เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 151 ญาณีทำตามแผน
“ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้างคะ?” สีหน้าเธอเปื้อนรอยยิ้ม “ทุกอย่างราบรื่นดีใช่มั้ยคะ?”
“ได้รับสายของคุณในเช้าวันที่สดใสเช่นนี้ ผมอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ” อีกฝ่ายแชร์ความรู้สึกกับเธอ “ช่วงนี้อากาศที่อเมริกาไม่เลวเลยนะ อารมณ์ก็เลยดีขึ้นตาม”
ก้นบึ้งแววตาของญาณีอบอวลไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนจางๆ “งั้นก็ดีค่ะ”
อีกฝ่ายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “ช่วงนี้คุณภีมเป็นยังไงบ้างครับ? ยังยุ่งเหมือนเมื่อก่อนมั้ย?”
“ค่ะ” โทนน้ำเสียงญาณีนุ่มนวล “คุณเอ็ด ฉันและคุณภีมกราบขอบพระคุณเป็นอย่างมากที่คุณให้ความช่วยเหลือทีเอ็ม กรุ๊ปค่ะ”
“เรื่องมันก็ผ่านไปนานมากแล้ว ไม่ต้องคอยพูดขอบคุณอยู่ตลอดหรอกครับ ทุกคนเป็นเพื่อนกัน เป็นการยื่นมือช่วยเหลือในยามลำบากเท่านั้นเองครับ”
“คุณเอ็ดฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยค่ะ” ญาณีเอ่ยปากอย่างประหม่า
“เรื่องอะไรเหรอ? คุณพูดมาเลย”
เธออมยิ้ม พลางผ่อนลมหายใจอย่างแผ่วเบา “อยากจะเลื่อนการนัดหมายของคุณกับคุณภีมไปเป็นวันมะรืนได้มั้ยคะ?”
อีกฝ่ายแสดงอาการตกตะลึงเห็นได้อย่างชัดเจน “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ
เอ็ดบ่นกระปอดกระแปด “แต่ตารางงานเดือนนี้ของผมก็เต็มแล้ว วันมะรืนไม่ว่างจริงๆ ครับ
“ฉันจำได้ว่าวันที่สิบห้าของเดือนนี้เป็นงานวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของลูกสาวของคุณ” ญาณีเตรียมตัวไว้ดีตั้งแต่แรก “ไม่ว่าจะยุ่งยังไง ในวันที่สำคัญขนาดนี้แล้ว คุณย่อมต้องอยู่ข้างกายลูกสาวของคุณใช่มั้ยคะ?”
“ที่ผมพูดว่าไม่มีเวลาเพราะต้องการอยู่กับเธอ” อีกฝ่ายพูดเปื้อนรอยยิ้ม “คืออย่างนี้นะ วันเกิดลูกสาวผม ผมไม่คิดรบกวนไปถึงพวกคุณ คุณภีมก็เป็นคนที่ยุ่งมาก ผมคอยคำนึงถึงการทำงานของเขาอยู่ตลอด”
“เรื่องนี้ถือว่าไม่ได้เป็นการรบกวนเลยค่ะ ในทางกลับกันความร่วมมือที่ต้องเจรจา ด้วยมิตรภาพของคุณกับคุณภีม เขาน่าจะต้องมานะคะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คุณเอ็ดรู้สึกยินดีปรีดาอยู่ในใจ อย่างไรก็ตามการได้เป็นเพื่อนกับภีมพล ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
ญาณีพูดต่อ “ช่วงเวลาที่คุณภีมได้นัดหมายกับคุณเอาไว้ มีโปรเจคที่เร่งด่วนจำต้องคอยจับตาดูด้วยตนเอง ดังนั้นจึง…”
อีกฝ่ายเข้าใจอย่างถ่องแท้ คุณภีมเป็นคนต้องการเปลี่ยนตารางเวลา
เอ็ดจะไม่ไว้หน้าก็ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง “งั้นก็เอาตามนั้นแหละ ผมตกลงแล้วกัน”
“ขอบพระคุณคุณเอ็ดมากเลยค่ะที่เข้าใจ ฉันขอเป็นคนขอบพระคุณแทนคุณภีมนะคะ”
“ถึงเวลานั้นไม่ต้องเตรียมของขวัญอะไรให้สาวน้อยนะ” อีกฝ่ายพูดอย่างลึกลับ “ถึงเวลานั้นผมจะเอ่ยปากขอจากคุณภีมของคุณเอง ผมคิดออกแล้วว่าจะให้พวกคุณช่วยผมสักเรื่องหนึ่ง”
“ทางเราเหรอคะ?” ญาณีไม่เข้าใจ
“ใช่สิ ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน”
“ค่ะ” ญาณีอมยิ้ม จู่ๆ เธอก็ได้ยินมีเสียงคนอื่นดังจากทางปลายสาย แวบเดียว คุณเอ็ดจึงพูด ว่า “ญาณี ทางนี้ผมมีธุระต่อ ขอวางสายก่อนนะ อีกสองวันพวกคุณค่อยมากันนะ”
“โอเคค่ะ”
“คุณต้องมาให้ได้ด้วยนะ ยินดีต้อนรับคุณกับคุณภีม!”
“โอเคค่ะ” รอยยิ้มตรงมุมปากของหญิงสาวช่างอ่อนโยนและน่ามอง “ขอบคุณนะคะ”
เอ็ดเป็นลูกครึ่งอเมริกา เป็นเพื่อนหนึ่งในไม่กี่คนของภีมพล และคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่ทีเอ็ม กรุ๊ปในช่วงเวลาที่ต้องการ
เขาเป็นคนที่ภีมพลแสดงความนับถือว่าเป็นผู้มีพระคุณในชีวิตในจำนวนที่มีน้อยมาก และเป็นนักธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เอ็ดป่วยหนัก จนส่งผลให้ขาทั้งสองข้างสูญเสียความรู้สึก ในเวลานี้ก็นั่งอยู่บนรถเข็นเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวอย่างมีขีดจำกัด ดังนั้นโปรเจคใหม่ที่ภีมพลต้องการเจรจากับเขา ก่อนหน้านี้ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าภีมพลจะนั่งเครื่องบินไปหา
ญาณียืนอยู่ด้านหน้ากระจกจรดพื้นภายในห้องนอน เธอกำโทรศัพท์ ใบหน้าของเธอหุบรอยยิ้มทันที นัยน์ตาเปล่งประกายความเจ้าเล่ห์ออกมา
เธอไม่มีวันปล่อยให้รมิตาแย่งภีมพลไปจากเธอ!
รีพัลส์เบย์ วิลล่า แสงจันทร์นวลผ่องสว่างไสว
ห้องนอนของรมิตาชั้นบน
ในที่สุดนภาลัยก็หลุดออกมาจากวงแขนของภีมพล และกระซิบอย่างร้อนใจ “คุณรีบออกไปเร็ว ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว!”
การถูกเขาจูบจนเกิดอาการมึนหัว!
ภีมพลไม่นอนค้างคืนที่นี่อยู่แล้ว เขายังมีสติสัมปชัญญะมากพอ ดังนั้นตอนที่ถูกนภาลัยผลักไสไล่ส่งออกจากห้องนอนนั้น เขาก็ไม่ได้มีอาการต่อต้านอะไรมาก มีแค่ความรู้สึกไม่เต็มใจอัดแน่น
ปึ้ง!
ท่านประธานใหญ่ถูกล็อกให้อยู่นอกประตูอย่างไร้เยื่อใย!