บทที่ 552 ที่น่ากลัวคือใจคน ไม่ใช่ความเจ็บป่วย (3)
หวังโส้วรออยู่หน้าประตูจนเฉินชางมาถึงแล้ว!
เขาถึงขั้นนึกไม่ถึงว่า แม้แต่เฉียนเลี่ยงกับเหอทงก็มาด้วย!
หวังโส้วเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็อดยิ้มเจื่อนไม่ได้
ว่ากันว่าความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า แต่ครั้งนี้ ทุกคนรู้เรื่องไม่ดีในบ้านตนหมดแล้ว
วงสังคมไม่ใหญ่ หวังโส้วรู้สึกว่าเรื่องครั้งนี้กลายเป็นจุดอ่อนให้คนหัวเราะเยาะแล้วจริงๆ
ก่อนหน้านี้เขาพยายามประคับประคองอย่างระมัดระวัง แต่นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายก็ป้องกันไม่ไหว ครั้งนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว
“หมอเฉิน สวัสดีครับ ผมคือหวังโส้ว” หวังโส้วรีบทักทาย
“หัวหน้าแผนกหวัง สวัสดีครับ” เฉินชางกล่าวยิ้มๆ
เหอทงก็พยักหน้าเช่นกัน “หัวหน้าแผนกหวัง ผมกังวลว่าจะเกิดปัญหา ก็เลยเรียกหัวหน้าแผนกเฉียนมาด้วยครับ”
เฉียนเลี่ยงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
หวังโส้วแม้ปากจะไม่พูดอะไร แต่ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งมาก “ขอบคุณครับ”
“รีบไปเถอะครับ ผู้ป่วยเสียเวลานานมากไม่ได้” เฉินชางบอก
“หมอเฉิน…ค่าวิชาชีพเฉพาะทาง…” หวังโส้วอึกอัก
“ราคาตลาดแล้วกันครับ ผ่าตัดก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน” เฉินชางตอบ
หวังโส้วพยักหน้า เผยสีหน้าดีใจทันที นำคนเดินเข้าห้องผ่าตัดแล้ว
……
หมออีกคนเห็นพวกหวังโส้วเดินเข้ามาก็รีบบอกว่า “หัวหน้าแผนกหวังครับ ญาติผู้ป่วยไม่เซ็นชื่อ”
หวังโส้วได้ยินแล้วสีหน้าเปลี่ยนทันที
“อาการของหยางหย่วนจงเสียเวลานานกว่านี้ไม่ได้แล้ว เสี่ยวหย่า เซ็นเถอะ”
เสี่ยวหย่าคือภรรยาของหยางหย่วนจง เป็นคนแรกที่เซ็นชื่อเช่นกัน
ตอนที่เสี่ยวหย่ากำลังเซ็นชื่อ พ่อตาหยางก็ถลึงตามองหวังโส้ว “พวกเราไม่มีเงิน!”
หวังโส้วหนังตากระตุก ขณะกำลังจะพูดอะไรบ้างอย่าง เฉียนเลี่ยงก็อดพูดไม่ได้ว่า “แต่แบ่งชำระได้ครับ”
“แบ่งชำระได้ก็ไม่มีเงินจ่ายคืน” พ่อตาหยางแดกดัน
เฉียนเลี่ยงกับหวังโส้วทำงานด้วยกันมาสิบกว่าปี จึงรู้เรื่องในครอบครัวเขามาตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะปัญหาของครอบครัวภรรยา ก็อาจจะไม่เกิดสถานการณ์เหมือนอย่างวันนี้
“เจอลูกเขยไม่รู้จักบุญคุณแบบนี้ ฉันเองก็ไม่มีหนทางเหมือนกัน ตอนนั้นลูกชายฉันช่วยเหลือเขาไปตั้งเท่าไร วันนี้ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาเห็นคนใกล้ตายแต่กลับไม่ช่วยเหลือ”
หวังโส้วโมโหจนขมับสองข้างเต้นตุบๆ แต่ก็ยังสูดหายใจลึก “ท่านนี้คือผู้เชี่ยวชาญที่ผมเชิญมา หมอเฉิน เขามีชื่อเสียงและบารมีมากในแวดวงนี้ เรื่องผ่าตัดจะชักช้าไม่ได้แล้ว รีบเซ็นชื่อเถอะ”
พ่อตาหยางมองเฉินชางแวบหนึ่ง แล้วอดพูดแขวะไม่ได้ “เธอเห็นฉันแก่แล้วเลอะเลือนงั้นเหรอ สุ่มเรียกเด็กมาสักคน วางแผนจะให้ลูกชายฉันตายไวๆ งั้นสิ จิตใจโหดเหี้ยม! หวังโส้ว…”
เฉินชางก็งงเหมือนกัน!
เฉียนเลี่ยงกลับเห็นจนชินแล้ว
ส่วนหวังโส้วก็โมโหจนมือไม้สั่น
ถ้าไม่เซ็นชื่อก็ไม่มีทางผ่าตัดได้
เฉินชางยิ่งไม่มีทางเสี่ยงผ่าตัด
ตอนนี้อย่าว่าแต่เฉินชางผ่าตัดเลย แม้แต่พวกหวังโส้วก็ไม่มีทางผ่าตัดได้อยู่ดี เพราะนี่คือข้อบังคับของกฎหมาย ถ้าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว อีกทั้งคนในครอบครัวไม่อยู่ในเหตุการณ์ สถานการณ์เช่นนี้หากผ่าตัดจะก็รายงานขึ้นไปยังผู้มีอำนาจสูงสุดได้ หลังจากเบื้องบนอนุมัติแล้วถึงจะผ่าตัดช่วยชีวิตได้
แต่ถ้าคนในครอบครัวผู้ป่วยอยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็ต้องให้พวกเขาเซ็นชื่อ ถ้าไม่เซ็นชื่อก็ไม่มีทางผ่าตัดได้
ตอนนี้ ถ้าภรรยาของหยางหย่วนจงไม่เซ็นชื่อ แม่ไม่พูดอะไร พ่อก็หลับหูหลับตาทำตัวไร้เหตุผล ก็ไม่มีทางผ่าตัดได้แน่นอน
ตอนนี้เอง แพทย์คนหนึ่งรีบร้อนวิ่งออกมาแล้ว “หัวหน้าแผนกหวังครับ ควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยไม่ไหวแล้ว หลังจากให้เลือดแล้วความดันโลหิตก็ไม่เพิ่มขึ้นอยู่ดี สถานการณ์ตอนนี้อันตรายมากครับ ต้องผ่าตัดแล้ว!”
พ่อตาหยางไม่พูดอะไร
หวังโส้วอดไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาไม่อยากเกี่ยวข้องใดๆ กับน้องเขยคนนี้อีก แต่…
แต่…
ถ้าให้คนป่วยตัวเป็นๆ มาตายอยู่ตรงหน้าเขา ทั้งยังเป็นน้องชายแท้ๆ ของภรรยา…
เขาบอกกับหมอที่ถือหนังสือแจ้งว่า “เสี่ยวหลิว เอามาให้ผม ผมเซ็นเอง!”
“หัวหน้าแผนกครับ…เขา…” เสี่ยวหลิวงุนงงที
หวังโส้วสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง “เอามาให้ผม!”
พ่อตาหยางมีท่าทางแดกดัน ทั้งยังพูดเหมือนลำพองใจอีกว่า “ใครเซ็น คนนั้นก็รับผิดชอบ”
หวังโส้วเดิมทีเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว แต่หลังจากได้ยินประโยคนี้ ก็สบถอย่างเดือดดาลขึ้นมาทันที “แม่งเอ๊ย! ไม่เซ็นแม่งแล้ว!”
เขาโยนกระดาษกับปากกาทิ้งแล้ว!
เหตุการณ์ตรงนั้นวุ่นวายทันที
เฉินชางนึกไม่ถึงว่าจะเจอกับเรื่องแบบนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนในครอบครัวผู้ป่วยไม่ยอมเซ็นชื่อ
อันตรายมาจ่ออยู่ตรงหน้าแล้ว ยังจะเอาชีวิตลูกชายมาเดิมพันอีกเหรอ
เงินสำคัญขนาดนั้นเลยหรือไง
ชายแก่ที่แต่งตัวภูมิฐาน ทำไมเป็นอย่างนี้ไปแล้ว
หรือว่า…การใช้อารมณ์เอาชนะกันมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ
ผ่านไปสองนาที หัวหน้าพยาบาลก็รีบวิ่งออกมาด้วยอารมณ์หวาดกลัว เธอมีสีหน้ากระวนกระวายขณะรายงาน “หัวหน้าแผนกหวัง หัวใจหยุดเต้นแล้วค่ะ! ผู้ป่วย…”
ตอนนี้หวังโส้วสงบลงแล้ว ถามด้วยน้ำเสียงปกติว่า “คนในครอบครัวผู้ป่วยไม่ยอมเซ็นชื่อ เปิดกล้องวงจรปิดไว้แล้วใช่ไหม”
หัวหน้าพยาบาลได้แต่งุนงง!
เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง!
หมายความว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์ร้องเรียนความผิดพลาดทางการแพทย์แล้ว
แต่…นี่เป็นญาติของหัวหน้าแผนกหวังไม่ใช่หรอกเหรอ
พอพ่อตาหยางได้ยินคำพูดของหัวหน้าพยาบาล สีหน้าก็เปลี่ยนทันที วิ่งเข้ามาบอกว่า “ผมเซ็น ผมเซ็น…รีบช่วยลูกชายผม!”
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขารู้สึกว่าลูกชายไม่ได้อยู่ในอันตรายขนาดนั้น รู้สึกว่าหวังโส้วต้องการจะหลุดพ้นจากพวกเขา จงใจขู่เขาเฉยๆ
แต่ตอนนี้…เขาเริ่มกลัวแล้ว
หมออีกคนรีบเก็บหนังสือยินยอมขึ้นมา พ่อตาหยางรีบเซ็นอย่างเงอะงะ “ผมมีเงินจ่ายค่าวิชาชีพเฉพาะทาง รีบช่วยเขา!”
หวังโส้วกับเฉินชางกำลังจะเดินเข้าห้องผ่าตัดแล้ว
ตอนนี้เอง พยาบาลคนหนึ่งเดินออกมา “หัวหน้าแผนกหวัง ผู้ป่วย…เสียชีวิตแล้ว…”
ประโยคนี้ทำให้ฉากตรงนั้นเงียบกริบ
ภรรยาของหยางหย่วนจงตาลอยทันที เธอทรุกลงคุกเข่าร้องไห้อย่างปวดใจอยู่บนพื้น
ส่วนแม่ยายก็ดึงคอเสื้อพ่อตาหยาง “คุณเอาลูกชายฉันคืนมา คุณรีบคืนลูกชายมาให้ฉัน…ทำไมคุณไม่เซ็นชื่อ…”
หวังโส้วกลับเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด ตอนนี้หัวหน้าแผนกฉุกเฉินกำลังกู้ชีพอยู่ แต่…เสียงเตือนที่เสียดแทงหูบนเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจกำลังบอกทุกคนแล้ว
ผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว!
หวังโส้วกลับปล่อยวางได้ แต่ยังเหม่อลอยอยู่นิดหน่อย เขาปลอบใจตัวเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตนเลย
เฉียนเลี่ยงเห็นแล้วอดตบบ่าหวังโส้วไม่ได้ “ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ ไม่ต้องโทษตัวเอง”
หวังโส้วเอนหลังพิงกำแพง ถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง แล้วหันตัวเดินไปข้างนอก
แจ้งญาติผู้ป่วย เตรียมจัดงานศพ
เฉินชางนึกไม่ถึงว่าวันนี้จะเจอกับเรื่องแบบนี้ เฉียนเลี่ยงถึงได้เล่าเรื่องของหวังโส้วให้เฉินชางฟัง
แล้วเล่าให้หมอที่อยู่ข้างๆ ฟังตั้งแต่ต้นจนจบด้วย
เฉินชางได้ยินแล้วอดส่ายหน้าไม่ได้
โลกนี้มีคนอยู่ทุกประเภทจริง!
บางทีอาจมีบางจุดที่หวังโส้วทำไม่ดี แต่…มีใครบ้างที่เป็นคนเลวโดยไร้ต้นสายปลายเหตุ มีใครบ้างที่ไม่ต้องการให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น…
ไม่มีมาตรฐานการตัดสินที่เป็นเอกฉันท์
หลังจากผ่านเรื่องนี้ เฉินชางมองโลกนี้อย่างเข้าใจมากกว่าเดิม
บางครั้ง คนที่ทำให้ผู้ป่วยตายก็ไม่ใช่หมอเสมอไป
แต่อาจจะเป็นคนในครอบครัว
เขานึกถึงผู้หญิงที่เคยมั่นใจในความรู้ของตัวเองแล้วเอาแต่สั่งสอนจนความมั่นใจของเธอทำให้ผู้เป็นพ่อเสียชีวิต
ขณะมองคนแก่ขาดสติปัญญากำลังเกลือกกลิ้งโวยวายอยู่บนพื้น เฉินชางก็ส่ายหน้าน้อยๆ
ความไม่รู้ของคุณ ทำให้ลูกชายเสียโอกาสยื้อชีวิตไปแล้ว
——————————————
บทที่ 546 เคล็ดลับบรรเทาความเจ็บปวด
หลังจากเฉินชางออกไปแล้ว จี้ชวีก็งานยุ่งอยู่อีกพักหนึ่ง ถึงพลันนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรศัพท์หาหัวหน้าแผนกเหอ
หลังจากเพิ่งรับโทรศัพท์ จี้ชวีก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “หัวหน้าแผนกเหอ การผ่าตัดสำเร็จด้วยดีครับ หมอเฉินคนนี้เก่งมากจริงๆ!”
หลังจากเหอทงได้ฟัง ในที่สุดก็โล่งใจแล้ว “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”
จี้ชวีอดพูดไม่ได้ว่า “หัวหน้าแผนกเหอครับ หมอเฉินคนนี้เก่งขนาดนี้เลยเหรอ ถึงผมจะไม่เข้าใจเรื่องเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหายอะไรนั่น แต่ก็รู้ว่าการผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี ผ่าตัดซ่อมแซมตับ เย็บเส้นเลือด ผ่าตัดลำไส้…เป็นการผ่าตัดที่ครอบคลุมการผ่าตัดย่อยหลายแบบมาก หมอเฉินอายุน้อยขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเชี่ยวชาญทั้งการผ่าตัดตับ เชี่ยวชาญทั้งการผ่าตัดของทั้งแผนกศัลกรรมทั่วไป!”
เหอทงถอนหายใจ แค่นี้คุณก็ตกตะลึงแล้วเหรอ
“หัวหน้าแผนกจี้ บางที…คุณอาจจะยังไม่รู้จักเฉินชางมากพอ”
จี้ชวีพยักหน้า “หืม? อย่าบอกนะว่าหมอเฉินมีความสามารถอย่างอื่นอีก”
เหอทงขานรับ “สาขาที่เฉินชางเชี่ยวชาญก็คือแผนกศัลยกรรมหัวใจ ถนัดเรื่องการผ่าตัดทรวงอกมาก แล้วยังเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์มือระดับประเทศ”
จี้ชวีได้ยินแล้วอึ้งทันที…
นี่…ฉันเพิ่งได้ยินอะไรไปนะ
นี่ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า
จี้ชวีรู้สึกทำใจรับได้ยาก อย่างไรเสีย…การผ่าตัดที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่ายังไม่ใช่เคสที่เฉินชางถนัดที่สุด!
ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะเชี่ยวชาญการผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก…
พอเหอทงเห็นปลายสายเงียบไป เขาก็พอใจมาก…อื้ม เรื่องที่สร้างผลกระทบต่อใจแบบนี้ ควรจะแบ่งปันให้คนรู้เยอะๆ หน่อย อย่างไรก็ช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดได้…
ประโยคนั้นพูดว่าอะไรนะ
ถ้าคุณแบ่งปันความสุข ก็จะมีคนมากมายมีความสุขไปด้วย!
ถ้าคุณแบ่งปันความเจ็บปวด ความเจ็บปวดของคุณก็จะเบาบางลง…
ที่จริงเหอทงก็ถูกเฉียนเลี่ยงทำร้ายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าเฉินชางยังผ่าตัดหลายอีกหลายแบบนอกเหนือจากการผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีได้!
เพียงแต่…ตอนไม่รู้ก็ยังดี หลังจากรู้แล้ว ช่วงนี้เหอทงก็หดหู่อยู่บ่อยๆ ทำไมคนเราถึงแตกต่างกันมากขนาดนั้น
แต่…ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เขาแบ่งปันความเจ็บปวดให้คนอื่นแล้ว ทำให้อารมณ์ผ่อนคลายขึ้นเยอะจริงๆ ด้วย
เหอทงพูดยิ้มๆ “เอ่อ คือ หัวหน้าแผนกจี้ครับ คุณส่งคลิปผ่าตัดให้ผมสักไฟล์นะครับ”
จี้ชวีพยักหน้าอย่างกลุ่มใจ “ได้ครับ!”
พอวางโทรศัพท์แล้ว จี้ชวีก็นั่งกระสับกระส่าย รู้สึกเหมือนในหัวใจมีเมฆปกคลุม คิดไปคิดมา สุดท้ายก็โทรศัพท์หาหัวหน้าแผนกหยางของแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี หลังจากบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังแล้ว อารมณ์ก็ผ่อนคลายลงส่วนหนึ่งอย่างที่คาดไว้!
จากนั้นเขาก็โทรหาฉีเซียวแผนกศัลกรรมทั่วไป หัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจ หัวหน้าแผนกศัลยกรรมมือ ผู้อำนวยการหลิวโรงพยาบาล หลังจากโทรเสร็จแล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะมาก!
เฮ้อ…เพื่อนเยอะก็ดีแบบนี้นี่เอง ได้แบ่งปันความทุกข์แล้วผ่อนคลายขึ้นเยอะจริงๆ!
พอนึกถึงตรงนี้ เขาก็ตัดสินใจว่ากลับบ้านไปจะเปิดไวน์ฉลองกับภรรยาสักขวด!
และในคืนนี้ มีหัวหน้าแผนกหลายคนของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลจิ้นหยางที่นอนไม่หลับ รู้สึกหดหู่ ไร้ความสนุกสนาน เฮ้อ…รู้สึกว่ากำลังถูกชีวิตรังแก ฉันจะทำยังไงดี
……
……
หลังจากเหอทงนำคลิปผ่าตัดขึ้นมาดู ก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย!
อย่างไรเสีย ไม่ว่าจะเป็นคลิปผ่าตัดอันยอดเยี่ยมคลิปไหนก็บันทึกเก็บไว้ได้ยากมาก เป็นทรัพยากรชั้นดีสำหรับการเรียนรู้เช่นกัน
ของพวกนี้ล้วนเป็นบันทึกที่ล้ำค่า!
มีผู้เชี่ยวชาญแผนกศัลยกรรมทั่วไปบางคนเคยชินกับการเก็บรวบรวมคลิปผ่าตัดเอาไว้ คลิปผ่าตัดที่หายากพวกนั้นต้องทำสำเนาเก็บรักษาไว้อย่างจริงจัง
เหอทงชงน้ำชาให้ตัวเองถ้วยหนึ่ง ปิดประตูห้องทำงานอย่างดี แล้วเริ่มดูคลิปผ่าตัดด้วยท่าทีของคนที่ตั้งใจเรียนรู้และชื่นชม
ฉากเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่นานก็เผยให้เห็นสถานการณ์ของผู้ป่วย
เหอทงขมวดคิ้วทันที พบว่าอาการของผู้ป่วยวิกฤตมากจริงๆ…
จากนั้น การผ่าตัดก็ดำเนินไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน…เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า…
ใช้เวลาไม่นาน เหอทงก็ดูคลิปผ่าตัดจบแล้ว
หลังจากดูจบ เหอทงก็ไม่เพียงแค่ไม่ตื่นเต้น…กลับรู้สึกจิตตกด้วยซ้ำ!
