เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 115 คุณภีมหึงหรอ?
นภาลัยรับรู้ได้ถึงความโกรธของเขา ยิ่งเธอพยายามจะหนีออกจากตัวเขาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งออกแรงมากขึ้น
ทุกวินาทีที่ผ่านไปล้วนทำนภาลัยหายใจแทบไม่ออก!
ในที่สุด นภาลัยก็ยอมประนีประนอม…… เธอไม่สู้แล้วและพิงลงไปบนตัวเขาพร้อมทั้งมองเขาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลออยู่
มีช่วงหนึ่งที่ภีมพลรู้สึกว่า เธอเหมือนกับกระต่ายน้อยแสนเชื่องที่ทับอยู่บนตัวเขาอย่างเชื่อฟังและไม่ขยับไปไหน
ญาณีที่อยู่หน้าประตูกำหมัดแน่นจากการเห็นภาพบาดตาบาดใจที่อยู่ตรงหน้า!
เธอไม่อยากจะยอมรับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ก็ต้องทนยอมรับเพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง!
เมื่อภีมพลเห็นว่าเธอไม่ขัดขืนแล้ว เขาจึงลองปล่อยเธอ
นภาลัยลุกขึ้นยืนและหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากด้วยความรังเกียจ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้าโดยบังเอิญ
เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
“แหะ แหะ” นภาลัยส่งสัญญาณให้ชายหนุ่มที่อยู่บนเตียง
ขณะที่ภีมพลหันไปมอง ญาณีก็เดินเข้ามาด้านใน สายตาของเธอมองแต่ภีมพลโดยที่ไม่ได้สนใจนภาลัยเลย
“ฉันได้ยินว่าคุณเข้าโรงพยาบาลก็เลยเป็นตัวแทนของคณะผู้บริหารระดับสูงมาเยี่ยมคุณ” เธอยืนอยู่หน้าเตียงด้วยความเสียใจและเจ็บปวดใจ จากนั้นจึงถามเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน “หมอว่ายังไงบ้าง? แล้วคุณโอเคหรือเปล่าคะ?”
ภีมพลยังไม่ทันได้ตอบ นภาลัยก็ยกขาจะก้าวเดินออกไป แต่เขาก็คว้าข้อมือเธอเอาไว้อีกครั้งด้วยความรวดเร็ว!
เขาหยุดเธอไว้ไม่ให้จากไป
“จะไปไหน?” ภีมพลไม่สนใจความเป็นห่วงของญาณีและจ้องอยู่ที่หญิงสาวที่กำลังจะจากไป
นภาลัยรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว สามคนมันแออัดจนเกินไป เขาไม่รู้สึกบ้างเลยหรือไงกัน?
“สามีคุณป่วยเข้าโรงพยาบาล เธอเป็นรองประธาน ก็เลยมาเยี่ยมในฐานะของตัวแทนคณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท” เขาบ่น “คุณเป็นภรรยา ก็ต้องอยู่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงไม่ใช่หรอ?”
นภาลัยทำตัวไม่ถูก
เขาดึงเธอเบาๆ จนเธอตกลงมานั่งที่ขอบเตียง
ต่อหน้าญาณีก็ยังจะแสดงความรักแท้ที่มีต่อกัน
ในใจของญาณีเต็มไปด้วยความเกลียด!ถ้ายังอยู่ต่อจะต้องโกรธจนทนไม่ไหวแน่ๆ!
“คุณพักผ่อนเยอะๆ แล้วกัน ไม่ต้องเป็นห่วงที่บริษัท เดี๋ยวฉันจะจัดการแทนเอง” ญาณีมองเขาแล้วหันหลังเดินจากไป
เธอไม่ได้เดินเร็วเลย แต่ภีมพลกลับไม่รั้งเธอเอาไว้ แม้แต่คำขอบคุณก็ยังไม่มีหลุดออกมาจากปากเขา
ในทางเดินของโรงพยาบาล เธอปวดใจจนแทบจะหายจะไม่ออกและไม่เข้าใจว่าตัวเองจะรีบร้อนมาที่โรงพยาบาลทำไม มากระตุ้นหรอ? หาเรื่องให้ตัวเองโมโหหรอ?
ระหว่างทางกลับบริษัท เธอกำพวงมาลัยไว้และรู้สึกว่าตัวเองแพ้อย่างยับเยิน
ในห้องคนไข้
นภาลัยดึงมือออก จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “เธอไปแล้ว เลิกเล่นละครได้แล้ว!”
“ใครบอกคุณว่าผมกำลังเล่นละคร?” ภีมพลมองเธอ “พวกเราเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว ยังต้องเล่นละครอีกหรอ?”
เธอรู้สึกแปลกๆ เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่กับไวศิษฎ์?
ที่นั่นไกลมากเลยนะ
นภาลัยใจลอยอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พบว่า สายตาของภีมพลคล้ายกับไฟฉายที่กำลังส่องอยู่บนหน้าเธอ!
“คุณรู้ไหม?” ภีมพลเอ่ยปาก “สโมสรของไวศิษฎ์ปิดลงเพราะคุณ เขาไล่สมาชิกในทีมออกและละทิ้งความฝันของตัวเอง”
“สโมสรอะไร?” เธอไม่รู้เรื่องเลย
“ถ้าคุณยังอยู่กับเขาอีก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ภีมพลเตือน “บางทีคุณอาจจะไม่ได้เจอแชมป์และขวัญข้าวอีกต่อไปเลยก็ได้”
สีหน้าของนภาลัยเปลี่ยนไปในทันที เธอเห็นความจริงจังและตักเตือนจากสายตาของเขา
“ผมหมดความอดทนกับเรื่องนี้เต็มทีแล้ว”
“คุณมันเป็นปีศาจ” นภาลัยส่งสายตากลับอย่างเย็นชา “ทำไมคุณถึงต้องปิดสโมสรของไวศิษฎ์? ทั้งๆ ที่คุณเองก็เป็นห่วงเขา!”
“อย่ามาพูดถึงเขาต่อหน้าผมอีก!” เขาพูดอย่างไม่พอใจ “ผมไม่อยากได้ยินชื่อเขาจากปากของคุณ!”
เอ๊ะ!เขาหึงหรอ?
นภาลัยสบตากับเขาและรู้สึกว่าน่าขัน
ขณะนั้น โทรศัพท์ของภีมพลก็ดังขึ้นจากในกระเป๋าที่ไม่ไกลนัก
“หยิบโทรศัพท์ให้ผมหน่อย” เขาพูดกับเธออย่างเป็นธรรมชาติ
เสียงโทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เขามีสายน้ำเกลืออยู่ที่แขนจึงลงจากเตียงไม่สะดวก
นภาลัยหยิบโทรศัพท์มาให้เขาและบังเอิญมองไปเห็นที่หน้าจอว่าเป็นแม่ของเขาที่โทรเข้ามา
เธอยื่นโทรศัพท์ให้เขา เขามองดูหน้าจอและเงยหน้าขึ้นมองเธอ “คุณรับสาย”