เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 556 การกลั่นแกล้งขำๆ (2)

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 556 การกลั่นแกล้งขำๆ (2)

ถึงเฉินชางจะปลอบใจแบบนี้ แต่ความเจ็บปวดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย[1]ก็ยังรุนแรงมาก!

เป็นอาการเจ็บปวดแบบบีบคั้น เจ็บจนทำให้หายใจลำบาก ให้ความรู้สึกเหมือนจะตาย

แม้อาการของผู้ป่วยจะเหมือนกล้ามเนื้อหัวใจตายมาก แต่เฉินชางก็ยังไม่ได้ให้ยาทันที มีแต่ต้องวินิจฉัยเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้นถึงจะดำเนินการรักษาได้

เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจรายงานผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจออกมาช้าๆ!

เฉินชางรีบรับผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมาดูอย่างละเอียด!

เป็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ทั้งยังเป็นกล้ามเนื้อหัวใจตายเพราะขาดเลือดด้วย

ประกอบกับ…การอุดตันของลิ่มเลือดที่ช่อง ST ยกสูงขึ้นถึง V2 ส่วนความถี่อื่นๆ กำลังลดลงทีละน้อย…

หลังจากเฉินชางแยกแยะอย่างละเอียดก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นการอุดตันตรงหลอดเลือดแดงส่วนลงด้านหน้าซ้าย (LAD)[2]

ตอนนี้บนหน้าของหม่าฮุ่ยหมินผุดเหงื่อเม็ดใหญ่ ปากก็อดพูดไม่ได้ว่า “เจ็บมากครับ!”

เฉินชางสูดหายใจลึก “เสี่ยวหลิน ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ วัดสัญญาณชีพ”

ขณะที่พูด เฉินชางก็นำไนโตรกลีเซอริน[3] 0.3mg ออกมา บอกผู้ป่วยว่า “อมไว้ใต้ลิ้นนะครับ”

คุณครูหม่าพยักหน้า แล้วค่อยๆ อมไนโตรกลีเซอริน

สิ่งที่เขากังวลที่สุดตอนนี้ก็คือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตาย!

เพราะภาวะนี้ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้!

“เจ็บมาก…”

ตอนนี้ผู้ป่วยเริ่มกระสับกระส่ายเพราะอาการเจ็บปวดรุนแรง เริ่มขยับตัวบนเตียงแล้ว

ผู้อำนวยการโรงเรียนเห็นแล้วค่อนข้างปวดใจ!

เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า จนกระทั่งตอนนี้ แม้ผู้ป่วยจะอมไนโตรกลีเซอรินแล้ว แต่เหมือนจะไม่ได้บรรเทาความเจ็บปวดได้อย่างชัดเจนอยู่ดี

เฉินชางสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ต้องใช้ยาระงับประสาทไหม

ดูการหายใจของผู้ป่วยก่อนแล้วค่อยว่ากัน…

ตอนนี้ เสี่ยวหลินรีบรับเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจมาแล้ว ค่าตัวเลขต่างๆ ปรากฏอยู่ในสายตาของเฉินชางแล้ว

การหายใจยังปกติ!

ความดันเลือดค่อนข้างต่ำ แค่ 90/60 mmHg เท่านั้น

หลังจากเฉินชางเห็นว่าการหายใจโดยพื้นฐานยังปกติอยู่ก็รีบพยักหน้า “หวังเชียน เตรียมมอร์ฟีน!”

หวังเชียนพยักหน้ารับ

พวกเขารักษาผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันบ่อยมาก ยังนับว่ารับมือได้อย่างราบรื่น

หลังจากฉีดมอร์ฟีนแล้ว ยาก็ออกฤทธิ์เร็วมาก อาการของผู้ป่วยดีขึ้นอย่างชัดเจน

บรรเทาอาการเจ็บหน้าอกได้แล้ว

แต่อาการเจ็บหน้าอกบรรเทา ไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยพ้นขีดอันตราย

ยังไม่พ้นขีดอันตราย!

อัตราการเต้นของหัวใจยังปกติ เฉินชางอดมองหวังเชียนอย่างซาบซึ้งใจไม่ได้ อืม…ไม่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะถือเป็นเรื่องดี

เตรียมยาต้านการแข็งตัวของเลือดแล้วกัน!

“ยาพลาวิกซ์[4] 75 mgสี่เม็ด + แอสไพริน 300 mg เตรียม LMWH[5] 12500 u” เฉินชางบอกเสี่ยวหลิน

งานกู้ชีพดำเนินไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

บนเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ สัญญาณชีพของผู้ป่วยยังปกติ

การกู้ชีพผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตาย โดยทั่วไปแล้วคือการวิ่งแข่งกับชีวิต มาถึงโรงพยาบาลเร็วก็หมายความว่ามีความหวังในการยื้อชีวิตเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง และหมายความว่ามีความเป็นไปได้ที่จะช่วยยื้อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่ตายและอะพอพโทซิส[6]ได้มากขึ้น

อะไรคือกล้ามเนื้อหัวใจตาย บางทีคนส่วนใหญ่อาจรู้ว่าอันตราย แต่ไม่รู้ว่าอันตรายเพราะอะไร!

ที่จริงก็คือหลอดเลือดโคโรนารี[7]อุดตันเฉียบพลัน การไหลเวียนเลือดหยุดกลางคัน ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจบริเวณที่เส้นเลือดเส้นนี้ล่อเลี้ยงตายเพราะขาดเลือดและออกซิเจน

หัวใจคืออะไร

หัวใจก็คือเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ก็คือกล้ามเนื้อ!

กล้ามเนื้อพวกนี้หิวตายเพราะไม่มีเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยง แล้วหัวใจบริเวณนี้จะมีแรงไปทำงานได้อย่างไร

ดังนั้น ในระหว่างที่กู้ชีพผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เวลาที่เพิ่มขึ้นหนึ่งวินาที หมายถึงความหวังในการยื้อชีวิตที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งส่วน

คนขับรถเหล่าหยางสายตาเร่าร้อนเหมือนเปลวไฟ ต่อไปก็เป็นภารกิจของเขาแล้ว

เหล่าหยางเป็นคนขับรถพยาบาลมายี่สิบกว่าปี เขาเข้าใจดี แม้เขาจะเป็นเพียงคนขับรถคนหนึ่ง แต่ภาระหน้าที่ของเขาสำคัญกว่าคนขับรถคนอื่น!

เนื่องจากบนรถของเขาบรรทุกชีวิตที่กำลังไหลหายไปอย่างต่อเนื่อง!

ระหว่างทาง ผู้อำนวยการโรงเรียนถือโทรศัพท์ติดต่อสมาชิกในโรงเรียนไม่หยุด บอกให้ผู้ปกครองนักเรียนมาที่โรงพยาบาล แล้วก็โทรหาภรรยาของคุณครูหม่าด้วย

ตอนนี้เฉินชางมีเวลาแล้วจึงถามว่า “ผู้ป่วยอาการกำเริบได้ยังไงครับ”

ผู้อำนวยการโรงเรียนถอนหายใจ ตอบอย่างโมโหว่า “เพราะการกลั่นแกล้งเล่นๆ ของนักเรียน!”

เฉินชางได้ยินแล้วเงยหน้าอย่างสงสัย “หมายความว่ายังไงครับ”

ตอนนี้อธิการบดีถึงได้อธิบายว่า “หลังจากผมไปที่ห้องพักครู คุณครูหม่าก็ล้มอยู่บนพื้นแล้ว ผมเห็นโทรศัพท์มือถือวางอยู่ข้างๆ เขา เป็นหน้าที่คุยแชทกับนักเรียนคนหนึ่ง ข้อความถูกส่งมาตอนเช้า คุณครูหม่าเพิ่งจะดูคลิปวิดีโอนั้นจบ จู่ๆ ก็เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย”

เฉินชางแปลกใจทันที “คลิปอะไรเหรอครับ”

อธิการบดีเปิดบันทึกการสนทนา แล้วตอบเฉินชาง “ส่วนแรกของคลิปเป็นเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งครับ ช่วงหลังจู่ๆ ก็มีหน้าผีกับเสียงกรีดร้องโผล่มา ตอนนั้นผมก็ตกใจแทบแย่เหมือนกัน!”

เฉินชางได้ยินแล้วอึ้งทันที!

คลิปวิดีโอกลั่นแกล้งขำๆ แบบนี้ เขาเองก็รู้จักเช่นกัน ตอนนี้บนอินเตอร์เน็ต ในกลุ่มแชท qq หรือวีแชทมีคลิปกลั่นแกล้งแบบนี้บ่อยมาก

แต่ใครจะไปคาดคิด ว่าเบื้องหลังคลิปกลั่นแกล้งเล่นๆ แบบนี้ จะนำมาซึ่งหายนะใหญ่หลวงขนาดไหน

หรือจะเป็นอย่างที่ใครบางคนบอกไว้จริงๆ ดูเอาสนุกเพราะกลัวจะไม่เกิดเรื่องราวใหญ่โต

บางคนถึงขนาดส่งต่อในกลุ่มอย่างเปิดเผย!

สำหรับคนส่วนใหญ่ บางทีอาจเป็นแค่การกระตุ้นอารมณ์เท่านั้น

แต่สำหรับคนที่เคยป่วยหรือมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว ถือเป็นการกระตุ้นอารมณ์ที่รุนแรง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์อย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นตื่นเต้น เครียด ตกใจหรือหวาดกลัวก็ล้วนทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันได้!

ชีวิตมีการล้อเล่นกันได้ มีการกลั่นแกล้งขำๆ ได้เช่นกัน

แต่ต้องจำไว้ว่าชีวิตไม่เคยล้อเล่น! การกลั่นแกล้งขำๆ ของคุณอาจเป็นโศกนาฏกรรมของคนอื่น!

หลังจากได้ยินผู้อำนวยการโรงเรียนเล่าถึงต้นสายปลายเหตุชัดเจนแล้ว พวกเฉินชางก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทันที

คนเราล้อเล่นกันได้!

แต่การล้อเล่นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าทำได้กับทุกคน

ยังดีที่คุณครูหม่าดูโทรศัพท์มือถือตอนอยู่ในห้องพักครู ถ้าอยู่ที่บ้านคนเดียวแล้วได้เห็นคลิปนี้ เขาจะทำยังไง

พอคิดถึงตรงนี้ ทุกคนก็หวาดกลัวทันที!

รถขับมาส่งที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แผนกโรคหัวใจเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว

แพทย์เริ่มเตรียมตัวก่อนตรวจ DSA[8] อย่างตึงเครียด

เตรียมเลือด!

เจาะเลือดไปตรวจ!

คนในครอบครัวไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเริ่มเซ็นอนุมัติแล้ว แพทย์เริ่มทำการรักษาที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว

ยังดีที่ใช้เวลาส่งตัวมาไม่นาน ยังให้ยาละลายลิ่มเลือดทัน…

หลังจากส่งตัวคุณครูหม่าเข้าห้องผ่าตัด พ่อแม่และปู่ย่าของหวังอี้เจ๋อก็มาแล้ว!

ภรรยาของหม่าฮุ่ยหมินก็มาถึงแล้วเช่นกัน!

“เกิดอะไรขึ้นคะผู้อำนวยการ ทำไมลูกชายฉันจึงฆ่าคนได้” แม่ของหวังอี้เจ๋อรีบถาม

ตอนที่เห็นคนครอบครัวนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ได้สนใจ แต่หันไปมองภรรยาของหม่าฮุ่ยหมิน

“พี่สะใภ้ ไม่ต้องกังวลนะครับ ส่งคุณครูหม่าเข้าห้องผ่าตัดแล้ว พี่ทำใจให้สบายก่อนเถอะครับ”

พอพูดถึงตรงนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนก็จ้องพ่อแม่ของหวังอี้เจ๋อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม พร้อมบอกว่า “รอสักครู่ครับ ผมแจ้งตำรวจแล้ว อีกสักพักตำรวจก็จะมา แล้วพวกเราก็ค่อยๆ คุยกันอีกที”

พอได้ยินประโยคนี้ คนในครอบครัวของเด็กก็ตะลึงค้างกันหมด

“ไม่ใช่สิ เด็กเพิ่งอายุกี่ขวบเอง เขาจะเข้าใจอะไรครับ”

“ใช่ๆ เดี๋ยวพวกเราจะชดใช้ให้ค่ะ!”

……

“เด็กไม่รู้ประสา พวกคุณก็ไม่รู้ประสาเหมือนกันเหรอครับ” ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

[1] ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial infarction) หรือบางทีเรียกว่า Heart attack เป็นความผิดปกติที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายเสียหายจากการที่เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่วนนั้นไม่เพียงพอ

[2]หลอดเลือดแดงส่วนลงด้านหน้าซ้าย ( left anterior descending [ LAD ] ) แยกออกจากหลอด

เลือดใหญ่ส่วนต้นแล้วทอดไปตามหัวใจด้านหน้าจนถึงปลายหัวใจ ( Apex ) ส่งเลือดเลี้ยงผนังก้นหัวใจห้องล่าง หัวใจห้องล่างซ้าย และพื้นผิวด้านหน้าของหัวใจห้องล่างขวา

[3] ไนโตรกลีเซอริน ยาอมใต้ลิ้น Nitroglycerin คือยาขยายหลอดเลือด สามารถใช้ป้องกันอาการเจ็บหน้าอกจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้

[4] ยาพลาวิกซ์ หรือยาโคลพิโดเกรล (Clopidogrel) เป็นยาในกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด ใช้ในการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง มักมีการใช้ยาร่วมกับยาแอสไพริน

[5] LMWH ยากลุ่มเฮพารินที่มีน้ำาหนักโมเลกุลต่ำา (low molecular weight heparin; LMWH) ออกฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของ เลือด ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือใช้ในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ

[6] อะพอพโทซิสApoptosis คือการตายของเซลล์ชนิดนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว

ตามธรรมชาติของร่างกาย

[7] หลอดเลือดโคโรนารี หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจหรือหลอดเลือดโคโรนารี (Coronary artery) เป็นหลอดเลือดแดงที่นำออกซิเจนและอาหาร คือ เลือดจากหัวใจไปยังกล้ามเนื้อหัวใจ

[8] DSA (Digital Subtraction Angiography) คือ เครื่องมือที่ใช้ตรวจหาความผิดปกติของสภาพเส้นเลือด ในร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งที่เราต้องการทราบ ซึ่งจะให้ภาพเฉพาะเส้นเลือดที่ชัดเจน

บทที่ 550 ที่น่ากลัวคือใจคน ไม่ใช่ความเจ็บป่วย (1)

หวังโส้วมองอาการบาดเจ็บที่ช่องท้องของหยางหย่วนจง เขาอดสูดหายใจลึกไม่ได้!

ถ้าเมื่อคืนตนให้เงินเขา เขาก็จะไม่ถูกเจ้าหนี้แทงหรือเปล่า

พอคิดถึงตรงนี้ หวังโส้วก็แค่นหัวเราะ!

เขาส่ายหน้า ต่อให้ย้อนกลับไปเมื่อคืน เขาก็ไม่ให้เงินน้องเขยที่ไม่เอาไหนคนนี้อยู่ดี

ขนาดดาราดังยังช่วยเหลือพี่ชายติดพนันของตัวเองไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหัวหน้าแผนกเล็กๆ อย่างตนเลย

นี่คือหลุมดำที่ถมไม่เต็ม!

หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้เขาแล้วกัน…

แน่นอน ต้องอยู่ภายในเงื่อนไขที่ว่า ช่วยชีวิตเขากลับมาได้

พูดตามตรง ตอนนี้เหมือนหวังโส้วแทบจะไม่มีความผูกพันให้น้องเขยคนนี้เลยสักนิด ไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย

แต่สำหรับผู้ป่วยคนหนึ่ง เขายังต้องพยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ

เหอทงให้เบอร์โทรศัพท์ของเฉินชางมาแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโทรศัพท์ เขาต้องทำให้อาการของผู้ป่วยคงที่ก่อน

“เอาคีมจับเส้นเลือดแบบไม่ล่วงล้ำมาให้ผม!” หวังโส้วบอกพยาบาล

จากนั้น เขาก็มองสวี่เฉิงแวบหนึ่ง “หัวหน้าแผนกสวี่ คุณมาดึงมีด ผมจะห้ามเลือดเอง”

สวี่เฉิงรีบพยักหน้า ตอนที่เขาดึงมีดยาวแหลมคมออกจากตับขึ้นมาได้ประมาณสามเซนติเมตร

ตอนนี้เอง เลือดสดก็ทะลักออกมา

น้ำเลือดจากเส้นเลือดบริเวณรอบตับไหลไม่หยุด สองมือของหวังโส้วถูกย้อมไปด้วยเลือด สายตาของเขาเหมือนทะเลไร้คลื่น ตอนนี้เขาตระหนักได้แล้วว่าความยากของการผ่าตัดเคสนี้เกินความขอบเขตความสามารถของเขา!

บริเวณที่มีเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหายอยู่ที่ผนังด้านหลังตับ แต่บนตับมีรอยแยกขนาดใหญ่รอยหนึ่ง มีเลือดไหลออกมาไม่หยุดเช่นกัน ตำแหน่งที่มีเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหายอยู่ข้างในนั้น!

หน้าผากของหวังโส้วมีเหงื่อไหลออกมาไม่หยุด ถ้าไม่ห้ามเลือดไว้ ต่อให้เฉินชางมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี!

อีกทั้งความดันโลหิตก็ยังลดลง…

70…65…63…

ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่สวี่เฉิงก็สีหน้าเคร่งเครียดแล้ว หน้าผากมีเหงื่อซึมเล็กน้อย การแทงครั้งนี้เหมือนคร่าชีวิตคนได้จริงๆ!

โดยทั่วไป ถ้าเป็น ‘ยอดฝีมือ’ ที่มีประสบการณ์ใช้มีด แต่ครั้งที่ใช้มีดแทงจะแทงเบาๆ ทำให้อาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรง เคยมีอุธาหรณ์กรณีหนึ่ง นักศึกษาโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งแทงแฟนหนุ่มของตัวเองสิบกว่าแผลโดยหลีกเลี่ยงจุดสำคัญบนร่างกาย

แต่คนที่ใช้มีดแทงมั่วๆ ล้วนเป็นคนใหม่ เป็นคนหนุ่มสาว หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นระยำ คนที่จะเอาชีวิตคนอื่น!

แน่นอน ไม่มีสว่านมือชั้นดีก็อย่าริทำงานเครื่องกระเบื้องเคลือบ[1] ไม่มีเรื่องจำเป็นก็อย่านำมีดมาเล่น ตรงท้องมีอวัยวะสำคัญที่อันตรายถึงชีวิตมากมาย

หวังโส้วใช้แรงไปเยอะมาก สุดท้ายก็ใช้คีมจับเส้นเลือดแบบไม่ล่วงล้ำหนีบปิดตรงทางออกของหลอดเลือดดำคาร์ดินัลหลังตับได้แล้ว!

ส่วนหลอดเลือดใหญ่ หลอดเลือดดำ หลอดเลือดเล็กตับในช่องท้อง…จุดเลือดออกหลักๆ เขาทยอยห้ามเลือดไว้แล้ว

เป็นถึงหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน หัวหน้าแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของโรงพยาบาลตงต้าสาขาสองผู้สง่าผ่าเผย ทักษะเล็กน้อยพวกนี้ก็ยังพอได้อยู่!

ตอนนี้ไม่ใช่ว่าผ่าตัดแล้วจะปลอดภัย

การคีบปิดเส้นเลือดบริเวณรอบตับ เนื่องจากเป็นคีมห้ามเลือดแบบไม่ล่วงล้ำจึงมีพื้นที่แคบมาก แม้จะคงปริมาตรการไหลของเลือดไว้ได้ แต่การคีบปิดไว้นานก็จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้!

เขาบอกไม่ได้ว่าผู้ป่วยปลอดภัยแล้ว บอกได้เพียงว่าประคองอาการให้คงที่ได้ในระดับหนึ่งแล้วเท่านั้น ถึงขั้นยังไม่พ้นขีดอันตรายด้วยซ้ำ!

แต่ปัญหาเรื่องการซ่อมแซมภายในตับและหลอดเลือดดำคาร์ดินัลหลังตับในขั้นต่อไป หวังโส้วยอมรับว่าตัวเองไม่มีความมั่นใจมากนัก

ตอนนี้คงต้องไปขอร้องเฉินชางแล้วจริงๆ

พอคิดถึงตรงนี้ หวังโส้วก็มองสวี่เฉิงแวบหนึ่ง “หัวหน้าแผนกสวี่ ผมจะไปเชิญหมอมาจัดการกับภาวะเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหาย”

สวี่เฉิงงงทันที ถามอย่างแปลกใจนิดหน่อยว่า “หัวหน้าแผนกหวัง…คุณทำไม่ได้เหรอ”

หวังโส้วสะอึก ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วส่ายหน้าบอกว่า “เคสนี้ยากเกินไปครับ ผมใช้คีมจับเส้นเลือดแบบไม่ล่วงล้ำแยกเส้นเลือดและห้ามเลือดได้ ก็ถือว่าทำได้เกินระดับทักษะของตัวเองแล้ว”

พอฟังมาถึงตรงนี้ สวี่เฉิงก็ตะลึงค้าง หวังโส้วแห่งแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีมีทักษะอยู่ในระดับไหนกัน

ถือเป็นระดับเพดานของทั้งมณฑลตงหยางแล้วละมั้ง…

ถ้าเขาทำไม่ได้…แล้วใครจะทำได้

“คุณจะให้ผู้อำนวยการเฉียนมาทำแทนเหรอครับ” สวี่เฉิงถาม

หวังโส้วยิ้มเรียบๆ “เขาทำไม่ไหวหรอกครับ!”

ถ้าจะถามว่าใครเข้าใจระดับทักษะของคนคนหนึ่งได้ดีที่สุด คำตอบก็คืออาจจะเป็นคู่แข่งของเขา

หวังโส้วกับเฉียนเลี่ยงแข่งขันกันมาทั้งชีวิต แม้จะสู้แล้วล้มเหลวมาตลอด แต่หวังโส้วก็ไม่เคยยอมแพ้อยู่ดี

สวี่เฉิงอึ้งทันที…

เฉียนเลี่ยงทำไม่ได้ หวังโส้วก็ทำไม่ไหวเช่นกัน แล้วทั้งมณฑลตงหยางยังจะมี…ใครทำได้อีก!

ตอนนี้แม้แต่หมอคนอื่นที่เข้าร่วมผ่าตัดด้วยก็เผยสีหน้างุนงงแล้วเช่นกัน

ยังมีใครทำได้อีก…

หวังโส้วถอดถุงมือ แล้วพูดกับสวี่เฉิงและวิสัญญีแพทย์ว่า “รักษาสัญญาณชีพผู้ป่วยเอาไว้สักครู่ครับ ผมจะออกไปโทรศัพท์ เสี่ยวหลิวช่วยผมเตรียมหนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤตให้ผู้ป่วยด้วย”

จากนั้น หวังโส้วก็ถือโทรศัพท์เดินออกไปข้างนอก

ยังดีที่เมื่อครู่นี้เหอทงส่งเบอร์โทรศัพท์มาแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ ทำให้ต้องคงสัญญาณชีพของผู้ป่วยเอาไว้ ถึงได้ถ่วงเวลามาจนถึงตอนนี้

หลังจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หวังโส้วก็รู้สึกอับอายอยู่บ้าง!

อย่างไรเสีย เมื่อคืนก็เพิ่งพูดต่อหน้าเฉินชางไปว่า ก็แค่เท่านี้เอง

นึกไม่ถึงว่าจะได้ตบหน้าตัวเองเร็วขนาดนี้!

พอนึกถึงตรงนี้ หวังโส้วก็หน้าซีดสลับแดงอยู่พักหนึ่ง หัวหน้าแผนกผู้สง่าผ่าเผยคนหนึ่ง เชิญหมอตำแหน่งเล็กๆ มาช่วยผ่าตัด ต้องทำให้คนมากมายหัวเราะเยาะแน่นอน

แต่…ไม่เป็นไร

ช่วยคนก่อนแล้วกัน

เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเฉินชาง

……

……

เฉินชางเห็นคนแปลกหน้าโทรมาแล้วงงเล็กน้อย แต่ก็ยังรับสาย

“สวัสดีครับ”

พอหวังโส้วได้ยินเสียงเฉินชาง ก็รีบบอกว่า “หมอเฉินสวัสดีครับ ผมคือหวังโส้วจากแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีจากโรงพยาบาลตงต้าสาขาสอง เมื่อคืนนี้…ที่พวกเราวิดีโอคอลกัน”

เฉินชางได้ยินแล้วอึ้งนิดหน่อย แต่ก็นึกหน้าของหวังโส้วออกแล้วเช่นกัน เขาพยักหน้าทักทายว่า “อ๋อ หัวหน้าแผนกหวัง สวัสดีครับ”

หวังโส้วถอนหายใจ “หมอเฉิน ตอนนี้ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ เมื่อเช้านี้น้องเขยผมถูกแทง…มีภาวะเส้นเลือดบริเวณรอบตับเสียหายร้ายแรง ทั้งยังเกิดในตำแหน่งพิเศษ อยู่ภายในผนังหลังตับ ตอนนี้ผมทำได้แค่ใช้คีมจับเส้นเลือดแยกเส้นเลือดแล้วหนีบปิดไว้ ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ…

…แน่นอนว่าค่าวิชาชีพเฉพาะทาง ท่านเห็นว่าควรจะได้เท่าไรก็จะได้เท่านั้น ไม่ต้องเกรงใจครับ…”

หวังโส้วแสดงท่าทีจริงใจมาก ใช่คำว่า ‘ท่าน’ เรียกเฉินชาง

เฉินชางได้ยินแล้วพยักหน้า “คุณรอสักครู่ครับ เดี๋ยวผมค่อยคุยรายละเอียดทีหลัง”

นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องค่าวิชาชีพเฉพาะทาง การผ่าตัดบางเคส แม้จะได้เงินเยอะ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่อยากทำ

พอหวังโส้วเห็นว่าเฉินชางไม่ปฏิเสธก็เผยสีหน้าดีใจทันที แม้จะไม่รู้ถึงระดับที่แท้จริงของเฉินชาง แต่หวังโส้วก็รู้ว่าเฉินชางเข้าใจเรื่องผ่าตัดซ่อมเส้นเลือดบริเวณรอบตับที่เสียหายเป็นอย่างดี รู้เยอะกว่าตนกับเฉียนเลี่ยง

“งั้นก็ขอบคุณท่านมากครับ ผมจะรอท่านอยู่ที่หน้าประตูแผนกฉุกเฉิน ท่านถึงแล้วโทรหาผมนะครับ”

หลังจากวางสาย หวังโส้วก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วถือหนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤตเดินไปด้านนอก

นอกห้องผ่าตัดตอนนี้ ภรรยาของหวังโส้ว พ่อตาและแม่ยายอยู่กันครบ ทั้งยังมีภรรยาของหยางหย่วนจงด้วย

พอเห็นหวังโส้วออกมา หยางหว่านซิ่วก็รีบลุกขึ้น “ที่รักคะ…หย่วนจงเป็นยังไงบ้าง”

แม้แต่พวกพ่อตาก็ทยอยกันลุกขึ้น รีบเดินมาตรงหน้าหวังโส้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

[1] ถ้าไม่มีสว่านมือชั้นดี ก็อย่าริทำงานเครื่องกระเบื้องเคลือบ 没有金刚钻别揽瓷器活 หากไม่มีความสามารถหรือไม่มีความเชี่ยวชาญก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท