บทที่ 522 เป็นบุคคลที่เก่งกาจจริงๆ!
นี่คือผู้ป่วยที่อาการล่อแหลมที่สุดในชีวิตที่เฉินชางเคยเจอมา!
ไม่เคยมีเคสแบบนี้สักคน!
อาการล่อแหลมที่สุดไม่ได้แปลว่าอาการร้ายแรงที่สุด มีผู้ป่วยอาการร้ายแรงมากมายที่เฉินชางไม่มีทางช่วยชีวิตได้เลย
แต่ตอนนี้เฉินชางรู้สึกว่ายังมีโอกาส!
ที่จริงตอนนี้ การการถ่ายภาพเอกซเรย์มาวินิจฉัยเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด แต่…มีเวลากลับไปทำแบบนี้เสียที่ไหน
ผู้ป่วยความดันโลหิตใกล้เสียชีวิตแล้ว เอออร์ตาส่วนขึ้นปริแตก ตามด้วยภาวะบีบรัดหัวใจ ทั้งยังไม่แน่ใจด้วยว่าหัวใจเกิดความเสียหายหรือเปล่า ถ้าดูจากสถานการณ์ที่ดำเนินไป ผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตจริงๆ ก่อนส่งตัวถึงโรงพยาบาล
ช่วงนี้เฉินชางหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคของแผนกศัลยกรรมหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะการรักษาฉุกเฉิน
เขาจำบันทึกที่อยู่ในวารสารฉบับล่าสุดได้อย่างชัดเจน ในอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีที่แล้วของประเทศสหรัฐอเมริกา มีความเป็นไปได้ประมาณ 15% ที่จะเกิดความเสียหายกับหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนอก ส่วนการปริแตกของเอออร์ตาส่วนขึ้นมีเพียง 5% เท่านั้น และในจำนวน 5% นี้ มีโอกาสเพียง 10% ที่จะส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลทัน และใน 10% นี้ มีเพียงผู้ป่วย 20% ที่กู้ชีพสำเร็จ!
ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าหมายความว่าอะไร!
เฉินชางจะไม่รู้เชียวหรือว่าการผ่าตัดบนรถพยาบาลมีโอกาสติดเชื้อมากกว่า
เฉินชางจะไม่เข้าใจเชียวหรือว่าในการถ่ายภาพเอกซเรย์ทรวงอก การทำซีทีสแกน หรือไม่ก็เอกซเรย์ด้วยเครื่อง EBCTจะทำให้วินิจฉัยได้แม่นยำกว่า วิธีการที่ดีที่สุดคือบันทึกภาพเอกซเรย์หลอดเลือดแดงเอออร์ตาเพื่อยืนยันตำแหน่งที่มีความเสียหาย
แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เงื่อนไขเอื้ออำนวย
ตอนนี้อย่าว่าแต่การทำซีทีสแกน หรือบันทึกภาพเอกซเรย์เลย แม้แต่ถ่ายภาพเอกซเรย์ทรวงอกก็ไม่มีโอกาส!
เฉินชางจำได้ชัดเจน!
ในคู่มือล่าสุดบอกไว้ว่า ถ้าสงสัยว่าหลอดเลือดแดงเอออร์ตามีการปริแตก ระดับการไหลเวียนโลหิตไม่คงที่ ตามด้วยอาการปริแตก รวมทั้งการทะลุขั้นทุติยภูมิ (เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด ภาวะบีบรัดหัวใจ) ก็ควรลงมือผ่าตัดทันทีเพื่อตรวจสอบและช่วยชีวิต!
ดังนั้น ตอนนี้เฉินชางถึงได้เลือกผ่าตัดเปิดหน้าอกเพื่อตรวจหาและห้ามเลือด
ตอนที่คุณไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว คู่มือก็คือที่พึ่งพาของคุณ ขณะเดียวกันก็เป็นหลักฐานทางกฎหมายให้คุณด้วย!
เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่าการกระทำทุกอย่างของตัวเองตอนนี้จะมีความเสี่ยงตามมา
เขารู้ดี!
แต่เวลาที่ผ่านไปนั้นหมายถึงชีวิต จะมัวชักช้าได้อย่างไร!
“เหล่าหยาง จอดรถข้างหน้า” เฉินชางไม่ลังเล
คนขับรถเหล่าหยางอดงงไม่ได้ “??”
เขามองผ่านกระจกหลัง เห็นเฉินชางกำลังจะผ่าตัดแล้ว เขาสีหน้าเปลี่ยนทันที!
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ หาสถานที่ที่เหมาะสมจอดรถทันที
ในระหว่างทางที่รถพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย คำพูดของหมอก็เหมือนคำสั่งทหาร ยิ่งไปกว่านั้น เฉินชางก็เป็นหัวหน้าทีมกู้ชีพด้วย
เฉินชางเงยหน้ามองผู้เกี่ยวข้องสองคนของผู้ป่วย “ลงรถก่อนครับ พวกคุณรีบตามไปที่โรงพยาบาลอันดับสอง”
ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนทันที ชายศีรษะล้านยังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เห็นได้ชัดว่าหวังเชียนไม่ให้โอกาสพวกเขาแล้ว ส่งพวกเขาลงรถทันที
เฉินชางสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ตอนนี้เริ่มเครียดนิดหน่อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่กับผู้ป่วยที่อยู่ในอาการวิกฤตขนาดนี้เพียงลำพัง แล้วเป็นครั้งแรกที่ผ่าตัดบนรถพยาบาลด้วย
การให้ยาสลบในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่จำเป็นคือปลอดภัย พยายามลดยา หรือไม่ก็งดยาที่กดอัดระบบไหลเวียนโลหิต สำหรับผู้บาดเจ็บที่อยู่ในขั้นวิกฤต วิธีการที่ดีที่สุดก็คือให้ยาชาเฉพาะที่ก่อนแล้วค่อยดำเนินการผ่าตัดที่เกี่ยวข้อง จากนั้นค่อยให้ยาระงับความรู้สึกของหลอดเลือดดำ หรือไม่ก็ใส่ท่อช่วยหายใจ
ตอนนี้เงื่อนไขมีจำกัด เฉินชางทำได้เพียงให้ยาชาเฉพาะที่!
ยาชาเฉพาะที่ออกฤทธิ์เร็วมาก ใช้เวลาไม่นาน
เฉินชางหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาแล้วกรีดตรงกลางหน้าอกทันที!
หวังเชียนพูดอย่างกังวล “ผ้าก๊อซมีไม่มาก…”
เฉินชางพยักหน้า จากนั้นดึงกระดูกสันอกออกอย่างระมัดระวัง…ฉากที่ทำให้ขนหัวลุกค่อยๆ ปรากฏขึ้นแล้ว!
นี่มันทะเลเลือดผืนหนึ่งชัดๆ
เฉินชางหันไปบอกหวังเชียน “ดูดเลือด!”
หวังเชียนก็สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน แต่เขาก็หยิบกระบอกฉีดยามาเริ่มดูดเลือดแล้ว!
สายตาของเฉินชางกำลังจ้องบริเวณถุงหุ้มหัวใจ ถุงหุ้มหัวใจตอนนี้เหมือนซาลาเปาลาวาลูกใหญ่ที่ใส่เลือดเอาไว้เต็ม แค่เฉินชางผ่าออกเล็กน้อย ก็มีเลือดกลุ่มหนึ่งทะลักออกมาทันที
“คีมห้ามเลือด!”
ตอนนี้จุดที่เลือดออกเผยออกมาแล้ว ก็คือจุดเริ่มต้นทางออกของหัวใจห้องซ้าย จุดนี้ค่อนข้างคงที่ ดังนั้นหลังจากได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง หรือกระแทกเพราะเบรกรถกะทันหัน ก็จะทำให้เกิดการปริแตกได้ง่าย!
ยังดีที่…กระดูกซี่โครงไม่ได้ทำให้หัวใจบาดเจ็บ
บางทีนี่อาจจะเป็นเพียงเรื่องเดียวที่ควรค่าแก่การแสดงความยินดี
ความดันโลหิตต่ำมาก เฉินชางจนใจ นี่คือการต่อสู้ที่ไม่มีทางเลือก ถ้าเขาไม่พยายามรักษา ผู้ป่วยก็ต้องตายแน่นอน
เฉินชางผ่าถุงหุ้มหัวใจออกอย่างไม่ลังเล จุดที่เลือดออกถูกเปิดเผยออกมาหมดแล้ว
“มีคีมห้ามเลือดแบบไม่รุกล้ำไหม”
หวังเชียนชะงัก แล้วส่ายหน้า “ไม่มีครับ!”
ใครจะไปเตรียมของแบบนี้ไว้บนรถพยาบาล
เฉินชางลังเลนิดหน่อย แล้วจู่ๆ ก็ใช้สองมือกดไว้ด้านบน ใช้มือบีบตรงบาดแผลที่ปริแตกไว้ ห้ามไม่ให้เลือดไหล
ความดันโลหิตกลับมาคงที่ชั่วคราวแล้ว…
แต่ชีวิตของผู้ป่วยยังคงเหมือนใบไม้ในฤดูร่วงนี้ ยังสั่นไหวอยู่ท่ามกลางสายลม
ยังดีที่หลังจากภาวะบีบรัดหัวใจได้รับการแก้ไขแล้ว และควบคุมอาการเลือดออกได้แล้วเช่นกัน ความดันโลหิตค่อยๆ เพิ่มขึ้นแล้ว
เฉินชางบอกเหล่าหยางว่า “กลับโรงพยาบาล!”
เหล่าหยางมองเฉินชางผ่านกระจกหลังแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง สตาร์ทรถนิ่งๆ แล้วขับไปโรงพยาบาล
ผ่านการสัมผัสของสองมือ เฉินชางรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงแรงขับที่ทำให้เลือดไหลออกจากมือตัวเอง สัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงร่องรอยของการมีชีวิต
หลังจากนั้นไม่กี่นาที รถก็ขับมาจอดตรงประตูทางเข้าพิเศษแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสอง
เฉินชางไม่กล้าขยับ ส่วนคนขับรถเหล่าหยางก็กระโดดลงมาอยู่ข้างหลัง แล้วเขากับหวังเชียนก็หามเตียงผู้ป่วยลงไปอย่างระมัดระวัง
หลี่เป่าซาน เถามี่ ซย่าเกาเฟิงที่อยู่ข้างล่างกำลังรออย่างกระวนกระวายแล้ว!
“ไปที่ห้องผ่าตัดเดี๋ยวนี้!” เฉินชางรีบบอก
ทุกคนไม่แปลกใจที่เห็นเขา ในห้องผ่าตัดตอนนี้ หวังข่ายอัน โจวเสี่ยวตง จางเหวินฟู่จากแผนกศัลยกรรมหัวใจใส่ชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว กำลังรอผู้ป่วยคนนี้!
แผนกธนาคารเลือด แผนกห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ฝ่ายกิจการแพทย์ วิสัญญีแพทย์…ทั้งหมดเตรียมพร้อมรับมือแล้ว รอการกลับมาของเฉินชาง
เมื่อเฉินชางมาถึง การกู้ชีพก็เปิดฉากอย่างเป็นทางการ!
ทุกคนเริ่มเตรียมงานอย่างเป็นระบบระเบียบ!
เจาะเลือด ตรวจเลือดเร่งด่วน จับคู่เลือดที่เข้ากันได้…
ฝ่ายกิจการแพทย์ติดต่อคน เซ็นชื่อมอบอำนาจ…
วิสัญญีแพทย์คือหลิวเจี้ยน ตอนที่เห็นเฉินชางผ่าเปิดหน้าอกและใช้สองมือกดหัวใจเอาไว้ เขาก็อดเบิกตากว้างไม่ได้
มีการเตรียมเครื่องเอคโม่ไว้เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้หวังข่ายอันที่ถือคีมจับเส้นเลือดแบบไม่รุกล้ำมองเฉินชาง “ผมจัดการเอง!”
เสียงเขาไม่ดังแต่กลับแน่วแน่มาก
เฉินชางพยักหน้า แล้วส่งต่องานให้ด้วยความระมัดระวัง
ตอนที่เฉินชางออกไป หวังข่ายอันก็นำทีมแพทย์อีกสามคนและวิสัญญีแพทย์เริ่มดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
ใส่พอร์ต[1]!
สร้างการไหลเวียนโลหิตนอกร่างกาย!
หลิวเจี้ยนเริ่มใส่ท่อช่วยหายใจ เตรียมให้ยาสลบ
การผ่าตัดแบบนี้ต้องดำเนินการเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จางเหวินฟู่ก็ปิดปลายของเอออร์ตาส่วนขึ้นไว้ ไม่ให้เลือดไหลผ่าน
ตอนที่เถามี่กับซย่าเกาเฟิงเห็นบาดแผลฉีกขาดตรงจุดเริ่มต้นของเอออร์ตาส่วนขึ้นยาวไปถึงใต้ถุงหุ้มหัวใจของผู้ป่วย ก็อดอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้
นี่…เป็นอย่างที่เฉินชางบอกไว้จริงๆ เรื่องยากมากที่จะกลับให้ถึงโรงพยาบาล
นึกถึงสภาพที่เฉินชางกับหวังเชียนมีเลือดเต็มตัวตอนกลับมาเมื่อครู่นี้ นึกถึงตอนที่เฉินชางใช้นิ้วห้ามเลือดไว้ตลอดทางที่กลับมาโรงพยาบาล…
ในใจของทั้งสองก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธา!
เสี่ยวเฉิน เป็นบุคคลที่เก่งกาจจริงๆ
[1] พอร์ต Port-A-Cath เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ฝังใต้ผิวหนังสำหรับให้ยา สารน้ำ หรือเลือด
บทที่ 516 บอกมา คุณเคยใช้มากี่ครั้งแล้ว
ทีแรกตัดสินใจจะใช้วิธีส่องกล้องดูกระเพาะแบบธรรมดา แต่เมื่อพิจารณาถึงความร่วมมือในการรักษาของเด็ก วิธีนี้ต้องไม่ดีแน่!
นอกจากนี้ หากต้องการจะนำห่วงฝากระป๋องออกมา ก็ยิ่งให้เขาขยับมั่วซั่วไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจวางยาสลบก่อนแล้วค่อยว่ากัน
หลังจากสอดกล้องส่องกระเพาะเข้าไปในหลอดอาหารแล้ว ก็ตรวจดูรอบๆ อย่างระมัดระวัง ตรวจสอบบนหลอดอาหารอย่างละเอียดว่ามีการบาดเจ็บหรือไม่
เฮ่อจื้อเฉียงยังอายุไม่มาก ประมาณสามสิบเท่านั้น เป็นคนค่อนข้างระมัดระวัง หลอดอาหารของเด็กเดิมทีก็ไม่ได้ยาวมากอยู่แล้ว เขาสอดไปสอดกลับดูสามรอบ แล้วถึงได้บอกว่า “ไม่มีปัญหา ไม่มีการบาดเจ็บที่หลอดอาหาร”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผู้ปกครองของเด็กถึงได้โล่งใจ
เฮ่อจื้อเฉียงส่องกล้องต่อไป สุดท้ายก็เห็นห่วงฝากระป๋องโลหะชิ้นหนึ่งตรงกระเพาะอาหารส่วนต้นแล้ว เนื่องจากห่วงฝากระป๋องถูกบิออก สถานการณ์จึงค่อนข้างพิเศษ แต่มุมขอบโดยรอบชัดเจน ถึงขั้นว่าจุดที่หักยังมีปลายแหลมที่ค่อนข้างคมกระดกขึ้นมาด้วย
สิ่งนี้ทำให้เฮ่อจื้อเฉียงเริ่มขมวดคิ้วทันที!
ตอนนี้ผู้ปกครองกำลังมองภาพบนหน้าจออยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะกลัวว่าจะรบกวนการพิจารณาของหมอ
แต่เมื่อเห็นว่าเฮ่อจื้อเฉียงไม่พูดอะไรเสียที หญิงสาวยังอดถามเสียงเบาไม่ได้ว่า“คุณหมอคะ…คุณแค่นำมันออกมาเฉยๆ ไม่ได้เหรอคะ”
เฮ่อจื้อเฉียงชะงักทันที ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ “ถ้าง่ายอย่างนั้นก็คงดีสิครับ!”
“ตอนนี้รอบห่วงฝากระป๋องคมมาก ถ้าตอนนี้ผมดึงมันออกมาเลย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะทำให้ผนังด้านในบาดเจ็บ ตอนนั้นกลับตอนนี้ไม่เหมือนกัน ด้วยความลื่นของนมกับการบีบรูดของหลอดอาหาร ตอนที่กลืนมันลงไป มันอาจไม่ทำร้ายผนังด้านใน แต่ถ้าคุณจะฝืนดึงมันออกมา นั่นก็พูดยากแล้ว…
…ถ้าทำให้หลอดอาหารเสียหาย ก็ต้องผ่าตัดรักษาหลอดอาหารอีก แบบนั้นก็จะยุ่งยากมากครับ”
เมื่อได้ยินเฮ่อจื้อเฉียงอธิบาย พ่อแม่ของเด็กชายก็หน้าเปลี่ยนสีทันที
ฉินเยว่กับเฉินชางก็กำลังจ้องหน้าจอทีวีเช่นกัน เฉินชางเริ่มครุ่นคิดว่าจะเปลี่ยนมุมเพื่อดึงฝากระป๋องโลหะออกมาได้หรือไม่
แต่…เนื่องจากการใช้กล้องแหย่เข้าไปไม่นิ่งเท่ากันใช้คีม ตอนที่ดึงออกมา ถ้าทิศทางเบี่ยงเบนไปนิดเดียวก็จะเกิดปัญหาได้ง่าย
แล้วจะทำยังไงดี
คงไม่ซับซ้อนถึงขั้นผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพราะต้องนำห่วงฝากระป๋องชิ้นเดียวออกมาหรอกใช่ไหม
แบบนั้น…ไม่จำเป็นเลย!
ดังนั้น ตอนนี้ทุกคนจึงเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ลำบาก
แล้วควรจะทำยังไงกันแน่
เฉินชางเองก็ไตร่ตรองไม่หยุดเช่นกันว่าควรจะทำอย่างไรดี อย่าบอกนะว่าต้องเสียหินจำลองหนึ่งก้อน แล้วลองนำมันออกมาด้วยตัวเอง
แต่…แบบนี้ไม่ค่อยจำเป็นนะ!
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ก้มหน้า เห็นถุงมือของเฮ่อจื้อเฉียงพอดี…
เฉินชางตาเป็นประกายทันที ราวกับเจอเบาะแสอะไรบางอย่างแล้ว
ใช่แล้ว!
ถ้านำของบางอย่างไปห่อห่วงฝากระป๋องที่แหลมคมไว้ จากนั้นก็ค่อยดึงออกมาได้หรือเปล่า
มีอะไรที่ห่อได้…
ทั้งยังทำให้ไหลลื่นด้วย ทำให้เกิดการหล่อลื่นระหว่างห่วงฝากระป๋องกับผนังหลอดอาหาร ลดการเสียดสี
ตอนนี้ จู่ๆ เฉินชางก็นึกขึ้นได้ถึงของดีบางอย่าง!
เขาตาเป็นประกายทันที แล้วบอกเฮ่อจื้อเฉียงว่า “เหล่าเฮ่อ คุณรอผมสักครู่ สองนาที”
เฉินชางลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
ใต้ตึกห้องส่องกล้องเป็นแผนกตรวจร่างกายครบวงจร ข้างในมีห้องอัลตร้าซาวด์
ที่จริงแม้จะยังไม่ถึงเวลาเข้างาน แต่ตรงประตูห้องอัลตร้าซาวด์ก็มีคนมายืนต่อแถวเต็มแล้ว
เฉินชางให้พยาบาลเปิดประตูแล้วเข้าไปทันที
แพทย์เวรคือหมอสาวคนหนึ่ง เธอชื่อจางตันนี พอเห็นเฉินชางวิ่งเข้ามา เธอก็ยิ้มทักทายทันที “หัวหน้าแผนกเฉิน ทำไมมีเวลาว่างมาแผนกพวกเราได้คะ”
เฉินชางยิ้มตอบ “หมอจาง มีห่วงคุมกำเนิดให้ผมสักสองอันไหมครับ”
จางตันนีตะลึงทันที “คุณจะเอาไปทำอะไร”
ขณะที่พูดก็เปิดลิ้นชักแล้วฉีกส่งมาให้เจ็ดแปดอัน “เอาไปให้หมดเลยก็ได้ค่ะ”
เฉินชางยิ้มเขินๆ “ไม่ต้องใช้เยอะขนาดนั้นครับ! ห้องส่องกล้องต้องใช้ เอามาแค่สองอันก็พอ!”
จางตันนีได้ฟังแล้วนึกสงสัย “ห้องส่องกล้อง? พวกเขาจะเอามันไปทำอะไรคะ”
โดยปกติห้องอัลตราซาวด์ต้องทำอัลตราซาวด์เยอะมาก ในจำนวนนั้นรวมถึงการตรวจอัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอดซึ่งต้องใช้ห่วงคุมกำเนิดด้วย
ตอนแรกเฉินชางก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมห้องอัลตร้าซาวด์ต้องมีสิ่งนี้ จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาถึงได้เข้าใจ
เฉินชางเล่าสถานการณ์ให้ฟังคร่าวๆ จางตันนีตาเป็นประกายทันที เบิกตากว้างมองเฉินชาง “คุณนี่มีพรสวรรค์จริงๆ เลยนะคะ!”
เฉินชางยิ้มเรียบๆ “แค่ลองดูครับ!”
จางตันนีเกิดความคิดชั่ววูบ เริ่มสนใจแล้วเหมือนกัน “ไปค่ะ ไปดูด้วยกัน”
เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเข้างาน จางตันนีจะออกไปข้างนอกก็ไม่เป็นอะไร
ทั้งสองเดินเคียงกันมาจนถึงห้องห้องส่องกล้อง พอเฮ่อจื้อเฉียงเห็นจางตันนีมาด้วยก็งงทันที “หมอจาง คุณมาได้ยังไง”
“ฉันมาดูหัวหน้าแผนกเฉินสร้างปฏิหารย์ค่ะ!” จางตันนีตอบยิ้มๆ
ตอนนี้เฉินชางฉีกถุงห่อห่วงคุมกำเนิดแล้ว บอกเฮ่อจื้อเฉียงว่า “เหล่าเฮ่อ ผมคิดว่าพวกเราควรเปิดสิ่งนี้ออก แล้วก็ใช้เครื่องแหย่ยัดเข้าไปในท้อง จากนั้นยัดห่วงฝากระป๋องโลหะเข้าไป แล้วค่อยใช้ห่วงคุมกำเนิดนำมันออกมา ด้านนอกของมันมีน้ำมันหล่อลื่นอยู่หนึ่งชั้นพอดี ใช้เป็นสารหล่อลื่นให้ผนังหลอดอาหารได้!”
หลังจากเฮ่อจื้อเฉียงได้ยิน ก็ถูกสยบด้วยความคิดที่มีพรสวรรค์ของเฉินชางแล้วเหมือนกัน!
เขาตาเป็นประกาย “ใช้ได้เลย!”
ขณะที่พูด เขาก็นำกล้องส่องออกมา จากนั้นเปิดห่วงคุมกำเนิด แล้วยัดเข้าไปตามหลอดอาหารของเด็กชาย ยังดีที่ในกระเพาะมีพื้นที่ว่างค่อนข้างมาก มีพื้นที่ให้ทำงาน!
เฮ่อจื้อเฉียงขยับไปมา ยัดห่วงฝากระป๋องโลหะเข้าไปในห่วงคุมกำเนิดด้วยความระมัดระวัง
ขั้นตอนนี้ค่อนข้างทดสอบฝีมือ เฮ่อจื้อเฉียงขยับไปมาอยู่หลายครั้ง ไม่ง่ายเลยกว่าจะจัดห่วงฝากระป๋องยัดเข้าไปในห่วงคุมกำเนิดได้!
คนที่อยู่รอบๆ ดีใจไปกับเขาทันที!
สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
ต่อจากนั้น เฮ่อจื้อเฉียงก็ดึงห่วงคุมกำเนิดที่บรรจุห่วงฝากระป๋องออกมาด้วยความระมัดระวัง
ต้องกล่าวว่าการหล่อลื่นมีประโยชน์มาก ไม่เกิดอุปสรรคแม้แต่น้อย
ทั้งขั้นตอนราบรื่นมาก ไม่นานก็นำห่วงฝากระป๋องออกจากกระเพาะของเด็กชายได้แล้ว!
ชั่วขณะนั้น คนที่อยู่รอบๆ พากันดีใจแล้ว!
ขณะมองห่วงคุมกำเนิดที่บรรจุห่วงฝากระป๋องโลหะ ทุกคนก็อดดีใจไม่ได้
ใครจะไปคิดว่าห่วงคุมกำเนิดเล็กๆ จะกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่กลืนลงไปได้
พอนึกถึงตรงนี้ เฮ่อจื้อเฉียงก็อดถามไม่ได้ว่า “เฉินชาง คุณเจ๋งสุดๆ เลย!”
จางตันนีได้เห็นเองกับตา ก็อดชมไม่ได้เช่นกัน “การที่คิดวิธีนี้ได้ เฉินชาง คุณนี่ช่างมีพรสวรรค์จริงๆ!”
ยัยฉินขี้ประจบมองเฉินชางตาเขม็ง ในใจเริ่มส่งเสียงเชียร์แล้ว เฉินชางอันดับหนึ่งในใต้หล้า!
ต้องบอกเลยว่าวิธีการนี้ของเฉินชางเป็นวิธีการที่มาจากพรสวรรค์จริงๆ จะมีใครบ้างที่คิดได้ว่าห่วงคุมกำเนิดจะมีวิธีการใช้งานที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้
ผู้ปกครองอุ้มเด็กขึ้นมา แล้วเดินตามเฉินชางกับฉินเยว่กลับไปที่ห้องสังเกตอาการ ทีเหลือก็รอให้เด็กฟื้นขึ้นมา
ระหว่างทางเขากล่าวขอบคุณเฉินชางไม่หยุด!
อย่างไรเสีย ถ้าไม่ใช่เฉินชางที่คิดถึงวิธีการนี้ได้ ก็ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะจัดการอย่างไรดี
แม้อีกฝ่ายจะกำลังชมเฉินชาง แต่ในใจฉินเยว่ก็รู้สึกดีมาก เหมือนตัวเองกำลังถูกชม!
หลังจากทั้งสองจัดการผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกจากห้องสังเกตอาการ
ฉินเยว่หันตัวมา เบิกตากว้างมองเฉินชาง “คุณเก่งจริงๆ!”
เฉินชางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “คุณเพิ่งรู้เหรอ? ฮ่าๆๆ…”
แต่พอผ่านไปครู่เดียว ฉินเยว่ก็จ้องเฉินชางอีก เธอพูดสิ่งที่สื่อความหมายล้ำลึก “ตอบมาซะดีๆ คุณไปหาแรงบันดาลใจมาจากไหน!”
เฉินชางตะลึงงัน!
ฉินเยว่หรี่ตา “บอกมาค่ะ คุณเคยใช้ไปกี่ครั้งแล้ว!”
เฉินชาง “…”
ควรจะตอบยังไงดีล่ะ?
เฮ้อ…
ผู้หญิงนะผู้หญิง!
บทที่ 510 ให้เขาทำ!
ในห้องผ่าตัด ซย่าเกาเฟิงเป็นศัลยแพทย์หลัก เมิ่งซีเป็นแพทย์ผู้ช่วย เก่อฮว๋ายก็เป็นผู้ช่วยเช่นกัน เฉินชางสังเกตอยู่ข้างๆ
ซย่าเกาเฟิงมองเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน การผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมหัวใจ อันดับแรกคือต้องมีความเข้าใจต่อหัวใจและหลอดเลือดหัวใจมากพอ…
…เพราะแผนกศัลยกรรมบอกไว้ชัดเจนแล้ว ว่านี่คือการผ่าตัดโครงสร้าง ต้องแยกแยะโครงสร้างการทำงานของเนื้อเยื่อในร่างกายมนุษย์อย่างสมเหตุสมผล!…
…เป้าหมายสุดท้ายมีแค่สองอย่าง หนึ่งคือตัดเนื้อเยื่อทิ้ง สองคือซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย!…
…ที่จริงหัวใจก็เป็นอย่างนั้น ถ้าคุณจะบอกว่ามันอันตราย การผ่าตัดมันก็ยุ่งยากมากจริงๆ แต่ถ้าคุณผ่าตัดมาเยอะ คุณอาจรู้สึกว่าไม่ต่างจากเนื้อหมูเท่าไร ก็แค่เนื้อเยื่อไม่กี่ชั้น ค่อยๆ ผ่าตัดซ่อมแซมเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
คำพูดของซย่าเกาเฟิงทำให้เฉินชางอดพยักหน้ายิ้มไม่ได้ เป็นคำพูดที่มีเหตุผลมาก แต่ก็เป็นเพราะสิ่งเล็กๆ พวกนั้นที่ทำให้คนบางกลุ่มต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อเรียนรู้มัน
หลังจากเริ่มผ่าตัด เฉินชางก็มองความแตกต่างออกแล้ว
ตอนที่อาจารย์เมิ่งลงมือผ่าตัด เธอมีสมาธิแน่วแน่ ไม่พูดมากสักประโยค
ส่วนซย่าเกาเฟิงก็เนิบนาบผ่อนคลาย ท่าทางสบายใจมาก เมื่อการผ่าตัดเคสยากอยู่ในมือเขา กลับดูง่ายเหมือนเป็นการผ่าตัดเล็กๆ!
ปากเขายังอธิบายไม่หยุดว่า “ถ้าคุณต้องการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจให้ดี ก็ต้องทำความเข้าใจหลอดเลือดแดงใหญ่ก่อน! เพราะนี่คือเส้นเลือดหลักของระบบไหลเวียนเลือด
เห็นหรือยัง ที่ออกจากหัวใจห้องซ้ายชื่อว่าเอออร์ตาส่วนขึ้น[1] พอออกมาได้ช่วงหนึ่ง ถึงตรงนี้…ก็คือส่วนโค้งเอออร์ติก คุณดูตรงตำแหน่งทางกายวิภาคของมัน อยู่ตรงกระดูกสันหลังตำแหน่ง L4 พอดี กลายเป็นเอออร์ตาส่วนลง[2]แล้ว
พอลงไปอีกก็คือหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนท้อง หลอดเลือดแดงกระดูกปีกสะโพกซ้ายและขวา…”
แม้เฉินชางจะเข้าใจระบบไหลเวียนเลือดดีมาก แต่ก็ยังฟังอย่างตั้งใจ
ตอนนี้ซย่าเกาเฟิงใช้มีดกำจัดเนื้องอกอย่างระมัดระวัง แต่ก็ยังมองเฉินชาง “คุณเห็นหรือยัง ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของเอออร์ตาส่วนขึ้นกับเอออร์ตาส่วนลงก็คือ…เอออร์ตาส่วนขึ้นออกจากหัวใจห้องซ้าย ถ้าตรงนี้เสียหาย ก็จะทำให้เลือดคั่งในเยื่อหุ้มหัวใจ เกิดภาวะบีบรัดหัวใจ[3]ได้ง่ายมาก ดังนั้น…ถ้าเทียบกับเอออร์ตาส่วนลงได้รับความเสียหาย เอออร์ตาส่วนขึ้นอันตรายถึงชีวิตมากกว่า”
……
ซย่าเกาเฟิงอธิบายอย่างละเอียดมาก!
ในหัวของเฉินชางก็คิดตามที่ซย่าเกาเฟิงอธิบายเช่นกัน คอยทำความเข้าใจไม่หยุด
การผ่าตัดไม่ใช่การเรียนรู้ทีละอย่าง ทักษะซ่อมแซมหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนลงของเฉินชางถือเป็นระดับปรมาจารย์ แม้เขาไม่มีทักษะทักษะซ่อมแซมเอออร์ตาส่วนขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะผ่าตัดเอออร์ตาส่วนขึ้นไม่เป็น
เรียนรู้เข้าใจหนึ่งวิธีการเท่ากับกระจ่างร้อยวิธีการ!
หลังจากเข้าใจสิ่งที่ต้องระวังในการผ่าตัดเอออร์ตาส่วนขึ้นแล้ว เฉินชางผ่าตัดสำเร็จไปหนึ่งเคสโดยอาศัยความเข้าใจของตัวเอง แม้อาจจะมีรายละเอียดมากมายที่มองข้ามไปก็ตาม
ซย่าเกาเฟิงล้วนให้ความสำคัญกับรายละเอียด
เฉินชางรวบรวมสมาธิชื่นชมวิเคราะห์อย่างจริงจัง
เมื่อการผ่าตัดหนึ่งเคสจบลง จู่ๆ เฉินชางก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ!
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณตระหนักรู้ทักษะของแผนกศัลยกรรมหัวใจด้วยตัวเอง: ทักษะซ่อมแซมหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนขึ้น: ระดับต้น ได้รับคะแนนทักษะ +1]
เฉินชางปลาบปลื้มทันที!
ถึงจะเป็นแค่ทักษะระดับต้น แต่ถ้าระบบยอมรับ ก็ถือว่าผ่านการทดสอบของระบบแล้ว
นึกไม่ถึงว่าจะได้คะแนนทักษะอีกหนึ่งแต้มด้วย!
ไม่เลวเลยจริงๆ
การผ่าตัดจบไปหนึ่งเคส ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ทุกคนพักผ่อนไม่นานก็เตรียมผ่าตัดเคสที่สองต่อ การผ่าตัดทั้งคืนนี้ สำหรับเฉินชางถือเป็นการได้ตระหนักรู้ทักษะครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อการผ่าตัดเคสที่สามจบลงก็เป็นเวลาประมาณห้าทุ่ม ซย่าเกาเฟิงมองเฉินชางพลางเอ่ยอย่างจริงจัง “เสี่ยวเฉิน ที่จริงการผ่าตัดที่คุณเห็นวันนี้แตกต่างกับเคสที่คุณเคยเจอ!…
…การผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจของแผนกศัลยกรรมหัวใจ โดยส่วนใหญ่เป็นเคสภาวะเลือดออกในช่องอกที่แผนกฉุกเฉินของคุณพบบ่อย แต่การผ่าตัดแบบนั้น คุณจะไม่มีเวลาและโอกาสได้ดูเลย เพราะนั่นคือการผ่าตัดที่เวลากับชีวิตต้องแข่งกัน…
…เคสแบบนี้พบได้น้อยมาก แต่ถ้าพบแล้วก็จะถือเป็นการผ่าตัดที่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้น วันหลังคุณต้องระวัง”
เฉินชางพยักหน้า
วันนี้เฉินชางถือว่าได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้ฟังรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดเยอะมาก ล้วนเป็นอาหารแห้งสำเร็จรูปที่ซย่าเกาเฟิงสรุปจากประสบการณ์การผ่าตัดหลายปีของตัวเอง
ความรู้นี้ไม่ได้เหมาะกับเฉินชางคนเดียวเท่านั้น เมิ่งซีกับเก่อฮว๋ายก็ได้ประโยชน์เยอะเหมือนกัน
บรรดาแพทย์เดินออกจากห้องผ่าตัด ซย่าเกาเฟิงกลับบ้านไปก่อน
เก่อฮว๋ายใส่ชุดกาวน์ไปที่ห้องผู้ป่วย
เฉินชางกับเมิ่งซีเดินไปด้วยกันสองคน หลังจากลงจากตึกแล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรถพยาบาลดังขึ้นติดๆ กัน
รถฉุกเฉินขับเข้ามาสามคัน!
เฉินชางกับเมิ่งซีสบตากันแวบหนึ่ง แล้วรีบเข้าไปทำการรักษาฉุกเฉิน
พวกเขาเห็นหวังเซี่ยงจวินกับหมออีกสี่ห้าคนเตรียมพร้อมรออยู่พอดี
“หัวหน้าแผนกหวัง มีภารกิจเหรอคะ” เมิ่งซีเป็นฝ่ายถามก่อน
หวังเซี่ยงจวินขมวดคิ้วตอบอย่างเร่งรีบ “อุบัติเหตุรถยนต์ รถเก๋งสองคันชนกัน มีผู้ประสบอุบัติเหตุสามคนถูกส่งมาที่โรงพยาบาลเรา อีกสองคนส่งไปที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลแล้ว”
หวังเซี่ยงจวินหันตัวไปมองเฉินชางแล้วพยักหน้าถามทันที “เสี่ยวเฉินก็อยู่ด้วยเหรอ”
เฉินชางพยักหน้า เห็นบนศีรษะหวังเซี่ยงจวินปรากฏเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ ในใจก็เกิดความคิดบางอย่างทันที พยักหน้าถามว่า “สวัสดีครับหัวหน้าแผนกหวัง ให้พวกเราอยู่ช่วยไหมครับ”
พอหวังเซี่ยงจวินได้ยินเฉินชางถามแบบนั้นก็รู้สึกดีขึ้นเป็นสองเท่า!
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของหวังเซี่ยงจวิน +5!]
หวังเซี่ยงจวินมองเฉินชางอย่างชื่นชมแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าตอบ “งั้นก็รบกวนพวกคุณแล้ว”
[ติ๊ง! พบภารกิจ ช่วยหวังเซี่ยงจวินทำภารกิจกู้ชีพอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ เมื่อภารกิจสำเร็จจะได้รับรางวัล: ทักษะแบบทำงานอัตโนมัติของหวังเซี่ยงจวิน: แตกฉานเรื่องยาที่ใช้สำหรับการรักษาฉุกเฉิน (ระดับปรมาจารย์)]
หลังจากเฉินชางได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เขายังไม่ทันได้ดีใจ หมอที่ทำการรักษาฉุกเฉินก็วิ่งไปที่รถพยาบาลแล้ว
เฉินชางก็รีบตามไปเช่นกัน!
การกู้ชีพอุบัติเหตุทางรถยนต์ต้องทำงานแข่งกับเวลา
เฉินชางกับเมิ่งซีรีบตามหลังไป
ไม่นาน ผู้ป่วยทั้งสามคนก็ถูกส่งตัวไปในห้องฉุกเฉิน
พยาบาลเตรียมเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเรียบร้อยแล้ว กล่องกู้ชีพฉุกเฉินสามเครื่องวางอยู่ด้านข้าง เตรียมเครื่องมือกู้ชีพทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว!
ในฐานะที่โรงพยาบาลตงต้าเป็นศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินของเมืองอันหยาง จึงมีเคสฉุกเฉินเยอะมาก ภาระงานหนักกว่าของโรงพยาบาลอันดับสองเสียอีก!
พวกเขาเตรียมตัวกู้ชีพผู้ป่วยสามคนพร้อมกัน
บรรยากาศในห้องฉุกเฉินตึงเครียดถึงขีดสุด!
เสียงแจ้งเตือนของเครื่องมือแพทย์ดังติ๊ดๆๆ อย่างต่อเนื่อง
แพทย์กำลังสังเกตตัวเลขบนเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเรื่อยๆ เตรียมแจกจ่ายงาน
เฉินชางกับเมิ่งซียืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้แทรกแซง
ไม่ใช่ว่าไม่อยากแทรกแซง แต่เพราะยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้หากบุ่มบ่ามเข้าไปร่วมด้วย ไม่เพียงแค่จะช่วยเหลืออะไรไม่ได้ กลับจะรบกวนขั้นตอนการกู้ชีพตามปกติของพวกเขาด้วยซ้ำ!
ส่วนหวังเซี่ยงจวินก็เดินไปเดินมาอยู่ในนั้นคนเดียว หลังจากตรวจเสร็จไปหนึ่งคน ก็แจกจ่ายและกำชับงานแต่ละด้านไม่หยุด
เฉินชางคิดไปคิดมา สุดท้ายก็เดินตามหลังหวังเซี่ยงจวิน แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ ตรงเตรียงผู้ป่วยคนที่หนึ่งก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น!
หวังเซี่ยงจวินกับเฉินชางสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบเข้าไปดูใกล้ๆ!
“ความดันเลือด 50/20mmHg!”
“หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน!”
“เตรียมทำซีพีอาร์!”
พอหวังเซี่ยงจวินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็หน้าเปลี่ยนสีทันที “มีภาวะบีบรัดหัวใจ! เตรียมเจาะถุงหุ้มหัวใจ! ทำซีพีอาร์ไม่ได้!”
พยาบาลรีบพยักหน้าแล้วถอยออกมา!
ตอนนี้เฉินชางรีบบอกว่า “ผมจัดการเองครับ!”
แพทย์กู้ชีพมองเฉินชาง แล้วมองหวังเซี่ยงจวินแวบหนึ่งอย่างสงสัยนิดหน่อย
หวังเซี่ยงจวินพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ให้เขาทำ!”
[1] เอออร์ตาส่วนขึ้น Ascending aorta เป็นส่วนหนึ่งของหลอดเลือดแดงใหญ่ เริ่มต้นที่ส่วนบนสุดของโคนของหัวใจห้องล่างซ้าย ในระดับเดียวกันกับขอบด้านล่างของกระดูกซี่โครงอ่อนลำดับสาม ด้านหลังครึ่งซ้ายของกระดูกสันอก ทอดผ่านอ้อมขึ้นไปทางด้านบนต่อเนื่องไปทางด้านขวาในทิศทางของแกนหัวใจ จุดสูงสุดเทียบเท่าขอบด้านบนของกระดูกซี่โครงอ่อนลำดับสองทางขวา กล่าวคือ โค้งลงเล็กน้อยในวิถีทางของมัน และเริ่มตั้งอยู่ประมาณ 6 เซนติเมตร (2.4 นิ้ว) ข้างหลังของพื้นผิวด้านหลังของกระดูกสันอก รวมความยาวได้ประมาณ 5 เซนติเมตร (2.0 นิ้ว)
[2] เอออร์ตาส่วนลง Descending aorta เป็นส่วนหนึ่งของเอออร์ตาซึ่งเป็นหลอดเลือดแดงที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ เอออร์ตาส่วนลงมีจุดเริ่มต้นต่อจากส่วนโค้งเอออร์ติก ทอดตัวลงไปตามอกและท้อง โดยลักษณะทางกายภาพของเอออร์ตาส่วนลงประกอบด้วยสองส่วน คือ เอออร์ตาอกส่วนลง (Descending thoracic aorta) และ เอออร์ตาส่วนท้อง (Abdominal aorta) ตามบริเวณโพรงขนาดใหญ่ที่หลอดเลือดนี้ทอดตัวผ่าน ภายในท้อง เอออร์ตาส่วนลงจะแยกออกเป็นแขนงสองแขนงเรียกว่า หลอดเลือดแดงร่วมตะโพก ซึ่งไปเลี้ยงเชิงกรานและส่วนขาทั้งสองข้าง
[3] ภาวะบีบรัดหัวใจ (cardiac tamponade) คือ ภาวะที่มีของเหลว (น้ำ หรือเลือด) ปริมาณมากอยู่ในถุง
เยื่อหุ้มหัวใจ ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของแรงดันในถุงเยื่อหุ้มหัวใจและกดเบียดหัวใจ ทำให้เลือดดำไหล
กลับเข้าสู่หัวใจห้องขวาระหว่างที่หัวใจคลายตัว (ventricular diastolic filling) ไม่ได้ ส่งผลให้มีการลดลงของปริมาณ
เลือดที่ออกจากหัวใจห้องซ้าย (cardiac output) เกิดความดันเลือดต่ำและภาวะช็อคตามมา