เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย – ตอนที่ 6 คุณหนูสาวขอให้เปิดเสื้อ

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

ตอนที่ 06 คุณหนูสาวขอให้เปิดเสื้อ

 

แม้ใจไม่ต้องการไม่อยากให้เข้ามา

 

หากแต่สุดท้ายปลายทางด้วยสถานการณ์ ด้วยผลกระทบมากมายที่จะตามมาเกิดทำเมินเฉย ทั้งที่อีกฝ่ายเสนอหน้าออกมาให้เห็นขนาดนี้แล้ว ทำให้เขาตัดสินใจเลือกปล่อยให้หล่อนเข้ามาในห้อง

 

แน่นอนว่าแม้ใจไม่ต้องการให้คุณหนูสาวกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ไม่ต้องการเปิดปากพูดคุยเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยมารยาทขั้นพื้นฐานที่เจ้าบ้านสมควรมี เขาเลยพาเธอไปนั่งที่ห้องรับแขก

 

และเสิร์ฟน้ำส้มให้ส่วนจะดื่มหรือไม่ดีเขาไม่สนใจแม้แต่น้อย

 

“…”

 

“มีแค่น้ำผลไม้ ดื่มได้รึเปล่าครับ?”

 

“…”

 

ดื่มได้หรือไม่ได้ไม่รู้

 

แต่แก้วน้ำส้มมาวางเบื้องหน้าหญิงสาวแสนสวยเรียบร้อย คุณหนูสาวเมญ่าเพียงยิ้มเล็กน้อยตามมารยาทมีเหลือบมองแก้วน้ำส้มเบื้องหน้า ก่อนจะเงยหน้ากล่าวขอบคุณ

 

กล่าวขอบคุณที่ชายหนุ่มที่ยกแก้วน้ำส้มมาให้

 

“…”

 

“ขอบคุณค่ะ”

 

“…”

 

ในเมื่ออีกฝ่ายอุตส่าห์ต้อนรับตามมารยาท

 

ในฐานะคุณหนูผู้สูงส่งมากไปด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี หล่อนย่อมไม่มีทางมองข้ามมารยาทขั้นพื้นฐานของแขกแน่นอน ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างคว้าจับสัมผัสแก้วน้ำส้มแผ่วเบา

 

ก่อนจะยกแก้วน้ำส้มจรดริมฝีปากพร้อมดื่มมันเข้าไป

 

“…”

 

“อร่อย?!”

 

“…”

 

ดวงตาน่ารักกะพริบสองสามครั้ง

 

จากความรู้สึกเมินเฉยเฉยชากระทำไปตามมารยาทขั้นพื้นฐานขั้นสุด กับแปรเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คุณหนูเมญ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นสูงขณะน้ำส้มในแก้วเริ่มลดลง

 

จนกระทั่งเกือบจะหมดแก้ว สายตาของหล่อนดันเหลือบไปเห็นทราเวียร์ที่กำลังนั่งนิ่งเงียบคล้ายกำลังรอคอยให้หล่อนจัดการแก้วน้ำส้มเบื้องหน้าให้เสร็จสิ้น จะด้วยความเกรงใจหรืออะไรก็ตาม

 

ในที่สุดคุณหนูสาวแสนสวยก็วางแก้วในมือลงบนโต๊ะ น้ำส้มที่หลงเหลืออยู่มีเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น เรียกได้ว่าดื่มเข้าไปค่อนข้างมากอยู่พอสมควร ถ้าเทียบกับจิบปรกติธรรมดาตามมารยาท

 

ทราเวียร์ผสานฝ่ามือบนโต๊ะและเริ่มกล่าวตามตรง

 

“ขอเข้าประเด็นเลยนะครับ”

 

“…”

 

“คุณมาทำอะไรที่นี่”

 

“มาขอบคุณผม”

 

“หรือมาทำอะไรอย่างอื่น”

 

“…”

 

“เข้าประเด็นเลยเหรอคะ?”

 

คุณหนูเมญ่าเปิดปากถามกลับ

 

ทั้งยังถามกลับด้วยความสนใจไม่น้อยกับปฏิกิริยาที่อีกฝ่ายแสดงออก หาได้ยากยิ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ร่วมนั่งโต๊ะเดียวกับหล่อนแล้วจะรีบตัดจบตัดเข้าประเด็นทันที

 

โดยไม่มีท่วงท่าสร้างความประทับใจให้ เอาเข้าจริงจากเท่าที่ดูสังเกตด้วยสายตา เหมือนอีกฝ่ายต้องการให้หล่อนพ่นความต้องการของตัวเองออกมาให้หมดสิ้น ก่อนจะถูกจับโยนออกไปด้านนอก

 

ทราเวียร์ผายมือส่งสัญญาณเชิญให้หล่อนบอกกล่าว

 

“เชิญเลยครับ”

 

“เหตุผลเดียวที่ผมปล่อยให้คุณเข้ามา”

 

“ก็คือเรื่องนี้แหละ”

 

“…”

 

“เหตุผลเดียวสินะ”

 

จะบอกว่าหากหล่อนไม่มีประเด็นต้องการพูดคุย

 

ก็จะไม่มีทางปล่อยให้เข้ามาเด็ดขาดสินะ ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายทำลายจิตใจคู่สนทนาเหลือเกิน เอาเถอะ ในเมื่อส่งสัญญาณมาให้ขนาดนี้แล้วจะให้เมินเฉยทำเมินก็คงไม่ได้ด้วย

 

อีกทั้งด้วยสภาพร่างกายของชายหนุ่มที่เปิดเผยให้เห็น แม้จะพยายามปกปิดปิดบังแต่มันก็ยากจะปกปิดบาดแผลรอยถลอกตามใบหน้า บางทีภายใต้เสื้อกันหนาวที่ถูกสวมปกปิดเอาไว้…

 

คุณหนูสาวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายกำลังไล่เรียงคำพูดก่อนจะกล่าวออกมา

 

“งั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา”

 

“…”

 

“ดิฉันขอเข้าประเด็นเลยนะคะ”

 

“…”

 

“คุณทราเวียร์ ม.4 ห้อง 1 ใช่ไหมคะ?”

 

“…”

 

“ถ้าผมบอกว่าไม่ใช่”

 

“คุณทักผิดคนเข้าผิดห้อง”

 

“คุณจะเชื่อไหมครับ?”

 

“…”

 

“เชื่อค่ะ”

 

“…”

 

“ถ้าคุณเป็นคนบอก”

 

เธอพยักหน้าบอกเชื่อหน้าตาเฉย

 

คำตอบของเธอทำเอาเขาถึงกับเลิกคิ้วนึกสงสัยใคร่รู้ขั้นสุด แม้ปากจะบอกว่าเชื่อถือ แต่พฤติกรรมภาษากายที่แสดงออกมามันกับไปในทิศทางตรงกันข้ามเหลือเกิน

 

ก่อนบรรยากาศจะแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อเธอหรี่ตามองจับจ้องมองมา สายตาราบเรียบที่เคยมีมาตลอดพลันแปรเปลี่ยนกลายเป็นแหลมคมคล้ายต้องการมองทะลุร่างเนื้อเข้าไปในจิตใจ

 

ทราเวียร์เลิกคิ้วถามกลับ

 

“ถ้าผมเป็นคนบอก?”

 

“เชื่อคนง่ายเกินไปรึเปล่า?”

