เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 524 รางวัลถุงนำโชค

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 524 รางวัลถุงนำโชค

ขณะที่ดูการผ่าตัดเฉินชางทีละขั้นตอน สมาชิกทีมที่อยู่รอบๆ ก็มีความคิดแตกต่างกันไป

หวังเชียนรู้สึกสะท้อนใจที่สุด เขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองเฉินชางแตกต่างกัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะต่างกันมากถึงขั้นนี้

การตรวจรักษาคือห้องเรียนที่ดีที่สุด ผู้ป่วยก็คืออาจารย์ที่ดีที่สุดเช่นกัน

สามปีมานี้เฉินชางตื่นเช้ากลับดึก เหมือนไม่เคยหยุดการเรียนรู้เลย วันสองวันยังมองไม่เห็นความแตกต่าง แต่เมื่อเวลานานไป ความแตกต่างที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่านี้ก็ทับถมกองเป็นภูเขาแล้ว เมื่อหันกลับไปมองอาจจะทำได้เพียงเงยหน้ามองขอคำแนะนำ!

ชีวิตก็เป็นแบบนี้ บางคนเดินไปข้างหน้าเงียบๆ บางคนไม่เห็นความสำคัญ หารู้ไม่ว่าก้าวหนึ่งถึงพันลี้ ลำธารสายเล็กกลายเป็นแม่น้ำมหาสมุทร ก่ออิฐกลายเป็นหอสูงเก้าชั้น!

ตอนที่คุณกำลังดูถูก หารู้ไหมว่าอีกฝ่ายนำคุณไปไกลแล้ว

หวังเชียนกลืนน้ำลายอย่างคอแห้ง พ่นลมหายใจออกมาช้าๆ วันนี้เขาสะท้อนใจอย่างลึกซึ้ง เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวด้วยความกล้าหาญเช่นกัน ออกจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ได้ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างแท้จริงแล้ว

เขาได้เห็นความเปราะบางของชีวิตแล้วเช่นกัน รู้สึกถึงความเป็นความตายที่อยู่ตรงหน้าแล้ว รู้สึกถึงตอนที่ตัวเองไร้ความสามารถ เขามองเฉินชางแวบหนึ่ง แล้วแอบตัดสินใจแน่วแน่ว่าตัวเองจะต้องเป็นหมอแผนกฉุกเฉินที่ผ่านมาตรฐานคนหนึ่งให้ได้!

หลังจากเฉินชางผ่าตัดเสร็จแล้ว ก็ดามกระดูกสันอกชิ้นสุดท้ายให้เรียบร้อย

“ให้ผมทำเองเถอะครับ คุณไปพักเถอะ” หวังเชียนกล่าว

เฉินชางพยักหน้ายิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธเขา

ขณะที่มองสัญญาณชีพของผู้ป่วยเริ่มคงที่อย่างช้าๆ เฉินชางก็โล่งอกแล้ว

ผ่านไปอีกไม่นาน ในที่สุดการผ่าตัดก็จบลงแล้ว

การผ่าตัดกู้ชีพฉุกเฉินที่มีความเสี่ยงและอัตราการเสียชีวิตสูงมากแบบนี้ ในที่สุดก็สำเร็จลุล่วงแล้ว!

วิสัญญีแพทย์หลิวเจี้ยนยกนิ้วหัวแม่มือชื่นชมเฉินชาง!

ตั้งแต่ทำงานนี้มาสิบสามปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแพทย์กล้าผ่าตัดเปิดหน้าอกผู้ป่วยบนรถพยาบาล

การผ่าตัดจบลง พยาบาลเข็นผู้ป่วยไปที่ห้องฉุกเฉิน รอย้ายเข้าห้อง ICU ต่อไป

ตอนนี้เสียงแจ้งเตือนของระบบดังแล้ว

[ติ๊ง! ซ่อมแซมรอยปริแตกของหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนขึ้นสำเร็จ ได้รับรางวัล:

1.ค่าประสบการณ์ +5000

2.ถุงนำโชค +1

3.ยาบำรุงพลัง +1]

รางวัลเยอะมาก แต่ทำไมค่าประสบการณ์มีแค่ 5000 แต้ม

ตอนนี้ผู้ที่ทำงานฝ่ายอำนวยความสะดวกรอบๆ กำลังมองเฉินชางด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความนับถือ!

สำหรับผู้แข็งแกร่งคนนี้ ทุกคนเคารพนับถือมาก

ยิ่งไปกว่านั้น…ยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่หน้าตาหล่อเหลาอีกต่างหาก

……

ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก พวกเฉินชางเดินออกมาแล้ว ตอนที่ล้างมือ ทุกคนพากันกล่าวชมพร้อมรอยยิ้ม

“หมอเฉิน เก่งมากจริงๆ ครับ!”

“ใช่แล้ว พูดตามตรงนะ ผมอยู่ที่โรงพยาบาลอันดับสองมาหลายปีขนาดนี้ แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นหมอส่งตัวผู้ป่วยหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนขึ้นปริแตกมาที่โรงพยาบาลและช่วยชีวิตสำเร็จ!”

“อย่าว่าแต่โรงพยาบาลอันดับสองเลย ผมมาอยู่ที่ตงหยางนานขนาดนี้ ก็เห็นเป็นครั้งแรกเหมือนกันครับ”

“ใช่แล้ว โรงพยาบาลอันดับสองของเรามีพวกคุณแล้ว ทีมกู้ชีพฉุกเฉินก็ถือว่าตั้งขึ้นมาแล้วเช่นกัน ใครยังจะมาว่าโรงพยาบาลอันดับสองของเราไม่มีทีมกู้ชีพได้อีก”

ทุกคนพากันกล่าวชมไม่หยุดปาก หัวหน้าพยาบาลหลี่อิงอยู่ข้างๆ หยอกว่า

“หมอเฉิน เก่งมากค่ะ กล้าผ่าตัดตั้งแต่ตอนอยู่บนรถพยาบาล ฉันคิดว่าหลังจากนี้ แค่คุณออกไปข้างนอกพร้อมกับมีดผ่าตัด ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว!”

วิสัญญีแพทย์หลิวเจี้ยนได้ยินแล้วหัวเราะทันที “แค่มีดผ่าตัดไม่พอหรอก ต้องพาผมไปด้วยสิ!”

ทุกคนได้ยินมุกนี้แล้วหัวเราะลั่นทันที

การกู้ชีพสำเร็จ ทุกคนต่างก็อารมณ์ดี

เฉินชางยิ้ม “โชคดีที่มีทุกคนช่วยครับ ถ้าไม่มีทุกคน ผมก็ช่วยชีวิตผู้ป่วยไม่ไหวเหมือนกัน!”

ทุกคนได้ยินแบบนี้แล้วก็ชื่นใจอยู่ดี

อย่างไรเสีย วงการแพทย์มีหลักการบุกเดี่ยวพันลี้เสียที่ไหนกัน มีความสำเร็จไหนบ้างที่เบื้องหลังไร้ความร่วมมือจากทีม เมื่อได้ยินเฉินชางพูดแบบนี้ ในใจทุกคนก็ได้รับการปลอบประโลมแล้ว

คนเราก็เป็นแบบนี้ แค่ประโยคที่น่าฟังไม่กี่ประโยคก็ทำให้คนเบิกบานใจแล้ว ไม่ได้เรียกร้องให้คุณมอบอะไรให้

พวกเขายังไม่ทันออกมา ข่าวการผ่าตัดสำเร็จก็ไปถึงหูของพวกหลี่เป่าซานแล้ว

เมื่อครู่ตอนก่อนผ่าตัด หลี่เป่าซานรู้ว่าเหอทงมาด้วย รออยู่ที่ห้องผ่าตัดไม่มีอะไรทำ จึงออกมาด้วยเสียเลย

หลังจากรู้ว่าการผ่าตัดสำเร็จแล้ว เหอทงก็ค่อนข้างประหลาดใจ จากนั้นก็แสดงความยินดีและทอดถอนใจ

“หัวหน้าแผนกหลี่ ดูท่าผมคงประเมินระดับห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองต่ำเกินไปแล้วจริงๆ!”

หลี่เป่าซานยิ้มอย่างมีเลศนัย คุณประเมินต่ำไปเหรอ ขนาดผมยังประเมินต่ำเลย!

เหอทงถอนหายใจ “หลังจากผมรู้ว่ามีหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนขึ้นปริแตก ผมก็ตกใจมากจริงๆ!…

…พวกคุณเพิ่งสร้างทีมขึ้นมา ผมก็เลยค่อนข้างกังวล แล้วยิ่งเกิดเรื่องขึ้นตั้งแต่วันแรกด้วย พอมาดูตอนนี้ หัวหน้าแผนกหลี่ โรงพยาบาลอันดับสองของคุณช่างเป็นพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนจริงๆ ขนาดผู้ป่วยแบบนี้ก็ยังกู้ชีพกลับมาได้!…

…ผมยังได้ยินมาด้วยว่า เอ่อ…ตอนอยู่บนรถพยาบาลหมอเฉินวินิจฉัยอาการได้อย่างแม่นยำ แล้วก็ทำการกู้ชีพอย่างไม่ลังเล ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ!”

“ครับ เสี่ยวเฉินทำได้ดีมาก” หลี่เป่าซานกล่าวเสียงเรียบ

เถามี่กับซย่าเกาเฟิงเดินเข้ามาแล้ว พวกเขามองหลี่เป่าซานแล้วกล่าวอย่างอิจฉา “แหม หัวหน้าแผนกหลี่ มีเฉินชางอยู่ด้วย หัวหน้าแผนกฉุกเฉินอย่างคุณก็สบายเลยนะ”

หลี่เป่าซานยิ้มๆ คิดในใจว่า อย่ามาประจบเลย เสี่ยวเฉินเป็นของผม ใครก็ห้ามแย่งทั้งนั้น

……

……

ตอนนี้เฉินชางพาทีมแพทย์เดินออกจากห้องผ่าตัดแล้ว พอเห็นพวกหลี่เป่าซาน เขาก็พยักหน้าทักทาย

หลี่เป่าซานแนะนำเขาให้เหอทงรู้จัก “ผู้อำนวยการเหอ นี่คือเฉินชาง หมอเฉินที่ผมเล่าให้คุณฟัง!”

“เสี่ยวเฉิน นี่คือผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินของพวกเรา ผู้อำนวยการเหอ!”

พอเหอทงเห็นเฉินชางที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มแพทย์ก็งุนงงไปสักพัก เพราะในจินตนาการของเขา อย่างน้อยๆ เฉินชางน่าจะเป็นแพทย์รองหัวหน้าแผนกที่อายุประมาณสี่สิบปีแล้ว

ไม่อย่างนั้นจะวินิจฉัยอย่างแม่นยำได้อย่างไรว่าผู้ป่วยมีอาการหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนขึ้นปริแตก ทั้งยังตัดสินใจผ่าตัดบนรถพยาบาลยังไม่ลังเลด้วย

ถ้าไม่มีการฝึกฝนเป็นเวลาสิบกว่าปี คนส่วนใหญ่ก็ทำไม่ได้เลย!

แต่เฉินชางคนนี้ ดูแล้วอย่างมากก็อายุสามสิบปีเท่านั้น จึงอดถามไม่ได้ว่า “คุณเองเหรอครับ เฉินชาง!”

เฉินชางงงทันที อย่าบอกนะว่ามีคนปลอมตัวเป็นฉัน

“ผู้อำนวยการเหอ สวัสดีครับ ผมคือเฉินชาง หรือว่า…ยังมีเฉินชางคนอื่นด้วยเหรอครับ”

คำพูดของเฉินชางทำให้เหอทงขำแล้ว เขาส่ายหน้าตอบว่า “ไม่มีครับ! มีแค่คุณ คุณเก่งมาก! อายุเท่านี้ก็พัฒนาแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองได้เป็นอย่างดีแล้ว!”

“เห็นคุณแบบนี้ผมก็วางใจแล้วครับ แต่…ผมขอเตือนอะไรคุณสักอย่างนะ! ต่อไปนี้คุณอาจจะต้องเหนื่อยขึ้นนิดหน่อยครับ!”

พอเฉินชางได้ยินคำว่าลำบาก ในดวงตาก็เต็มไปด้วยค่าประสบการณ์ เขากำลังกลุ้มใจเรื่องที่หามอนสเตอร์ระดับสูงไม่เจอพอดี ถ้าเจอมอนสเตอร์ที่ได้ค่าประสบการณ์ห้าพัน ต้องเจอกี่ตัวกว่าจะได้เลื่อนระดับ

เมื่อเห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งเดือน การแข่งขันทักษะผ่าตัดแผนกศัลยกรรมหัวใจระดับประเทศก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ในใจเฉินชางก็กลัวอยู่เหมือนกัน

อย่างไรเสีย ขนาดจิ่งหรานคนเดียวยังเป็นแบบนี้เลย ทั้งประเทศไม่รู้ว่ามีคนระดับจิ่งหรานอยู่ตั้งเท่าไร

ตอนนี้ถ้าตัวเองไม่ตั้งใจฝึกฝนให้ดี เมื่อถึงเวลานั้น…ก็ไม่แน่ใจเลยว่าจะได้ที่เท่าไร

การแข่งขันทักษะผ่าตัดแพทย์เยาวชนระดับประเทศ มีเงื่อนไขว่าผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องอายุไม่เกินสามสิบห้าปี เงื่อนไขนี้ครอบคลุมเป็นวงกว้างแล้ว มีแพทย์ปริญญาเอกหลายคนที่อายุยังไม่ถึงสามสิบปี คนอายุสามสิบห้าปีกลายเป็นแพทย์ระดับรองหัวหน้าแผนกแล้ว ถึงเวลานั้นอายุจะไม่กลายเป็นข้อได้เปรียบของคุณอีก ถ้าประสบการณ์ตรวจรักษาไม่พอก็เหมือนกันอยู่ดี

บทที่ 518 ฉินเสี้ยวยวน ขายลูกสาวแลกเกียรติยศ

จู่ๆ เฉียนเลี่ยงก็ตบโต๊ะดังปั้ง!

“ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ว่าทำไมเฉินชางไม่ออกจากโรงพยาบาลอันดับสอง!”

เขาทำให้หวังเซี่ยงจวินตกใจ เมื่อเห็นเขามีท่าทีแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม หวังเซี่ยงจวินก็งงนิดหน่อย

“เพราะอะไร”

เฉียนเลี่ยงหรี่ตาตอบ “นายลองคิดดูสิ สำหรับเฉินชางแล้ว โรงพยาบาลอันดับสองที่ไม่มีการดูแล หรือสวัสดิการพิเศษ ถ้าเทียบกับผลงานของเสี่ยวเฉิน โรงพยาบาลอันดับสองเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับเรื่องนี้ ถึงขนาดว่า…แม้แต่รางวัลที่ให้ก็ให้ตามกฎหมาย เขาไม่กลัวว่าเสี่ยวเฉินจะหนีไปเหรอ”

“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ฉินเสี้ยวยวนนั่นเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์จริงๆ ด้วย! จิ้งจอกเฒ่าที่รู้หน้าไม่รู้ใจ!”

หวังเซี่ยงจวินงงทันที “เหล่าเฉียน พูดให้ชัดเจนหน่อย ทำไมฉันฟังไม่เข้าใจ!”

เฉียนเลี่ยงหัวเราะแห้งๆ แล้วชี้ไปที่สาวน้อยคนหนึ่งบนรูปภาพพร้อมบอกว่า “นายดูนี่สิ!”

หวังเซี่ยงจวินเพ่งมองอย่างตั้งใจ “อืม สวยมากเลย!”

เฉียนเลี่ยง “…”

“นายรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร”

หวังเซี่ยงจวินส่ายหน้า อย่าบอกนะว่า…เบื้องหลังยังมีอะไรซ่อนอยู่อีก

เป็นอย่างที่คาดไว้ เฉียนเลี่ยงคายความลับออกมาอย่างช้าๆ “ฉินเยว่ เป็นลูกสาวคนเดียวของฉินเสี้ยวยวน!”

พอได้ยินคำตอบแบบนี้ หวังเซี่ยงจวินก็สูดหายใจเฮือกด้วยความตกตะลึง

โอ้ เด็กดีของฉัน!

ผู้อำนนวยการฉินคนนี้ควักทุนเก่ามาใช้ชัดๆ

อีกฝ่ายฝากฝังลูกสาวให้นายแล้ว นายยังจะต้องการอะไรอีกล่ะ

พอนึกถึงตรงนี้ หวังเซี่ยงจวินกับเฉียนเลี่ยงก็สบตากันแวบหนึ่ง มองออกเลยว่าในสายตาของพวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความหวาดกลัว’

โคตรโหดเลย!

โหดเกินไปจริงๆ

ในสายตาของทั้งสองตอนนี้ ฉินเสี้ยวยวนกลายเป็นมารร้ายที่ ‘ขายลูกสาวแลกเกียรติยศ’ และ ‘หน้าเนื้อใจเสือ’ ไปแล้ว!

หลังจากเงียบไปนาน…

จู่ๆ ทั้งสองก็พูดพร้อมกัน

“เหล่าเฉียน นายมีลูกสาวหรือเปล่า”

“เหล่าหวัง นายมีลูกสาวหรือเปล่า”

ทั้งสองชะงักพร้อมกัน!

เฉียนเลี่ยงกลอกตามองบน “ใช่ว่านายจะไม่รู้ ลูกสาวฉันแต่งงานงานไปหมดแล้วไม่ใช่หรือไง!”

หวังเซี่ยงจวินก็ยิ่งถลึงตาใส่ “ตอนที่ลูกชายฉันเกิด นายยังตั้งชื่อเล่นให้อยู่เลย จำไม่ได้หรือไง!”

ทั้งสองมองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วก็ถอนหายใจอีก

จนใจ…จนปัญญา!

ผ่านไปครู่เดียว จู่ๆ หวังเซี่ยงจวินก็ถามอีกว่า “หรือไม่อย่างนั้น…ส่งเสี่ยวเมิ่งมาให้ฉัน ย้ายไปที่แผนกฉันเป็นไง”

เฉียนเลี่ยงกลอกตาใส่ “พอแล้วๆ เลิกทำเป็นเล่นได้แล้ว!”

หวังเซี่ยงจวินได้ยินแล้วถลึงตา “ฉันทำเป็นเล่นยังไง ฉันคำนึงถึงแผนกของพวกเรา คำนึงถึงโรงพยาบาลของพวกเราอยู่นะ!”

“ค่อยคิดหาวิธีอื่นแล้วกัน” เฉียนเลี่ยงส่ายหน้า

“ฉันมีอยู่วิธีการหนึ่ง!” จู่ๆ หวังเซี่ยงจวินก็พูดขึ้น

“วิธีการอะไร” เฉียนเลี่ยงถาม

หวังเซี่ยงจวินหรี่ตายิ้ม “วันนี้เช้าฉันจะไปรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินที่โรงพยาบาลอันดับสองสักรอบ ไม่ได้ ที่นั่นว่างจะตาย ที่นั่นเหมือนสถานที่พักผ่อนตอนเกษียณอายุสำหรับเสี่ยวเฉิน ไม่สู้ส่งตัวเขามาหาพวกเราดีกว่า พวกเราจะได้หาอะไรให้พวกเขาฝึกฝนสักหน่อย!”

“เดี่ยวฉันจะโทรหาหัวหน้าเหอฝั่งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน 120 ให้เขาไปด้วยกัน บอกว่าช่วงนี้โรงพยาบาลเรางานยุ่งมาก ขอยืมตัวเสี่ยวเฉินมาช่วยงานสักระยะ!”

พอนึกถึงตรงนี้ หวังเซี่ยงจวินก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก!

เวลาประมาณสิบนาฬิกากว่าๆ หลี่เป่าซานรับโทรศัพท์ ได้ความว่าเหอทง หัวหน้าศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกับหวังเซี่ยงจวิน หัวหน้าแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลตงต้ากำลังจะมาที่โรงพยาบาล พวกเขามีธุระสำคัญจะปรึกษากัน

หลังจากได้ข่าว หลี่เป่าซานก็พลันเกิดลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่เป็นมงคล!

เถามี่กับหลี่เป่าซานเพิ่งผ่าตัดเสร็จพอดี ขณะมองหลี่เป่าซานทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาก็ถามทันทีว่า “เป็นอะไรไป เหล่าหลี่”

หลี่เป่าซานขมวดคิ้วเล็กน้อย “หวังเซี่ยงจวินกับหัวหน้าเหอของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกำลังจะมา ไม่รู้ว่ามีธุระอะไร”

พอเถามี่ได้ฟัง ก็ถามทันทีว่า “หืม ฉันกับเหล่าเหอก็สนิทกันอยู่นะ หรือจะให้ไปเจอด้วยกันไหมล่ะ”

หลี่เป่าซานพยักหน้า!

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็นั่งอยู่ในห้องทำงานของหัวหน้าแผนกฉุกเฉินแล้ว

หวังเซี่ยงจวินคิดแผนรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว หลี่ถ่านดำ นายมีกลยุทธ์สาวงามของนาย ฉันก็มีกลยุทธ์ทุกข์กาย[1]ของฉันเหมือนกัน!

ถ้าไม่ได้ผลค่อยใช้กลยุทธ์ล่อเสือออกจากถ้ำ!

หวังเซี่ยงจวินกลั่นความรู้สึกอยู่นานมาก แต่…ก็ยังร้องไห้ไม่ออกอยู่ดี

เหอทงมองหวังเซี่ยงจวินที่กำลังพยายามแสดงออกทางสีหน้า มุมปากกระตุกทันที ขี้เหร่จริงๆ!

หลังจากผ่านไปนานจนทุกคนทยอยกันนั่งลงหมดแล้ว

หวังเซี่ยงจวินก็ถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่งแล้วพูดเข้าประเด็นเลย “เฮ้อ…เหล่าหลี่ครับ!”

ประโยคนี้ฟังดูเปี่ยมด้วยน้ำใสใจจริง ทำให้หลี่เป่าซานงงงวยทันที “หัวหน้าหวัง…คุณเป็นอะไรไป”

หวังเซี่ยงจวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง “ช่วงนี้เหนื่อยมาก ทั้งสัปดาห์ผมนอนไม่ถึงสี่สิบชั่วโมง เมื่อคืนก็ตีสองกว่าจะได้นอน งานยุ่งเกินไปแล้ว!”

หลี่เป่าซานเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง พอนึกถึงแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลตงต้าของหวังเซี่ยงจวิน ก็พยักหน้าอย่างเกรงใจเล็กน้อย “ใช่แล้ว แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลตงต้ารับหน้าที่หนักจริงๆ หัวหน้าหวังลำบากแล้ว”

พอเห็นว่าทำแบบนี้ได้ผล หวังเซี่ยงจวินก็ตาแดงทันที “ผมไม่กลัวลำบากหรอก ไม่กลัวเหนื่อยด้วย นี่คือคุณสมบัติพื้นฐานที่บุคลากรแผนกฉุกเฉินควรจะมี คุณว่าถูกไหมครับ เหล่าหลี่!”

“ไม่ผิดหรอก” หลี่เป่าซานพยักหน้า

หวังเซี่ยงจวินพูดต่อ “แต่พูดตามตรงนะ หมอแผนกฉุกเฉินก็ต้องฝึกฝนแบบนี้ นึกถึงพวกเราตอนนั้นเลย วันหนึ่งผ่าตัดตั้งหลายเคส ถูกไหมล่ะ ถ้าไม่มีผู้ป่วย ไม่มีการรักษาฉุกเฉิน ไม่มีเคสผู้ป่วย แล้วเราจะพัฒนาตัวเองได้ยังไงล่ะ คุณว่าไหมเหล่าหลี่”

หลี่เป่าซานเห็นด้วยอย่างลึกซึ้ง “ใช่แล้ว สมัยพวกเราน่ะ มีแผนกฉุกเฉินเยอะขนาดนี้ที่ไหนกัน แต่ผู้ป่วยมีเยอะขนาดนั้น ทุกวัน…แต่แบบนั้นก็เลื่อนตำแหน่งได้เร็วจริงๆ!”

หวังเซี่ยงจวินพยายามต่อไป “ดังนั้น ที่ผมมาวันนี้ ก็เพราะอยากจะร่วมงานกับหัวหน้าหลี่ ผมรู้สึกว่าโรงพยาบาลพี่น้องอย่างพวกเราควรเสริมความร่วมมือ ช่วยยกระดับซึ่งกันและกัน ผมกำลังคิดว่าจะพาแพทย์ผู้ช่วยของหัวหน้าหลี่ไปฝึกสักหน่อย พาไปฝึกฝนยกระดับความสามารถ หนึ่งคือจะช่วยยกระดับการรักษาฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองได้ สองคือช่วยลดความกดดันที่อยู่ตรงหน้าพวกเราได้”

“หัวหน้าหลี่ คุณว่าวิธีการนี้เป็นยังไงบ้างครับ”

พอหลี่เป่าซานได้ยิน สีหน้าก็ดำมืดทันที พูดมาตั้งนาน พูดจาอ้อมไปอ้อมมา ที่แท้ก็อยากได้คนไม่ใช่เหรอ

ถูกใจใครเข้าแล้วล่ะ

“อืม! ก็พูดถูก ถ้าอย่างนั้น ผมให้เสี่ยวเฉินไปฝึกสักหน่อยเป็นไง” หลี่เป่าซานให้ความร่วมมือมาก

หวังเซี่ยงจวินตบต้นขาอย่างอดไม่ไหว “ดีเลย! ผมว่าดีมากเลย ผมจะ…”

“ดีเหรอ ดีกับผีน่ะสิ!” หลี่เป่าซานแสยะยิ้ม

หวังเซี่ยงจวินหัวใจกระตุกวูบ แม่งเอ๊ย…ฉันเผยพิรุธแล้วเหรอ

เหอทงที่อยู่ข้างๆ เห็นท่าทางของทั้งสอง ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ “พอแล้วๆ ทั้งคู่ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ที่จริงช่วงนี้โรงพยาบาลตงต้ามีแรงกดดันมากจริงๆ ที่ผมมาวันนี้…”

หลี่เป่าซานมองเหอทง “เหล่าเหอ ผมมองคุณผิดไป นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคนแบบนี้! เป็นไปกับหวังเซี่ยงจวินด้วย…”

เหอทงยิ้มอย่างเก้อเขิน ก่อนจะบอกว่า “เป่าซาน คุณอย่าโกรธเลยนะ ฟังผมพูดให้จบก่อน!…

…จุดประสงค์ที่ผมมา ก็เพื่อจะถามความเห็นคุณสักหน่อย คุณว่าโรงพยาบาลอันดับสองจะสร้างทีมกู้ชีพที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้หรือเปล่า สาเหตุหลักเป็นเพราะเคสอุบัติเหตุทางรถยนต์จำเป็นต้องมีการผ่าตัดด่วน ยังไงตอนนี้ทรัพยากรในการกู้ชีพก็มีจำกัด ถ้าโรงพยาบาลอันดับสองลุกขึ้นมาสนับสนุนเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าการกู้ชีพจะมีอัตราสำเร็จเพิ่มขึ้นไม่น้อยแน่! แบบนี้ผมจะได้วางใจให้ 120 ส่งผู้ป่วยมาเหมือนกัน…

…ทีมนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากแผนกศัลยกรรมหัวใจ แผนกศัลยกรรมกระดูก แผนกศัลยกรรมทั่วไปมาร่วมกันกู้ชีพ”

พอหลี่เป่าซานฟังถึงตรงนี้ ก็บอกว่า “หัวหน้าเหอ เอาอย่างนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ผมจะให้คำตอบคุณ!”

[1] กลยุทธ์ทุกข์กาย 苦肉计 เป็นกลยุทธ์ยามพ่ายจากเรื่องสามก๊ก มีหลักการคือทำร้ายตัวเองให้บาดเจ็บเพื่อให้ศัตรูหลงเชื่อ

———————

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท