เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 560 ความจริงอยู่ในอีเมล
“เปล่าครับ” ภีมพลไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเธออย่างไรดี เขาหันสายตาไปมองที่ห้องรับแขก ผ่านหน้าต่างกระจกสูงแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนายหญิงน้อย
“มาครับๆ คุณแม่ขึ้นรถไปก่อน!”เขาฝืนลากคุณแม่มาที่เบื้องหน้าของรถลิมูซีน ลินคอล์น สเตรทช์ เปิดประตูและยัดเธอเข้าไปด้านใน “ผ้าไหม!ขึ้นรถ!”
ผ้าไหมที่ยืนอยู่หน้าประตูก็รีบวิ่งเข้ามา “คุณภีม” เอ่ยทักทายอย่างกระวนกระวาย
“ตามคุณนายนิตย์กลับไป เฝ้าเธอไว้ อย่าให้เธอกลับมา!”ภีมพลออกคำสั่ง
ผ้าไหมขึ้นรถไปแล้ว ภีมพลจึงปิดประตูให้พวกเขา แล้วกล่าวกับคนขับว่า “พาคุณนายนิตย์กลับไปที่รีพัลส์เบย์ วิลล่า”
คะนึงนิตย์เองก็ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนที่จะลงมา อย่างไรเรื่องนี้ทั้งหมดเขาก็ต้องจัดการด้วยตนเองอยู่ดี ยังดีที่เขายังเอาคำบางคำเก็บมาใส่ใจอยู่บ้าง
มองดูรถลิมูซีน ลินคอล์น สเตรทช์ที่ขับออกไปแล้ว ใบหน้าของภีมพลก็เผยความหนักแน่นและจริงจัง เขาหันหลังเดินกลับไปที่ห้องรับแขก
ในขณะนี้ แชมป์และขวัญข้าวยังคงนั่งอยู่บนบันได คนหนึ่งพิงผนังและอีกคนหนึ่งพิงราวบันได
เด็กน้อยทั้งสองมองไปที่บิดาของพวกเขาที่กำลังเดินเข้ามาในห้องรับแขกโดยไม่พูดอะไรสักคำ สังเกตสีหน้าและสอดส่องเข้าไปในหัวใจของเขา
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ คุณภีม” เหล่าคนรับใช้ทำความเคารพอย่างนอบน้อม
ภีมพลเดินตรงมาที่บันได
สายตาระหว่างพ่อและลูกชายลูกสาวประสานกัน และเมื่อภีมพลเดินมาตรงหน้าพวกเขา เด็ก ๆ กลับเหยียดขาออกและหยุดเขาเอาไว้
ฝีเท้าของภีมพลนิ่งอยู่กับที่ สายตาของเขามองลงไปที่เด็ก ๆ
แชมป์เงยสายตาขึ้นมอง “ประธานภีม ครั้งนี้คุณทำไม่ถูกนะ!ผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะเข้าไปห้องผู้หญิงมั่วซั่วได้ยังไง?”
ขวัญข้าวเอ่ยเสริมอีกประโยค “แถมยังไปนั่งบนเตียงเธออีก!ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคุณนภาถึงได้ไม่พอใจ”
ภีมพลถอนหายใจเบาๆ พลางก้มลงจูงมือเด็ก ๆ “ไปกันเถอะ” ภีมพลดึงพวกเขาขึ้นไปชั้นบน “แล้วก็นะ พวกลูกต้องช่วยพ่อ จะมานั่งเฉย ๆ ไม่ได้”
“จะให้ช่วยยังไงล่ะ?แม่โกรธจริงๆ แล้วด้วย”
“เมียตัวเองก็ง้อเองเหอะ!”
เมื่อขึ้นไปข้างบน พวกเขาก็คงได้นภาลัยไม่ได้อยู่ในห้องนอน
ภีมพลพาพวกเขาไปมาที่ห้องหนังสือ ทว่าประตูห้องกลับล็อกจากด้านใน ถึงแน่ใจได้ว่าเธออยู่ข้างใน
เด็กๆ ดึงมือออกจากฝ่ามือของบิดา หลังจากนั้นก็แบมือ ส่ายหัวพลางกล่าว “พ่อจัดการเองเถอะ”
ขวัญข้าวยังกล่าวอีกว่า “บางเรื่องก็ต้องให้ตัวเองเป็นคนจัดการ เพราะยังไงพ่อก็เป็นคนก่อ”
ครั้นเห็นแชมป์โอบไหล่ขวัญข้าว “ไปกันเถอะ น้อง พวกเราไปเล่นเลโก้กัน!”หลังจากนั้นก็หันหลังจากไป โดยที่ไม่รู้สึกผิดอะไรเลยแม้แต่น้อย
ภีมพลพลันรู้สึกว่าตัวเองถูกทอดทิ้งทันที ไม่แม้แต่จะช่วยเขาเคาะประตูให้เขาด้วยซ้ำ
หลังจากที่เด็กๆ ออกไปแล้ว เขาก็ยืนอยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง ในขณะที่กำลังจะเคาะประตูห้อง ประตูห้องอ่านหนังสือกลับเปิดออก
สายตาของเขากับนภาลัยประสานกัน หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็หันหลังเดินกลับเข้าไปภายในห้อง
ภีมพลเองก็ยกฝีเท้าก้าวเดินเข้าไปเช่นกัน เขากำลังพึ่งคิดว่าจะอธิบายอย่างไรดี
การแอบสืบเรื่องหยกเรื่องนี้ไม่สามารถพูดได้ หากเขาสารภาพออกไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเธอจะคิดอย่างไร
ภายในใจของทุกคนอาจมีบาดแผลที่เหมือนจะตกสะเก็ดไปแล้ว แต่ทว่ากลับไม่มีวันที่จะสมานได้
ภีมพลไม่ต้องการสัมผัสมันเลยแม้เพียงแผ่วเบา แต่กลับถูกเด็กผู้หญิงคนนั้นวางกลอุบายโดยไม่คาดคิด มันถึงได้เกิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ขึ้น
นภาลัยหยุดฝีเท้าและยืนนิ่งอยู่หน้าหน้าต่าง ภีมพลเดินไปตรงด้านหลังของเธอ “หล่อนชื่อว่าเอมิลี่ เป็นลูกสาวของจอห์นสัน ซึ่งเป็นเพื่อนของผม”ในขณะที่มองไปยังแผ่นหลังของเธอ น้ำเสียงของเขาก็เอ่ยออกมาด้วยความสัตย์จริง “เธอได้รับบาดเจ็บ ผมจึงไปเยี่ยมเธอ เรื่องมันก็มีแค่นี้”
เมื่อได้ฟัง สีหน้าของนภาลัยก็เปลี่ยนไปจนดูไม่ได้
เธอหันหลังไปหยิบโน๊ตบุ๊คจากโต๊ะแล้วยัดเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
ภีมพลเห็นอีเมลบนหน้าจอ และผู้ส่งก็คือเอมิลี่!!
เขารีบอ่านข้อความในอีเมลอย่างรวดเร็ว
นภาลัยมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย เธอสังเกตสีหน้าของเขาที่มีการเปลี่ยนแปลง และกล่าวอย่างนิ่งเฉยว่า
“คุณยังจะแต่งเรื่องอีก”