าคอนสตรัคชั่นอยู่บ้าน ถึงอย่างไรก็มีโครงการของรัฐบาลมากมายในเมืองอันหยางที่ทำให้ได้ร่วมงานกัน ถ้าจูเซวียนเหวินเป็นคนประเภทนี้ ตอนนี้เขาก็เริ่มกังวลแล้วว่างานพวกนี้จะมีปัญหาหรือเปล่า!
พอนึกถึงตรงนี้ ข่งเสียงหมินก็ตัดสินใจสืบข้อมูลบริษัทนี้ดูสักหน่อย ถ้ามีการทุจริต มีการใช้วัสดุก่อสร้างไร้คุณภาพ หรือปัญหาอย่างอื่น เขาก็จะตัดสินใจลงโทษอย่างหนัก!
……
……
หลังจากข่งเสียงหมินออกไปแล้ว คนที่โล่งใจที่สุดก็คือเฉินกว๋อฮว๋า ถ้าข่งเจียฮุยเสียมือไป เขาก็จะต้องรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต!
ของบางอย่างชดเชยไม่ไหวจริงๆ
ฐานะของข่งเจียฮุยก็พิเศษมากเช่นกัน มีการไปมาหาสู่ระหว่างสองตระกูล ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา…
พอนึกถึงตรงนี้ เฉินกว๋อฮว๋าก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
แต่ยังดีที่อีกฝ่ายหายดีแล้ว!
เขามองเฉินชางด้วยความซาบซึ้งใจ “เสี่ยวเฉิน วันนี้โชคดีที่มีคุณ ไม่อย่างนั้นผมต้องรู้สึกผิดไปจนตายแน่!”
“คุณพูดเกินไปแล้วครับ นี่เป็นงานของผม” เฉินชางตอบกลั้วหัวเราะ
เฉินกว๋อฮว๋าก็หัวเราะตามเช่นกัน ตอนนี้หายกังวลแล้ว รู้สึกว่าหายใจโล่งขึ้นเยอะ
เฉินกว๋อฮว๋าพยักหน้า แล้วทิ้งช่องทางติดต่อไว้ให้เฉินชาง “เสี่ยวเฉิน วันนี้ผมต้องกลับเมืองจิ้นหยางแล้ว ถ้ามีเวลาว่างก็ไปเที่ยวที่นั่น ผมจะดูแลคุณเอง”
เฉินชางชะงักไปครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้มทันที “ผู้ว่าการเฉิน บังเอิญจังเลยครับ ผมก็เป็นคนเมืองจิ้นหยางเหมือนกัน บ้านเกิดอยู่เมืองจิ้นหยาง อำเภอตงฉาง”
พอเฉินกว๋อฮว๋าได้ยินเฉินชางพูดแบบนี้ ก็เริ่มหัวเราะอีก “บังเอิญจริงๆ!”
เฉินชางพยักหน้า เขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน
“อืม ถ้ากลับบ้านแล้วโทรหาผมด้วย ถึงตอนนั้นเราค่อยนัดเจอกันอีก” เฉินกว๋อฮว๋ากล่าว
เฉินชางพยักหน้า จากนั้นก็แยกย้ายกัน
……
……
คืนวันนั้น ในมือข่งเสียงหมินถือข้อมูลอยู่ฉบับหนึ่ง บนนั้นเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับจูเซวียนเหวินและบริษัทจื้อต๋าคอนสตรัคชั่นของเขา รวมทั้งเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลังจูเซวียนเหวิน เป็นข้อมูลที่ละเอียดมาก มีหมดทุกอย่าง
หลังจากอ่านจบ ข่งเสียงหมินก็สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง!
ไม่แปลกใจที่คนประเภทนี้ทำตัวอันธพาล เขาควรจะถูกลงโทษ แต่ก็ต้องเห็นแก่หน้าข้าราชการระดับสูง…
พอคิดได้แบบนี้ ข่งเสียงหมินก็เงียบไปพักหนึ่ง แล้วโทรศัพท์หาเลขา “พรุ่งนี้แปดนาฬิกา จัดประชุมเรื่องการก่อสร้างสักรอบ”
ตอนเช้าวันต่อมามีการจัดประชุม
ข่งเสียงหมินมองทุกคนในที่ประชุม พร้อมกล่าวเสียงเรียบว่า “ตั้งแต่วันนี้ไป โครงการก่อสร้างทั้งหมดจะประกาศประมูล จะสร้างทีมกำกับควบคุมขึ้นมาโดยเฉพาะ ผมเป็นหัวหน้าทีม แล้วก็อีกเรื่อง ต่อไปนี้บริษัทจื้อต๋าคอนสตรัคชั่นห้ามเข้าร่วมแข่งประมูล บริษัทไหนก็ตามที่เกี่ยวข้องกับจูเซวียนเหวิน พิจารณาตัดทิ้งก่อน!”
พอข่าวนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมก็ตะลึงค้างทันที!
ชัดเลย จูเซวียนเหวินคนนี้…ไปมีเรื่องกับคนใหญ่คนโตเข้าแล้ว
แต่ก็สมน้ำหน้า คนในที่ประชุมพอจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนอย่างนี้
ตอนนี้จบเห่แล้ว!
[1] โต่วอิน 抖音 แอปพลิเคชั่น Tiktok เวอร์ชันจีน
บทที่ 487 เอ่อ…ทำตามอำเภอใจขนาดนี้เลยเหรอ
หลังจากแบ่งงานเรียบร้อยแล้ว ทั้งทีมก็เริ่มทำงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระเบียบรวดเร็ว!
การผ่าตัดต่ออวัยวะเป็นเรื่องซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์จำเป็น การจัดสรรบุคลากร หรือกระบวนการผ่าตัดล้วนยุ่งยาก
หัวหน้าพยาบาลหลี่อิงลงสนามด้วยตัวเอง เธอรีบจัดเตรียมห้องผ่าตัดและอุปกรณ์สำหรับผ่าตัดเอาไว้ครบครัน
ข้างเตียงผ่าตัดเตรียมโต๊ะปลอดเชื้อไว้สามตัว ตัวหนึ่งใช้วางมือขวาที่ขาด ตัวหนึ่งใช้สำหรับผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออก อีกตัวใช้วางอุปกรณ์ผ่าตัด
วิสัญญีแพทย์ยังคงเป็นหลิวเจี้ยน ที่จริงควรจะเป็นผู้อำนวยการเฒ่าที่เข้าห้องผ่าตัด แต่ผู้อำนวยการเฒ่าได้แต่ยิ้มแล้วให้หลิวเจี้ยนไปทำแทน
โอกาสแบบนี้ ผู้อำนวยการเฒ่าไม่สนใจแล้ว เขาให้โอกาสหลิวเจี้ยนแทน
ต้องกล่าวว่า ในกระบวนการผ่าตัด วิสัญญีแพทย์มีฐานะสูงมาก ครั้งนี้ถือเป็นหนี้น้ำใจ หลังจากการผ่าตัดจบลงแล้ว คนตระกูลข่งก็จะต้องดูแลบุคลากรเหล่านี้แน่นอน นี่คือโอกาสดีในการสร้างเครือข่ายสำหรับหลิวเจี้ยน
สำหรับเรื่องนี้ หลิวเจี้ยนเองก็ซาบซึ้งใจต่อผู้อำนวยการเฒ่าเหมือนกัน!
ในชีวิตคนเรามักจะเจอบุคคลผู้ทรงคุณค่าอยู่ไม่กี่คน บุคคลผู้ทรงคุณค่าของฉินเสี้ยวยวนก็คืออาจารย์ฝางยงหลิน ส่วนบุคคลผู้ทรงคุณค่าของหลิวเจี้ยนก็คือผู้อำนวยการเฒ่า
เมื่อถึงเวลาสำคัญ บุคคลผู้ทรงคุณค่าเหล่านี้มักจะผลักดันและให้โอกาสบางอย่างกับคุณเสมอ นี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตคุณ!
เนื่องจากผู้ป่วยมือขวาขาดอย่างเดียว ครั้งนี้จึงไม่ต้องวางยาสลบ วิสัญญีแพทย์เลือกใช้วิธีฉีดยาชาเข้าช่องชั้นเหนือดูรา[1] ซึ่งเป็นวิธีที่ส่งผลกระทบต่อระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือดทั้งร่างกายน้อยที่สุด แต่กลับขยายเวลาการออกฤทธิ์ของยาชาตามความความต้องการได้
หลิวเจี้ยนมีพื้นฐานความรู้แน่นมาก หลังจากกำชับงานแล้วให้ยาชาได้สักพัก การผ่าตัดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!
ขั้นตอนแรกก็คือการผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออก[2] ทำแบบนี้เพื่อป้องกันติดเชื้อ เป็นพื้นฐานที่จะทำให้การผ่าตัดต่ออวัยวะสำเร็จ
การต่อเส้นเลือดที่ยังมีคุณภาพสูงคือกุญแจสำคัญอันจะทำให้อวัยวะที่ขาดไปกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
การซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกและเส้นประสาท ก็คือหลักประกันว่าอวัยวะจะฟื้นฟูการทำงานได้
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องจัดการแต่ละขั้นตอนอย่างตั้งใจ
การผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออกไม่ใช่แค่การทำความสะอาดบาดแผล แต่เป็นขั้นตอนที่จะทำให้เข้าใจเนื้อเยื่อที่เสียหายมากขึ้น
สำหรับเฉินชาง ขั้นตอนนี้สำคัญต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับแผนผ่าตัดต่อมือในช่วงต่อไปมาก
ดังนั้นเฉินชางจึงตัดเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออกอย่างจริงจังมาก เขาใช้เวลาไปไม่น้อยเพื่อทำความเข้าใจรายละเอียดของเส้นเลือด เส้นประสาท เส้นเอ็นและกระดูก!
เฉินชางใช้น้ำสบู่ปลอดเชื้อและแปรงฆ่าเชื้อล้างอวัยวะที่ขาดทั้งสองฝั่งรอบแล้วรอบเล่า จากนั้นใช้น้ำเกลือชนิดเข้มข้นสูงจำนวนมากล้างทำความสะอาด
ขั้นตอนสำคัญต่อมาก็คือผ่าตัดนำเนื้อเยื่อที่เสียหายและสิ่งแปลกปลอมออกจากแผลให้หมด!
การผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออกคืออะไร
ไม่ใช่แค่การล้างผิวบาดแผลแน่นอน!
แต่ยังรวมถึงการตัดแต่งผิวบาดแผลด้วย
ต้องดูผิวหน้าตัดเนื้อเยื่อว่ามีเลือดออกหรือไม่ มีสภาพและสีเป็นอย่างไร เพื่อตัดสินว่าเนื้อเยื่อยังมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต และต้องตัดทิ้งหรือเปล่า
เฉินชางใส่ใจรายละเอียดและจริงจังมาก
เพราะนี่คือสิ่งที่จะรับประกันความสำเร็จของการผ่าตัดครั้งนี้ และเป็นปัจจัยสำคัญของการฟื้นฟูอวัยวะในภายหลัง
ทุกคนที่อยู่ในห้องผ่าตัดต่างก็รู้ถึงระดับความยาก ย่อมรวบรวมสมาธิเฝ้าสังเกตอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออกก็คือหนึ่งในสิ่งที่เขาถนัดที่สุด!
เนื่องจากตาของเฉินชางมองเห็นเนื้อเยื่อที่ตายแล้วได้ชัดเจน จากนั้นก็ทำความสะอาดทีละนิด บางทีก็ตัดเล็ม บางทีก็ตัดทิ้ง หรือไม่ก็เก็บรักษาไว้
ตอนนี้ ฮั่วกว๋อชิ่งอดถามไม่ได้ว่า “หมอเฉิน…คุณไม่ต้องทำสัญลักษณ์หรือครับ”
เฉินชางชะงักนิดหน่อย แต่ยังไม่ทันตอบ ถานจงหลินก็ส่ายหน้าบอกใบ้ฮั่วกว๋อชิ่งว่า อย่ารบกวนคุณหมอเฉินชาง
โดยทั่วไป ก่อนตัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออก จะต้องนำไหมดำผูกปลายเส้นประสาทและเส้นเลือดที่สำคัญก่อน ตอนหลังจะได้หาสะดวก
แต่เฉินชางไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย เพราะหลังจากผูกปลายเส้นประสาทและเส้นเลือดแล้ว ตอนหลังก็จะเกิดความเสียหายต่อเนื่อง อีกทั้งเฉินชางก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยวิธีนี้เพื่อแยกแยะ เพราะเขาแยกเส้นประสาท เส้นเลือด เส้นเอ็นทุกเส้นได้ชัดเจน…
สำหรับเขา เวลาทุกนาทีสำคัญมาก
เรื่องแบบนี้ ถานจงหลินกับอันเยี่ยนจวินที่ตามเฉินชางเข้าห้องผ่าตัดบ่อยๆ เข้าใจดี!
นี่คือสิ่งที่คนอื่นลอกเลียนแบบไม่ได้ เพราะต้องมีความเข้าใจเรื่องเนื้อเยื่อและโครงสร้างมากพอ ทั้งยังต้องมีความสามารถในการจดจำระดับอัจฉริยะด้วย!
การเลือกเก็บ หรือตัดเส้นเอ็น ผิวหนังและเส้นประสาททิ้ง ก็คือข้อต่อที่สำคัญที่สุดของการผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออก
เฉินชางมีมาตรฐานของตัวเอง ขอเพียงระบบแจ้งเตือนว่าต้องตัดออกให้หมด ก็หมายความว่าเนื้อเยื่อพวกนี้เกินเยียวยาแล้ว
แต่ในสายตาของคนอื่น เฉินชางกลายเป็นคนที่เด็ดขาด เฉียบคม มั่นคง แม่นยำและเด็ดเดี่ยวไปแล้ว!
เขาเลือกเส้นประสาทและเส้นเอ็นแต่ละเส้นได้เหมาะสมมาก
ทำให้คนอดทึ่งไม่ได้!
การผ่าตัดเคสนี้ เริ่มตั้งแต่การผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออก เฉินชางใช้ศักยภาพสยบหัวหน้าแผนกทุกคนที่อยู่ตรงนี้ได้แล้ว
สำหรับข้อมือที่มีบาดแผลใหญ่ มีความละเอียดอ่อนสูง มีเส้นประสาทกับเส้นเอ็นหนาแน่นขนาดนี้ พอเฉินชางเริ่มลงมือผ่าตัด ตัวเขาก็ราวกับเป็นเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง
ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เฉินชางถึงได้ผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออกสำเร็จ!
พอลองคิดดูให้ดี ระยะเวลาที่มือขาดก็ผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว
เฉินชางเริ่มจริงจัง!
เวลาทุกนาทีหมายถึงความเสียหายของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่มากขึ้น สิ่งนี้ส่งผลกับการฟื้นฟูการใช้งานฝ่ามือในภายหลัง เกี่ยวข้องกับคุณภาพการดำรงชีวิตของผู้ป่วยด้วย
ขั้นตอนนี้เหนื่อยมาก!
เฉินชางค่อนข้างอ่อนเพลีย ถึงอย่างไรก็เป็นขั้นตอนที่ละเอียด ถ้าตัดเนื้อออกมากไปก็ส่งผลกระทบได้ ถ้าตัดออกน้อยไปก็ส่งผลกับการสมานตัว การผ่าตัดกำจัดเนื้อตายที่ซับซ้อน การคัดเลือกที่แม่นยำ การตัดและการเล็มที่เด็ดขาดขนาดนี้…แม้แต่หัวหน้าแผนกทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะทำได้!
แต่หมอเฉินเพิ่งอายุเท่าไรเอง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ตอนที่ทุกคนเริ่มรู้สึกว่าเหนื่อยมาก ในที่สุดเฉินชางก็จัดการขั้นตอนนี้เรียบร้อยแล้ว!
เฉินชางวางมีดผ่าตัดลง แล้วบอกถานจงหลินว่า “เคลียร์หลอดเลือดฝอยที่มาเลี้ยงเนื้อเยื่อ ผมจะเตรียมดามกระดูก!”
ถานจงหลินไม่กล้าประมาท เขากับอันเยี่ยนจวินรีบเริ่มเคลียร์เส้นเลือด
การผ่าตัดต่ออวัยวะ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดต่อนิ้ว หรือผ่าตัดต่อแขน ก็ต้องเคลียร์หลอดเลือดฝอยที่มาเลี้ยงเนื้อเยื่อก่อน ไม่อย่างนั้นถ้ารีบต่อเส้นเลือดทันที หลังจากผ่าตัดก็จะมีโอกาสเกิดภาวะขัดขวางการไหลเวียนของเลือด[3]สูงมาก ทำให้เกิดเนื้อตายเพิ่มขึ้นอีก ถึงขั้นทำให้เกิดอาการป่วยทั้งร่างกาย เคสที่ต้องเสียชีวิตเพราะมือข้างเดียวก็มีไม่น้อย!
แต่ถานจงหลินกับอันเยี่ยนจวินเตรียมตัวมาอย่างดี ระมัดระวังรายละเอียดพวกนี้มาก!
เมื่อผ่าตัดอยู่ข้างกายเฉินชาง ทุกขั้นตอนล้วนต้องใส่ใจรายละเอียด เฉินชางจัดการเรื่องรายละเอียดได้เหมาะสมมาก ทำให้ศิษย์สองคนนี้ตื่นตัวเช่นกัน
หลังจากเคลียร์หลอดเลือดฝอยเสร็จ เฉินชางก็หยิบมือที่ขาดขึ้นมาเปรียบเทียบอย่างละเอียด!
การใช้สกรูยึดกระดูกก็คือขั้นตอนสำคัญของการผ่าตัดต่ออวัยวะ และเป็นโครงค้ำสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อด้วย
เงื่อนไขของการใส่โลหะยึดตรึงกระดูกภายในก็คือ: สะดวกรวดเร็ว มั่นคงและประหยัดเวลา!
นี่คือเวลาทดสอบฝีมือของศัลยแพทย์ ศัลยแพทย์หลักจะเชื่อมกระดูกให้รวดเร็วมั่นคงได้อย่างไร ถ้าไม่ได้ผ่านเคสผ่าตัดมานับร้อย ก็ไม่มีทางทำได้เลย
เนื่องจากกระดูกที่ได้รับบาดเจ็บมีความเสียหาย ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน หรือจะเชื่อมต่ออย่างไร ทุกอย่างล้วนสำคัญหมด
ตอนนี้หัวหน้าแผนกทุกคนกำลังมองเฉินชางอย่างใจจดใจจ่อ รอเฉินชางเชื่อมต่อมือ!
แต่แล้วทุกคนก็ต้องอึ้ง เพราะเฉินชางนำมือขึ้นมาต่อกันตามอำเภอใจ พร้อมบอกว่า “ใส่สกรูตรึงไว้!”
ถานจงหลินพยักหน้า อันเยี่ยนจวินช่วยเหลือ ส่วนฮั่วกว๋อชิ่งก็เหม่อไปเลย!
แม่งอะไรวะเนี่ย
ทำตามอำเภอใจขนาดนี้เลยเหรอ
ผู้ว่าการมณฑลข่งรู้เข้าจะไม่โกรธเหรอ!
การเชื่อมต่อกระดูกที่หักไม่จำเป็นต้องออกท่าทางเยอะ แต่ก็ต้องตั้งใจเปรียบเทียบเพื่อความถูกต้อง ที่คุณทำคือการเชื่อมต่อที่ไหนกัน นี่คือการนำมาวางไว้ด้วยกันตามอำเภอใจชัดๆ!
แต่ตอนนี้ พอเขาก้มหน้ามอง ภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาไม่มีทางลืมลงตลอดชีวิต!
สิ่งที่เรียกว่าฝีมือคืออะไร
ก็นี่ไงที่เรียกว่าฝีมือ!
คนที่รายล้อมทยอยกันเข้ามาดูใกล้ๆ แล้วเผยสีหน้าเหลือเชื่อ
[1] การฉีดยาชาเข้าช่องชั้นเหนือดูรา ( Epidural block) เป็นวิธีทำให้ผู้ป่วยชาเฉพาะส่วนที่จะทำการผ่าตัด หรือทำหัตถการ โดยแพทย์อาจฉีดยาชาบริเวณเส้นประสาทที่เกี่ยวข้อง หรือฉีดเข้าช่องน้ำไขสันหลัง โดยทั่วไปผู้ป่วยจะรู้สึกตัวตลอดการผ่าตัด
[2] การผ่าตัดนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออก (wound debridement) เป็นวิธีกำจัดเนื้อที่ตายไปแล้ว หรือเนื้อเยื่อที่ปนเปื้อน รวมทั้งสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ออกจากแผล เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคทำให้เลือดไปเลี้ยงแผลไม่ได้ แผลที่ไม่สะอาดจะหายช้า หรือไม่หายเลยและอาจติดเชื้อ
[3] ภาวะขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ภาวะผิดปกติในระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่ได้ หรือติดขัดในการไหลเวียน