 

“ดิฉันไม่ได้เชื่อคนง่าย”

 

“…”

 

“กลับกันเลยค่ะ”

 

ปลายนิ้วจับสัมผัสแก้วแผ่วเบา

 

ใช่ กลับกันเลย ทุกข้อมูลทุกสิ่งอย่างที่หามาได้ล้วนเป็นเพียงข้อมูลที่รับฟังมาจากคนอื่นเท่านั้น และเมื่อได้รับมาจากคนอื่นก็ย่อมต้องมีแนวคิดของผู้ส่งมอบข้อมูลติดมาด้วยไม่ว่าจะมากจะน้อย

 

ดังนั้นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงที่สุดเท่าที่จะตรงได้ เธอเลยจำเป็นต้องมาตรวจสอบด้วยตัวเอง มาหาข้อสรุปด้วยตัวเองว่าจะจัดการยังไงกับชุดข้อมูลรวมถึงเส้นทางที่จะเดินต่อจากนี้ไป

 

คุณหนูสาวเพียงยิ้มเงยหน้ามอง

 

“กลับกันเลย”

 

“…”

 

“ดิฉันไม่ค่อยเชื่ออะไร”

 

“จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง”

 

“คุณก็เลยบุกมาหาผมถึงบ้าน?”

 

“แล้วผลออกมาเป็นแบบไหน?”

 

“ตรงตามที่คุณคาดหวังรึเปล่า?”

 

“…”

 

“ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น”

 

“…”

 

“ขอดูได้ไหมคะ?”

 

แววตาชายหนุ่มร่างสูงแปรเปลี่ยน

 

แผ่นหลังที่เคยอยู่ในสภาพตั้งตัวแปรเปลี่ยนกลายเป็นแข็งเกร็ง เขาไม่ได้โง่ไม่ได้หัวสมองเบาบางจนไม่เข้าใจสิ่งที่หล่อนต้องการจะบอกแท้จริง แต่ถ้าเกิดปล่อยให้หล่อนเห็นขึ้นมาคงยากจะหลีกเลี่ยง

 

ทราเวียร์เลือกตีมึนทำเมินเฉย

 

“…”

 

“ดูอะไร?”

 

“…”

 

“ใต้เสื้อกันหนาว”

 

คุณหนูเมญ่าย้ายสายตามองเสื้อกันหนาว

 

เป้าหมายความต้องการของหล่อนชัดเจนเป็นที่สุด หล่อนต้องการให้เขาเปิดเสื้อกันหนาวให้ดู หล่อนต้องการที่จะเห็นสภาพร่างกายภายใต้เสื้อกันหนาวสีดำ ต้องการเห็นว่ามันหนักหน่วงขั้นไหน

 

แม้จะเห็นเหมือนกำลังใช้อำนาจบาตรใหญ่บีบบังคับให้ยินยอมทำตามคำสั่ง แต่นี่คือความรับผิดชอบของหล่อนที่หล่อนต้องแบกรับในฐานะคนที่ทำให้ชายหนุ่มต้องตกอยู่ในสภาพนี้

 

ในเมื่อเธอทำเธอก็ต้องตามแก้ไขให้กลับมาสู่ทางที่ควร

 

“ดิฉันอยากจะเห็นด้วยตาตัวเอง”

 

“อยากจะเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง”

 

“ได้ใช่ไหมคะ?”

 

“…”

 

“เคยมีคนบอกไหมว่าคุณเป็นคนยุ่งยาก”

 

“…”

 

“!!!”

 

ดวงตาชายหนุ่มพลันเบิกกว้างตื่นตระหนกตกใจ

 

เนื่องจากไม่มีใครคาดคิดเลยว่าคุณหนูสาวผู้มากไปด้วยท่วงท่ามารยาทและสูงศักดิ์จะตัดสินใจทำอะไรที่มันอุกอาจยิ่งนัก พอเห็นทราเวียร์ไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควรหล่อนเลยจัดการเอง

 

ฝ่ามือเรียวงามอาศัยจังหวะเปิดเผยช่องว่างพุ่งเข้ามาเปิดเสื้อเขา

 

และเปิดเผยให้เห็นสิ่งหลบซ่อนด้านในทันที

 

“…”

 

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท