เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 531 อวิชชาที่น่ากลัว

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 531 อวิชชาที่น่ากลัว

เมื่อได้ยินเหยาจื้อเหวินอธิบายประวัติการเจ็บป่วย จู่ๆ ลูกสาวทั้งสองของอีกฝ่ายก็ยืนขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ

“พวกเราไม่ได้เสียดายเงิน เงินไม่ใช่ปัญหา แต่พวกเราไม่อยากให้คุณพ่อได้รับความทุกข์ทรมาน!”

“เขาอายุมากขนาดนี้แล้ว ยังต้องไปใส่สายสวนลากลิ่มเลือดอะไรนั่นอีก ลำบากเกินไปแล้ว”

ประโยคนี้ทำให้เฉินชางเกือบกลั้นขำไม่ไหว ผู้ป่วยสูงอายุเป็นอัมพาตครึ่งซีกไม่มีสติรู้ตัว กลั้นปัสสาวะกับอุจจาระไม่ไหวด้วยซ้ำ คุณยังบอกว่าไม่อยากให้เขาลำบากอีกเหรอ

แต่…ถ้าจะให้โมโหใส่พฤติกรรมโง่เง่าของญาติผู้ป่วย เฉินชางได้แต่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เขาไม่อยากสนทนากับญาติผู้ป่วยแบบนี้แม้แต่ประโยคเดียว จึงหันกลับไปถามเหยาจื้อเหวิน “ทำไมไม่ส่งไปแผนกประสาทวิทยาครับ”

เหยาจื้อเหวินดูจนใจอย่างชัดเจนมาก เธอถอนหายใจแล้วตอบว่า “ตอนนี้ข้างบนไม่มีเตียง ขอให้น้ำเกลือแล้วก็รักษาที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ถึงจะย้ายไป”

เฉินชางดูรายการการให้น้ำเกลือแล้วก็ยิ้มทันที ครอบครัวนี้มีเงินจริงๆ สารน้ำ NBP [1]ขวดละสามร้อยหยวน เป็นยาที่ต้องออกเงินซื้อเอง ช่วยบำรุงประสาท วันนี้ให้น้ำเกลือไปแล้วสองขวด

เท่ากับลดความยุ่งยากให้พวกเฉินชางแล้วไม่น้อย ยินดีที่ไม่ต้องปวดหัวเรื่องฐานะทางการเงิน!

ปกติเนื่องจากมีโรคเฉียบพลันไม่น้อย ต้องใช้ยาดีและยาแพงจำนวนมากเพื่อรักษา แต่ถ้าเป็นยาที่ราคาแพงมาก ก็มีหลายครอบครัวที่รับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว

ผู้ป่วยไม่มีความยุ่งยากเรื่องนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะเจอปัญหาที่ยุ่งยากยิ่งกว่านั้น: คนในครอบครัวที่ไร้ความรู้!

เหยาจื้อเหวินพูดต่อ “เพราะการเป็นอัมพาตครึ่งซีกจะมีอาการอัมพาตก้านสมองส่วนท้ายตามมา ตอนนี้ผู้ป่วยดื่มน้ำกินอาหารก็ยังไอเลย ทั้งยังพูดไม่ได้ ความรู้สึกตัวต่ำ กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่อยู่”

พอได้ฟังเหยาจื้อเหวินอธิบาย เฉินชางก็บอกทันทีว่า “ผู้ป่วยต้องใส่สายยางทางจมูก”

ตอนนี้ลูกสาวพูดขึ้นอีกว่า “ตอนนี้เขาเป็นแบบนี้แล้ว การสอดท่อเข้ากระเพาะอาหารจะทรมานขนาดไหนกัน! แล้วอีกอย่าง…เขาก็ดื่มน้ำเองได้ค่ะ”

เฉินชางถามต่อ “กลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่อยู่ ไม่ได้ใช้สายสวนอุจจาระเหรอครับ”

เหยาจื้อเหวินส่ายหน้า แล้วตอบด้วยความจนใจ “เปล่าค่ะ! ญาติผู้ป่วยไม่อนุญาต กลัวว่าผู้ป่วยจะไม่สบายตัว!”

ประโยคนี้ทำให้เฉินชางโมโหจนถลึงตา แทบจะด่าคนแล้ว!

คนในครอบครัวที่ดูเหมือนมีความรู้ แต่ทำไมทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้ล่ะ!

เฉินชางกลั้นความโกรธเอาไว้ เขาเงยหน้าบอกญาติผู้ป่วยว่า “ผู้ป่วยกลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ ถ้าไม่ใส่สายสวน ก็อาจจะเกิดอาการปัสสาวะคั่งได้ครับ!”

หญิงชราส่ายหน้า “ฉันใส่ผ้าอ้อมให้เขาแล้ว ไม่กลัวหรอกค่ะ ใส่สายสวนปัสสาวะอะไรนั่นจะทรมานขนาดไหนกัน แค่ฉันเห็นก็ยังเจ็บแทนเลย…ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ ต่อให้เขาฟื้นขึ้นมาก็ไม่ยอมอยู่ดี”

นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้ เฉินชางทำได้เพียงพาเหยาจื้อเหวินเดินออกไป

ตอนนี้ เล่อเล่อนำหนังสือยินยอมปฏิเสธการรักษามาแล้ว

ญาติผู้ป่วยให้ความร่วมมือมาก หญิงชราเซ็นชื่อได้สวยงามมาก แค่เห็นก็รู้ว่า ‘มีการศึกษา’

แต่เหยาจื้อเหวินก็ยังไม่วางใจ เดินไปเดินมาแล้วก็เลี้ยวกลับไปคุยกับญาติผู้ป่วยสามสี่รอบ รอบละยี่สิบนาที แล้วก็ผ่านไปแบบนี้สองชั่วโมงกว่าแล้ว

เหยาจื้อเหวินกลับมาที่ห้องทำงาน โมโหจนแทบจะเขวี้ยงเวชระเบียนทิ้ง

“คนพวกนี้เป็นใครกัน กลัวได้รับความทุกข์ทรมาน ไม่อยากให้ผู้ป่วยสูงอายุลำบาก แบบนี้จงใจจะทำให้ตายใช่ไหม”

ได้ยินเสียงไอดังมาจากในทางเดินตึกไม่หยุด เฉินชางถอนหายใจอีกแล้ว

บางครั้ง คนที่ฆ่าผู้ป่วยก็ไม่ใช่หมอ แต่เป็นญาติของผู้ป่วย

เฉินชางยังค้นพบอีกว่า คนที่ ‘เข้าใจนิดเดียว’ พวกนั้นยิ่งรับมือยากมากกว่า มักเอาความรู้ครึ่งๆ กลางๆ ที่ค้นหาจากไป๋ตู้หรือไม่ก็ได้ยินมามาท้าทายวิชาชีพของหมอ

ประมาณตีสองกว่า ประตูห้องเวรดึกก็มีเสียงเคาะดังต่อเนื่อง

เฉินชางและหยาจื้อเหวินรีบลุกขึ้นเดินออกไป

“เป็นอะไรไปครับ”

“ผู้ป่วยนอนไม่หลับพลิกตัวไปพลิกตัวมา ใช้มือดึงเครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ ทั้งยังไอรุนแรงขึ้นด้วยค่ะ!” เล่อเล่อบอก

พอได้ยินแบบนี้ เฉินชางกับเหยาจื้อเหวินก็สีหน้าเปลี่ยนทันที แล้วรีบกลับมาที่ห้องผู้ป่วย

หลังจากเข้ามาแล้ว ก็พบว่าลูกสาวสองคนกำลังกดมือผู้ป่วยสูงอายุอยู่ ไม่ให้เขาเอามือคลำมั่วซั่ว

หญิงชรากำลังปลอบใจผู้ป่วยสูงอายุด้วยท่าทางมีเมตตา “ไม่เป็นไรนะคะ ไม่เป็นไร!”

จากนั้นก็ใช้มือลูบคลำมือของผู้ป่วยสูงอายุ ช่วยนวดให้เขา

เฉินชางอึ้งทันที เห็นได้ชัดว่าญาติผู้ป่วยตีความอาการของผู้ป่วยสูงอายุคนนี้ว่าเป็นความเครียดและกระสับกระส่าย

เฉินชางเลิกผ้าห่มขึ้นมาดู ปัสสาวะไม่เปียก ยังสะอาดอยู่ แต่ตรงท้องน้อยพองขึ้นมาอย่างชัดเจน

เฉินชางแทบประสาทกิน ให้น้ำเกลือไปเยอะขนาดนี้ แต่ไม่มีน้ำปัสสาวะออกมาเลย ไม่กระสับกระส่ายก็แปลกแล้ว!

เฉินชางรีบบอกว่า “ผู้ป่วยต้องใส่สายสวน ตอนนี้เกิดภาวะปัสสาวะคั่งรุนแรงแล้ว กระเพาะปัสสาวะนูนขึ้นมาชัดเจน เขาก็เลยกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงแบบนี้!…

…แล้วก็! พวกคุณเห็นแก่ความรู้สึกของผู้ป่วย เรื่องนี้พวกเราเข้าใจได้!…

…แต่มีความจริงบางอย่างที่พวกคุณต้องทำความเข้าใจนะครับ ไม่มีการรักษาแผนไหนที่ผู้ป่วยไม่เจ็บปวด พวกเราไม่อาจปล่อยให้ผู้ป่วยรู้สึกทรมานหนักกว่าเดิมแค่เพราะทนความเจ็บปวดเล็กน้อยนี้ไม่ไหว…

…ยิ่งถ้าความเจ็บปวดมหาศาลนั้นเป็นสิ่งที่พวกเรารับรู้ได้ล่วงหน้า”

หลังจากอธิบายไปรอบหนึ่ง ในที่สุดก็ยอมให้ใส่สายสวนปัสสาวะแล้ว

แต่…ตอนที่เล่อเล่อเตรียมใส่สายสวนปัสสาวะ หญิงชราก็เกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมอีก!

“มีพยาบาลผู้ชายหรือเปล่า”

เฉินชางกับเหยาจื้อเหวินงงไปชั่วขณะ แม้แต่เล่อเล่อก็อึ้งเช่นกัน

แม่งเอ๊ย ผู้ป่วยสูงอายุคนนี้ไม่มีสติสัมปชัญญะแล้ว คุณยังมาถามอีกเหรอว่ามีพยาบาลผู้ชายหรือเปล่า

เฉินชางถอนหายใจ “เล่อเล่อ ผมทำเอง”

เขาใส่สายสวนปัสสาวะอย่างชำนาญ ในที่สุดน้ำปัสสาวะก็ไหลออกมาแล้ว

ในที่สุดผู้ป่วยสูงอายุที่กระสับกระส่ายก็สงบลงแล้ว

แต่…

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีก

เล่อเล่อรายงานอย่างร้อนใจ “หมอเฉินคะ ผู้ป่วยตัวร้อนค่ะ!”

เฉินชางกับเหยาจื้อเหวินสบตากันแวบหนึ่ง แล้วก็รีบเข้าไปที่ห้องผู้ป่วย

ผู้ป่วยมีอุณหภูมิร่างกาย 38.3 องศาเซลเซียส ทั้งยังไอไม่หยุดด้วย!

โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่มีภาวะอุดตันหลอดเลือดสมองแบบนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การเป็นอัมพาต แต่เป็นการไอสำลักตอนให้อาหารเนื่องจากภาวะอัมพาตก้านสมองส่วนท้าย จากนั้นก็ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอด

ส่วนอาการปอดติดเชื้อ สำหรับผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกเฉียบพลันแบบนี้ ก็มักจะมีอันตรายถึงชีวิต

เฉินชางเงยหน้าถาม “คุณให้น้ำเขาดื่มหรือเปล่า”

ญาติผู้ป่วยชะงักทันที ตอบอย่างหน้าแดง “ฉันเห็นเขา…”

เฉินชางถอนหายใจ “เตรียมใส่สายยางทางจมูก”

ญาติผู้ป่วยแบบนี้ สักวันก็คงทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายถึงชีวิต

เฉินชางอธิบายต่อไป ญาติผู้ป่วยช่างเป็นคนที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ

หญิงชรามองเฉินชางกับเหยาจื้อเหวินด้วยความโมโหเล็กน้อย พร้อมบอกว่า “คุณหมอ…พวกเราไม่เข้าใจ คุณจะมาโทษพวกเราไม่ได้นะ…พวกเราไม่เข้าใจเลย!”

เฉินชางโมโหจนแทบหัวเราะออกมา เมื่อกี้คุณเข้าใจดีมากไม่ใช่เหรอ

ตอนกลางคืน เดินไปเดินกลับระหว่างห้องผู้ป่วยอย่างนี้ทั้งคืน ยาปฏิชีวนะก็ใช้แล้วเช่นกัน

ควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้แล้วในเบื้องต้น แต่นี่เป็นแค่…การเริ่มต้นเท่านั้น

ผู้ป่วยมีภาวะหายใจล้มเหลวแล้ว ตอนนี้รวมกับอาการปอดติดเชื้อ พรุ่งนี้ก็ต้องส่งเข้าห้อง ICU แล้ว

หรือจะส่งไปที่แผนกประสาทวิทยา?

ฝันไปเถอะ พวกเขาไม่ยอมรับผู้ป่วยที่อาการหนักขนาดนี้แน่

เป็นอย่างที่คาดไว้ ตอนเช้าเวลาเก้าโมงกว่า หลังจากส่งต่อเวรเสร็จ ผู้ป่วยก็ถูกส่งตัวไปที่ห้อง ICU ท่ามกลางความเสียใจของญาติ หมอแผนกประสาทวิทยาไม่มีทางรับผู้ป่วยที่อาการหนักขนาดนี้มาไว้ที่ห้องผู้ป่วยอยู่แล้ว

ที่สำคัญที่สุดก็คือ จนกระทั่งตอนนี้ผู้ป่วยก็ยังไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ!

บรรดาญาติผู้ป่วยยังคงเอาแต่แก้ตัวกับหมอเจิ้งที่ห้อง ICU…

เฉินชางส่ายหน้า

บางครั้ง ความไม่รู้ของญาติผู้ป่วย ก็เป็นการส่งญาติตัวเองลงหลุมศพได้เหมือนกัน

การส่งอำนาจในการเซ็นยินยอมให้พวกเขา เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าไว้วางใจจริงๆ…

[1] สาร NBP หรือ 3-Butylphthalide เป็นสารประกอบในน้ำมันเมล็ดคื่นช่าย

บทที่ 525 ประจบสอพลอ

ดังนั้น ในเวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือนนี้ เฉินชางตัดสินใจจะไม่วอกแวก จะตั้งใจฆ่ามอนสเตอร์ เพิ่มระดับของตัวเอง เตรียมตัวเพิ่มระดับให้ทักษะของตัวเองสักหน่อย

แม้ไม่รู้ว่าผู้ชนะเลิศจะได้รางวัลอะไร แต่ไอเทมดรอปที่ได้จากการ PK ชนะแต่ละครั้งก็ทำให้กระชุ่มกระชวยแล้ว ชนะหลายครั้งย่อมดีกว่าแน่นอน ทางที่ดีที่สุดคือจัดการคนกลุ่มนั้นให้หมด

การแข่งขันครั้งนี้ หลักๆ เน้นไปทางการผ่าตัดหลอดเลือดใหญ่ของแผนกศัลยกรรมหัวใจ อย่างน้อยก่อนการแข่งขันเริ่ม เฉินชางก็ต้องรับประกันให้ได้ว่าตัวเองคุ้นเคยการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจทั้งหมดแล้ว ทำได้ดีถึงขั้นเลื่อนระดับเป็นปรมาจารย์

ถ้าเป็นไปได้ เขาต้องเพิ่มทักษะเย็บปิดเส้นเลือดให้ถึงระดับสมบูรณ์ ต่อให้ต้องใช้บัตรฝึกพิเศษหนึ่งใบก็ไม่ถือว่ามากเกินไป!

ตอนนี้การผ่าตัดหลอดเลือดใหญ่ของแผนกศัลยกรรมหัวใจของเขามีแค่สามแบบเท่านั้น นั่นก็คือผ่าตัดฟื้นฟูเอออร์ตาส่วนขึ้น เอออร์ตาส่วนลงและหลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่

ส่วนผ่าตัดซ่อมแซมหลอดเลือดใหญ่ภายนอกช่องอก นอกจากสามแบบนี้แล้ว ก็ยังมี [ผ่าตัดหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองเทียม] [ผ่าตัดซ่อมเส้นเลือดใต้กระดูกไหปลารร้า] [ผ่าตัดซ่อมหลอดเลือดเวนาคาวาที่เสียหาย] [ผ่าตัดซ่อมหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา – หลอดเลือดเวนาคาวาทะลุ]

พอเป็นแบบนี้ ในเวลาหนึ่งเดือนนี้ เฉินชางจึงกดดันมาก!

ตอนที่เฉินชางกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้

เหอทงก็เป็นฝ่ายพูดก่อนว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน เสี่ยวเฉิน คุณถนัดการผ่าตัดอะไรบ้าง หรือมีการผ่าตัดอะไรที่อยากทำ หรืออยากเรียนรู้หรือเปล่า ตอนที่พวกเรากำลังจัดตารางงาน พวกเราจะพยายามเลือกให้ล่วงหน้า เปิดไฟเขียวให้คุณ”

พอเฉินชางได้ยินประโยคนี้ก็เผยสีหน้าดีใจทันที นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก

มีการผ่าตัดให้ฝึกฝนจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องดีสำหรับตนแน่นอน

พอได้ยินเหอทงพูดแบบนี้ ขนาดหลี่เป่าซานที่อยู่ข้างๆ กันยังอึ้งเลย!

ผู้อำนวยการเหอคุยง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

ตอนแรกที่ขอให้เขาส่งเคสไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน โรคถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันมาให้ ก็เลื่อนเวลาไปตั้งหลายวันกว่าจะส่งมาให้

ตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝ่ายเปิดไฟเขียวให้เฉินชางเองแล้ว

นี่…ทำไมเขาถึงประจบสอพลอขนาดนี้

เห็นเสี่ยวเฉินมีอนาคตสดใสก็เลยประจบเหรอ

ถุย!

อนาคตสดใส!

ขณะมองเฉินชางและคนหนุ่มคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังเขา เหอทงก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว นี่สิที่เรียกว่าอนาคต!

ให้โอกาสพวกเขาฝึกฝนสักหน่อย ให้เวลาพวกเขาเลือกสักหน่อย แบบนี้ถึงจะก้าวหน้ามากขึ้น อนาคตจะเดินได้ไกลกว่าเดิม

คนหนุ่มสาว บางครั้งสิ่งที่ขาดแคลนก็คือโอกาส

พอเฉินชางได้ฟัง ก็ตอบพร้อมรอยยิ้มทันที “ผู้อำนวยการเหอ ผมหวังว่าจะให้เคสที่คล้ายกับที่ผ่าตัดวันนี้ครับ ผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจในช่องอก ผ่าตัดซ่อมแซมตับและม้ามแตกจากการบาดเจ็บภายนอกก็ได้เหมือนกันครับ”

ที่จริงแล้ว คำพูดของเหอทงก็ถือเป็นการหยั่งเชิงเช่นกัน เขาเองก็อยากรู้ว่าเสี่ยวเฉินคนนี้ถนัดผ่าตัดอะไรกันแน่ พอได้ยินเฉินชางพูดแบบนี้ เขาก็ตะลึงทันที

ที่พูดมาเป็นการผ่าตัดที่มีระดับความยากสูงทั้งนั้น!

อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับแผนกศัลยกรรมหัวใจ แผนกศัลยกรรมทรวงอก แผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี แผนกศัลกรรมทั่วไปด้วย

เฉินชางเก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอ

เหอทงพยักหน้า “ได้ครับ คุณบันทึกเบอร์โทรศัพท์ผมไว้ ติดต่อผมได้ทุกเมื่อเลย คนหนุ่มสาว เอาใจช่วยคุณครับ!”

“งั้นก็ขอบคุณผู้อำนวยการเหอมาครับ” เฉินชางยิ้ม

เหอทงโบกมือ แล้วออกจากโรงพยาบาลอันดับสองไป

ข่าวการผ่าตัดกู้ชีพของเฉินชางวันนี้แพร่ไปทั่วโรงพยาบาลอันดับสองอย่างรวดเร็ว

ได้รับชัยชนะในศึกแรก ทำให้ทีมรักษาฉุกเฉินของคนหนุ่มสาวได้รับคำวิจารณ์ในทางที่ดีจำนวนมาก

แผนกฉุกเฉินคือสถานที่ที่เกิดวีรบุรุษได้ง่ายที่สุด อย่างไรเสีย แค่คิดถึงงานกู้ชีพก็ทำให้รู้สึกเร้าใจและตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้ว เหมือนกับเป็นนักรบแนวหน้า

ส่วนชื่อของฉินชางก็ดังเป็นพลุแตกที่โรงพยาบาลอันดับสองในชั่วพริบตาเดียวเช่นกัน มีทั้งภาพลักษณ์และคุณสมบัติ ศักยภาพแข็งแกร่ง ทั้งยังมีเรื่องเล่าอันเป็นตำนาน เท่านี้ก็เติมเต็มความเพ้อฝันของพยาบาลสาวนับไม่ถ้วนแล้ว

แม้จะไม่ใช่เจ้าชายขี่ม้าขาว แต่ก็นับว่าเปป็นเจ้าชายชุดกาวน์ได้เหมือนกัน

หลังจากผ่านศึกวันนี้มา เฉินชางก็ทำให้แพทย์รุ่นใหญ่ของแผนกฉุกเฉินและแผนกอื่นๆ เหล่านั้นโล่งใจแล้ว

ฉินเสี้ยวยวนมองถานลี่กั๋วที่อยู่ตรงข้ามแล้วกล่าวยิ้มๆ “เห็นหรือยัง โรงพยาบาลอันดับสองของพวกเราก็มีทีมกู้ชีพแล้วเหมือนกัน!”

ถานลี่กั๋วกล่าวอย่างสนใจมาก “เหล่าฉิน คุณหมายความว่าควรจะให้สวัสดิการกับแพทย์เหล่านั้นสักหน่อยใช่ไหมครับ ถึงยังไงก็เป็นภารกิจหนึ่ง ทั้งยากทั้งเหนื่อย ทั้งยังต้องรับผิดชอบงานประจำวันอีก โดยเฉพาะเสี่ยวเฉินที่เป็นหัวหน้าทีม”

ฉินเสี้ยวยวนชะงักแล้ว…ช่วงนี้เขาสังเกตว่าเลขาถานยิ่งนับวันก็ยิ่งดีขึ้น!

พูดจาเป็น วางตัวเป็น หน้าตาก็…งั้นๆ แต่เข้าใจผมดีมาก!

ผมเพิ่งพูดไปได้ครึ่งประโยค คุณก็เดาออกแล้วว่าผมจะพูดอะไรต่อ

พอนึกถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวยวนก็ลังเลนิดหน่อย “เหล่าถาน แบบนี้ไม่ค่อยเหมาะสม ถึงยังไงพวกเราก็ให้เงินสนับสนุนไปแล้ว”

ถานลี่กั๋วตบโต๊ะ “เหล่าฉิน คุณทำแบบนี้ไม่ถูกนะครับ อย่าทำให้พวกเขาผิดหวังสิ คุณควรทำให้พวกเขารู้ว่าข้างหลังพวกเขายังมีโรงพยาบาล โดยเฉพาะเสี่ยวเฉิน ผมแนะนำให้เพิ่มสวัสดิการของตำแหน่งรอง!”

พอได้ยินประโยคนี้ ฉินเสี้ยวยวนก็ตกใจไม่เบา

สวัสดิการของตำแหน่งรอง…

นี่คือตัวเงินจริงๆ ยกตัวอย่าง โรงพยาบาลดำเนินการตามตัวเลข ตัวเลขของตำแหน่งรองหากเทียบกับแพทย์เจ้าของไข้ถือว่าสูงกว่าเยอะมาก ตอนนี้เฉินชางอยู่แผนกฉุกเฉินได้รับสวัสดิการของสวัสดิการแพทย์ประจำบ้าน พอพูดว่าสวัสดิการของตำแหน่งรอง ก็เท่ากับกระโดดข้ามแพทย์เจ้าของไข้ไปเลย

ฉินเสี้ยวยวนถามหน้านิ่ง “เสี่ยวเฉิน…ยังอายุน้อย ข้างล่างอาจจะมีคนไม่เห็นด้วยหรือเปล่า”

ถานลี่กั๋วไม่พอใจแล้ว “คุณไม่พอใจเหรอครับ เสี่ยวเฉินเป็นหัวหน้าทีมกู้ชีพฉุกเฉินนะ สิ่งที่เขาทำคืองานของตำแหน่งรอง พวกเราก็ควรให้สวัสดิการตำแหน่งรองกับเขาไม่ใช่เหรอครับ…

…แล้วอีกอย่าง เหล่าฉิน คุณต้องไตร่ตรองดูให้ดีนะครับ เสี่ยวเฉินคนนี้สร้างผลกระทบที่ดีให้กับโรงพยาบาลของพวกเรา งานกู้ชีพผู้ป่วยของเขาช่วยชดเชยความไม่สมบูรณ์แบบให้โรงพยาบาลอันดับสองของพวกเราได้ เรื่องนี้ไม่ควรทำเหรอครับ”

ฉินเสี้ยวยวนตอบโต๊ะ “เลขาถานช่างมีวิสัยทัศน์ มองอะไรกว้างไกล!”

……

……

ตอนค่ำญาติผู้บาดเจ็บมาถึงโรงพยาบาลแล้ว หัวหน้าวิศวกรของบริษัทแรงงานก็มาโรงพยาบาลด้วยตัวเองเช่นกัน

ผู้บาดเจ็บเป็นพนักงานสัญญาจ้างของบริษัทก่อสร้างเส้าฮุย ถังเส้าฮุยคือบุคคลที่มีหน้ามีตาของมณฑลตงหยางเช่นกัน เขามีสายตาเฉียบคมมาก เขาให้คนงานพวกนี้เซ็นสัญญาอยู่ภายใต้ชื่อบริษัท จากนั้นก็ให้ใช้แรงงานตามที่กำหนด

หลังจากรู้สถานการณ์ของผู้บาดเจ็บแล้ว เขาก็มาที่โรงพยาบาลอันดับสองทันที ใส่ใจมาก!

ทั้งยังส่งรถไปรับญาติผู้ป่วยจากบ้านเกิดมาส่งที่โรงพยาบาลเอง พร้อมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

หลังจากรู้ว่ากู้ชีพให้ผู้บาดเจ็บสำเร็จ ถังเส้าฮุยก็สูดหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วบอกเฉินชางว่า “หมอเฉิน ขอบคุณมากครับ ถือว่าคุณได้ช่วยเหลือพวกเขาไว้ทั้งครอบครัวแล้ว”

หลังจากลูกและภรรยาของผู้บาดเจ็บมาถึงแล้วก็กล่าวขอบคุณเฉินชาง ทั้งยังซาบซึ้งในบุญคุณของถังเส้าฮุยด้วย

อย่างไรเสีย ในสายตาพวกเขา หัวหน้าวิศวกรของบริษัทก็มาด้วยตัวเอง ทั้งยังรับพวกเขามาที่โรงพยาบาลด้วย รับผิดชอบเรื่องอาหารและที่พัก จ่ายเงินให้ก้อนใหญ่ ทำให้พวกเขาวางใจ ค่ารักษาพยาบาลก็เบิกได้ทั้งหมด

ทำให้ครอบครัวที่ซื่อสัตย์นี้ซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลทันที!

เฉินชางอดรู้สึกนับถือไม่ได้

ถังเส้าฮุยขอเบอร์โทรศัพท์เฉินชาง “หมอเฉิน บริษัทของพวกเราใหญ่โต มีคนงานเยอะ สถานการณ์บางอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้น ผมจะส่งพวกเขามารักษากับคุณที่นี่ครับ”

เฉินชางพยักหน้า “นี่คือสิ่งที่พวกเราควรทำอยู่แล้วครับ”

ถังเส้าฮุยโบกมือแล้วถอนหายใจ “คนงานเขตก่อสร้างของเราได้รับบาดเจ็บบ่อย การบาดเจ็บแบบนี้ก็เคยเจอมาเหมือนกัน แต่…ที่น่าเสียดายก็คือ พวกเขาไม่ได้เจอหมอแบบคุณ มีไม่น้อยที่เสียชีวิตระหว่างทาง ดังนั้น คุณสุดยอดมากครับ หมอเฉิน!…

…ต่อไปนี้ผมต้องขอบคุณแทนคนงานของพวกเราแล้ว!”

บทที่ 519 คุณวางมือเถอะ!

ตอนเช้าก่อนส่งต่อเวร เฉินชางเคยชินกับการมาที่แผนกฉุกเฉินตั้งแต่เช้าครู่

เมื่อคืนวานคลื่นสงัดลมสงบ ประเทศสงบ ประชาร่มเย็น หวังเชียนที่เป็นแพทย์เวรกลางคืนกำลังถืออาหารเช้าของแมคโดนัลด์พร้อมไถแอปพลิเคชั่นโต่วอินอยู่ตรงนั้นอย่างผ่อนคลาย

มุมปากเผยรอยยิ้มที่โค้งเหมือนกระดูกสันหลังส่วนเอว ยิ้มมีเลศนัยมาก!

เฉินชางอดถามยิ้มๆ ไม่ได้ว่า “พี่รองเชียน นี่พี่ใช้เวรกลางคืนเพื่อมาพักร้อนสินะครับ”

หวังเชียนยิ้มอย่างภูมิใจ “นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว ผมเป็นคนนิสัยดี หน้าขาว[1]ด้วย!”

เฉินชางพูดไม่ออก เหมือน…จะเป็นอย่างนี้จริงๆ บางครั้งอยู่แผนกฉุกเฉินจะไม่เชื่อเรื่องโชคลางแบบนี้ก็ไม่ได้ บางคนก็เรียกว่านักรบหน้าดำ ยกตัวอย่างเช่นเขาเอง

ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้าหลี่ถึงหน้าดำ[2]!

เฉินชางนั่งลงเพราะไม่มีงานอะไร เขาเปิดตารางคุณลักษณะของตัวเอง ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ดูมานานแล้ว รู้สึกแค่ว่าตั้งแต่เลเวลถึงสามสิบเป็นต้นมา ความเร็วในการอัปเลเวลก็ช้าลง

เมื่อวานฆ่ามอนสเตอร์ชั้นลอร์ดระดับ 75 แต่ระดับตัวเองเพิ่มขึ้นแค่ระดับเดียวเอง เรื่องนี้ทำให้เฉินชางไม่ค่อยเข้าใจ

เมื่อก่อนแค่ฆ่ามอนสเตอร์ไส้ติ่งก็อัปเลเวลได้แล้ว!

[เฉินชาง: ระดับ: 35 (230/70000)]

[อาชีพ: แพทย์แผนกศัลยกรรมหัวใจ]

[คะแนนอาชีพ: 24 คะแนน]

[แพทย์แผนกศัลยกรรมทรวงอก: คะแนนอาชีพ: 40 คะแนน]

[คะแนนทักษะ: 16 แต้ม]

[ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี: ตอนนี้มี 40 แต้ม (ค่าความรู้สึกดี 60 แต้ม)]

ตอนที่เฉินชางเห็นว่าต้องใช้ค่าประสบการณ์ 70000 เพื่อเพิ่มหนึ่งระดับ เขาก็อดงงไม่ได้ นี่มันเยอะไปหรือเปล่า

ผ่าตัดไส้ติ่งหนึ่งเคสได้ค่าประสบการณ์เพิ่มแค่สองร้อยเอง โบนัสสองเท่าก็ได้แค่สี่ร้อยอยู่ดี ต้องผ่าตัดไส้ติ่งสองร้อยเคสถึงจะได้อัปหนึ่งเลเวลงั้นเหรอ

เฮ้อ พอมาดูตอนนี้ เหมือนระบบกำลังบอกฉันว่า เลิกเฝ้าเป็นสุนัขอยู่ที่หมู่บ้านมือใหม่ได้แล้ว รีบออกไปเติบโตข้างนอกเถอะ!

ทีแรกนึกว่าพอถึงระดับสี่สิบแล้วจะง่าย พอมาดูตอนนี้ ก็พบว่าเหมือนจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!

ที่ไหนจะมีมอนสเตอร์ระดับสูงที่ทำให้ตนเติบโตเยอะขนาดนั้น…

แต่ตอนที่เฉินชางเห็นคะแนนอาชีพ เขาก็ดีใจทันที คะแนนทักษะอาชีพของแผนกศัลยกรมทรวงอกถึงสี่สิบแล้ว

ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ!

เฉินชางเปิดคอลลัมน์ทักษะ พอเห็นทักษะยาวยืด จู่ๆ เขาก็หน้าแดงนิดหน่อย

ต้องพูดจากใจเลยว่า หมอจิ่งช่างเป็นคนดี!

ถึงอย่างไรในนั้นก็มีของขวัญมากมายที่ได้มาจากหมอจิ่ง พอนึกถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกว่าวันหลังเลี้ยงข้าวหมอจิ่งสักมื้อดีไหม

ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกไม่สบายใจ!

ทันใดนั้น เฉินชางก็เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสำนวนหนึ่งแล้ว

ดื่มน้ำบ่อ อย่าลืม ‘คนขุดบ่อ’![3]

แต่เมื่อเห็นว่ายังมีภารกิจกองใหญ่ที่ยังทำไม่สำเร็จ จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่า ถ้าอยากดื่มน้ำ ก็ยังต้องขุดบ่อเอง!

แต่ถ้าอยากเพิ่มระดับ เฉินชางก็ต้องหาวิธีการ พยายามหาเคสผ่าตัดที่ใกล้เคียงกับระดับทักษะของตัวเอง ไม่อย่างนั้นค่าประสบการณ์ก็จะเพิ่มขึ้นช้าเกินไป!

ถ้ายังไม่ถึงระดับสี่สิบ ไม่มีทางเรียนผ่าตัดระดับสี่ได้เลย สิ่งนี้จำกัดความก้าวหน้าของเฉินชางอย่างร้ายแรง คงจะให้เป็นผู้ใช้แรงงานไปทั้งชีวิตไม่ได้หรอกมั้ง

ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีการผ่าตัดระดับสี่ แต่ก็ยังเป็นเวอร์ชันไม่สมบูรณ์ ทำให้เฉินชางไม่พอใจเป็นอย่างมาก!

ตอนที่ส่งต่อเวร หลี่เป่าซานเดินเข้ามาในห้องทำงาน พอเห็นทุกคนก็บอกว่า “วันนี้ผมมีเรื่องมาประกาศครับ”

หัวหน้าพยาบาลเถียนเซียงหลานกลอกตามองบน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมาก็มีเรื่องประกาศทุกวัน ทำเอาหัวหน้าพยาบาลต้องคำนวณต้นทุนทุกวัน เหนื่อยใจมาก

ต้องทราบไว้ว่า เมื่อหัวหน้าแผนกประกาศเรื่องใดสักเรื่อง หัวหน้าพยาบาลที่เป็นเหมือนพ่อบ้านใหญ่ก็ต้องพิจารณาเรื่องละเอียดยิบย่อยอีกเป็นกอง

หลี่เป่าซานพูดต่อ “เมื่อวาน หัวหน้าเหอจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินมาที่นี่ ตอนนี้การจัดตารางงานของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินค่อนข้างยุ่งยาก แต่ละโรงพยาบาลกดดันมาก เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ต้องกู้ชีพ ทรัพยากรทางการแพทย์ของพวกเรายังไม่พอเลย เมื่อวานผมปรึกษากับผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้ว ผู้อำนวยการตัดสินใจว่า จะสร้างทีมปฏิบัติการพิเศษเล็กๆ ขึ้นมาสักทีม อุทิศกำลังส่วนหนึ่งของตัวเอง…

…ทีมปฏิบัติการพิเศษนี้ หลักๆ พุ่งเป้าไปที่การผ่าตัดฉุกเฉิน ยกตัวอย่างเช่นการผ่าตัดผู้ป่วยจากอุบัติเหตุรถยนต์ อุบัติเหตุทั่วไป เพราะแบบนี้ โรงพยาบาลก็จะเลือกคนจากแผนกที่เกี่ยวข้องมาหนึ่งคนเพื่อร่วมทีมปฏิบัติการพิเศษของพวกเรา และแผนกฉุกเฉินของพวกเราก็จะเป็นแผนกที่คอยออกหน้าประสานงาน ต้องเลือกสามคน คนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ อีกสองคนเป็นหมอแผนกศัลยกรรม…

…แน่นอน โรงพยาบาลไม่ให้ทุกคนเหนื่อยเปล่าอยู่แล้ว สมาชิกทุกคนที่เข้าร่วมปฏิบัติการพิเศษนี้ จะได้รับสวัสดิการและเบี้ยเลี้ยงพิเศษจากโรงพยาบาล ผมจะส่งข้อมูลให้ทุกคนดูในแชทกลุ่ม”

พอได้ยินหลี่เป่าซานพูดแบบนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็พากันวิพากษ์วิจารณ์

แผนกฉุกเฉินเดิมทีก็เหนื่อยและงานยุ่งมากอยู่แล้ว ตอนนี้กำลังจะสร้างทีมปฏิบัติการพิเศษ งานของทีมนี้จะมีความกดดันและความรับผิดชอบมากขึ้นแน่นอน!

ส่วนเบี้ยเลี้ยงพิเศษ ใจก็อยากได้แต่กำลังไม่พอทำ!

ส่วนเฉินชางก็ใจสั่นหวั่นไหว นี่ไม่ใช่โอกาสหรอกเหรอ

เขากำลังคิดอยู่ว่าจะไปหามอนสเตอร์ระดับสูงที่ไหนดี ตอนนี้มีโอกาสแล้ว เขาย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว

หลี่เป่าซานมองทุกคนพร้อมถามว่า “ผมจะเลือกคนรับผิดชอบเอง เป็นหมอแผนกศัลยกรรมทั่วไปสองคน ใครยินดีจะเข้าร่วมครับ”

เมื่อพูดจบ ทุกคนก็เริ่มมองหน้ากันเลิกลั่ก

หลัวโจวอยากจะเข้าร่วม แต่ความรู้ประสบการณ์ไม่พอ ยากที่จะรับภารกิจสำคัญได้

เหล่าเฉินก็ใจเต้นมากเช่นกัน แต่…มีเหตุผลมากมายที่ทำให้เขาเลือกไม่ได้

เฉินชางยกมือขึ้นแล้ว!

ตามติดด้วยหวังเชียน หวังข่ายอัน เจียงเทา

หลี่เป่าซานมองไปรอบๆ แวบหนึ่ง แล้วพยักหน้า “หวังเชียน หวังข่ายอัน พวกคุณสองคนก็แล้วกัน เจียงเทาคุณตั้งใจให้ความร่วมมือหัวหน้าแผนกอันเพื่อพัฒนางานของแผนกศัลยกรรมมือเถอะ”

เฉินชางเหม่อทันที…

นี่ดูถูกฉันเหรอ

แต่ทันใดนั้น หลี่เป่าซานก็พูดต่อว่า “งั้นก็ตกลงตามนี้แล้วกัน เสี่ยวเฉิน คุณมาเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหวังเชียนกับหวังข่ายอันก็คอยให้ความร่วมมือกับเฉินชาง”

ทุกคนพากันมองไปที่เฉินชางอย่างงุนงง

แม้แต่เฉินชางเองก็ยังงงเป็นไก่ตาแตก ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้เป็นผู้รับผิดชอบ

หัวหน้าหลี่ประเมินฉันสูงเกินไปแล้วมั้ง

หลังจากพูดจบ หลี่เป่าซานก็มองเฉินชางหวังเชียนรวมทั้งพวกหวังข่ายอัน “ไม่มีปัญญาอะไรใช่ไหม”

ทุกคนส่ายหน้า

หลี่เป่าซานจึงพยักหน้าบอกว่า “งั้นผมจะรายงานขึ้นไปตอนนี้เลย”

หลังจากหลี่เป่าซานออกไป แล้วเข้ามาที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ ตอนนี้จางโหย่วฝู เถามี่ก็อยู่ที่นี่ด้วย

“เป็นยังไงบ้าง เลือกคนได้หรือยัง” ฉินเสี้ยวยวนถาม

หลี่เป่าซานหยิบกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง “เฉินชางเป็นผู้รับผิดชอบ หวังข่ายอัน หวังเชียนเป็นแพทย์ครับ”

“โจวเสี่ยวตงของแผนกเรา” จางโหย่วฝูกล่าว

“แผนกของเราคือจางเหวินฟู่” เถามี่กล่าว

ฉินเสี้ยวยวนชะงักงัน คนพวกนี้ยังประสบการณ์ไม่สูงและอายุน้อย สูงสุดก็คือหวังข่ายอัน เป็นแพทย์รองหัวหน้าแผนก แต่เนื่องจากประวัติการศึกษาดี ปีนี้ก็อายุสามสิบห้าแล้วเช่นกัน

จางเหวินฟู่เป็นแพทย์เจ้าของไข้ อายุสามสิบห้า ส่วนที่เหลือเป็นหนุ่มน้อยเหมือนกันหมด

เรื่องนี้ทำให้เถามี่ค่อนข้างกังวล เขามองหลี่เป่าซาน

“หัวหน้าหลี่ ให้เสี่ยวเฉินเป็นผู้รับผิดชอบแบบนี้ เขายังอายุน้อยเกินไปหรือเปล่า ถึงยังไง…งานกู้ชีพก็ค่อนข้างซับซ้อนนะ”

คำถามนี้ หลี่เป่าซานคิดมาแล้วทั้งคืน “ผมคิดมาดีแล้วครับ เด็กคนนี้ก็เหมือนสปริง ยิ่งมีความกดดันมาก ก็ยิ่งระเบิดพลังงานออกมามาก!…

…แล้วอีกอย่าง พวกเราก็รับประกันให้พวกเขาได้ไม่ใช่เหรอครับ”

ฉินเสี้ยวยวนลังเลนิดหน่อย แล้วก็พยักหน้า “ครับ ก็ลองดูแล้วกัน ถ้าไม่ไหวค่อยให้คุณจัดการเอง”

เมื่อทุกคนเห็นฉินเสี้ยวยวนตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

เป็นไปตามนี้ รายชื่อทีมกู้ชีพแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว

[1] หน้าขาว 脸白 หมายถึงโชคดี ดวงดี

[2] หน้าดำ 脸黑 หมายถึงโชคร้าย

[3] คนขุดบ่อ ภาษาจีนออกเสียงว่า จิ่งเหริน 井人

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท