เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 165 ยึดทรัพย์
ป้าโสนชงชาเอิร์ลเกรย์มาให้ “คุณนายเชิญดื่มชาก่อนค่ะ” พร้อมทั้งนั่งคุกเข่าเพื่อรินน้ำชาให้เธออย่างระมัดระวัง
ความรู้สึกเดจาวูที่เหมือนองค์ฮ่องเฮาเสด็จมาเยือน
ทุกคนต่างสงสัย ไม่มีคนกล้าเอ่ยปากสอบถามจุดประสงค์หลักของเธอในเวลานี้ กระทั่งขนาดหายใจแรงๆ ยังไม่กล้าด้วยซ้ำ
“นายหญิงน้อยของพวกหล่อนไปพักอยู่ที่รีพัลส์เบย์ วิลล่าของฉัน เรื่องนี้พวกหล่อนรู้กันทุกคนแล้วใช่มั้ย?” คะนึงนิตน์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตามปกติ พร้อมทั้งใช้สายตากวาดตามองใบหน้าทุกคน
เหมือนทุกคนไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย แต่พ่อบ้านปวิธเหมือนจะรับรู้
คะนึงนิตย์ดื่มชา เธอวางถ้วยชาและลุกขึ้นยืน “คือยังงี้นะ จริงๆ แล้วเธอเป็นหมอ กำลังวิจัยยาที่สามารถรักษาอาการถูกไฟคลอกให้ฉันอยู่ ที่ฉันมาในวันนี้ เพราะจะมาช่วยเธอเก็บของ”
ทุกคนเงี่ยหูฟัง กระนั้นยังเหล่มองเธอพร้อมๆ กัน
เธอพูดต่อ “เธอมาพักที่บ้านฉันไม่ใช่แค่วันสองวัน อาจจะกินเวลายาวสามถึงห้าเดือนหรือเป็นปี ดังนั้น รบกวนพ่อบ้านปวิธช่วยเก็บสิ่งของทุกอย่างที่เป็นของเธอทั้งหมดให้เรียบร้อย วันนี้ฉันจะเอาไปที่รีพัลส์เบย์ วิลล่า”
ใบหน้าพ่อบ้านปวิธประดับด้วยรอยยิ้มอย่างสงบ “ขอรับ คุณนาย”
“ฉันจะขึ้นไปชั้นบนด้วย” คะนึงนิตย์พูด “ไปพร้อมกับพวกหล่อนนี่แหละ” เธอไม่มีที่จะปล่อยให้สิ่งของที่เป็นของนภาลัยทุกชิ้นหลุดรอดไปสักชิ้น
พ่อบ้านปวิธพาบ่าวรับใช้ขึ้นชั้นบน เธอก็เดินขึ้นตาม
ตอนที่คะนึงนิตย์ค้นพบว่าในห้องแต่งตัวมีแต่ชุดผู้หญิงสวยๆ ทั้งหมดนั้น กองเพลิงความอิจฉาริษยาในดวงตาลุกโชติช่วงชัชวาล!
เพราะทุกชุดล้วนเป็นแบรนด์หรูระดับไฮเอ็นด์ ซึ่งใช้สายตาประเมินราคาเกินพันล้าน!
“คุณนาย คุณภีมได้ตั้งใจจัดเตรียมไว้ให้กับนายน้อยหญิงทั้งหมดครับ” พ่อบ้านปวิธรายงานด้วยเสียงแผ่วเบา “เอาไปหมดนี่เลยเธอคงใส่ไม่ทัน เอาไป7-8ชุดก็พอแล้วมั้งครับ?”
“ไม่” เธอหันมาค้อนใส่พ่อบ้านปวิธ น้ำเสียงทุ้มต่ำ “เอาไปทั้งหมดนี่”
“…” พ่อบ้านปวิธเริ่มลำบากใจ โปรเจคใหญ่เลยนะนั่น!
คะนึงนิตย์อธิบายนุ่มนวล “ต่อไปก็ต้องไปงานเลี้ยงต่างๆ เธอก็ต้องมีตัวเลือกสิ บ้านฉันมีห้องแต่งตัวอยู่สี่ห้องพอดี เอาของพวกนี้ยัดใส่เข้าไปยังมีที่อีกเหลือเฟือ”
“ครับ” พ่อบ้านปวิธได้แต่บอกกล่าวบ่าวไพร่ให้ทำตามนั้น
บ่าวไพร่ที่อยู่ทางนี้มีอยู่ 7-8 คน ที่กำลังขะมักเขม้นในการจัดเก็บเสื้อผ้า
พ่อบ้านปวิธเดินเข้ามาในห้องนอนใหญ่เป็นเพื่อนคะนึงนิตย์
ตอนที่เธอมองเห็นเตียงกว้างอันนุ่มน่าสัมผัสเตียงนี้อยู่ต่อหน้า พลันฉุกคิดภาพว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังแสดงบทรักกลิ้งกลอกไปมาอยู่บนเตียงลูกชายของตัวเอง คะนึงนิตย์เกิดอาการจุกอกอย่างหนักหน่วง!
ทั้งๆ ที่ตำแหน่งนี้มันเป็นของญาณี!!
เธอไม่ได้แสดงความรู้สึกต่อหน้าพ่อบ้านปวิธ กวาดตามองวนไปรอบๆ จากนั้นจึงก้าวไปทางด้านหน้าเปิดลิ้นชัก จนมองเห็นสิ่งของที่อยู่ด้านในเป็นของหญิงสาวทั้งหมด กล่องเครื่องประดับเอย เครื่องสำอางเอยจำพวกนั้น
“เอาถุงมา” เธอออกคำสั่ง
พ่อบ้านปวิธรีบเปิดปากถุงใบหนึ่งทันที เธอหยิบของเหล่านี้ยัดใส่ถุงด้วยมือของเธอเอง ทำเหมือนเป็นการใส่ขยะอย่างนั้นเลย
พ่อบ้านปวิธเริ่มรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ นี่มันไม่ใช่การย้ายบ้านตามปกติทั่วไปหรอกมั้ง? นี่คือการยึดทรัพย์อย่างโจ่งแจ้งต่างหาก!
แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้าน ได้แต่คอยจับตาสังเกตต่อไปเรื่อย
ตอนที่คะนึงนิตย์เห็นสัญญาที่อยู่ในลิ้นชักอีกอัน เธอหยิบมาอยู่ในมือและกวาดตาอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเห็นยอดจำนวนเงินหนึ่งพันล้านมันทิ่มตา!!
บนสัญญาได้เขียนอย่างชัดเจนเอาไว้ – เมื่อใดก็ตามที่นภาลัยรักษาอาการแผลบนตัวของเธอจนหายดี ภีมพลจะจ่ายเงินให้เธอพันล้าน!!
คะนึงนิตย์ถลึงตามองผู้หญิงคนนั้นได้เซ็นชื่อกำกับไว้ท้ายสัญญา นัยน์ตาฉายรัศมีความเย็นชาออกมา
นี่มันขู่กรรโชกทรัพย์ชัดๆ!
ซึ่งสามารถมองออกว่านภาลัยน่าหวาดกลัวขนาดไหน และสามารถมองเห็นว่าตนเองมีความสำคัญต่อภีมพลมากมายขนาดไหน…
ดังนั้น วินาทีนั้นคะนึงนิตย์เกิดความสับสนใจมาก
เธอเก็บสัญญาเอาไว้อย่างใจเย็น ไม่มีทางที่จะให้นังนภาลัยผู้หญิงจอมเจ้าเล่ห์คนนี้เหยียบเข้ามาอยู่ในเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่าได้แม้แต่ครึ่งก้าว!
มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
แสงแดดฤดูร้อนสาดส่องจนเหมือนกับคริสตัล ท้องฟ้าสีฟ้าครามสดใส
ภายในคฤหาสน์ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุด กำลังจัดงานการแข่งม้าขึ้นเฉพาะในสังคมชั้นสูง…
ซึ่งมีบอดี้การ์ดคอยนั่งประกบแชมป์กับขวัญข้าวบนหลังม้า ซึ่งยังมีเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง โดยที่ทุกคนใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
บรรดาเด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานมาก และยังได้เพื่อนใหม่ด้วย ทุกคนต่างมีสไตล์เป็นของตนเอง
ภีมพลนั่งอยู่ในห้องพักที่มีบานกระจกกั้นกลาง สายตายังคงจับจ้องไปที่เด็กน้อยทั้งสองคนโดยไม่ละสายตาแต่อย่างใด นัยน์ตาลึกซึ้งยังเผยให้เห็นความรักของคนเป็นพ่ออย่างเปี่ยมล้น วินาทีนี้เขารู้สึกคิดถึงแม่ของเด็กๆ ขึ้นมาเสียแล้ว
เกิดมา 38 ปี เขาไม่เคยคิดถึงคนคนหนึ่งแบบนี้มาก่อนเลย
ญาณีที่นั่งอยู่ด้านข้างของเขา สายตาก็คอยจ้องอยู่ที่ตัวเขาตลอดเวลา กระทั่งเขาทำตัวเหินห่างกับเธอ ตราบใดที่สามารถเคียงข้างอยู่ใกล้เขาแบบนี้ เธอก็รู้สึกโล่งใจบ้างแล้ว
ทันใดนั้นมือถือของภีมพลดังขึ้น เสียงริงโทนทำลายความงามอันเงียบสงบนี้ลงทันที
ญาณีเห็นว่าเขาลุกขึ้นและเดินออกไป เธอก็แอบย่อมตามทันควัน
บนทุ่งหญ้าเขียวขจีขนาดใหญ่ทางด้านนอกห้อง ลมพัดอ้อยอิ่ง ตึกสถาปัตยกรรมที่อยู่ไกลๆ ราวกับภาพวาดที่อยู่ในบทกวี
ภีมพลกดรับโทรศัพท์ด้านข้างสระว่ายน้ำ “ฮัลโหล พ่อบ้านปวิธ” เขานำมือข้างหนึ่งใส่กระเป๋ากางเกง รูปร่างสูงใหญ่