ความรู้สึกนี้เหมือนภาพยนตร์แนวใช้สมองที่รอมานานออกฉายแล้ว หลังจากเปิดดูด้วยความรู้สึกเฝ้าคอยเต็มเปี่ยม เค้าโครงเรื่องตอนแรกกลับบอกให้คุณรู้ถึงบทสรุปเรียบร้อยแล้ว!
ไม่มีความท้าทายเลยสักนิด!
แบบนี้…ง่ายเกินไปหรือเปล่า
กรีดผ่า ใช้ครีมหนีบไว้ แล้วก็เย็บ เท่านี้ก็เสร็จแล้วเหรอ
อาการเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหาย มันก็ง่ายๆ แบบนี้เองเหรอ…
ทำไมร่ำลือให้ฟังดูลึกลับขนาดนั้น
เหอทงรู้สึกว่าตัวเองก็น่าจะทำได้เหมือนกัน!
อย่าบอกนะว่าเบื้องหลังซ่อนความลี้ลับอะไรเอาไว้
พอคิดถึงตรงนี้…เหอทงก็ติดต่อหานักแสดงใหญ่ของแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีเสียเลย นั่นก็คือเฉียนเลี่ยงกับหวังโส้ว เขาส่งคลิปผ่าตัดไปให้ทั้งสองแล้ว
เฉียนเลี่ยงเตรียมตัวเข้านอนแล้ว พอรู้ว่าเป็นคลิปผ่าตัดซ่อมเส้นเลือดบริเวณรอบตับที่เสียหาย ก็ลุกขึ้นมาเปิดคอมพิวเตอร์ดู
พอได้ดูคลิปนี้ เฉียนเลี่ยงก็นอนไม่หลับ…
คลิปผ่าตัดสั้นๆ เพียงห้านาที เขาดูไปแล้วยี่สิบกว่ารอบ!
ไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด!
ทำไมต้องเลือดกรีดผ่าตรงนี้ เมื่อกี้นี้คือ…ปรับแสงโคมไฟ? ทำแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ!
การผ่าตัดดูเผินๆ เหมือนมีแค่สี่ขั้นตอน แต่ขั้นแรกเฉียนเลี่ยงยังผ่านไปไม่ได้เลย!
เขาขมวดคิ้วมุ่น ดูทั้งตอนแรกและตอนหลังไม่หยุดพัก เพราะอยากจะรู้ว่าทำไมถึงเลือกกรีดเปิดบาดแผลตรงจุดนี้!
แต่ผ่านไปนานก็ยังไม่เข้าใจ!
จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น “สวัสดีครับ หัวหน้าแผนกเฉียน ดูจบหรือยังครับ”
พอเฉียนเลี่ยงได้ยินคำถามของเหอทง ก็สูดหายใจลึกแล้วตอบว่า “เฮ้อ…ดูจบแล้วครับ!”
เหอทงทำท่าครุ่นคิด “หัวหน้าแผนกเฉียน ทำไมผม…รู้สึกว่าการผ่าตัดเคสนี้ง่ายมาก วิธีกรีดเปิดบาดแผลกับวิธีเย็บก็ธรรมดามาก…”
เฉียนเลี่ยงอึ้งทันที ได้แต่ส่ายหน้าโดยไม่ตอบอะไร แต่ถามว่า “เหล่อเหอ นี่คือการผ่าตัดของใครครับ…
แบบนี้…ทักษะสูงเกินไปแล้ว ผมดูไม่เข้าใจ!”
ประโยคนี้ทำให้เหอทงนิ่งอึ้งแล้ว!
เฉียนเลี่ยงบอกว่าเขาดูไม่เข้าใจ!
เป็นไปได้ยังไง
เฉียนเลี่ยงคือผู้มีอำนาจแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของมณฑลตงหยาง!
ขนาดเขายังบอกว่าไม่เข้าใจ แล้วยังจะมีใครดูเข้าใจอีก
เหอทงตอบตามว่า “นี่คือการผ่าตัดของเฉินชางครับ วันนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลจิ้นหยาง…พอดี”
เฉียนเลี่ยงได้ฟังแล้วตะลึงไปครู่หนึ่ง
ใครนะ
เฉินชาง!
ทำไมเป็นเฉินชางอีกแล้ว!
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการผ่าตัดของเฉินชาง!
ไม่น่าเชื่อว่าเฉินชาง…ผ่าตัดซ่อมเส้นเลือดบริเวณรอบตับที่เสียหายได้?
ทั้งยัง…ฝีมือร้ายกาจกว่าตนด้วย ไม่น่าเชื่อว่าตนจะดูไม่เข้าใจ เรื่องนี้ทำให้เฉียนเลี่ยงหน้าแดงอยู่พักหนึ่ง!
ไม่ได้ ในเมื่อตัวเองทำไม่เป็น ก็ต้องดูให้เข้าใจ
“เหล่าเหอ ผมไม่คุยกับคุณแล้ว ผมจะศึกษาอีกสักหน่อย”
เฉียนเลี่ยงพูดจบแล้ววางสายทันที
เหอทงอึ้ง…
นี่เหล่าเฉียน…คงไม่ได้ถูกอะไรกระตุ้นเข้าแล้วใช่ไหม
พอนึกถึงตรงนี้ เหอทงก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ…
พอคิดได้แบบนี้ จู่ๆ เหอทงนึกถึงหวังโส้ว
เหอทงโทรศัพท์หาหวังโส้วอีก
หลังจากหวังโส้วดูคลิปผ่าตัดจบ ทีแรกก็อึ้งก่อน จากนั้นก็เปิดดูซ้ำหลายรอบมาก นี่คือ…ภาพตัดต่อแล้วมั้ง
เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่…เขาก็รู้สึกว่าไม่สอดคล้องกับตรรกะ ไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่เข้าใจ
ตอนนี้เหอทงโทรศัพท์มาพอดี หวังโส้วจึงถามตรงๆ เลยว่า “เหล่าเหอ คลิปของคุณเป็นของปลอมหรือเปล่า การผ่าตัดเคสนี้ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูก ตัดต่อหรือเปล่า…”
เหอทงถอนหายใจ เขาเข้าใจแล้ว เจ้าหมอนี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน!
บทที่ 539 ค่าวิชาชีพเฉพาะทาง…
ในห้องผ่าตัดตอนนี้ บรรยากาศกดดันพอสมควร!
จี้ชวีหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน หยางจื้อหมิงหัวหน้าแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดี ฉีเซียวหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทั่วไป ทั้งสามไปรวมตัวกันที่ห้องผ่าตัด พวกเขาจ้องสภาพภายในช่องท้องไม่ละสายตา ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย!
ตอนนี้เสิ่นซิวหย่วนเพิ่งตระหนักได้ว่าการกระทำของตัวเองเมื่อครู่นี้สะเพร่าขนาดไหน…
ลองนึกถึงการผ่าท้องของตัวเองเมื่อครู่นี้อย่างละเอียด เขาก็ยังนึกกลัวไม่หาย ตอนนี้เหงื่อซึมเปียกเสื้อข้างในหมดแล้ว
สมมติเมื่อสักครู่นี้ตัวเองผ่าเปิดหน้าท้องมากกว่านี้สักหน่อย ตอนนี้อาจจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว…
แต่ผ่าเปิดหน้าท้องไปแล้ว แม้จะมองเห็นง่ามกิ่งแหลมเสียบอยู่ในช่องท้อง แต่ทุกคนกลับไม่กล้าบุ่มบ่ามแตะต้องแม้แต่น้อย
แม้แต่เสียงลมหายใจในห้องผ่าตัดก็เริ่มดังขึ้นแล้ว
จี้ชวี หัวหน้าแผนกฉุกเฉินขมวดคิ้วมุ่น ใช้โคมไฟผ่าตัดส่อง ทำให้เห็นกิ่งไม้แหลมที่แทงอยู่ในลำไส้ชัดเจน แม้ตอนนี้ยังไม่มีสารคัดหลั่งประเภทอุจจาระและปัสสาวะซึมออกมา แต่นั่นก็เป็นเพราะกิ่งไม้แหลมที่แทงอยู่ในนั้นอุดบาดแผลที่ลำไส้เอาไว้!
การตรวจช่องท้องยังควรดำเนินต่อไป จะหยุดการผ่าตัดเพียงเพราะเหตุผลนี้ไม่ได้
“ยังไม่พบน้ำดีในช่องท้อง!” จี้ชวีกล่าวเสียงต่ำ
“ยังไม่พบหลอดเลือดแดงใหญ่เสียหาย”
“ตับมีแผลทะลุชัดเจน มีเลือดออกไม่ค่อยชัดเจน”
……
ตรวจร่างกายอย่างละเอียดทีละขั้นตอนอย่างระมัดระวัง ตอนนี้เอง จู่ๆ หยางจื้อหมิง หัวหน้าแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีก็พูดขึ้นว่า “เหล่าจี้ คุณอย่าแตะต้อง!”
ประโยคนี้ทำให้จี้ชวีชะงัก แม้แต่ฉีเซียว หัวหน้าแผนกศัลกรรมทั่วไปที่อยู่ข้างๆ ก็มองหยางจื้อหมิงด้วยความงุนงงเช่นกัน
หยางจื้อหมิงกลืนน้ำลายหลายอึก ก่อนจะบอกว่า “ในหลอดเลือดแดงคอมมอนเฮปาติก[1]มีเศษกิ่งไม้หัก เส้นเลือดบริเวณรอบตับมีบาดแผลทะลุชัดเจน ตอนนี้ถ้าคุณไปแตะต้องมัน ก็จะทำให้มีเลือดออกมาก!”
ประโยคนี้ทำให้จี้ชวีต้องหยุดงานในมือ
หลังจากนั้นพักหนึ่ง จี้ชวีก็อดถามไม่ได้ว่า “ถ้ามีเลือดออกก็แค่ห้ามเลือดไม่ได้เหรอ ถ้าไม่จัดการตอนนี้ รอให้ลำไส้ฉีกขาดเต็มที่แล้วมีอุจจาระซึมออกมา การติดเชื้อทั้งในช่องท้องจะทำให้เราควบคุมไม่ได้เลย”
เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลักการเป็นแบบนี้ ถึงอย่างไรอุจจาระก็มีสิ่งที่ทำให้ติดเชื้อเยอะมาก ตอนนี้เนื่องจากมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในช่องท้อง ถ้ามีเนื้อเยื่อในลำไส้รั่วออกมา เกิดการติดเชื้อในช่องท้องร่วมด้วยก็จะยุ่งยากมาก!
เมื่อเกิดความเสียหายที่อวัยวะภายใน โดยทั่วไปก็ใช่ว่าจะช่วยชีวิตไม่ได้ ค่อยๆ ทำตามหลัก ‘ห้ามเลือดก่อน ซ่อมแซมทีหลัง’ ก็สิ้นเรื่องแล้ว
“ติดเชื้อแล้วยังใช้ยาฆ่าเชื้อได้ แต่ถ้าเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหาย ทุกคนที่นี่ก็ไม่มีใครช่วยชีวิตเขาได้นะครับ!” หยางจื้อหมิงกล่าวเสียงเข้ม
เสียงไม่ดังมาก แต่ทุกคนกลับรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฟ้าผ่า!
เส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหายไม่ได้หมายความว่าเสียหายแค่เส้นเลือดเส้นเดียว แต่เป็นหลอดเลือดดำใหญ่ในตับ (MHVs )และหลอดเลือดเวนาคาวาหลังตับ
เนื่องจากกายวิภาคบริเวณหลังตับค่อนข้างพิเศษ จัดการยากมาก ปัจจุบันภาวะเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหายคือหนึ่งในปัญหาที่จัดการยากที่สุดของแผนกศัลยกรรมตับ
หยางจื้อหมิงไม่ได้ต้องการพูดให้คนตกใจ เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมพูดแบบนี้แล้วกัน อัตราการเสียชีวิตของภาวะเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหาย โดยเฉลี่ยสูงถึง 83% ทั้งยังเป็นอัตราการเสียชีวิตในห้องผ่าตัดด้วย คุณเข้าใจหรือยัง”
จี้ชวีอึ้งทันที อัตราการเสียชีวิตสูงถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์เขายังพอเข้าใจได้ แต่…อัตราการเสียชีวิตในห้องผ่าตัดทำให้เขาตกตะลึงนิดหน่อย!
อย่างไรก็เป็นเคสที่มีความเฉพาะทางขั้นสูง จี้ชวีแม้จะเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน แต่ก็ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจมากนัก
“คุณ…รักษาไม่ได้เหรอครับ”
หยางจื้อหมิงหน้าแดงทันที เขาพูดเย้ยตัวเองว่า “อย่าว่าแต่ผมเลย ทั้งตงหยางมีคนทำได้ไม่เกินสาม คน แถมยัง…แค่ทำได้เท่านั้น ไม่แน่ใจว่าทำเป็นหรือเปล่า…
…ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ เส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหายจะทำให้มีเลือดออกมากจนมีอันตรายถึงชีวิต ผนังเส้นเลือดใหญ่พวกนี้บางมาก ตอนนี้ยังมีบางส่วนถูกคลุมด้วยเนื้อเยื่อตับ ดังนั้น…ดังนั้นการผ่าตัดและการซ่อมแซมจึงยากมาก!…
ประเด็นก็คือตำแหน่งของมันอยู่บริเวณหลังตับ มองเห็นยาก ถ้าอาศัยตาเปล่าผ่าตัดก็จะทำให้เลือดออกรุนแรงขึ้น จะเกิดอันตรายจากฟองอากาศอุดตันในหลอดเลือด…
แต่…ถ้าหลับหูหลับตาห้ามเลือด ก็จะเกิดความเสียหายหนักกว่าเดิม!”
หยางจื้อหมิงพูดจบในอึดใจเดียว เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วถามช้าๆ ว่า “คุณคิดว่าอันตรายหรือเปล่าล่ะ”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนเงียบแล้ว!
ไม่กล้าตรวจลึกลงไปกว่านี้อีกแล้ว
หยางจื้อหมิงมองเสิ่นซิวหย่วนแวบหนึ่ง แล้วถามว่า “หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต เซ็นชื่อหรือยัง”
เสิ่นซิวหย่วนพยักหน้า “เซ็นแล้วครับ!”
หยางจื้อหมิงขานรับแล้วบอกว่า “อาการมีการเปลี่ยนแปลง ไปเซ็นชื่ออีก แล้วก็เตรียมหนังสือแจ้งอาการป่วยด้วย บอกความเสี่ยงกับญาติผู้ป่วย…
…อ้อ ใช่ คุณไปด้วยตัวเองนะ”
หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤตไม่ได้เซ็นแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าพบอาการป่วยอื่นๆ ที่วิกฤตกว่าเดิม ก็ยังต้องเซ็นชื่อและแจ้งให้ทราบอีก!
เสิ่นซิวหย่วนรีบถอดถุงมือแล้วหยิบประวัติคนไข้ขึ้นมา ฉีกหนังสือเซ็นยินยอมออกมาสองแผ่น หลังจากเขียนบนนั้นสองสามประโยค ก็รีบร้อนเดินออกไปข้างนอก!
ตอนนี้พวกเฉินชางนั่งอยู่ตรงประตูห้องผ่าตัด คอยปลอบภรรยาของเหล่าเฮ่อไม่หยุด หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤตก่อนหน้านี้ทำให้เธอตกใจแทบแย่แล้ว
เฉินชางถึงได้ปลอบใจว่า “อาสะใภ้ครับ ไม่ว่าเคสผ่าตัดที่มีความเสี่ยง โรงพยาบาลก็จะให้คุณอาเซ็นหนังสือยินยอมทั้งนั้น การผ่าตัดมีความเสี่ยงในตัวมันเองอยู่แล้ว นี่เป็นขั้นตอนหนึ่งเท่านั้นเองครับ ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นอะไรหรอกครับ!”
แต่ไม่ว่าเฉินชางจะปลอบใจอย่างไร เธอก็ยังตกใจจนตัวสั่นอยู่ดี
ตอนนี้ประตูห้องผ่าตัดเปิดออกอีกครั้ง เสิ่นซิวหย่วนรีบเดินออกมา แล้วพูดกับภรรยาของเหล่าเฮ่อว่า “สวัสดีครับ อาการของผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลง พบว่าเส้นเลือดบริเวณรอบตับมีแขนงของกิ่งไม้เสียบอยู่ ตอนนี้ผู้ป่วยอยู่ในสถานการณ์อันตรายมาก คุณต้องเซ็นชื่อครับ”
ภรรยาของเหล่าเฮ่อเดิมทีก็ตกใจจนตัวสั่นอยู่แล้ว ประโยคนี้ทำให้เธอขวัญเสียทันที ประโยคที่บอกว่าอันตรายมากโจมตีเกราะป้องกันทางจิตใจของผู้หญิงคนนี้จนพังหมดแล้ว
วันเวลาดีๆ เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน ลูกชายลูกชายเพิ่งแต่งงานมีครอบครัว ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เริ่มใช้ชีวิตดีๆ แต่ดันเกิดเรื่องแบบนี้เสียแล้ว
ภรรยาของเหล่าเฮ่อเริ่มทำอะไรไม่ถูก
เสิ่นซิวหย่วนเองก็จนใจ เขาต้องปลอบและโน้มน้าวผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
เฉินชางอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนถามว่า “คุณหมอผ่าตัดเคสนี้ได้ไหมครับ”
ตอนนี้เสิ่นซิวหย่วนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเฉินชางคนนี้ดูคล้ายจะเป็นหมอ เขาส่ายหน้าตอบว่า “พวกเราอาจรับประกันไม่ได้ แต่…ถ้าพวกคุณไม่วางใจ…”
ตอนนี้หยางจื้อหมิงเดินออกมาด้วยตัวเอง แล้วบอกกับภรรยาของเหล่าเฮ่อว่า “คืออย่างนี้นะครับ ตอนนี้สถานการณ์ของผู้ป่วยอันตรายมาก ถึงแม้ตอนนี้จะยังรับประกันความปลอดภัยได้ แต่ก็อาจเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ทุกเมื่อ โรงพยาบาลของพวกเราไม่มีความสามารถด้านการผ่าตัดประเภทนี้ครับ
…ถ้าย้ายโรงพยาบาล ผมกังวลว่าผู้ป่วยอาจทนไม่ไหว อาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิดตอนอยู่บนรถ ทางที่ดีที่สุดก็คือเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมา”
ภรรยาของเหล่าเฮ่อสูดหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองสงบลง “คุณหมอคะ คุณต้องช่วยเหล่าเฮ่อของพวกเราให้ได้นะ ฉัน…ชาวบ้านอย่างฉันจะรู้จักผู้เชี่ยวชาญอะไรที่ไหน”
หยางจื้อหมิงถอนหายใจ “โรงพยาบาลของพวกเราติดต่อกับแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของโรงพยาบาลตงต้าสาขาสองที่เมืองอันหยางมาตลอด พวกเราเชิญอีกฝ่ายมาผ่าตัดให้ได้ แต่…คุณอาจต้องออกค่าวิชาชีพเฉพาะทางเอง เพราะสถานการณ์ตอนนี้…”
[1] หลอดเลือดแดงคอมมอนเฮปาติก (common hepatic artery) เป็นหลอดเลือดสั้นๆ ที่ให้เลือดที่มีออกซิเจนสูงไปยังตับ กระเพาะอาหารส่วนไพลอรัส (pylorus) ลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum) และตับอ่อน
